หญิงสาวทำท่าทำทางจะขว้างหลอดยาทิ้งลงบนพื้น ข่มขู่ไม่ให้กุ่ยเมี่ยนเข้ามาใกล้
กุ่ยเมี่ยนกลับไม่แยแสเลยสักนิด เขาหัวเราะเหอะ ๆ พลางกล่าว: “ส่งยาเพิ่มพลังความแข็งแกร่งนั่นมาให้ฉัน”
เขาสามารถรับรู้ได้โดยใช้วิธีการพิเศษตั้งแต่แรกแล้วว่านั่นคือยาเพิ่มพลังความแข็งแกร่ง เขารู้ว่าที่นี่มีตัวยาที่ประสบความสำเร็จเพียงแค่หลอดเดียว นั่นก็คือหลอดที่อยู่ในมือของหญิงสาวนั่นเอง
หญิงสาวตอบรับด้วยความเงียบ และไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างบุ่มบ่าม
เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้ไม่ได้มาดี ถ้าเธอเชื่อคำพูดของอีกฝ่าย เกรงว่าผลลัพธ์คงไม่ดีเท่าไหร่นัก ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงใช้วิธีนี้เพื่อข่มขู่อีกฝ่ายต่อไป ทำให้คนพวกนั้นไม่กล้าที่จะทำอะไรโดยพลการ
ในตอนนี้เอง จุ่ ๆ กุ่ยเมี่ยนก็ได้เอ่ยปากขึ้นมา: “งั้นเธอก็คงจะเป็นคนที่คิดค้นยาตัวนี้ขึ้นมาได้สินะ”
หญิงสาวชะงักงันไปสักพัก ไม่นานก็รู้สึกตัวขึ้นมา เธอรีบส่ายหัวปฏิเสธทันที: “ฉันไม่มีความสามารถแบบนั้นหรอกนะ คนที่แกตามหาเพิ่งไปจากที่นี่ไม่นาน ถ้าหากตามไปตอนนี้ก็ยังทัน”
“เหอะ ๆ เธอหลอกฉันไม่ได้หรอก” กุ่ยเมี่ยนหัวเราะขึ้นมาอย่างตื่นเต้นดีใจ: “หญิงสาวที่สวยดึงดูดแบบนี้ ทั้งยังเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง สุดยอดไปเลยจริง ๆ !”
สายตาที่กุ่ยเมี่ยนมองหญิงสาวราวกับหมาป่าที่หิวโหยกำลังจ้องมองเหยื่อของตัวเองอยู่ ความกะหายแผ่ซ่านออกมา ช่างทำให้คนอกสั่นขวัญแขวนยิ่งนัก
“อย่าเข้ามาอีกนะ!” หญิงสาวเรียบตะโกนขึ้นมา: “ถ้าเข้ามาใกล้อีกนิดฉันจะขว้างมันทิ้งซะ ให้แกมาโดยเสียเวลาเปล่า!”
กล่าวไป หญิงสาวพลางทำท่าทำทางจะขว้างหลอดยาทิ้ง พยายามทำให้ตัวเองมีท่าทีที่ไม่เกรงกลัว
“ฮ่า ๆ ! เธอขว้างสิ! ขอแค่จับตัวเธอได้ ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะทำยาเพิ่มพลังความแข็งแกร่งนั่นไม่ได้”
กุ่ยเมี่ยนกลับไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด เขายังคงเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวเรื่อย ๆ เขาเพียงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด: “ก็แล้วแต่ มีเธอตกอยู่ในมือ ทำไมจะผลิตยาไม่ได้?”
คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาในใจ สมองของเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ
ในตอนนั้นเอง กุ่ยเมี่ยนก็ได้พลันลงมือ การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็วมาก หญิงสาวรู้สึกตาลายไปชั่วขณะ จากนั้นหลอดยาที่อยู่ในมือก็ได้ถูกแย่งชิงไป
หลังจากนั้นไหล่ของเธอก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ซึ่งได้ถูกกุ่ยเมี่ยนบีบเอาไว้แน่นเป็นที่เรียบร้อย
“หยุดนะ!”
