“ท่านจวนคนนั้น ฝึกฝนจนมีกำลังภายใน?” หลี่ฝางกลืนน้ำลาย รู้สึกตกใจเล็กน้อย
“อีกเรื่องนี้ เขาคือคุณท่านตงฟางที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลัง?”
หลี่ฝางรู้สึกว่าสมองของตนเอง ตะลึงงันไปแล้ว
บนตัวของท่านจวน ซ่อนความลับที่ไม่ให้ใครรู้มากน้อยแค่ไหน?
ไม่ว่าจะเป็นคุณท่านตงฟางหรือจะเป็นยอดฝีมือที่มีกำลังภายในคนไหน ล้วนทำให้หลี่ฝางรู้สึกเหลือเชื่อ
หลี่ฝางจำได้ดี ฟีนิกซ์ตายตรงหน้าท่านจวน……
ถ้าหากท่านจวนคือคุณท่านตงฟาง เท่ากับว่าฟีนิกซ์ ก็คือหลานสาวของเขา?
มองดูหลานสาวแท้ๆของตนเอง ตายต่อหน้าต่อตา แต่กลับไม่สะทกสะท้าน?
เขาเป็นยอดฝีมือกำลังภายใน……
ตอนนั้น ท่านจวนสามารถฆ่าทุกคนได้
รวมถึง เมี๋ยวชุ่ย หลี่ฝาง แม่มด และยังรวมถึงซือปาจี้……
แต่เขาทำเป็นตัวอ่อนตลอดเวลา
รวมถึงในตอนที่หลี่ฝางจับคอท่านจวนไว้ กดที่ต้นที่จะฆ่าเขาให้ตาย
ท่านจวนเองก็ไม่เคยโต้ตอบ
คนแบบนี้ บอกว่าเขาเป็นยอดฝีมือกำลังภายใน หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อ
“ส้าวส้วย นายเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า”
หลี่ฝางไม่เชื่อ และไม่อยากจะเชื่อ
หลี่ฝางเอ่ยถามส้าวส้วยด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง:“ถ้าหากท่านจวนเป็นยอดฝีมือกำลังภายในจริงๆ พวกเรา……คงถูกเขาฆ่าตายไปนานแล้ว?”
ส้าวส้วยส่ายหน้า แล้วพูด:“ตอนแรกที่พี่ใหญ่บอกกับผม ผมเองก็ไม่เชื่อ ถ้าเขาเก่งกาจขนาดนี้จริงๆ ทำไมต้องเปลืองแรง ใช้ความคิดมากมายมาจัดการพวกเรา……”
“แต่ว่า ตอนที่ผมยืนอยู่ตรงหน้าเขา หลังจากสัมผัสได้ถึงลมปราณน่ากลัวของเขา เพิ่งได้รู้ว่า บางทีพี่ใหญ่อาจจะพูดถูก”
ส้าวส้วยพูด:“เขาเป็นยอดฝีมือกำลังภายในคนหนึ่งจริงๆ”
“บางทีเขา ไม่อยากใช้กำลัง มาฆ่าพวกเรา”
ส้าวส้วยพูด:“เขาอยากเล่นกับพวกเรา ทำให้พวกเราทุกคน เป็นหมากของเขา อีกทั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาก็ทำแบบนี้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกเรา หรือว่าสี่ตระกูลใหญ่ หรือแม้แต่คนใหญ่คนโตในสวรรค์ ความเป็นจริง ล้วนเป็นของเล่นที่อยู่ในมือของท่านจวน”
“ทุกคน เหมือนหมากหนึ่งกระดาน ส่วนท่านจวน เป็นคนที่คอยเดินหมากอยู่เบื้องหลัง”
ส้าวส้วยพูด
“คนแบบนี้ ทระนงตนอย่างมาก และอันตรายอย่างมาก” ส้าวส้วยพูด:“ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบให้จนมุม เขาไม่มีวันเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง และไม่มีวันแสดงความสามารถของตนออกมา”
“ตัวตนของเขาเหมือนกับชื่อ จวน เขาต้องการจะเป็นเจ้ามือที่อยู่เบื้องหลัง”
ส้าวส้วยพูด:“อย่าดูถูกคนแบบนี้”
หลี่ฝางไม่เคยเห็นส้าวส้วยชื่นชมใครแบบนี้มาก่อน
บางที นี่อาจจะไม่ใช่คำชม แต่หวาดกลัวเล็กน้อย
หลังจากนั้นช่วงเวลาหนึ่ง หลี่ฝางคอยฝึกฝนกับส้าวส้วยมาโดยตลอด คอยหาวิธีการใช้ลมปราณและควบคุมมัน ทั้งยังเรียนรู้ทักษะในการฆ่าคน
หลี่ฝางเห็นท่านลู่ที่เอาแต่พักอยู่ในสถานตากอากาศ รู้สึกสงสัยเล็กน้อย:“ท่านลู่ มีความลับอะไรกันแน่?”
