NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 794 ความเงียบของพายุฝน

บทที่ 794 ความเงียบของพายุฝน

“ท่านจวนคนนั้น ฝึกฝนจนมีกำลังภายใน?” หลี่ฝางกลืนน้ำลาย รู้สึกตกใจเล็กน้อย

“อีกเรื่องนี้ เขาคือคุณท่านตงฟางที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลัง?”

หลี่ฝางรู้สึกว่าสมองของตนเอง ตะลึงงันไปแล้ว

บนตัวของท่านจวน ซ่อนความลับที่ไม่ให้ใครรู้มากน้อยแค่ไหน?

ไม่ว่าจะเป็นคุณท่านตงฟางหรือจะเป็นยอดฝีมือที่มีกำลังภายในคนไหน ล้วนทำให้หลี่ฝางรู้สึกเหลือเชื่อ

หลี่ฝางจำได้ดี ฟีนิกซ์ตายตรงหน้าท่านจวน……

ถ้าหากท่านจวนคือคุณท่านตงฟาง เท่ากับว่าฟีนิกซ์ ก็คือหลานสาวของเขา?

มองดูหลานสาวแท้ๆของตนเอง ตายต่อหน้าต่อตา แต่กลับไม่สะทกสะท้าน?

เขาเป็นยอดฝีมือกำลังภายใน……

ตอนนั้น ท่านจวนสามารถฆ่าทุกคนได้

รวมถึง เมี๋ยวชุ่ย หลี่ฝาง แม่มด และยังรวมถึงซือปาจี้……

แต่เขาทำเป็นตัวอ่อนตลอดเวลา

รวมถึงในตอนที่หลี่ฝางจับคอท่านจวนไว้ กดที่ต้นที่จะฆ่าเขาให้ตาย

ท่านจวนเองก็ไม่เคยโต้ตอบ

คนแบบนี้ บอกว่าเขาเป็นยอดฝีมือกำลังภายใน หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อ

“ส้าวส้วย นายเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า”

หลี่ฝางไม่เชื่อ และไม่อยากจะเชื่อ

หลี่ฝางเอ่ยถามส้าวส้วยด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง:“ถ้าหากท่านจวนเป็นยอดฝีมือกำลังภายในจริงๆ พวกเรา……คงถูกเขาฆ่าตายไปนานแล้ว?”

ส้าวส้วยส่ายหน้า แล้วพูด:“ตอนแรกที่พี่ใหญ่บอกกับผม ผมเองก็ไม่เชื่อ ถ้าเขาเก่งกาจขนาดนี้จริงๆ ทำไมต้องเปลืองแรง ใช้ความคิดมากมายมาจัดการพวกเรา……”

“แต่ว่า ตอนที่ผมยืนอยู่ตรงหน้าเขา หลังจากสัมผัสได้ถึงลมปราณน่ากลัวของเขา เพิ่งได้รู้ว่า บางทีพี่ใหญ่อาจจะพูดถูก”

ส้าวส้วยพูด:“เขาเป็นยอดฝีมือกำลังภายในคนหนึ่งจริงๆ”

“บางทีเขา ไม่อยากใช้กำลัง มาฆ่าพวกเรา”

ส้าวส้วยพูด:“เขาอยากเล่นกับพวกเรา ทำให้พวกเราทุกคน เป็นหมากของเขา อีกทั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาก็ทำแบบนี้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกเรา หรือว่าสี่ตระกูลใหญ่ หรือแม้แต่คนใหญ่คนโตในสวรรค์ ความเป็นจริง ล้วนเป็นของเล่นที่อยู่ในมือของท่านจวน”

“ทุกคน เหมือนหมากหนึ่งกระดาน ส่วนท่านจวน เป็นคนที่คอยเดินหมากอยู่เบื้องหลัง”

