หลังจากทำข้อแลกเปลี่ยนกับเทิร์นเนอร์และไท่ซางเสร็จ หลี่ฝางหันไปมองคนสุดท้าย เคซี
“ฉัน……”
เคซีกำลังจะพูด ทันใดนั้นเอง ร่างของหลี่ฝางก็หายไปจากตรงหน้าเขา
วินาทีต่อมา ด้านหน้าของเคซีมีมือหนึ่งปรากฏ ตบที่หน้าผากของเขา
เสี้ยวเวลานี้ ความตายแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัวของเขา ร่างกายของเขา สูญเสียการควบคุม มองใบหน้าเย็นชาของหลี่ฝางนิ่งๆ
“ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ใช้ท่านี้ ถ้าไม่ใช่สักหน่อยก็รู้สึกแย่ ถึงยังไงนายก็อ่อนแอแบบนี้ มีชีวิตต่อไปก็ไร้ประโยชน์!”
หัวของเคซี เหมือนแตงโมที่สุดเต็มที่ ถูกหลี่ฝางตบ เลือดแดงสดสาดออกมา
ยอดฝีมือที่บรรลุกำลังภายในได้ไม่นาน ตายอย่างอนาถ ด้วยน้ำมือของหลี่ฝางที่อยู่ในสภาวะแบบนี้ เป็นอะไรที่สะใจที่สุด
“หลี่ฝาง เรามาทำข้อเรียกเปลี่ยนกันอีก นายสอนกระบวนท่าเหี้ยมโหดนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
หลังจากทุกอย่างจบลง เทิร์นเนอร์พูดขึ้นคล้ายพูดเล่นครึ่งหนึ่ง
หลี่ฝางคลายยิ้มอ่อนๆ ย้อนถาม:“ฉันสอนนาย แล้วนายกล้าใช้ไหม?”
กระบวนท่าที่เขาใช้ เป็นน้ำพักน้ำแรงของหลอซ่า อาศัยเส้นแรงที่แข็งแกร่งในการสร้างออกมา ถึงแม้สามารถให้คนอื่นใช้ได้ แต่สิ่งที่ต้องแลก เยอะกว่าสองพ่อลูกหลอซ่าและหลี่ฝางมาก
หลี่ฝางใช้หนึ่งครั้งต้องแลกด้วยอายุขัยยี่สิบปี เทิร์นเนอร์ใช้หนึ่งครั้ง เกรงว่าต้องแลกด้วยอายุขัยสี่สิบปีแล้ว
สำหรับเทิร์นเนอร์ที่มีอายุมากกว่าร้อยปี กระบวนท่านี้คือยันต์เร่งให้ตายชัดๆ
“ฮ่าๆ ขอตัวก่อน”
เทิร์นเนอร์หัวเราะ หมุนตัวหันหลังแล้ววิ่งออกไป เขาหายไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากเทิร์นเนอร์จากไป หลี่ฝางหันไปมองไท่ซางที่เดินยิ้มเข้ามา พูด:“นายกลับเข้าเมืองไปก่อน อย่าเถลไถล ระวังจะทิ้งชีวิต”
ได้ฟังคำพูดของหลี่ฝาง ไท่ซางไม่ลังเลแม้แต่น้อย หมุนตัวหันหลังวิ่งไปทางเข้าเมือง
เขาไม่อยากทำให้หลี่ฝางต้องโมโห แล้วถูกหลี่ฝางกำจัดทิ้ง
ความจงรักภักดีของไท่ซางยังคงเป็นปัญหาใหญ่ เขาเพียงแค่ได้เห็นความสามารถเพียงชั่วคราวของหลี่ฝาง ถูกหลี่ฝางข่มขู่จึงยอมแพ้ หลี่ฝางไม่สงสัยแม้แต่น้อย ถ้าตอนนี้ตนแสดงความอ่อนแอ ไท่ซางที่ไม่มีความจงรักภักดีแม้แต่น้อยมีความเป็นไปได้สูงที่จะลงมือ จัดการเขา !
เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครอยากเป็นลูกน้องใคร สามารถใช้ชีวิตตามอำเภอใจ ไท่ซางต้องไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ
ในเวลานี้ ที่นี่เหลือแค่หลี่ฝางแล้ว และตระกูลเกาทั้งสามที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม
โดยรอบเงียบสงบ หลี่ฝางไม่พูด ตระกูลเกาทั้งสามคนก็ไม่กล้าพูด มองหลี่ฝางด้วยความประหม่าแบบนี้
บรรยากาศมาคุนานกว่าสิบนาที หลังจากหลี่ฝางมั่นใจว่าโดยรอบไม่มียอดฝีมือคนอื่นๆ เขาจึงค่อยๆเดินมา
เพิ่งก้าวเท้าขึ้น ตัวของหลี่ฝางส่ายไปส่ายมา เกือบล้มลงบนพื้น
“นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เกาเมิ่งฉีรีบวิ่งมาหา แล้วพยุงแขนของหลี่ฝางเอาไว้
หลี่ฝ่ายส่ายหน้า รู้สึกโล่งใจ พูด:“เผาผลาญพลังงานไปมาก เดี๋ยวก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกันเถอะ อยู่ที่นี่อันตรายเกินไปแล้ว” เกาเมิ่งฉีรีบพยุงหลี่ฝางเตรียมที่จะไป
หลี่ฝางกลับปรามเธอ พูดขึ้น:“เดี๋ยวก่อน มีคนที่ยังมาไม่ถึง”
“มีคนที่ยังมาไม่ถึง?” ทั้งสามชะงักเล็กน้อย ไม่กล้าถาม ทำได้เพียงอยู่ที่เดิม แล้วมองไปไกล
ไม่นาน ในลมทรายที่อยู่ห่างไกล มีร่างของใครบางคนขยับเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ยืนอยู่ตรงหน้าพวกหลี่ฝาง
“ตอนนี้นายเหมือนหมาตาย อ่อนแอขนาดนี้ แค่ยืนก็ยังยืนไม่นิ่ง ฉันลงมือจัดการนายก็ง่ายมาก”
คนที่มาคือคนตัวเตี้ย พูดหยาบคายเล็กน้อยด้วยภาษาอังกฤษ นัยน์ตาของเขาฉายความดีใจ
เกาเมิ่งฉีป้องอยู่ตรงหน้าหลี่ฝางอย่างรวดเร็ว มองคนตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง
“นายคือฮาโรลด์?”
หลี่ฝางมองชายวัยกลางคนผิวคล้ำ ถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย
นักฆ่าอันดับต้นๆของโลก ระมัดระวังตัวยิ่งกว่าที่หลี่ฝางคิดเอาไว้ เพิ่งปรากฏตัวตอนที่พลังของหลี่ฝางใช้ไปหมดแล้ว อีกทั้งตอนนี้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา แต่ยังเขาเต็มไปด้วยการป้องกันตัว ถึงแม้หลี่ฝางจะยังมีพลังเหลือ เขาก็สามารถหนีไปไกลได้
“ถึงเวลานี้แล้ว ยังจะเสแสร้งแกล้งทำทำไม?”
ฮาโรลด์เดินมาด้านหน้าช้าๆหนึ่งก้าว เข้ามายังบริเวณที่เขาเพียงแค่ใช้ท่วงท่าเดียวก็สามารถฆ่าได้
“ฮ่าๆๆ ลงมือสิ?” หลี่ฝางหัวเราะด้วยความอิดโรย ทว่ารอยยิ้มที่ไร้ซึ่งความอันตรายกลับทำให้ภายในใจของฮาโรลด์รู้สึกอันตราย
คล้ายกับว่าตำแหน่งที่ทั้งสองยืนนั้นสับเปลี่ยนกัน
ความรู้สึกไม่ปลอดภัยที่รุนแรง ทำให้ฮาโรลด์ไม่รอช้า พุ่งไปหาหลี่ฝาง อยากจะฆ่าเขาให้ตาย
เผชิญหน้ากับฮาโรลด์ หลี่ฝางกำลังจะลงมือ ทันใดนั้นเองก็มีคนมาขวางอยู่ตรงกลางระหว่างเขากับฮาโรลด์
“ปึก!”
ความเชื่องช้าอย่างรุนแรง พาตัวหลี่ฝาง ชนเข้ากับกำแพง ในเวลาเดียวกันคนที่ปลิวออกไป ก็ยังมีฮาโรลด์
“เมิ่งฉี!”
เสียงร้องตะโกนแหบพร่าดังขึ้น จากสองพ่อลุกเกาจื้อสิง
พวกเขาวิ่งไปหาเกาเมิ่งฉีราวกับคลุ้มคลั่ง
ส่วนหลี่ฝาง เวลานี้ทุกอย่างว่างเปล่า ภาพสุดท้ายในความทรงจำของเขา ใบหน้ายิ้มของเกาเมิ่งฉีเปื้อนไปด้วยเลือด
……
หลี่ฝางตื่นขึ้นมา เห็นผนังสีขาว รอบตัวคล้ายยังมีคน
คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด คือส้าวส้วยที่มีสีหน้าเคร่งขรึม หลังจากเห็นหลี่ฝางตื่น ส้าวส้วยก็ถาม:“นายยังสบายดีไหม?”
“เมิ่งฉีล่ะ?”
หลี่ฝางถามด้วยความกังวล ทั้งยังตะเกียกตะกายพยายามที่จะลุกขึ้น
“ไม่ต้องเป็นกังวล เธอไม่ตาย”
ส้าวส้วยกดหลี่ฝางกลับไปใหม่ ไม่ให้เขาลุกขึ้นมา
ได้ยินคำตอบของส้าวส้วย หลี่ฝางรู้สึกโล่งใจ อดไม่ได้ที่จะถาม:“ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง?”