“เขารู้ความลับของตงฟางชู่ว”
ส้าวส้วยพูด :“แต่ว่า เขาไม่ยอมพูดมันออกมา”
ก่อนหน้านี้ ท่านลู่เคยเผยออกมา ความเป็นจริงตระกูลตงฟางปรากฏตัวมานานแล้ว
เพียงแต่ ไม่มีหลักฐาน ที่พิสูจน์ว่าท่านจวนก็คือตงฟางชู่ว
การต่อสู้เมื่อคราวที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายท่านจวน หรือจะเป็นฝ่ายตระกูลหลี่ ล้วนเสียหายอย่างหนัก
หลังจากพายุฝน ก็คือความนิ่งสงบ
ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
หลังจากตัวตนของตงฟางชู่วถูกเปิดเผย ไม่มีใครเห็นร่องรอยของเขาอีกเลย และไม่ได้ยินข่าวคราวของเขาอีกเลย
ไม่มีคำสั่งของตงฟางชู่ว สี่ตระกูลใหญ่ ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
……
ทางด้านเมืองเอก ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรมากมายเท่าไหร่ แต่ที่อำเภอหลิน กลับเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
เดิมที ภายใต้การช่วยเหลือหยิ่นเจิ้งของหลี่ฝาง ทำให้แมงป่องพ่ายแพ้และถอยไปแล้ว ทว่า ไม่รู้ว่าแมงป่องได้รับการช่วยเหลือจากใคร จึงได้โต้กลับในทันที
หลังจากหลี่ฝางสืบดูเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นฝีมือของบุคคลลึกลับที่อยู่เบื้องหลังแมงป่อง
และในเวลานี้เอง หลี่ฝางก็เดาออกได้ไม่อยาก บางทีบุคคลลึกลับที่อยู่เบื้องหลังแมงป่อง อาจจะเป็นคนของตระกูลตงฟาง
“อำเภอหลินมียอดฝีมือสองคนปรากฏตัวขึ้น ไอ้หน้าหนวดได้รับบาดเจ็บสาหัส เวลานี้กำลังนอนอยู่ที่ห้องดูแลผู้ป่วยหนัก ส่วนหยิ่นเจิ้งกำลังเตรียมหนี”
หลังจากหลี่ฝางทราบข่าว เขาก็บอกกับส้าวส้วย:“ฉันจำเป็นต้องไปอำเภอหลิน”
เดิมที เป็นแค่เรื่องในยุทธภพ แต่ว่า เมื่อมียอดฝีมือเข้าร่วม ก็จะไม่เหมือนเดิมแล้ว
ส้าวส้วยขานตอบอื้ม:“การฝึกฝนที่ดีที่สุด คือการลงมือทำจริง”
“ระวังตัวหน่อย”
ส้าวส้วยพูดกำชับหลี่ฝาง:“ผมไม่สามารถอยู่เคียงข้างคุณได้ ผมจำเป็นต้องอยู่ต่อ”
หลี่ฝางพยักหน้า เพื่อแสดงความเข้าใจ ถ้าท่านจวนเกิดบ้า บุกฆ่ามาที่นี่ ทั่วทั้งสถานตากอากาศ ใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา?
ถึงแม้โหจื่อจะสามารถลุกขึ้นนั่งได้ แต่ว่า ให้ยืนและเดินไปมายังมีปัญหา
หลิงหลงดีขึ้นเล็กน้อย แต่ต่อให้กลับไปถึงจุดสูงสุดอีกครั้ง ในสายตาของยอดฝีมือกำลังภายใน ก็เป็นแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น
ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านจวนที่เป็นยอดฝีมือระดับโลกมาทำร้าย ส้าวส้วยจำเป็นต้องอยู่ที่สถานตากอากาศ
วันนี้ ตระกูลตงฟางยังเป็นปริศนาที่ยังไม่คลี่คลาย
นอกจากฟีนิกซ์ที่ตายไปแล้ว คนเดียวในตระกูลตงฟางที่เผยตัวออกมา มีแค่ท่านจวนเท่านั้น
บางที มีแค่ตระกูลตงฟาง เปิดเผยตัวตนออกมาทั้งหมด ตระกูลหลี่จึงจะไม่ถูกกระทำมากขนาดนั้น
เมื่อถึงเวลานั้น ท่านจวนกล้ามาฆ่าคนที่สถานตากอากาศ ถ้าอย่างนั้นส้าวส้วย ก็สามารถไปฆ่าคนที่ตระกูลตงฟางได้เหมือนกัน
ก่อนไป หลี่ฝางมองไปที่ลุงเฉียน มองลุงเฉียนที่ต่อลมหายใจในจานเพาะเลี้ยง ภายในใจของหลี่ฝาง มีความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดออกมาได้
บางที อาจจะต้องรอให้แม่ของตนกลับมาเท่านั้น
ถ้าแม่ของตนยังไม่กลับมา ความหวังที่ลุงเฉียนจะมีชีวิตรอด แทบจะไม่มีเลย
ก่อนไป หลี่ฝางไปที่ศาลา ไปหาฉินวี่เฟย
เมื่อหลายวันก่อน หลังจากส่งผลกระทบต่อจิตใจของฉินวี่เฟย เธอก็มักจะนั่งใจลอยอยู่ที่ศาลา
เพราะถึงอย่างไร เธอก็เป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ เคยพบเจอกับสถานการณ์แบบนั้นเสียที่ไหน
ทุกที่เต็มไปด้วยการฆ่าฟัน เปี่ยมไปด้วยเลือด
บางทีในยุคสมัยที่เงียบสงบ เป็นเรื่องที่ยากจะพบเจอ แต่ว่า ฉินวี่เฟยกลับต้องประสบพบเจอ
ไม่เพียงแค่ประสบพบเจอ นอกจากนี้ ฉินวี่เฟยยังถูกหมาป่าละโมบจับตัวไป อีกเพียงเล็กน้อย ก็จะกลายเป็นผู้หญิงของหมาป่าละโมบแล้ว
โชคดีที่ หลิงหลงมาช่วยได้ทันเวลา ช่วยฉินวี่เฟย ให้รอดพ้นจากน้ำมือของหมาป่าละโมบ
แต่ว่า หลิงหลงกลับต้องเอาชีวิตตนเองเข้าไปเสี่ยง
โชคดี ที่เขาก็ถูกช่วยเอาไว้ได้ทัน
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ดีที่เกิดเรื่องร้ายแต่ไม่เป็นอันตราย
แต่ว่า ตระกูลหลี่มีคนตายมากมาย
รวมถึง บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างกายหลี่ฝาง ถึงแม้ปฏิภาณของพวกเขา แทบจะเป็นคนโง่ทั้งหมด แต่ว่า สำหรับตระกูลหลี่ สำหรับหลอซ่า พวกเขาเป็นคนที่จงรักภักดี
มาถึงตรงหน้าฉินวี่เฟย เธอกำลังชงชา
หลี่ฝางนั่งอยู่ตรงหน้าฉินวี่เฟย ถามเธอด้วยความนิ่งสงบ:“ยังปล่อยวางไม่ได้เหรอ?”
ฉินวี่เฟยส่ายหน้า:“ทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ฉันยังคงนอนไม่หลับ ต่อให้นอนหลับ ก็ฝันร้าย ทำให้ตนเองตกใจจนตื่นขึ้นมา”
“เสี่ยวฝาง คุณว่าฉันดัดจริตเกินไปรึเปล่าคะ”
ฉินวี่เฟยขมวดคิ้วเป็นม พูดด้วยความระมัดระวัง
เธอกลัวหลี่ฝางจะรังเกียจตนเอง เพราะถึงอย่างไร ในใจฉินวี่เฟยรู้ดี อนาคตของหลี่ฝาง ต้องมีอุปสรรคมากมาย
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงของหลี่ฝาง เธอต้องเผชิญหน้ากับทุกอย่างด้วยความนิ่งสงบ
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด:“จิตใจอ่อนไหวไปหน่อย แต่ว่า ภาพที่เลือดไหลเป็นแม่น้ำ นอกจากนี้ คุณยังเกือบจะถูกจับตัวไป หวาดกลัวอยู่หลายวัน เป็นเรื่องปกติ”
“แต่ว่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว อีกอย่าง ก็จะไม่มีวันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแล้ว”
หลี่ฝางพูดปลอบฉินวี่เฟย :“ไม่ต้องกลัวแล้ว”
การรับประกันของหลี่ฝาง เป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ พูดเพื่อปลอบใจฉินวี่เฟยเท่านั้น
ท่านจวนไม่ตาย การข่มขู่ ไม่มีวันหายไป
ไม่มีใครรับประกันได้ ท่านจวนจะพากลุ่มคน มาที่สถานตากอากาศเมื่อไหร่ จะเกิดการฆ่าฟันครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้งเมื่อไหร่
หลี่ฝางพูดออกไปแบบนี้ เพียงเพื่อปลอบโยนฉินวี่เฟยเท่านั้น
“ค่ะๆ เพียงแต่ว่า คนจำนวนมาก ตายไปหมดแล้ว”
ฉินวี่เฟยสูดลมหายเข้าเฮือกใหญ่ ท่ามกลางคนที่ตายไปเหล่านั้น ไม่ได้มีแค่คนของตระกูลหลี่ แต่ยังมีบ่าวรับใช้ของตระกูลหลี่ รวมถึงพวกพ่อครัวแม่ครัวเป็นต้น
คนพวกนี้ อยู่กับฉินวี่เฟย สอนฉินวี่เฟยทำอาหาร
ตอนที่ฉินวี่เฟยสู้กับพวกเขา คิดไม่ถึงว่าภัยร้ายจะมาหา
คนของเซราฟิมมาถึง ฆ่าคนของพวกเขา ทั้งยังฆ่าต่อหน้าฉินวี่เฟย
เพื่อนของฉินวี่เฟยที่มีในสถานพักร้าย……ก็ถูกฆ่าตายแบบนี้ ฉินวี่เฟยเสียใจ ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว
ทุกครั้งที่นอนหลับ ฉินวี่เฟยมักจะฝันถึงพวกเขา ฉินวี่เฟยฝืนยิ้ม มองไปที่หลี่ฝาง:“คุณมาหาฉัน มีธุระอะไรรึเปล่าคะ?”