ส้าวส้วยพูด

“คนแบบนี้ ทระนงตนอย่างมาก และอันตรายอย่างมาก” ส้าวส้วยพูด:“ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบให้จนมุม เขาไม่มีวันเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง และไม่มีวันแสดงความสามารถของตนออกมา”

“ตัวตนของเขาเหมือนกับชื่อ จวน เขาต้องการจะเป็นเจ้ามือที่อยู่เบื้องหลัง”

ส้าวส้วยพูด:“อย่าดูถูกคนแบบนี้”

หลี่ฝางไม่เคยเห็นส้าวส้วยชื่นชมใครแบบนี้มาก่อน

บางที นี่อาจจะไม่ใช่คำชม แต่หวาดกลัวเล็กน้อย

หลังจากนั้นช่วงเวลาหนึ่ง หลี่ฝางคอยฝึกฝนกับส้าวส้วยมาโดยตลอด คอยหาวิธีการใช้ลมปราณและควบคุมมัน ทั้งยังเรียนรู้ทักษะในการฆ่าคน

หลี่ฝางเห็นท่านลู่ที่เอาแต่พักอยู่ในสถานตากอากาศ รู้สึกสงสัยเล็กน้อย:“ท่านลู่ มีความลับอะไรกันแน่?”

“เขารู้ความลับของตงฟางชู่ว”

ส้าวส้วยพูด :“แต่ว่า เขาไม่ยอมพูดมันออกมา”

ก่อนหน้านี้ ท่านลู่เคยเผยออกมา ความเป็นจริงตระกูลตงฟางปรากฏตัวมานานแล้ว

เพียงแต่ ไม่มีหลักฐาน ที่พิสูจน์ว่าท่านจวนก็คือตงฟางชู่ว

การต่อสู้เมื่อคราวที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายท่านจวน หรือจะเป็นฝ่ายตระกูลหลี่ ล้วนเสียหายอย่างหนัก

หลังจากพายุฝน ก็คือความนิ่งสงบ

ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

หลังจากตัวตนของตงฟางชู่วถูกเปิดเผย ไม่มีใครเห็นร่องรอยของเขาอีกเลย และไม่ได้ยินข่าวคราวของเขาอีกเลย

ไม่มีคำสั่งของตงฟางชู่ว สี่ตระกูลใหญ่ ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม

……

ทางด้านเมืองเอก ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรมากมายเท่าไหร่ แต่ที่อำเภอหลิน กลับเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น

เดิมที ภายใต้การช่วยเหลือหยิ่นเจิ้งของหลี่ฝาง ทำให้แมงป่องพ่ายแพ้และถอยไปแล้ว ทว่า ไม่รู้ว่าแมงป่องได้รับการช่วยเหลือจากใคร จึงได้โต้กลับในทันที

หลังจากหลี่ฝางสืบดูเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นฝีมือของบุคคลลึกลับที่อยู่เบื้องหลังแมงป่อง

และในเวลานี้เอง หลี่ฝางก็เดาออกได้ไม่อยาก บางทีบุคคลลึกลับที่อยู่เบื้องหลังแมงป่อง อาจจะเป็นคนของตระกูลตงฟาง

“อำเภอหลินมียอดฝีมือสองคนปรากฏตัวขึ้น ไอ้หน้าหนวดได้รับบาดเจ็บสาหัส เวลานี้กำลังนอนอยู่ที่ห้องดูแลผู้ป่วยหนัก ส่วนหยิ่นเจิ้งกำลังเตรียมหนี”

หลังจากหลี่ฝางทราบข่าว เขาก็บอกกับส้าวส้วย:“ฉันจำเป็นต้องไปอำเภอหลิน”

เดิมที เป็นแค่เรื่องในยุทธภพ แต่ว่า เมื่อมียอดฝีมือเข้าร่วม ก็จะไม่เหมือนเดิมแล้ว

ส้าวส้วยขานตอบอื้ม:“การฝึกฝนที่ดีที่สุด คือการลงมือทำจริง”

“ระวังตัวหน่อย”

ส้าวส้วยพูดกำชับหลี่ฝาง:“ผมไม่สามารถอยู่เคียงข้างคุณได้ ผมจำเป็นต้องอยู่ต่อ”

หลี่ฝางพยักหน้า เพื่อแสดงความเข้าใจ ถ้าท่านจวนเกิดบ้า บุกฆ่ามาที่นี่ ทั่วทั้งสถานตากอากาศ ใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา?

ถึงแม้โหจื่อจะสามารถลุกขึ้นนั่งได้ แต่ว่า ให้ยืนและเดินไปมายังมีปัญหา

หลิงหลงดีขึ้นเล็กน้อย แต่ต่อให้กลับไปถึงจุดสูงสุดอีกครั้ง ในสายตาของยอดฝีมือกำลังภายใน ก็เป็นแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น

ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านจวนที่เป็นยอดฝีมือระดับโลกมาทำร้าย ส้าวส้วยจำเป็นต้องอยู่ที่สถานตากอากาศ

วันนี้ ตระกูลตงฟางยังเป็นปริศนาที่ยังไม่คลี่คลาย

นอกจากฟีนิกซ์ที่ตายไปแล้ว คนเดียวในตระกูลตงฟางที่เผยตัวออกมา มีแค่ท่านจวนเท่านั้น

บางที มีแค่ตระกูลตงฟาง เปิดเผยตัวตนออกมาทั้งหมด ตระกูลหลี่จึงจะไม่ถูกกระทำมากขนาดนั้น

เมื่อถึงเวลานั้น ท่านจวนกล้ามาฆ่าคนที่สถานตากอากาศ ถ้าอย่างนั้นส้าวส้วย ก็สามารถไปฆ่าคนที่ตระกูลตงฟางได้เหมือนกัน

ก่อนไป หลี่ฝางมองไปที่ลุงเฉียน มองลุงเฉียนที่ต่อลมหายใจในจานเพาะเลี้ยง ภายในใจของหลี่ฝาง มีความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดออกมาได้

บางที อาจจะต้องรอให้แม่ของตนกลับมาเท่านั้น

ถ้าแม่ของตนยังไม่กลับมา ความหวังที่ลุงเฉียนจะมีชีวิตรอด แทบจะไม่มีเลย

ก่อนไป หลี่ฝางไปที่ศาลา ไปหาฉินวี่เฟย

เมื่อหลายวันก่อน หลังจากส่งผลกระทบต่อจิตใจของฉินวี่เฟย เธอก็มักจะนั่งใจลอยอยู่ที่ศาลา

เพราะถึงอย่างไร เธอก็เป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ เคยพบเจอกับสถานการณ์แบบนั้นเสียที่ไหน

ทุกที่เต็มไปด้วยการฆ่าฟัน เปี่ยมไปด้วยเลือด

บางทีในยุคสมัยที่เงียบสงบ เป็นเรื่องที่ยากจะพบเจอ แต่ว่า ฉินวี่เฟยกลับต้องประสบพบเจอ

ไม่เพียงแค่ประสบพบเจอ นอกจากนี้ ฉินวี่เฟยยังถูกหมาป่าละโมบจับตัวไป อีกเพียงเล็กน้อย ก็จะกลายเป็นผู้หญิงของหมาป่าละโมบแล้ว

โชคดีที่ หลิงหลงมาช่วยได้ทันเวลา ช่วยฉินวี่เฟย ให้รอดพ้นจากน้ำมือของหมาป่าละโมบ

แต่ว่า หลิงหลงกลับต้องเอาชีวิตตนเองเข้าไปเสี่ยง

โชคดี ที่เขาก็ถูกช่วยเอาไว้ได้ทัน

ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ดีที่เกิดเรื่องร้ายแต่ไม่เป็นอันตราย

แต่ว่า ตระกูลหลี่มีคนตายมากมาย

รวมถึง บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างกายหลี่ฝาง ถึงแม้ปฏิภาณของพวกเขา แทบจะเป็นคนโง่ทั้งหมด แต่ว่า สำหรับตระกูลหลี่ สำหรับหลอซ่า พวกเขาเป็นคนที่จงรักภักดี

มาถึงตรงหน้าฉินวี่เฟย เธอกำลังชงชา

หลี่ฝางนั่งอยู่ตรงหน้าฉินวี่เฟย ถามเธอด้วยความนิ่งสงบ:“ยังปล่อยวางไม่ได้เหรอ?”

ฉินวี่เฟยส่ายหน้า:“ทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ฉันยังคงนอนไม่หลับ ต่อให้นอนหลับ ก็ฝันร้าย ทำให้ตนเองตกใจจนตื่นขึ้นมา”

“เสี่ยวฝาง คุณว่าฉันดัดจริตเกินไปรึเปล่าคะ”

ฉินวี่เฟยขมวดคิ้วเป็นม พูดด้วยความระมัดระวัง

เธอกลัวหลี่ฝางจะรังเกียจตนเอง เพราะถึงอย่างไร ในใจฉินวี่เฟยรู้ดี อนาคตของหลี่ฝาง ต้องมีอุปสรรคมากมาย

ในฐานะที่เป็นผู้หญิงของหลี่ฝาง เธอต้องเผชิญหน้ากับทุกอย่างด้วยความนิ่งสงบ

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด:“จิตใจอ่อนไหวไปหน่อย แต่ว่า ภาพที่เลือดไหลเป็นแม่น้ำ นอกจากนี้ คุณยังเกือบจะถูกจับตัวไป หวาดกลัวอยู่หลายวัน เป็นเรื่องปกติ”

“แต่ว่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว อีกอย่าง ก็จะไม่มีวันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแล้ว”

หลี่ฝางพูดปลอบฉินวี่เฟย :“ไม่ต้องกลัวแล้ว”

การรับประกันของหลี่ฝาง เป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ พูดเพื่อปลอบใจฉินวี่เฟยเท่านั้น

ท่านจวนไม่ตาย การข่มขู่ ไม่มีวันหายไป

ไม่มีใครรับประกันได้ ท่านจวนจะพากลุ่มคน มาที่สถานตากอากาศเมื่อไหร่ จะเกิดการฆ่าฟันครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้งเมื่อไหร่

หลี่ฝางพูดออกไปแบบนี้ เพียงเพื่อปลอบโยนฉินวี่เฟยเท่านั้น

“ค่ะๆ เพียงแต่ว่า คนจำนวนมาก ตายไปหมดแล้ว”

ฉินวี่เฟยสูดลมหายเข้าเฮือกใหญ่ ท่ามกลางคนที่ตายไปเหล่านั้น ไม่ได้มีแค่คนของตระกูลหลี่ แต่ยังมีบ่าวรับใช้ของตระกูลหลี่ รวมถึงพวกพ่อครัวแม่ครัวเป็นต้น

คนพวกนี้ อยู่กับฉินวี่เฟย สอนฉินวี่เฟยทำอาหาร

ตอนที่ฉินวี่เฟยสู้กับพวกเขา คิดไม่ถึงว่าภัยร้ายจะมาหา

คนของเซราฟิมมาถึง ฆ่าคนของพวกเขา ทั้งยังฆ่าต่อหน้าฉินวี่เฟย

เพื่อนของฉินวี่เฟยที่มีในสถานพักร้าย……ก็ถูกฆ่าตายแบบนี้ ฉินวี่เฟยเสียใจ ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว

ทุกครั้งที่นอนหลับ ฉินวี่เฟยมักจะฝันถึงพวกเขา ฉินวี่เฟยฝืนยิ้ม มองไปที่หลี่ฝาง:“คุณมาหาฉัน มีธุระอะไรรึเปล่าคะ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท