NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 914 แข่งอวดรวยกับฉัน?

บทที่ 914 แข่งอวดรวยกับฉัน?

“ลุงโจว ลุงรู้สึกไม่ผิดใช่มั้ย?” ชิวกวางหมิงถามผู้เฒ่าเสียงเบา

ผู้เฒ่าได้ยินดังนั้นก็ลังเลอยู่ครู่ และพูดขึ้น: “คุณชาย ผมรู้สึกได้ถึงออร่าของปรมาจารย์จริงๆ แต่ว่ามันไม่ชัดเจนอย่างมาก และออร่านี้ดูเหมือนว่าจะไม่เหมือนปรมาจารย์ ความจริงแล้ว……”

ได้ยินลุงโจวพูดแบบนี้ ชิวกวางหมิงก็พยักหน้า ลังเลอยู่ครู่แล้วพูด: “ฉันเพิ่มอีกหนึ่งล้าน สี่ล้าน ขายแหวนนั้นให้ฉันเป็นยังไง?”

เมื่อได้ยินชิวกวางหมิงถึงกับยินดีจ่ายให้สี่ล้าน จ้าวเหล่าลิ่วก็ลังเลเล็กน้อยแล้ว

ถึงยังไงเขาก็เป็นคนทำธุรกิจคนนึง ถึงแม้จะซื่อตรง แต่ต่อหน้าผลกำไรที่ถึงขั้น ก็ยังคงมีสั่นคลอนบ้าง

หลี่ฝางก็มองความลังเลของจ้าวเหล่าลิ่วออก แต่กลับไม่โกรธ แต่ยิ้มขึ้นมา: “จะมาวัดความรวยกับฉัน?”

หลังจากยิ้มอย่างดูถูก หลี่ฝางก็พูดอย่างนิ่งๆ : “ห้าล้าน!”

“หกล้าน!” ชิวกวางหมิงก็ไม่ยอม

“สิบล้าน!” หลี่ฝางก็พูดอย่างไม่แคร์

ชิวกวางหมิงได้ยินตัวเลขนี้ก็ลังเลขึ้นมา

ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของตระกูลจอมยุทธเมื่อเทียบกับตระกูลนักธุรกิจนั้นอ่อนแอกว่าไม่น้อย แม้ว่าจะเป็นตระกูลชิว ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

ดังนั้นเมื่อชิวกวางหมิงต้องเผชิญหน้ากับตัวเลขสิบล้านเลยลังเลอยู่ครู่ เพราะว่าฐานะทางเศรษฐกิจของตระกูลชิวเมื่อเทียบกับตระกูลนักธุรกิจระดับเดียวกันก็ห่างกันไกลอยู่

กับหลี่ฝางแบบนี้ ยิ่งไม่มีทางเทียบได้เลย

แต่แค่ชิวกวางหมิงไม่ยากจะขายหน้าต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ จึงสงสัยเล็กน้อยที่หลี่ฝางพูดราคาสิบล้านออกมาได้อย่างสบายๆ แบบนี้ และกัดฟันพูด: “สิบห้าล้าน ถ้านายให้ราคาสูงกว่านี้ ฉันก็จะไม่สู้กับนายแล้ว”

“สิบหกล้าน” หลี่ฝางยิ้มเบาๆ และเสนอราคาอย่างชิลๆ

แม้ว่าความสามารถของหลี่ฝางในปัจจุบันจะมีน้อย แต่เงินที่หลี่ฝางมีอยู่นั้น มากกว่าชิวกวางหมิงเยอะมาก ตอนที่เพิ่งเริ่มมีตังค์ หลี่ฝางยังพกความกลัวที่จะจนไว้ และใช้เงินเปลืองหนักกว่าตอนนี้มาก

มาวัดการใช้เงินกับหลี่ฝาง ชิวกวางหมิงก็แค่ขี้ปะติ๋ว

เมื่อเห็นหลี่ฝางพูดเสนอราคาได้อย่างชิลๆ แบบนี้ ใจของชิวกวางหมิงก็สั่นอยู่ครู่

สิบล้าน มันไม่ใช่สิ่งที่จะควักออกมาได้ง่ายๆนะ ชายวัยกลางคนแซ่กู่คนนี้ ฐานะเบื้องหลังเกรงว่าจะไม่ธรรมดา

โดยเฉพาะท่าทีนิ่งเฉยนั่น เงินสิบล้านสำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฐานะทางเศรษฐกิจเบื้องหลังเขา เกรงว่าจะแข็งแกร่งกว่าตระกูลชิว

เมื่อคิดแบบนี้ ชิวกวางหมิงจึงยอมแพ้ และหันหลังจากไป

แต่หลังจากที่เขาเดินจากไปไกลแล้ว แต่จู่ๆ ก็หันกลับมามองหลี่ฝาง แสงประกายโหดเหี้ยมแว๊บเข้ามาในดวงตาของเขา

หลี่ฝางรู้สึกได้ถึงแรงอาฆาตของชิวกวางหมิง แต่กลับยิ้มอย่างไม่สน และไม่ได้เอาไปใส่ใจ

“คุณชายกู่ แหวนนิ้วโป้งหยกของท่าน” จ้าวเหล่าลิ่วพูดอย่างกระตือรือร้น

หลี่ฝางพยักหน้า และโอนเข้าไปให้ และรับแหวนหยกมา จากมือของจ้าวเหล่าลิ่วอย่างเบามือ

เมื่อได้ยินเสียง “XXXเข้าบัญชีสิบหกล้านเหรียญ” จ้าวเหล่าลิ่วก็ยิ้มอย่างดีใจ ตั้งแต่แรกเขาไม่คิดเลยว่าแหวนนิ้วโป้งหยกเล็กๆ อันนึงจะขายได้ราคาเยอะขนาดนี้ ขายได้เงินก้อนนี้ วันนี้เขาเก็บแผงก็คุ้มค่าแล้ว พูดได้ว่าขายของไม่ออกสามปี แต่เมื่อขายออกก็กินอิ่มไปสามปีเลย

หลี่ฝางรู้สึกถึงออร่าชัดเจนที่น่าอัศจรรย์ที่ออกมาจากแหวนนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะดีใจขึ้นมา

“คุณชายกู่ แหวนวงนี้มีอะไรพิเศษเหรอคะ?” ชิวทิงหยุนอดไม่ได้ที่จะถามอย่างอยากรู้

เงินสิบหกล้านไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ นะ

หลี่ฝางกล้าจ่ายเงินมากขนาดนี้เพื่อของสิ่งนี้ ชิวทิงหยุนก็ต้องอยากรู้เป็นธรรมดา

“ไม่แน่แหวนวงนี้อาจจะทำให้ความสามารถของฉันเพิ่มขึ้นก็ได้นะ” หลี่ฝางในตอนนี้อารมณ์ดีมากๆ จึงอธิบายให้ชิวทิงหยุนฟัง

ชิวทิงหยุนพยักหน้า และไม่ได้ถามต่อ

“ไปเถอะ พวกเรากลับกัน” หลี่ฝางแทบจะรอไม่ไหวที่จะกลับไปที่เรือนเพื่อตรวจสอบแหวนวงนี้ แต่เมื่อหันหลังกลับ ก็กลับเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย

ชิวทิงหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่หลี่ฝางหยุดเดิน จึงหันไปตามทางที่หลี่ฝางมองไป ก็เห็นว่าที่ตรงนั้นมีคนยืนล้อมวงใหญ่ๆ กันอยู่

และตรงกลางกลุ่มคนนั้น ก็คือสาวสวยคนนึง กำลังเผชิญหน้ากับชายฉกรรจ์สองคนที่มีวิทยายุทธ สีหน้าไม่ดีอย่างมาก

ผู้หญิงคนนั้นเธอเคยเจอ หล่อนคือผู้หญิงที่เคยอยู่กับชิวเฉิงฝู เธอยังจำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นชื่อหยูหลิงฮุ่ย

“ไป ไปดูกันหน่อย” หลี่ฝางพูด และเดินเข้าไปทางนั้น

สำหรับหยูหลิงฮุ่ยแล้วเขาไม่มีความรู้สึกที่ดีให้เท่าไหร่ แต่ว่าสำหรับพ่อของหยูหลิงฮุ่ยแล้วถือว่าไม่เลว ในตอนนี้ดูเหมือนว่าหยูหลิงฮุ่ยจะเจอปัญหา เห็นแก่พ่อของเธอ หลี่ฝางก็ไม่ยินดีที่จะนิ่งดูดายไม่ช่วย

ส่วนหยูหลิงฮุ่ยในตอนนี้ในใจก็รู้สึกไม่ปลอดภัยมากๆ เมื่อเห็นชายท่าทางเหี้ยมๆ สองคนตรงหน้า ทำได้แต่ตัวสั่นเทา

เพราะว่าวันนี้หล่อนทำให้ชิวเฉิงฝูไม่พอใจแล้ว และยังถูกอีกฝ่ายข่มขู่ หล่อนในตอนนี้ สูญเสียที่เพิ่งไปแล้ว จึงต้องระวังตัวอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการล้างแค้นจากชิวเฉิงฝู จนแม้แต่โอกาสที่จะอยู่ที่นี่ก็ยังไม่มี

“นี่ น้องสาว เธอทำของพวกเราพัง จะไม่พูดอะไรสักคำเหรอ?” ชายร่างหนาคนนึงพูดขึ้น

“พวกเราพี่น้องก็จะไม่เอาเปรียบเธอ นี่มันแจกันโบราณอายุพันปี เธอชดใช้มาตามราคาก็โอเคแล้ว พวกเราก็จะไม่อะไรกับเธอ” ชายร่างหนาอีกคนก็พูดขึ้น

ชายร่างหนาทั้งสองชี้ไปที่เศษแจกันที่แตก และจ้องหยูหลิงฮุ่ยตาเขม็ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท