NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่839 ตกเป็นเป้าหมาย

บทที่839 ตกเป็นเป้าหมาย

หลังจากหลิวฮุยกลับ หลี่ฝางก็นึกถึงเซี่ยจือชิวที่โดนเขาทิ้งไว้ที่เขาหมาป่าขึ้นได้ รู้สึกไม่ดีมากๆจึงโทรไปหาเซี่ยจือชิว

“คุณชายหลี่ อะไรของคุณเนี่ย เมื่อกี้บอกว่าจะไปดื่มกันแต่กลับออกไป?คงไม่ใช่ไม่อยากทำความรู้จักกับผมหรอกนะ?”เสียงหยอกล้อของเซี่ยจือชิวปลายสายดังขึ้น

“จะเป็นไปได้ไง ที่บ้านเกิดเรื่องเร่งด่วนจริงๆ ไม่มีทางเลือกจริงๆถึงได้ทำแบบนี้ เอางี้ คืนพรุ่งนี้ผมเป็นเจ้ามือเอง พวกเรามาดื่มกันคุณว่าไง?”หลี่ฝางรีบพูด

“ได้ งั้นเป็นคืนพรุ่งนี้!”เซี่ยจือชิวตอบรับทันที ว่าง่ายอย่างคาดไม่ถึง

วางสายเสร็จหลี่ฝางรู้สึกโล่งมาหน่อย เห็นสไตล์เซี่ยจือชิวก่อนหน้านี้เลยคิดว่าเขาไม่ยอมแน่ๆ คิดไม่ถึงว่าจะตอบตกลงง่ายขนาดนี้ หรือตนจะมองเขาผิดไป?

วันต่อมา หลี่ฝางจัดสถานที่ในบาร์ของตน เพื่อรอการมาเยือนของเซี่ยจือชิว

รออยู่ครู่หนึ่งเซี่ยจือชิวก็มาจริงๆ เพียงแต่ไม่คิดว่าจะมาแค่เซี่ยจือชิวคนเดียว ส่วนเพื่อนคนอื่นๆของเขาไม่เห็นแม้แต่คนเดียว

“คุณเซี่ย คุณมาแล้ว ไหนบอกว่าจะพาเพื่อนมาแนะนำให้ผมรู้จักไง?”หลี่ฝางเดินยิ้มๆไปต้อนรับ

“ฮะแฮ่ม คือว่า เมื่อคืนพวกเขาดื่มหนักมาก ท้องไส้ปั่นป่วน ลุกกันไม่ไหวแล้ว ดังนั้นวันนี้จึงมีแค่ผมที่มาตามนัด”เซี่ยจือชิวยิ้มอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พลางนั่งบนโซฟา

ดื่มหนักจนท้องไส้ปั่นป่วนทำให้ลุกไม่ไหว?หลี่ฝางรู้สึกแปลกๆ เห็นสายตาเซี่ยจือชิวอยู่ไม่สุข เห็นได้ชัดว่าที่เขาพูดเป็นแค่ข้ออ้างแบบขอไปที

“เห้อ งั้นก็น่าเสียดายจริงๆ ที่คืนนี้ไม่อาจได้รู้จักเพื่อนใหม่ งั้นที่ผมเตรียมการไว้อย่างตั้งใจสุดๆ คงสนุกกันแค่เราสองคนแล้วล่ะมาๆๆ สหาย พวกเรามาดื่มกันก่อนสักแก้ว”

เซี่ยจือชิวไม่พูด หลี่ฝางก็ไม่ถาม แค่ปรบมือก็มีสาวสวยกลุ่มใหญ่มาห้อมล้อมทันที เครื่องดื่มต่างๆนี้ก็มาเสิร์ฟ ทำเอาครึกครื้นขึ้นมาทันที

“มา ชนหมัดแก้วกันอีกแก้ว”

“หมด หมดแก้ว”

ทั้งคู่ดื่มกันไม่ลดละ แต่หลี่ฝางกลับรู้สึกว่าเซี่ยจือชิวใจลอยๆ สายตาอยู่ไม่นิ่งตลอด เหมือนกำลังกังวลอะไรอยู่ อีกทั้งยังอ้าปากจะพูดอะไรเป็นระยะๆ แต่เพราะพะว้าพะวังบางอย่างทำให้พูดไม่ออก

ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณเป็นอะไรกันแน่!หลี่ฝางยิ้มเยาะในใจแสร้งทำเป็นไม่รู้ เอาแต่รินเหล้าให้เซี่ยจือชิวท่าเดียว

“ติ๊ดๆๆ……”

โทรศัพท์เซี่ยจือชิวดังขึ้น เขารับอย่างอัตโนมัติ หลังจากพูดไม่กี่คำสีหน้าเขาก็เปลี่ยนสีไป

“ว่าไงนะ?ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”

“อดทนไว้ อดทนไว้ก่อน!”

วางสายเสร็จ เซี่ยจือชิวก็พูดกับหลี่ฝางด้วยสีหน้าร้อนใจ:“พวกเพื่อนๆผมเกิดเรื่องขึ้น สหาย ช่วยไปส่งผมที่โรงแรมหน่อย”

“อะไรนะ?เกิดอะไรขึ้น ให้ผมเรียกคนมาไหม?”หลี่ฝางถามทำเป็นเล่นใหญ่

“ไม่ต้อง คุณรีบไปส่งผมก็พอ ได้ไหม?”เซี่ยจือชิวสีหน้าเต้มไปด้วยความร้อนใจ จากผลของไฟกะพริบ ทำให้หลี่ฝางเห็นเขาเหงื่อไหลออกจากหน้าผาก

อ่อนหัด ตัวเองก็ใช่ว่าไม่มีรถ ยังจะจงใจให้ผมไปส่งคุณอีก?

หลี่ฝางยิ้มเยาะในใจ ภายนอกยังคงแสร้งเป็นไม่รู้เรื่อง รีบพยักหน้าตอบรับทันที

“พูดอะไรหน่ะ เราคนกันเอง ไปกัน ผมขับรถไปส่งเดี๋ยวนี้แหละ”

บนทางเปลี่ยวที่อยู่ไม่ไกลกับบาร์นัก มีรถSUV4คันจอดอยู่ข้างทาง ในรถทุกคันมีชาวต่างชาติผิวขาวสองคนนั่งอยู่

เป็นครั้งคราว คนเหล่านี้จะถือวิทยุสื่อสาร และชะโงกศีรษะออกไปดูประตูบาร์นอกกระจกรถเป็นครั้งคราว เหมือนกำลังรอใครอยู่

ผ่านไปพักใหญ่ สุดสายตา ในที่สุดก็เห็นหลี่ฝางกับเซี่ยจือชิวขับรถออกมา คนเหล่านั้นจึงพูดใส่วิทยุสื่อสารเป็นเสียงเดียวกัน

“เป้าหมายปรากฏตัวแล้ว!”

บนรถ หลี่ฝางและเซี่ยจือชิวนั่งตรงเบาะหลัง ด้านหน้าเป็นคนขับรถที่หลี่ฝางหามา เพราะรถปอร์เช่เขาโดนชนซะยับขนาดนั้นแล้ว หลี่ฝางจึงเปลี่ยนรถ แล้วเอาคนขับมาด้วย

ขณะรถวิ่งบนถนน หลี่ฝางพบว่าเซี่ยจือชิวเหงื่อไหลพลั่ก นั่งไม่พูดสักคำ

“เจ้านี่ คงไม่ได้ป่วยเป็นอะไรหรอกใช่ไหม?”หลี่ฝางใช้หางตาเหลือบมองเซี่ยจือชิวที่นั่งอยู่ไม่สุขเป็นระยะๆ รู้สึกว่าตอนนี้เขามีท่าทางแปลกๆ ไม่เหมือนกำลังประหม่า แต่เหมือนเกิดอาการผิดปกติหลังจากเสพติดอะไรบางอย่าง

เห็นสายตาเซี่ยจือชิวยิ่งอยู่ไม่สุขขึ้นเรื่อยๆ หลี่ฝางกุมขมับ ขณะกำลังจะถามว่าเขาเป็นอะไร ทันใดนั้นรถก็สั่นสะเทือน

“ปัง!”

หลี่ฝางที่โดนปะทะจนส่ายไปมา ทันทีที่มองไปนอกรถ ก็โดนชนเข้าอย่างจังอีกครั้ง

“แม่ง บ้าอะไรเนี่ย?”

เห็นรถทั้ง4คันตามประกบรถSUVทั้งซ้ายขวาหน้าหลัง หลี่ฝางจึงเริ่มหน้าถอดสี

เห็นได้ชัดว่าเราตกเป็นเป้าหมายแล้ว

“แม่งเอ้ย ขับรถเป็นไหมห้ะ!”

คิดไม่ถึงว่าคนขับรถจะเป็นคนกล้าหาญ เมื่อโดนกระทำหลายครั้ง เขาจึงขับรถเบียดกลับไป

แต่การตอบโต้ของเขาก็ไม่ได้ใช้เวลานานนัก เพิ่งจะหมุนพวงมาลัย ปากกระบอกปืนก็เล็งมาทางด้านกระจกฝั่งซ้ายทันที ทำให้เขาสงบลง

“ลูกพี่ มีอะไรค่อยๆพูดกันดีกว่า ไม่ว่าทรัพย์สินอะไรผมจะให้ทั้งหมด”

คนขับรถตัวอ้วนรีบประนีประนอมทันที

เมื่อหลี่ฝางที่นั่งอยู่ด้านหลังเห็นปลายกระบอกปืน ก็มีสีหน้าเคร่งขรึมทันที

หรือจะเป็นคนตระกูลตงฟางมาจู่โจมเขา?

“ยกมือขึ้น!”

ขณะนั้นเอง มีเสียงพูดภาษาจีนกลางแต่ไม่ค่อยได้มาตรฐานดังออกมาจากรถSUVฝั่งซ้าย ทำให้หลี่ฝางรู้ทันทีว่าคนเหล่านี้เป็นชาวต่างชาติ

คงไม่ใช่คนของสำนักหยิ่งซาหรอกนะ?หลี่ฝางคิดในใจ

เมื่อพูดจบ ก็มีปลายกระบอกปืนเล็งออกมาจากรถฝั่งขวาเช่นกัน กระบอกหนึ่งเล็งที่หลี่ฝาง อีกกระบอกเล็งที่เซี่ยจือชิว

แรงกดดันจากอาวุธโลหะเย็นๆ ทำให้ทั้งสองคนทำได้แค่ยอมๆไปก่อน ยกมือขึ้นอย่างเชื่อฟัง

แต่ที่ทำให้หลี่ฝางคาดไม่ถึงคือ คนขับรถที่นั่งอยู่ด้านหน้าไม่รู้ว่ากดดันเกินไป หรือสมองมีปัญหา หลังจากได้ยินก็ยกมือขึ้นด้วย

“Fuck วางมือกลับไป!”

ทันทีที่คนในรถSUVฝั่งซ้ายเห็นก็ด่ากราดทันที หันกระบอกปืนหวังจะให้คนขับวางมือลง แต่ก็สายไปแล้ว

พวงมาลัยที่สูญเสียการควบคุมเริ่มหมุนไปมา เดิมทียังถือว่าขับได้มั่นคง แต่ตอนนี้กลับส่ายไปมา รถSUVที่ขนาบซ้ายขวาก็เริ่มส่ายไปมาเพราะแรงกระแทก

“ป้องกันศีรษะ!”

เมื่อเห็นว่ารถกำลังจะชนรั้วข้างถนน หลังจากเตือนหลี่ฝางเซี่ยจือชิว ก็ต่างคนต่างป้องกันศีรษะของตัวเอง

“โครม!”

เสียงดังกึกก้อง ขณะที่รถชนกับรั้ว

ภายใต้แรงหนืด หลี่ฝางพวกเขาสามคนที่นั่งอยู่ในรถ ร่างกายกระแทกไปกับเบาะด้านหน้าอย่างจัง

และหลังจากรถSUVทางฝั่งซ้ายชนกับรั้วถนน ด้วยความคุณภาพดีของรถSUVทำให้มันชนพังรั้วกั้นแล้วลอยกระเด็นตกลงไปที่ลุ่มต่ำข้างทาง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท