NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 872 อันตรายสุดท้าย

บทที่ 872 อันตรายสุดท้าย

หลังจากทำข้อแลกเปลี่ยนกับเทิร์นเนอร์และไท่ซางเสร็จ หลี่ฝางหันไปมองคนสุดท้าย เคซี

“ฉัน……”

เคซีกำลังจะพูด ทันใดนั้นเอง ร่างของหลี่ฝางก็หายไปจากตรงหน้าเขา

วินาทีต่อมา ด้านหน้าของเคซีมีมือหนึ่งปรากฏ ตบที่หน้าผากของเขา

เสี้ยวเวลานี้ ความตายแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัวของเขา ร่างกายของเขา สูญเสียการควบคุม มองใบหน้าเย็นชาของหลี่ฝางนิ่งๆ

“ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ใช้ท่านี้ ถ้าไม่ใช่สักหน่อยก็รู้สึกแย่ ถึงยังไงนายก็อ่อนแอแบบนี้ มีชีวิตต่อไปก็ไร้ประโยชน์!”

หัวของเคซี เหมือนแตงโมที่สุดเต็มที่ ถูกหลี่ฝางตบ เลือดแดงสดสาดออกมา

ยอดฝีมือที่บรรลุกำลังภายในได้ไม่นาน ตายอย่างอนาถ ด้วยน้ำมือของหลี่ฝางที่อยู่ในสภาวะแบบนี้ เป็นอะไรที่สะใจที่สุด

“หลี่ฝาง เรามาทำข้อเรียกเปลี่ยนกันอีก นายสอนกระบวนท่าเหี้ยมโหดนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

หลังจากทุกอย่างจบลง เทิร์นเนอร์พูดขึ้นคล้ายพูดเล่นครึ่งหนึ่ง

หลี่ฝางคลายยิ้มอ่อนๆ ย้อนถาม:“ฉันสอนนาย แล้วนายกล้าใช้ไหม?”

กระบวนท่าที่เขาใช้ เป็นน้ำพักน้ำแรงของหลอซ่า อาศัยเส้นแรงที่แข็งแกร่งในการสร้างออกมา ถึงแม้สามารถให้คนอื่นใช้ได้ แต่สิ่งที่ต้องแลก เยอะกว่าสองพ่อลูกหลอซ่าและหลี่ฝางมาก

หลี่ฝางใช้หนึ่งครั้งต้องแลกด้วยอายุขัยยี่สิบปี เทิร์นเนอร์ใช้หนึ่งครั้ง เกรงว่าต้องแลกด้วยอายุขัยสี่สิบปีแล้ว

สำหรับเทิร์นเนอร์ที่มีอายุมากกว่าร้อยปี กระบวนท่านี้คือยันต์เร่งให้ตายชัดๆ

“ฮ่าๆ ขอตัวก่อน”

เทิร์นเนอร์หัวเราะ หมุนตัวหันหลังแล้ววิ่งออกไป เขาหายไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากเทิร์นเนอร์จากไป หลี่ฝางหันไปมองไท่ซางที่เดินยิ้มเข้ามา พูด:“นายกลับเข้าเมืองไปก่อน อย่าเถลไถล ระวังจะทิ้งชีวิต”

ได้ฟังคำพูดของหลี่ฝาง ไท่ซางไม่ลังเลแม้แต่น้อย หมุนตัวหันหลังวิ่งไปทางเข้าเมือง

เขาไม่อยากทำให้หลี่ฝางต้องโมโห แล้วถูกหลี่ฝางกำจัดทิ้ง

ความจงรักภักดีของไท่ซางยังคงเป็นปัญหาใหญ่ เขาเพียงแค่ได้เห็นความสามารถเพียงชั่วคราวของหลี่ฝาง ถูกหลี่ฝางข่มขู่จึงยอมแพ้ หลี่ฝางไม่สงสัยแม้แต่น้อย ถ้าตอนนี้ตนแสดงความอ่อนแอ ไท่ซางที่ไม่มีความจงรักภักดีแม้แต่น้อยมีความเป็นไปได้สูงที่จะลงมือ จัดการเขา !

เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครอยากเป็นลูกน้องใคร สามารถใช้ชีวิตตามอำเภอใจ ไท่ซางต้องไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ

ในเวลานี้ ที่นี่เหลือแค่หลี่ฝางแล้ว และตระกูลเกาทั้งสามที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม

โดยรอบเงียบสงบ หลี่ฝางไม่พูด ตระกูลเกาทั้งสามคนก็ไม่กล้าพูด มองหลี่ฝางด้วยความประหม่าแบบนี้

บรรยากาศมาคุนานกว่าสิบนาที หลังจากหลี่ฝางมั่นใจว่าโดยรอบไม่มียอดฝีมือคนอื่นๆ เขาจึงค่อยๆเดินมา

เพิ่งก้าวเท้าขึ้น ตัวของหลี่ฝางส่ายไปส่ายมา เกือบล้มลงบนพื้น

“นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เกาเมิ่งฉีรีบวิ่งมาหา แล้วพยุงแขนของหลี่ฝางเอาไว้

หลี่ฝ่ายส่ายหน้า รู้สึกโล่งใจ พูด:“เผาผลาญพลังงานไปมาก เดี๋ยวก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกันเถอะ อยู่ที่นี่อันตรายเกินไปแล้ว” เกาเมิ่งฉีรีบพยุงหลี่ฝางเตรียมที่จะไป

หลี่ฝางกลับปรามเธอ พูดขึ้น:“เดี๋ยวก่อน มีคนที่ยังมาไม่ถึง”

“มีคนที่ยังมาไม่ถึง?” ทั้งสามชะงักเล็กน้อย ไม่กล้าถาม ทำได้เพียงอยู่ที่เดิม แล้วมองไปไกล

ไม่นาน ในลมทรายที่อยู่ห่างไกล มีร่างของใครบางคนขยับเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ยืนอยู่ตรงหน้าพวกหลี่ฝาง

“ตอนนี้นายเหมือนหมาตาย อ่อนแอขนาดนี้ แค่ยืนก็ยังยืนไม่นิ่ง ฉันลงมือจัดการนายก็ง่ายมาก”

คนที่มาคือคนตัวเตี้ย พูดหยาบคายเล็กน้อยด้วยภาษาอังกฤษ นัยน์ตาของเขาฉายความดีใจ

เกาเมิ่งฉีป้องอยู่ตรงหน้าหลี่ฝางอย่างรวดเร็ว มองคนตรงหน้าด้วยความเกลียดชัง

“นายคือฮาโรลด์?”

หลี่ฝางมองชายวัยกลางคนผิวคล้ำ ถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย

นักฆ่าอันดับต้นๆของโลก ระมัดระวังตัวยิ่งกว่าที่หลี่ฝางคิดเอาไว้ เพิ่งปรากฏตัวตอนที่พลังของหลี่ฝางใช้ไปหมดแล้ว อีกทั้งตอนนี้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา แต่ยังเขาเต็มไปด้วยการป้องกันตัว ถึงแม้หลี่ฝางจะยังมีพลังเหลือ เขาก็สามารถหนีไปไกลได้

“ถึงเวลานี้แล้ว ยังจะเสแสร้งแกล้งทำทำไม?”

ฮาโรลด์เดินมาด้านหน้าช้าๆหนึ่งก้าว เข้ามายังบริเวณที่เขาเพียงแค่ใช้ท่วงท่าเดียวก็สามารถฆ่าได้

“ฮ่าๆๆ ลงมือสิ?” หลี่ฝางหัวเราะด้วยความอิดโรย ทว่ารอยยิ้มที่ไร้ซึ่งความอันตรายกลับทำให้ภายในใจของฮาโรลด์รู้สึกอันตราย

คล้ายกับว่าตำแหน่งที่ทั้งสองยืนนั้นสับเปลี่ยนกัน

ความรู้สึกไม่ปลอดภัยที่รุนแรง ทำให้ฮาโรลด์ไม่รอช้า พุ่งไปหาหลี่ฝาง อยากจะฆ่าเขาให้ตาย

เผชิญหน้ากับฮาโรลด์ หลี่ฝางกำลังจะลงมือ ทันใดนั้นเองก็มีคนมาขวางอยู่ตรงกลางระหว่างเขากับฮาโรลด์

“ปึก!”

ความเชื่องช้าอย่างรุนแรง พาตัวหลี่ฝาง ชนเข้ากับกำแพง ในเวลาเดียวกันคนที่ปลิวออกไป ก็ยังมีฮาโรลด์

“เมิ่งฉี!”

เสียงร้องตะโกนแหบพร่าดังขึ้น จากสองพ่อลุกเกาจื้อสิง

พวกเขาวิ่งไปหาเกาเมิ่งฉีราวกับคลุ้มคลั่ง

ส่วนหลี่ฝาง เวลานี้ทุกอย่างว่างเปล่า ภาพสุดท้ายในความทรงจำของเขา ใบหน้ายิ้มของเกาเมิ่งฉีเปื้อนไปด้วยเลือด

……

หลี่ฝางตื่นขึ้นมา เห็นผนังสีขาว รอบตัวคล้ายยังมีคน

คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุด คือส้าวส้วยที่มีสีหน้าเคร่งขรึม หลังจากเห็นหลี่ฝางตื่น ส้าวส้วยก็ถาม:“นายยังสบายดีไหม?”

“เมิ่งฉีล่ะ?”

หลี่ฝางถามด้วยความกังวล ทั้งยังตะเกียกตะกายพยายามที่จะลุกขึ้น

“ไม่ต้องเป็นกังวล เธอไม่ตาย”

ส้าวส้วยกดหลี่ฝางกลับไปใหม่ ไม่ให้เขาลุกขึ้นมา

ได้ยินคำตอบของส้าวส้วย หลี่ฝางรู้สึกโล่งใจ อดไม่ได้ที่จะถาม:“ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท