NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 906 ตบของหลี่ฝาง

บทที่ 906 ตบของหลี่ฝาง

หลี่ฝางไม่เอ่ยปาก แต่ชิวทิงหยุนกับพูดอย่างอดไม่ได้: “นายกำลังสงสัยในคำสั่งของเจ้าบ้านเหรอ? ถ้าหากใช่ งั้นนายก็ไม่ถามเจ้าบ้านดู ดูว่าสรุปแล้วใช่เขาที่เป็นคนให้ฉันมามั้ย!”

“เธอ!”

ชิวเฉิงฝูคิดไม่ถึงว่าชิวทิงหยุนจะต่อปากต่อคำกับเขา ในความคิดของเขา หลังจากที่พ่อแม่ของชิวทิงหยุนจากไป ก็รับปากรับคำค่ะมาโดยตลอด ไม่กล้าขึ้นเสียงใส่ใครทั้งนั้น

รวมไปถึงพวกคนที่ศักดิ์ต่ำกว่า ไม่ต้องพูดถึงเขาญาติสนิทของตระกูลชิวเลย

เมื่อได้ยินชิวทิงหยุนพูดแบบนี้ ทันใดนั้นชิวเฉิงฝูก็ด่าขึ้น: “คนที่พ่อแม่ตายห่าไปแล้วอย่างเธอ ยังกล้ามาต่อปากต่อคำกับฉัน ใครมันให้ความกล้าเธอกัน แยกแยะความเป็นจริงไม่ออกหรือไง?”

“หุบปาก!”

ชิวทิงหยุนกำหมัดแน่ ดวงตาสองข้างมีหมอกพร่ามัวขึ้นอย่างรวดเร็ว คำพูดของชิวเฉิงฝูทำให้ตัวเธอเย็นเยือกไปทั้งร่าง และอดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

แต่ว่าชิวเฉิงฝูกลับยังคงพูด: “คนไร้ค่าอย่างเธอยังคิดจะลงมือกับฉัน? เหอะๆ ตอนนี้ความกล้าเธอยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆนะ จะบอกเธอให้ถึงแม้ฉันจะลงมือกับเธอจริงๆ คนตระกูลชิวก็ไม่มีใครออกมาพูดแทนเธอ เธอคิดว่าเธอยังเป็นเจ้าหญิงน้อยเหมือนหลายปีก่อนเหรอไง ถุย!”

คำพูดของชิวเฉิงฝูบาดใจของชิวทิงหยุนอย่างหนักอีกครั้ง แต่ชิวทิงหยุนกลับไม่กล้าแสดงความโมโห เพราะเธอรู้ว่าสิ่งที่ชิวเฉิงฝูพูดนั้นเป็นความจริง

เธอในตอนนี้ไม่มีตำแหน่งอะไรใดๆ ในตระกูลชิวจริงๆ เกรงว่าแม้แต่ชิวเฉิงหลี่ยังคอยหาเหตุผลไล่เธอออกไปอยู่ตลอด เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เธอจึงทำได้เพียงอดทนเอา ไม่กล้าทำท่าทีอะไรใดๆ ทั้งสิ้น

ชิวเฉิงฝูเห็นท่าทีสีหน้าโมโหแต่พูดอะไรไม่ออกของชิวทิงหยุน จึงอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างพอใจมากขึ้น: “ชิวทิงหยุน พ่อเธอตายไปแล้ว ตอนนี้เธออยู่ในตระกูลชิวก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์คนนึง ไม่มีค่าอะไรเลย ยังจะกล้าชักสีหน้าใส่ฉัน เธอมีสิทธิ์อะไร?”

ชิวทิงหยุนพยายามยับยั้งชั่งใจตัวเองลง ไม่ได้พุ่งเข้าใส่ชิวเฉิงฝูอย่างควบคุมไม่อยู่ แม้ว่าเธอจะแข็งแกร่งกว่าชิวเฉิงฝูมากก็ตาม เป็นเพราะว่าเธอไม่กล้า

แล้วทันใดนั้นจู่ๆ ก็พบว่า หลี่ฝางที่อยู่ด้านข้างไม่ได้เอ่ยปากพูดมาตลอดจู่ๆ ก็ลุกขึ้น และเดินเข้าไปทางชิวเฉิงฝู

ชิวเฉิงฝูถูกการกระทำของหลี่ฝางทำให้ตกใจ จากนั้นก็ยิ้มอย่างเย็นชาขึ้นมาในทันที: “นายอยากจะลงมือกับฉัน? นายมันก็คนไร้ประโยชน์ คงจะไม่คิดว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์จริงๆ หรอกนะ?”

“ฉันจะบอกนายให้ ตอนนี้นายรีบคุกเข่าคำนับรับโทษซะ ฉันยังสามารถทำเป็นว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไร ให้นายไปจากที่นี่ทันที ไม่งั้น หลังจากนี้นายจะน่าเวทนาจนหาที่เปรียบไม่ได้!”

