NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 907 ตุ้มๆ ต่อมๆ

บทที่ 907 ตุ้มๆ ต่อมๆ

เพราะว่าชิวเฉิงฝูพูดสิ่งที่ไม่น่าฟัง หลี่ฝางถึงได้ลงมือสั่งสอนเขาไป แต่เขาก็ไม่สามารถช่วยชิวทิงหยุนได้ตลอด ครั้งต่อไปถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีก ชิวทิงหยุนทำได้แค่เผชิญหน้าด้วยตัวเอง

ชิวทิงหยุนคิดอยู่ครู่ จู่ๆ ก็กัดฟัน ราวกับตัดสินใจอะไรได้อย่างนั้น และพูดเสียงเบา: “พ่อแม่ฉัน……ที่จริงแล้วถูกชิวเฉิงหลี่ทำร้ายจนตาย!”

“อะไรนะ?” หลี่ฝางชะงักเล็กน้อย และมองชิวทิงหยุนอย่างประหลาดใจ

เมื่อห้าปีก่อนพ่อแม่ของชิวทิงหยุนเสียอย่างทราบสาเหตุไม่แน่ชัด ไม่มีใครรู้ว่าความจริงเป็นยังไง คนอื่นล้วนแต่เดาว่าเป็นฝีมือของตระกูลที่มีความแค้น น้อยคนนักที่จะคิดถึงว่าเป็นฝีมือของชิวเฉิงหลี่

แต่หลังจากนั้นห้าปีชิวทิงหยุนกลับมาบอกว่าชิวเฉิงหลี่ฆ่าน้องชายแท้ๆ ของตัวเองเหนี่ยนะ นี่มันเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงเล็กน้อย ทำให้คนอื่นยากที่จะเชื่อ

จากนั้น ก็ฟังชิวทิงหยุนพูดต่อ: “เมื่อนานมาแล้วพ่อฉันก็สงสัยว่าชิวเฉิงหลี่โลภอยากจะได้ตำแหน่งเจ้าบ้าน ตั้งใจวางแผนอยากจะทำร้ายท่านจนตาย แม้กระทั่งมีครั้งนึงที่พ่อของฉันถูกลอบโจมตีโดยตระกูลของศัตรู แอบบอกให้ว่าเป็นฝีมือของชิวเฉิงหลี่ หลังจากนั้นไม่กี่วัน พวกท่านก็เกิดเรื่องขึ้น”

“ต่อมาชิวเฉิงหลี่ก็ได้เลื่อนตำแหน่ง และจัดการเก็บกวาดคนในครอบครัว ทุกคนที่ภักดีต่อพ่อของฉันก็ถูกฆ่าตาย หรือไม่ก็ออกไปจากบ้าน ทั้งตระกูลไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงเรื่องนั้นกันอีก

และหลังจากนั้นชิวเฉิงหลี่ก็หาเรื่องลำบากให้กับฉันตั้งแต่นั้นมา และมักจะยัดเหยียดความผิดต่างๆอะลุ่มอล่วย,อะลุ้มอล่วย มาลงโทษฉันด้วย ทำเอาคนอื่นๆ ในตระกูล ก็ค่อยๆ ตีตนออกห่างฉันไป และปฏิบัติกับแย่ลงทุกวัน”

ชิวทิงหยุนพูดพลางถกแขนเสื้อ ให้หลี่ฝางเห็นรอยแผลเป็นแต่ละแผลบนแขนของเธอ แม้กระทั่งยังมีบางส่วนที่เห็นได้ชัดว่าเป็นรอยแผลใหม่ มีเลือดไหลซิบออกมาจากผ้าพันแผลที่ห่อไว้อยู่

“แม้แต่หมอพวกเขาก็ยังไม่ให้เธอไปหา?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว

ชิวทิงหยุนพยักหน้า พูดด้วยสีหน้านิ่งๆ : “แผลพวกนี้ฉันชินแล้ว แล้วก็ชิวเฉิงหลี่ก็ส่งคนมาคอยจับตาดูฉันโดยเฉพาะ ไม่ให้ฉันได้มีโอกาสไปหาหมอเลย”

เมื่อเห็นท่าทางนิ่งเฉยของชิวทิงหยุน จู่ๆ ในใจของหลี่ฝางก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา

แม้แต่ผู้ชายที่โตแล้ว บนตัวมีรอยแผลแบบนี้ยังรู้สึกแย่สุดๆ เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหญิงสาวที่ผอมแห้งบอบบางอย่างชิวทิงหยุน

เธอต้องแบกรับความเจ็บปวดมามากขนาดไหนกัน?

วินาทีนี้ หลี่ฝางก็นึกถึงในตอนนั้นที่ต้องหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องด้วยตัวเองมาหลายปีอีกครั้ง

“วันต่อๆ ไปหลังจากนี้เธอคิดว่าจะทำยังไง คงจะอยู่ที่ตระกูลชิวไปตลอดไม่ได้หรอกมั้ง?” หลี่ฝางถามอย่างสงสัย

จากนิสัยที่โหดเหี้ยมของชิวเฉิงหลี่ มีแต่จะปฏิบัติต่อชิวทิงหยุนยิ่งโหดร้ายขึ้น จนกระทั่งเธอถูกทรมานจนตาย

“ฉัน……ฉันอยากรอให้คุณปู่ออกมาจากการเก็บตัวฝึกตน……” ถึงแม้ชิวทิงหยุนจะพูดแบบนี้ แต่นัยน์ตาเธอไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความหวังเลยแม้แต่น้อย

เพราะว่าเธอรู้ แม้ว่าชิวจงเทียนจะรู้เรื่องทุกอย่างหลังจากที่เขาออกมาแล้วก็ตาม ก็เกรงว่าจะไม่ทำอะไรกับชิวเฉิงหลี่

ชิวจงเทียนมีลูกชายอยู่แค่สองคน คนนึงตายไปแล้ว เพื่อที่จะสืบตระกูลต่อไป เขาคงไม่จำกัดอีกคนนึงทิ้งไปหรอก

ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถของชิวเฉิงหลี่ก็กำหนดไว้แล้วว่าเขาไม่สามารถถูกโค่นล้มได้ง่ายๆ

หลี่ฝางมองความไม่พอใจและเจ็บปวดที่นัยน์ตาของชิวทิงหยุน และถามขึ้นเงียบๆ : “อยากล้างแค้นมั้ย?”

“อยาก” ชิวทิงหยุนพยักหน้าและพูดอย่างไม่ลังเล: “ฉันกับเขามีความแค้นที่ต้องชำระด้วยเลือด แม้แต่ในฝันฉันยังอยากฆ่าเขาล้างแค้นให้พ่อแม่ของฉัน!”

เมื่อพูดประโยคนี้จบ เธอกลับพูดอย่างซึมๆ อีกครั้ง: “แต่ฉันไม่มีความสามารถนั้น ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย”

ถึงยังไงความต่างชั้นของทั้งสอง ก็พูดได้ว่าแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว มันห่างชั้นกันมากจริง

ต่างกันจนชิวทิงหยุนแค่คิด ก็รู้สึกสิ้นหวังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

เมื่อถึงจุดนี้ การสนทนาของทั้งสองก็จบลง และในห้องก็เกิดความเงียบขึ้น

ถึงแม้หลี่ฝางอยากจะช่วยชิวทิงหยุน แต่ก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ เขาไม่สามารถทำแผนตัวเองพังเพราะแค่อารมณ์ชั่ววูบ

ส่วนชิวทิงหยุนในตอนนี้ก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย เสียใจที่ไปพูดเรื่องมากมายขนาดนี้ให้กับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก

ถ้าหากหลี่ฝางบอกเรื่องทั้งหมดนี้กับชิวเฉิงหลี่ งั้นชะตากรรมของเธอหลังจากนี้ก็ชัดเจนแล้ว

ทั้งสองคนต่างเงียบลง คิดเรื่องในใจของตัวเองอย่างเงียบๆ ในเวลานั้น ความเงียบก็ปกคลุม

และในขณะนั้น จู่ๆ หลี่ฝางก็เงยหน้า ขมวดคิ้วมองออกไปนอกหน้าต่าง และด้านนอกก็มีเสียงดังขึ้น จากนั้นก็เห็นไท่ซางเปิดหน้าต่างและปีนเข้ามา

“ฮ่าๆๆ ฉันมาได้ยินอะไรเหนี่ย พี่น้องฆ่ากันเอง? ตระกูลชิวนี่ร้ายกาจจริงๆ นะ!”

ไท่ซางหัวเราะลั่น

เมื่อเห็นไท่ซาง หน้าของชิวทิงหยุนก็กลายเป็นซีดเผือดทันที

ที่จริงตนแค่บอกความในใจกับหลี่ฝาง ก็รู้สึกได้ว่าใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ ไม่ปลอดภัยแล้ว ตอนนี้แม้แต่ไท่ซางก็รู้ด้วย เขาจะเอาเรื่องนี้พูดออกไปมั้ยนะ?

หลี่ฝางมองความกังวลจากใบหน้าของชิวทิงหยุนออก จึงเหลือบมองไท่ซาง

“ไท่ซาง เมื่อกี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?”

“โห ลูกพี่ พูดอะไรกัน!” ไท่ซางกลับทำสีหน้าตื่นเต้น ไม่ได้คิดถึงความหมายของคำพูดหลี่ฝางเลย

“พี่น้องตระกูลชิวฆ่ากันเองไง เยี่ยม ฉันกำลังเบื่อๆ อยู่เลย ถ้าหากเอาข่าวนี้แพร่ออกไป ฮี่ฮี่……”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ทั้งตัวและใจของชิวทิงหยุนก็สั่นรั่วไม่หยุดเลย จนเกือบจะเป็นลมไป ไม่นาน น้ำตาก็เกือบจะไหลลงมาอีกครั้ง

“ไอ้โง่!” หลี่ฝางด่าอย่างอดไม่ได้ แล้วจ้องไท่ซางตาเขม็ง

“หือ?” ไท่ซางชะงัก พลางมองไปที่ชิวทิงหยุนที่กำลังจะร้องไห้กับหลี่ฝางที่ทำสีหน้าเข้ม ถึงได้รู้สึกตัวอะไรขึ้นมา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท