เซี่ยจือชิว
“อ้ะ!เจ็บมาก!”
ภายในรถที่เสียรูปไปแล้ว หลี่ฝางกุมศีรษะตัวเอง เวลาล่วงเลยไปนานเขาจึงได้สติ
ความรุนแรงตอนรถเกิดอุบัติเหตุ แม้ดูจากสมรรถภาพทางกายของเขา แต่ก็ไม่อาจมองข้าม
ส่วนเซี่ยจือชิวที่อยู่ด้านข้าง เนื่องจากได้รับการเตือนก่อนจากเขาจึงป้องกันได้ทัน ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไร
ทว่าคนขับที่ตกใจมากด้านหน้า เพราะเขาลนลานจึงทำให้ศีรษะตรงไปกระแทกกับพวงมาลัย หลี่ฝางยืดคอไปมองทางเบาะด้านหน้าเห็นเขาเลือดค่อยๆไหลออกมา
“ลงมา!”
ความรู้สึกเย็นยะเยือกนั่นอีกแล้ว หลี่ฝางที่กำลังจะขยับตัวก็แข็งทื่อ ค่อยๆหันมองออกไปนอกหน้าแตกที่แตกละเอียด เห็นชายผิวขาวรูปร่างกำยำคนหนึ่ง กำลังมองตนด้วยสายตาระแวดระวัง
อีกด้านหนึ่ง นอกหน้าต่างรถฝั่งเซี่ยจือชิว มีปลายกระบอกปืนเล็งอยู่บนหน้าผากเขาเช่นกัน
“พวกแกเป็นใคร?”
หลี่ฝางค่อยๆลงจากรถตามคำสั่งของคนขาว พลางถามขึ้น
ถ้าอีกฝ่ายมีปืนแค่1-2กระบอก สำหรับหลี่ฝางแล้วไม่ได้ขู่อะไรได้มากนัก แค่ความเร็วของอาวุธเขา ก็ทำให้เขามั่นใจกับการคาดเดาล่วงหน้าก่อนที่อีกฝ่ายจะลั่นไก
แต่การขนาบข้างรถเมื่อครู่นั้น เห็นได้ชัดว่ามีรถSUV4คัน ก็เท่ากับว่าอีกฝ่ายอย่างน้อยมี4คน
หลังจากหลี่ฝางลงจากรถ กลับพบว่าสถานการณ์ไม่ได้ดีอย่างที่ตนคิดไว้ เพราะจำนวนคนนั้นมากกว่าที่ตนคิดไว้เป็นเท่าตัว
ทั้งหมดมีชายผิวขาวถือปืน8คน ยืนประกบรอบด้านของรถ ทุกคนล้วนมองตนด้วยสายตาระแวดระวัง
หลี่ฝางยังสังเกตเห็นอีกว่าปืนในมือของแต่ละคนนั้นดึงประกันออกแล้ว มันดูเหมือนว่าทันทีที่หลี่ฝางขยับแม้แต่นิดเดียว ก็จะเหนี่ยวไกปืนในมือพร้อมกันทันที
“สิ่งที่ไม่ควรถามก็อย่าถามมาก”
ชายผิวขาวที่อยู่หน้าสุดพูดตักเตือนหลี่ฝาง ด้วยภาษาจีนกลางสำเนียงแปลกๆ
“ฮ่าๆ!ลูกพี่ทั้งหลาย จะเอาทรัพย์สินหรือเงินทองล่ะ!พวกคุณอยากได้อะไรก็บอกมาเลย ผมไม่ปฏิเสธแน่นอน”
หลี่ฝางหัวเราะออกมา เรียนรู้มาจากคนขับรถก่อนหน้านี้
“เอาตัวเป้าหมายไป”
ชายผิวขาวที่เป็นผู้นำยังคงออกคำสั่งเป็นภาษาจีนกลาง จากนั้นก็มีคน2คนเดินมาเอาตัวเซี่ยจือชิว
“พวกคุณไม่ได้มาจับผมเหรอ?”
สถานการณ์นี้ ทำเอาหลี่ฝางที่ประสบอันตรายมาทุกรูปจนชินแล้วถึงกับอึ้งไปเลย ขณะเดียวกันก็คิดหาวิธีแก้ไขทางตันนี้ยังไงดี
ดูแล้วอีกฝ่ายยังมี8คนเหมือนเดิม และคิดไม่ถึงว่าคนที่มาจัดการเซี่ยจือชิวนั้นไม่ใช่จากสี่ตระกูลใหญ่ งั้นก็คงไม่ใช่จากสำนักหยิ่งซา แต่ปัญหาคือคนตรงหน้าหลี่ฝางคือศัตรูที่ไม่รู้จักเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายมีแผนอะไร
“ไป มือจับศีรษะแล้วนั่งยองลงกับพื้น”
เมื่อเผชิญกับความสงสัยของหลี่ฝาง อีกฝ่ายก็ยกปืนขึ้น ให้หลี่ฝางเชื่อฟังที่พวกเขาพูด
และในขณะที่ปลายกระบอกปืนของอีกฝ่ายยกขึ้น จิตใจที่ผ่อนคลายของหลี่ฝาง ก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที แทงเขาไปที่หน้าท้องของฝ่ายตรงข้ามจังๆ
“ปัก!”
แทงเข่าอย่างไม่มีการออมมือใดๆ เผยพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัว ตัวของชายผิวขาวโค้งงอเป็นกุ้งแห้งทันใด ลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมากลางอากาศ
ส่วนปืนพกของเขาก็หลุดออกจากมือ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดอย่างฉับพลันนี้ เมื่อหลี่ฝางคว้าได้ ก็ยิงไปทั้งทางซ้ายและขวาอย่างไม่ลังเล
ทั้งสองตำแหน่งนั้น เป็นตำแหน่งของชายผิวขาวอีกสองคน ที่หลี่ฝางจำได้ขึ้นใจ
“ปัง!”
“ปัง!”
หลังจากยิงติดต่อกันสองนัด บนหน้าผากของชายผิวขาวทั้งสองก็ปรากฏเป็นรูสีแดงฉาน สายตาค่อยๆคล้อยหายไป เหมือนเป็นการประกาศว่าตายไปแล้ว
เหตุการณ์นี่ทำเอาชายผิวขาวอีก5คนตกตะลึง พวกเขาต้องการยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หลี่ฝางกลับฉวยโอกาสนี้ฆ่าทั้งสามคนในทันที
เขาเคลื่อนไหวเร็วมาก ดูเหมือนลั่นไกภายในเสี้ยววินาที แต่เขาก็ไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ ยิงตายไปแค่สามคนที่อยู่ด้านหลัง ส่วนอีกสองคนเพราะห่างกันค่อนข้างมาก และยืนข้างเซี่ยจือชิว หลี่ฝางกลัวว่าจะยิงโดนหลี่ฝาง พวกเขาจึงหลบไป ทำให้หลี่ฝางยิงเสียเปล่าไป
ชายผิวขายที่ไม่รู้ที่มาที่ไปทั้ง8คน ตอนนี้เหลืออยู่แค่2คนที่คุมตัวเซี่ยจือชิวไว้
“หยุดนะ พวกแกอย่าเข้ามา ไม่งั้นฉันฆ่าเขาซะ”
การตายอย่างฉันพลันของเพื่อนร่วมงาน ทำให้ชายผิวขาวที่เหลืออยู่สองคนมีท่าทีหวาดกลัว แต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนก คนหนึ่งจ่อปืนไปที่เซี่ยจือชิว อีกคนจ่อไปที่คนอื่น ค่อยๆถอยหลังไป
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองเป็นอย่างดี แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้ปืนพกขนาดเล็กๆสองกระบอกนี้ ต่อสู้กับหลี่ฝางผู้เป็นศัตรูอันเก่งกาจ ที่จัดการเพื่อนพวกเขา6คนได้ในพริบตา อยากรอดและทำงานให้สำเร็จในเวลาเดียวกัน คงมีทางเดียวคือใช้เซี่ยจือชิวเป็นตัวประกัน
พวกเขาเชื่อว่าขณะเซี่ยจือชิวตกอยู่ในอันตราย คนตรงหน้าไม่กล้าทำอะไรแน่
และความเป็นจริงความคิดของชายผิวขาวทั้งสองนี้แม่นมาก เมื่อหลี่ฝางเห็นเซี่ยจือชิวถูกเป็นตัวประกัน ก็หยุดการกระทำไปทันทีอย่างไม่ลังเล
หลี่ฝางมั่นใจในความเร็วของตน แต่ไม่มั่นใจว่าจะเร็วกว่ากระสุนปืน ยิ่งไปกว่านั้นตรงหน้ายังเป็นปืนพกสองกระบอก แม้ว่าสองคนนี้ยากที่จะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เขาไม่กล้าเดิมพันว่าทั้งสองคนจะไม่ฆ่าเซี่ยจือชิวซะก่อน ก่อนที่เขาจะลงมือ
เบื้องหลังเซี่ยจือชิวนั้นไม่ธรรมดา ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรไปที่นี่ เกรงว่าหลี่ฝางต้องเจอกับปัญหาใหญ่แน่
“ปล่อยเซี่ยจือชิว แล้วฉันจะให้พวกแกจากไปอย่างปลอดภัย”
แม้รู้ว่าที่พูดไปไม่ได้ผล แต่หลี่ฝางก็ยังพูดออกมา
ไม่ได้มีความหมายอื่น แค่ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของอีกฝ่ายกก็เท่านั้น
ขณะที่พูดหลี่ฝางก็เดินตามอีกฝ่ายไปด้วย เดินเข้าไปไกลทางต้นไม่ใหญ่ มองไปที่สายตาของชายผิวขาวทั้งสอง แต่ก็เดินเข้าไปใกล้
“เห้ย!หยุดนะ ถ้าก้าวมาอีกก้าวเดียวฉันยิงเขาแน่”
ชายคนนั้นมือหนึ่งจับเซี่ยจือชิว อีกข้างหนึ่งจ่อปืนไปที่หน้าผากหลี่ฝาง ขู่ด้วยสีหน้าโกรธเคือง
ดูออกเลยว่าเขาคนนี้สติแตกไปแล้ว
ได้ยินเช่นนั้นหลี่ฝางจึงทำได้เพียงชะลอฝีเท้าของตน แต่ไม่ได้หยุดเดินอย่างที่อีกฝ่ายบอก
เขากำลังเดิมพัน เดิมพันว่าอีกฝ่ายไม่กล้ายิงเซี่ยจือชิวทันที เดิมพันว่าอีกฝ่ายยิ่งหวงแหนชีวิตของตัวเองเพิ่มขึ้นไปอีก
แน่นอน เหตุผลที่สำคัญกว่านั้นคือ เขาจะให้คนพวกนี้เอาตัวเซี่ยจือชิวไปไม่ได้ สวรรค์รู้ว่าหลังจากเซี่ยจือชิวหายไปจากสายตาเขา จะตามกลับมาได้หรือไม่
เขาไม่อยากเป็นแพะรับบาปเสียเปล่าๆ
อีกฝ่ายเห็นเช่นนั้น ทำได้แต่กัดฟันกรอดๆ ไม่พูดอะไรมาก ถอยไปด้านหลังเร็วกว่าเดิม
ขอแค่เข้าไปในรถSUVได้ ก็ถือว่าพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้ว