ชายวัยกลางคนตะโกนขึ้นมา เขาดิ้นรนอย่างหนักพลางร้องกล่าว: “อย่าทำร้ายลูกสาวฉันนะ!”
ชายวัยกลางคนพึ่งจะดิ้นรนขึ้นมา หมัดของชายฉกรรจ์ที่คุมตัวเขาอยู่ก็ได้ต่อยเข้าใส่บริเวณของเขาอย่างจัง จนทำให้เขาร้องโหยหวนขึ้นมา แล้วล้มลงไปกองอยู่บนพื้นและได้สูญเสียแรงต่อต้านไป
“หยุดนะ!”
หญิงสาวรีบตะโกนขึ้นมา แต่เธอก็ไม่อาจหลุดพ้นจากการควบคุมของกุ่ยเมี่ยนไปได้
“ฉันแนะนำเธอให้เชื่อฟังหน่อยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นละก็……”
กุ่ยเมี่ยนกล่าวข่มขู่อย่างเปิดเผย
เมื่อได้ยินดังนั้น หญิงสาวก็ได้สูญเสียแรงต่อต้านไปโดยสิ้นเชิง
และในตอนนั้นเอง ที่ด้านนอกของห้องทดลอง ทันใดนั้นเองก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นสองเสียง จากนั้นเสียงร้องนั่นก็ขาดหายไป ราวกับถูกขัดขาดอย่างกะทันหัน
“J! K!”
กุ่ยเมี่ยนรีบร้องตะโกนขึ้นมา เขาลองพยายามร้องเรียกพรรคพวกของตัว
แต่ไม่ว่ากุ่ยเมี่ยนจะร้องเรียกยังไง คนทั้งสองที่เฝ้าประตูอยู่ด้านก็ไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ ขึ้นมาอีกเลย ตรงกันข้ามกลับมีเสียงฝีเท้าที่ชัดเจนดังก้องไปทั่วหูของทุกคน
“เจอเข้ากับคนสายงานเดียวกันงั้นเหรอ?”
ความคิดนี้เกิดขึ้นมาภายในใจของกุ่ยเมี่ยนโดยสัญชาตญาณ
เพราะไม่ว่ายังไงหลังจากที่เรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ไม่รู้ว่ามีกองกำลังมากมายแค่ไหนที่จับตามองที่นี่อยู่ กุ่ยเมี่ยนคิดจะถือโอกาสลงมือในขณะที่ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมีคนที่มีความคิดเหมือนกันกับตัวเอง?
ณ เวลานี้ จู่ ๆ กุ่ยเมี่ยนก็พลันรู้สึกเสียใจภายหลังที่ตัวเองลงมือเร็วแบบนี้ บางที เขาควรจะลอบมองสถานการณ์อย่างลับ ๆ สักระยะก่อนแล้วค่อยลงมือ
“ปิดประตูลงซะ!” กุ่ยเมี่ยนตะโกนไปทางลูกน้องของตัวเอง เขาไม่ได้เลือกที่จะปะทะกับอีกฝ่ายซึ่ง ๆ หน้า
‘J’ และ ‘K’ ที่เขาสั่งให้เฝ้าอยู่ด้านนอกนั้นต่างก็ฝีมือไม่เลว แต่เสียงของพวกเขากลับสูญหายไปภายในชั่วพริบตา แสดงให้เห็นว่าฝีมือของอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งไม่เบา ถ้าหากบุ่มบ่ามลงมือจะต้องจบไม่สวยแน่
ภายใต้การคุกคามของกุ่ยเมี่ยนลูกน้องของเขาก็รีบควบคุมตัวคนที่อยู่ภายในห้องทดลอง ให้ไปปิดประตูใหญ่บานนั้นของห้องทดลองทันที
ประตูใหญ่บานนี้เป็นประตูที่ทำมาจากโลหะอย่างหนา ที่ไม่อาจทำลายได้ง่าย ๆ
มองดูประตูที่ค่อย ๆ ปิดลง กุ่ยเมี่ยนค่อยรู้สึกวางใจขึ้นมาหน่อย แล้วเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง: “ที่นี่ยังมีทางออกทางอื่นอีกไหม?”
เขาไม่อยากจะถูกขังไว้ในนี้ เหมือนกับเต่าที่ถูกคนจับขังไว้ในไหแบบนี้หรอกนะ
“ไม่มี มีแค่ทางนั้นทางเดียว”
หญิงสาวได้ทำลายจินตนาการที่งดงามของกุ่ยเมี่ยนอย่างไรความปรานี
กุ่ยเมี่ยนกำลังจะระเบิดความโมโหออกมา แต่วินาทีต่อมาการเคลื่อนไหวของเขาก็ได้หยุดชะงักลง เพราะจู่ ๆ ก็ได้มีเสียงทุ้มหนัก ๆ ดังมาจากด้านนอกของประตู ราวกับมีอะไรบางอย่างกำลังกระแทกประตูอยู่
“แย่แล้ว ประตูบานนี้ไม่สามารถเปิดจากด้านนอกได้” หญิงสาวทอดถอนใจอยู่ภายในใจ คิดว่าตัวเองคงไม่มีความหวังเสียแล้ว
ประตูใหญ่ที่ทำจากเหล็กหนาบานนี้ต่อให้ใช้วัตถุระเบิดระเบิดให้เปิดออกก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เดิมทีเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งภายในตัวของมันเอง
คิดไม่ถึงว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งนี้กลับได้ปกป้องชายฉกรรจ์พวกนี้เอาไว้
เสียงทุ้มหนัก ๆ นั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นทำให้ทุกคนต่างรู้สึกใจสั่น แต่ละคนต่างก็มีความรู้สึกสงสัย เกิดขึ้นภายในใจ ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่า ได้ค่อย ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับประตูบานนั้น
ในตอนแรกเพียงแค่เกิดรอยเท้าจาง ๆ นูนขึ้นมาเท่านั้น
แต่เมื่อเวลาผ่านไป รอยเท้านั่นก็ได้ชัดเจนขึ้นมาเรื่อย ๆ
“โครม!”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงโครมครามดังขึ้น ประตูบานนั้นพลันถูกแยกออกจากกัน จากนั้นเสียงโครมดังขึ้นหนึ่งครั้ง ประตูบานนั้นก็ได้แตกเป็นชิ้น ๆ ทันที
“อะไรน่ะ!”
เมื่อทุกคนได้เห็นสถานการณ์ตรงหน้าต่างก็ตกใจตาค้าง จนเกือบสงสัยว่าตัวเองได้เกิดประสาทหลอนเพราะเครียดมากจนเกินไป
ใครกันนะที่สามารถใช้พลังทำลายประตูบานหนาที่ทำจากโลหะนี้ได้?
ประตูที่พังทลายลงทำให้เกิดฝุ่นละอองลอยขึ้นมา จากนั้นก็พลันปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้น และได้พุ่งเข้ามาในห้องทดลอง
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้สมองของทุกคนแทบจะหยุดการทำงาน
ทุกคนต่างจ้องมองไปที่เงาดำเงานั้น ร่างกายสั่นเทาราวกับได้พบเจอสัตว์ประหลาดอย่างไรอย่างนั้น
สถานการณ์เช่นนี้ ไกลเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถจินตนาการได้
โดยเฉพาะพวกนักวิจัยเหล่านั้น ยิ่งไม่อาจหาคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเช่นนี้ได้
ฝุ่นละอองเหล่านั้น ได้ตกลงสู่พื้นอย่างช้า ๆ ในที่สุดเงานั่นก็ได้ปรากฏตัวออกมา ทุกคนต่างเลื่อนสายตาแห่งความอยากรู้อยากเห็นไปที่ใบหน้านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นผิดหวังก็คือ คนคนนี้พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน
มีเพียงชายที่ใส่หน้ากากกุ่ยเมี่ยนคนนั้น ที่จู่ ๆ ก็หัวใจเต้นเร็วขึ้นมา เหมือนว่าจะมีภาพเหตุการณ์บางอย่างได้แวบเข้ามาในหัวของเขา
จากนั้น ในที่สุดเขาก็ได้นำภาพสถานการณ์ในหัวและปัจจุบันรวบรวมเข้าด้วยกัน เขานึกขึ้นมาได้แล้วว่าคนคนนี้เป็นใคร นั่นเป็นฝันร้ายในความทรงจำของเขา