“ลุงโจว ลุงรู้สึกไม่ผิดใช่มั้ย?” ชิวกวางหมิงถามผู้เฒ่าเสียงเบา
ผู้เฒ่าได้ยินดังนั้นก็ลังเลอยู่ครู่ และพูดขึ้น: “คุณชาย ผมรู้สึกได้ถึงออร่าของปรมาจารย์จริงๆ แต่ว่ามันไม่ชัดเจนอย่างมาก และออร่านี้ดูเหมือนว่าจะไม่เหมือนปรมาจารย์ ความจริงแล้ว……”
ได้ยินลุงโจวพูดแบบนี้ ชิวกวางหมิงก็พยักหน้า ลังเลอยู่ครู่แล้วพูด: “ฉันเพิ่มอีกหนึ่งล้าน สี่ล้าน ขายแหวนนั้นให้ฉันเป็นยังไง?”
เมื่อได้ยินชิวกวางหมิงถึงกับยินดีจ่ายให้สี่ล้าน จ้าวเหล่าลิ่วก็ลังเลเล็กน้อยแล้ว
ถึงยังไงเขาก็เป็นคนทำธุรกิจคนนึง ถึงแม้จะซื่อตรง แต่ต่อหน้าผลกำไรที่ถึงขั้น ก็ยังคงมีสั่นคลอนบ้าง
หลี่ฝางก็มองความลังเลของจ้าวเหล่าลิ่วออก แต่กลับไม่โกรธ แต่ยิ้มขึ้นมา: “จะมาวัดความรวยกับฉัน?”
หลังจากยิ้มอย่างดูถูก หลี่ฝางก็พูดอย่างนิ่งๆ : “ห้าล้าน!”
“หกล้าน!” ชิวกวางหมิงก็ไม่ยอม
“สิบล้าน!” หลี่ฝางก็พูดอย่างไม่แคร์
ชิวกวางหมิงได้ยินตัวเลขนี้ก็ลังเลขึ้นมา
ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของตระกูลจอมยุทธเมื่อเทียบกับตระกูลนักธุรกิจนั้นอ่อนแอกว่าไม่น้อย แม้ว่าจะเป็นตระกูลชิว ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน
ดังนั้นเมื่อชิวกวางหมิงต้องเผชิญหน้ากับตัวเลขสิบล้านเลยลังเลอยู่ครู่ เพราะว่าฐานะทางเศรษฐกิจของตระกูลชิวเมื่อเทียบกับตระกูลนักธุรกิจระดับเดียวกันก็ห่างกันไกลอยู่
กับหลี่ฝางแบบนี้ ยิ่งไม่มีทางเทียบได้เลย
แต่แค่ชิวกวางหมิงไม่ยากจะขายหน้าต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ จึงสงสัยเล็กน้อยที่หลี่ฝางพูดราคาสิบล้านออกมาได้อย่างสบายๆ แบบนี้ และกัดฟันพูด: “สิบห้าล้าน ถ้านายให้ราคาสูงกว่านี้ ฉันก็จะไม่สู้กับนายแล้ว”
“สิบหกล้าน” หลี่ฝางยิ้มเบาๆ และเสนอราคาอย่างชิลๆ
แม้ว่าความสามารถของหลี่ฝางในปัจจุบันจะมีน้อย แต่เงินที่หลี่ฝางมีอยู่นั้น มากกว่าชิวกวางหมิงเยอะมาก ตอนที่เพิ่งเริ่มมีตังค์ หลี่ฝางยังพกความกลัวที่จะจนไว้ และใช้เงินเปลืองหนักกว่าตอนนี้มาก
มาวัดการใช้เงินกับหลี่ฝาง ชิวกวางหมิงก็แค่ขี้ปะติ๋ว
เมื่อเห็นหลี่ฝางพูดเสนอราคาได้อย่างชิลๆ แบบนี้ ใจของชิวกวางหมิงก็สั่นอยู่ครู่
สิบล้าน มันไม่ใช่สิ่งที่จะควักออกมาได้ง่ายๆนะ ชายวัยกลางคนแซ่กู่คนนี้ ฐานะเบื้องหลังเกรงว่าจะไม่ธรรมดา
โดยเฉพาะท่าทีนิ่งเฉยนั่น เงินสิบล้านสำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฐานะทางเศรษฐกิจเบื้องหลังเขา เกรงว่าจะแข็งแกร่งกว่าตระกูลชิว
เมื่อคิดแบบนี้ ชิวกวางหมิงจึงยอมแพ้ และหันหลังจากไป
แต่หลังจากที่เขาเดินจากไปไกลแล้ว แต่จู่ๆ ก็หันกลับมามองหลี่ฝาง แสงประกายโหดเหี้ยมแว๊บเข้ามาในดวงตาของเขา
หลี่ฝางรู้สึกได้ถึงแรงอาฆาตของชิวกวางหมิง แต่กลับยิ้มอย่างไม่สน และไม่ได้เอาไปใส่ใจ
“คุณชายกู่ แหวนนิ้วโป้งหยกของท่าน” จ้าวเหล่าลิ่วพูดอย่างกระตือรือร้น
หลี่ฝางพยักหน้า และโอนเข้าไปให้ และรับแหวนหยกมา จากมือของจ้าวเหล่าลิ่วอย่างเบามือ
เมื่อได้ยินเสียง “XXXเข้าบัญชีสิบหกล้านเหรียญ” จ้าวเหล่าลิ่วก็ยิ้มอย่างดีใจ ตั้งแต่แรกเขาไม่คิดเลยว่าแหวนนิ้วโป้งหยกเล็กๆ อันนึงจะขายได้ราคาเยอะขนาดนี้ ขายได้เงินก้อนนี้ วันนี้เขาเก็บแผงก็คุ้มค่าแล้ว พูดได้ว่าขายของไม่ออกสามปี แต่เมื่อขายออกก็กินอิ่มไปสามปีเลย
หลี่ฝางรู้สึกถึงออร่าชัดเจนที่น่าอัศจรรย์ที่ออกมาจากแหวนนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะดีใจขึ้นมา
“คุณชายกู่ แหวนวงนี้มีอะไรพิเศษเหรอคะ?” ชิวทิงหยุนอดไม่ได้ที่จะถามอย่างอยากรู้
เงินสิบหกล้านไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ นะ
หลี่ฝางกล้าจ่ายเงินมากขนาดนี้เพื่อของสิ่งนี้ ชิวทิงหยุนก็ต้องอยากรู้เป็นธรรมดา
“ไม่แน่แหวนวงนี้อาจจะทำให้ความสามารถของฉันเพิ่มขึ้นก็ได้นะ” หลี่ฝางในตอนนี้อารมณ์ดีมากๆ จึงอธิบายให้ชิวทิงหยุนฟัง
ชิวทิงหยุนพยักหน้า และไม่ได้ถามต่อ
“ไปเถอะ พวกเรากลับกัน” หลี่ฝางแทบจะรอไม่ไหวที่จะกลับไปที่เรือนเพื่อตรวจสอบแหวนวงนี้ แต่เมื่อหันหลังกลับ ก็กลับเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย
ชิวทิงหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่หลี่ฝางหยุดเดิน จึงหันไปตามทางที่หลี่ฝางมองไป ก็เห็นว่าที่ตรงนั้นมีคนยืนล้อมวงใหญ่ๆ กันอยู่
และตรงกลางกลุ่มคนนั้น ก็คือสาวสวยคนนึง กำลังเผชิญหน้ากับชายฉกรรจ์สองคนที่มีวิทยายุทธ สีหน้าไม่ดีอย่างมาก
ผู้หญิงคนนั้นเธอเคยเจอ หล่อนคือผู้หญิงที่เคยอยู่กับชิวเฉิงฝู เธอยังจำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นชื่อหยูหลิงฮุ่ย
“ไป ไปดูกันหน่อย” หลี่ฝางพูด และเดินเข้าไปทางนั้น
สำหรับหยูหลิงฮุ่ยแล้วเขาไม่มีความรู้สึกที่ดีให้เท่าไหร่ แต่ว่าสำหรับพ่อของหยูหลิงฮุ่ยแล้วถือว่าไม่เลว ในตอนนี้ดูเหมือนว่าหยูหลิงฮุ่ยจะเจอปัญหา เห็นแก่พ่อของเธอ หลี่ฝางก็ไม่ยินดีที่จะนิ่งดูดายไม่ช่วย
ส่วนหยูหลิงฮุ่ยในตอนนี้ในใจก็รู้สึกไม่ปลอดภัยมากๆ เมื่อเห็นชายท่าทางเหี้ยมๆ สองคนตรงหน้า ทำได้แต่ตัวสั่นเทา
เพราะว่าวันนี้หล่อนทำให้ชิวเฉิงฝูไม่พอใจแล้ว และยังถูกอีกฝ่ายข่มขู่ หล่อนในตอนนี้ สูญเสียที่เพิ่งไปแล้ว จึงต้องระวังตัวอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการล้างแค้นจากชิวเฉิงฝู จนแม้แต่โอกาสที่จะอยู่ที่นี่ก็ยังไม่มี
“นี่ น้องสาว เธอทำของพวกเราพัง จะไม่พูดอะไรสักคำเหรอ?” ชายร่างหนาคนนึงพูดขึ้น
“พวกเราพี่น้องก็จะไม่เอาเปรียบเธอ นี่มันแจกันโบราณอายุพันปี เธอชดใช้มาตามราคาก็โอเคแล้ว พวกเราก็จะไม่อะไรกับเธอ” ชายร่างหนาอีกคนก็พูดขึ้น
ชายร่างหนาทั้งสองชี้ไปที่เศษแจกันที่แตก และจ้องหยูหลิงฮุ่ยตาเขม็ง