หลี่ฝางราวกับไม่ได้ยินคำพูดของชิวเฉิงฝูอย่างนั้น เขาค่อยเดินเข้าไปตรงหน้าชิวเฉิงฝู พลางก้มมองชิวเฉิงฝู นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชาสุดๆ

ชิวเฉิงฝูไม่ได้กังวลว่าหลี่ฝางจะลงมือกับเขา ถึงแม้หลี่ฝางจะแข็งแกร่งกว่าเขา เพราะเขาคิดว่าในสถานที่ของตระกูลชิว คนนอกคนนึงคงไม่กล้าลงมือกับคนในตระกูลชิวหรอกมั้ง? ถึงแม้เขาจะเป็นแค่ญาติห่างๆ เท่านั้น

ถึงยังไงครอบครัวใหญ่อย่างตระกูลชิว ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์สองคำนี้มาก ถึงแม้ว่าหลี่ฝางจะซ่อนฐานะยอดฝีมือไว้ ก็คงไม่ยินดีจะแตกคอกับตระกูลชิวเพียงเพราะคำพูดของเขาไม่กี่คำ

แต่ก็น่าเสียดายที่เขาเดาฐานะที่แท้จริงของหลี่ฝางไม่ถูก ดังนั้นวินาทีต่อมา ขณะที่หลี่ฝางตบหน้าเขาอย่างจัง เขาก็ช็อกนิ่งไปทั้งร่าง

เสียงเพี๊ยะดังขึ้น ทำเอาชิวเฉิงฝูลงไม่กองกับพื้น นอกจากหลี่ฝางสามคนนั้นก็อึ้งกันไปเลย พลางมองหลี่ฝางที่เก็บมือด้วยท่าทีเย็นชาอย่างเหลือเชื่อ

เขาถึงกับกล้าตบคนของตระกูลชิวในที่ของตระกูลชิว?

ในใจของทั้งสามเกิดความรู้สึกว่ามันไม่ใช่ความจริง คิดว่าที่ตนเห็นเป็นภาพหลอน

แต่ว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นแล้วตอนนี้ แล้วก็เกิดขึ้นต่อหน้าคนหลายคน สัมผัสที่เยือกเย็นและความเจ็บปวด มันได้บอกชิวเฉิงฝูแล้วว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ของปลอม

“กู่เทียน!นายถึงกับกล้าตบฉัน!”

ชิวเฉิงฝูคลานขึ้นมาจากพื้น ชี้ไปที่หลี่ฝางอย่างสั่นๆ แต่กลับไม่กล้าลงมือกับหลี่ฝาง เพราะว่าเขาสู้หลี่ฝางไม่ได้เลย

แล้วก็หลี่ฝางถึงขั้นตบเขาไปแล้ว ยังจะตบเขาต่อด้วยมั้ย?

“ได้ ได้ ได้ นายคอยดู!ฉันจะให้นายได้ชดใช้!” ชิวเฉิงฝูตะคอกอย่างโมโห และหันหลังกลับไปลากหยูหลิงฮุ่ยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตะลึงออกจากเรือนไป

“กระจอก!” หลี่ฝางมองเงาหลังของชิวเฉิงฝูที่ค่อยๆ เดินห่างออกไป จากนั้นก็ปิดประตูลง และเดินกลับไปที่เดิม

ราวกับเรื่องเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น

ชิวทิงหยุนอ้าปากค้าง จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

เธอเข้าใจ เมื่อกี้ที่หลี่ฝางลงมือ ไม่ใช่เพราะตัวเอง แต่เพื่อตัวเธอ หลังจากกำพร้าพ่อแม่เธอก็ไม่เคยได้รับความรู้สึกอบอุ่น ทำให้ในใจของเธอเกิดความขมขื่นเจ็บปวดขึ้นมา จนน้ำตาไหลลงมาจากหางตาอย่างควบคุมไม่ได้

เมื่อหลี่ฝางเห็นว่าชิวทิงหยุนจะร้องไห้อีกแล้ว จึงรีบพูดห้ามไว้: “หยุดนะ ที่ฉันรำคาญที่สุดก็คือการเห็นผู้หญิงร้องไห้ เธอฮึ้บน้ำตากลับไปเลย!”

ชิวทิงหยุนได้ยินจึงรีบเช็ดน้ำตาจนสะอาด และพยายามแสดงสีหน้ายิ้มแย้ม

“ทำไมตระกูลชิวต้องทำกับเธอแบบนี้?” หลี่ฝางมองชิวทิงหยุน และถามพลางถอนหายใจอย่างอดไม่ได้

เธอเป็นหลานสาวแท้ๆ ของนายท่านตระกูลชิวนะ หลานสาวของชิวเฉิงหลี่ ถึงแม้พ่อแม่ของเธอจะเสียไปแล้ว ก็ไม่ควรจะตกต่ำลงมาจบแบบนี้สิ

ใบหน้าของชิวทิงหยุนมีความสับสนลอยขึ้นมา เธอลังเลอยู่ครู่ ไม่รู้ว่าควรเอ่ยปากพูดยังไงดี

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บังคับให้เธอพูด เธอก็ไม่ต้องเก็บไปใส่ใจ ครั้งนี้ก็แค่บังเอิญเห็นพอดีเลยช่วยเธอ ทางเดินหลังจากนี้เธอก็ต้องเดินด้วยตัวเอง”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท