NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่841 ปัญหาของเซี่ยจือชิว

บทที่841 ปัญหาของเซี่ยจือชิว

“พวกแกเป็นใครกันแน่?ต้องการอะไร?”

หลี่ฝางเริ่มร้อนใจแล้ว

“กลับไปรอข่าวเถอะ!ไม่ต้องห่วง พวกเราไม่ฆ่าเขาหรอก”

เห็นพวกเขาไปถึงประตูรถแล้ว เมื่อเห็นประตูสู้ความรอดอยู่ตรงหน้า ความระแวดระวังของชายผิวขาวทั้งสองก้ลดลงไม่น้อย พูดอย่างยิ้มเยาะ

พวกเขาในตอนนี้ ห่างจากหลี่ฝางพวกเขาประมาณ30เมตร ขอเพียงเขาขึ้นรถแล้วออกรถทันที คนเหล่านี้จะไม่เป็นภัยคุกคามอีกต่อไป

หลี่ฝางที่ยังคงอยู่ด้านขวา มองทุกอย่างด้วยสายตาเยือกเย็น อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายไม่ค่อยระวังและไม่ทันสังเกต หลี่ฝางเลื่อนลูกบอลเหล็กสองลูกออกจากแขนเสื้ออย่างเงียบๆ วินาทีที่อีกฝ่ายหันไปขึ้นรถ กำลังภายในทั้งสองตรงไปยังลูกบอลเหล็กพร้อมกัน และพุ่งไปที่คอของทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว

“ฟึบ!”

ลูกบอลเหล็กโดนลำคอชายผิวขาวทั้งสอง จนเกิดเสียงเบาๆสองที ในสายตาชายผิวขาวทั้งสองยังมีความดีที่จะได้ไนหนี แต่ไม่เข้าใจเลย ว่าทำไมบริเวณลำคอของพวกเขา จู่ๆก็มีรูเลือดขึ้นมาสองรู

พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าหลี่ฝางปาลูกบอลเหล็กสองลูกนั้นมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่

ร่างที่อ่อนปวกเปียกทั้งสองค่อยๆร่วงลงไปกับพื้น ส่วนเซี่ยจือชิวที่อยู่ในเหตุการณ์น่ากลัวนี้ ยืนมองชายผิวขาวทั้งสองด้านล่างตนด้วยความตกตะลึง พลางมองสำรวจบาดแผลของพวกเขา

“คุณทำได้ยังไง?”

จากนั้นเขาก็เห็นที่ลำคอของทั้งสองเป็นรู จากลูกบอลเหล็กสองอันนั้น

“บินเก็บดอกไม้?”เซี่ยจือชิวตกใจมาก แค่ปาลูกเหล็กสองลูกก็กลายเป็นอาวุธลับทำร้ายคนได้ ความอันตรายไม่แพ้ไปกว่ามีดเลยสำหรับเขา การกระทำอย่างนี้เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากๆ

ตอนนี้เซี่ยจือชิวลืมแม้กระทั่งเรื่องที่โดนคนเอาปืนจ่อหน้าผากไว้เมื่อครู่

“ถ้าบินเก็บดอกไม้เป็นเรื่องจริง งั้น18ฝ่ามือพิชิตมังกร ที่ผมอ่านในนิยายศิลปะการต่อสู้ก็เป็นเรื่องจริงด้วย?หลี่ฝาง คุณเสกมังกรด้วยมือเดียวได้ด้วยใช่ไหม?”

“แล้วก็ดรรชนีกระบี่หกชีพจร หลี่ฝาง คุณยังสามารถยิงเลเซอร์จากนิ้วได้ด้วยหรือเปล่า?หรือว่ามีวิชาทำให้จากแก่กลายเป็นอ่อนเยาว์?”

จู่ๆหลี่ฝางก็รู้สึกว่าหมอนี่ประหลาดมาก เพิ่งผ่านวิกฤตมาเมื่อครู่ คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะมาเปรียบเทียบเรื่องในนิยาย กับหลี่ฝางได้เป็นตอนๆ

“คุณอ่านนิยายมากไปแล้วล่ะ”

หลี่ฝางผลักเซี่ยจือชิวที่แทบจะสิงเขาอยู่แล้วออก แล้วเดินไปหาคนแรกที่โดนเขาอัดจนกระเด็นไปไกลที่สุด

เขาอยากให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายตายแล้วหรือแกล้งตาย แต่เมื่อเขาเดินไปถึงจุดที่เขาคาดเดาไว้ กลับพบว่าบนพื้นไม่มีใครสักคน มีแต่รอยกองเลือด ราวกับกำลังบอกถึงคนที่เคยอยู่ตรงนี้

“มีอะไรเหรอ?หลี่ฝาง”

เซี่ยจือชิวเดินตามไปดุ๊กดิ๊กๆ พูดอย่างสนิทสนมสุดๆ หลี่ฝางพบว่าตอนนี้เซี่ยจือชิวไม่ได้ตื่นตระหนกเหมือนเมื่อครู่แล้ว ดูผ่อนคลายมากๆ

“หนีไปได้คนหนึ่ง”หลี่ฝางขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น:“คุณรู้ที่มาที่ไปของคนพวกนี้ไหม ทำไมพวกเขาถึงมาจับตัวคุณ?”

“คือ……ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”เซี่ยจือชิวยิ้มๆ เห็นได้ชัดว่ากำลังปิดบังอะไรบางอย่าง

หลี่ฝางหน้าเคร่งขรึม พูดอย่างขู่ๆ:“คุณรีบกลับเมืองหลวงดีกว่า เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้มาหาคุณโดยตรง ตอนนี้ยังหนีไปได้คนหนึ่ง ไม่แน่ผ่านไปสักพักพวกเขาจะกลับมาลักพาตัวคุณ คุณต้องกลับเมืองหลวงเท่านั้นถึงจะปลอดภัย”

เซี่ยจือชิวหน้าซีดเผือด พูดขึ้นทันที:“คงไม่หรอก ผมคิดว่านี่อาจเป็นแค่อุบัติเหตุ……”

“คุณกำลังล้อผมเล่นงั้นเหรอ?อุบัติเหตุอะไรถึงมีปืนด้วย?”หลี่ฝางจ้องเขม็ง

“เอ่อ……”เซี่ยจือชิวจ้องเช่นกัน แต่ไม่พูดอะไร

“ผมว่า พวกเพื่อนๆของคุณคงไม่เป็นไรใช่ไหม?”หลี่ฝางเห็นสถานการณ์ไม่ตรงไปตรงมา เขาจึงถามขึ้นให้รู้กันไปเลย

“ผม ก็ได้ ไหนๆก็พูดขนาดนี้แล้ว ผมจะบอกคุณให้ชัดๆ ครั้งนี้ผมเจอปัญหาใหญ่จริงๆแล้วล่ะ ผมไปมีเรื่องกับคนของDynasty”

“Dynasty?”หลี่ฝางตกใจ เขารู้จักชื่อนี้ ส้าวส้วยเคยบอกเขาอยู่หลายครั้ง ว่าตอนพวกเขาอยู่ต่างประเทศ สองศัตรูที่เก่งกาจสุดๆนั่นก็คือ——Dynastyกับสำนักหยิ่งซา

ความเก่งกาจของสำนักหยิ่งซาเขาก็เคยเจอมาแล้ว พวกเขาถูกซุ่มโจมตีถึงสองครั้งติดต่อกัน โชคดีที่ผ่านทั้งสองครั้งมาได้โดยไม่ได้รับอันตราย ส่วนDynasty เขาไม่รู้อะไรเลย

“Dynastyนี่เก่งมากเลยงั้นเหรอ?ทำไมคุณไปมีเรื่องกับพวกเขาได้ พวกเพื่อนๆของคุณเป็นไงบ้าง?”หลี่ฝางยิงคำถามรัวๆ

“คือ……ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ควรคุยกัน เราหาที่ปลอดภัยกว่านี้หน่อย แล้วผมจะบอกคุณให้หมด โอเคไหม?”เซี่ยจือชิวยิ้มเจื่อนๆ ในที่สุดก็ยอมหลี่ฝาง

หลี่ฝางพยักหน้า จากนั้นเดินไปดูคนขับรถในรถตนก่อน พบว่าเขาแค่โดนชนจนสลบไป ยังหายใจปกติ ไม่อันตรายถึงชีวิตอะไร เขาจึงโทรให้คนมาเก็บกวาดที่เกิดเหตุ ไม่นานนักก็มาคนมา แถมยังขับรถคันใหม่มาอีกคัน หลี่ฝางขับรถใหม่คันนี้พาเซี่ยจือชิวกลับสถานตากอากาศ

แม้ตอนนี้ศักยภาพของหลี่ฝางไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ทุกครั้งที่เจอเรื่องอันตราย เขาก็จะกลับสถานตากอากาศโดยอัตโนมัติทุกครั้ง บางทีในจิตใต้สำนึกของเขา ที่แห่งนี้คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด

“เอาล่ะ ตอนนี้บอกผมได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น?”หลี่ฝางนั่งบนโซฟา มองเซี่ยจือชิวอย่างแน่วแน่แม้มีเรื่องมากมายก็ตาม

เซี่ยจือชิวกัดฟันพูด:“ถ้ามากไปผมก็บอกคุณไม่ได้ ผมบอกคุณได้แค่ว่าDynastyทรงอิทธิพลมาก ถึงขนาดควบคุมประเทศเล็กๆไว้มากมาย มีอำนาจแผ่ขยายไปทั่วโลก ส่วนที่ผมได้ไปมีเรื่องกับพวกเขา เห้อ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ โทษที่ผมมันโชคร้าย”

เห็นเซี่ยจือชิวหน้าสะอื้น หลี่ฝางก็ถามอย่างสงสัย:“ทำไม คุณไปชนคนของDynastyตายงั้นเหรอ?”

หลี่ฝางแค่พูดล้อเล่น ไม่คิดว่าเซี่ยจือชิวจะพยักหน้ายอมรับด้วยสีหน้าจริงจัง

“ไม่จริงอ่ะ คุณชนคนของDynastyตายจริงๆงั้นเหรอ?”

“เห้อ ผมซวยจริงๆ ตอนแรกแค่มีคนมาเชิญผมเข้าร่วมการแข่งรถกระชับมิตร ใครจะไปคิดว่าพอหมอนั่นเห็นว่าสู้ผมไม่ได้แล้วเล่นสกปรก?แล้วใครจะไปคิด ว่าผมแค่ชนเขาเบาๆ จะทำให้รถเขาพลิกคว่ำจนระเบิด?แล้วใครจะไปคิด ว่าหมอนั่นเป็นลูกคนใหญ่คนโตคนหนึ่งของDynasty?เรื่องนี่ผมเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ”

หลี่ฝางถึงกับหมดคำจะพูด สิ่งที่เซี่ยจือชิวพูดเขาไม่อยากจะเชื่อแม้แต่คำเดียว แข่งรถงั้นเหรอ?ซิ่งรถสิไม่ว่า!แค่ชนเบาๆ ถ้าตอนนั้นคุณไม่ได้ตั้งใจซิ่งไปเพื่อฆ่าคน วันนี้นามสกุลผมคงต้องเขียนกลับหัวแล้วล่ะ!

หลี่ฝางแอบพึมพำในใจ ทั้งสองคนล้วนมีแบ็คดี ถึงกับทำให้อีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยแบบนี้ ไมใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่เซี่ยจือชิวก็คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ตนจะซวยเข้าจริงๆ เกือบเอาตัวเองเขาไปเกี่ยวด้วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท