“หรือเขาฝึกวิชาอะไรที่สามารถดูดซับพลังกำลังภายในคนอื่นได้?”หลังจากทั้งสามคนเงียบไปครู่หนึ่ง จู่ๆชิวจงเทียนก็พูดขึ้น:“พวกเรารีบลงมือดีกว่า บางทีเราอาจค้นพบความจริงของอีกฝ่ายก็เป็นได้ ”
ได้ยินเช่นนั้น ข่งจิ่งยู่จึงพูดขึ้น:“งั้นผมจะไปลองกับเขาหน่อย”
พูดจบข่งจิ่งยู่ก็เดินออกมา แล้วตะโกนไปยังหลี่ฝาง:“ข้าจะประลองกับเจ้าสักสองสามกระบวนท่าเป็นไง?”
เขากำลังหยั่งเชิงหลี่ฝาง อยากดูว่าหลี่ฝางมีความสามารถจริงๆ หรือแค่วางมาดใหญ่โต
แต่ทว่าหลี่ฝางยังคงไม่มีท่าทีที่เปลี่ยนไป พูดขึ้นอย่างเฉยเมย:“เชิญครับ”
ขณะพูดหลี่ฝางก็ยังคงไม่ขยับไปไหน เหมือนไม่สนใจคำท้าของข่งจิ่งยู่แม้แต่น้อย
เห็นภาพนี้ ผู้คนโดยรอบก็ด่ากราดออกมาอย่างอดไม่ได้
“บ้าเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสส้งปล่อยเขาไปเพราะไว้หน้าเขานั่นแล้วไป แต่นี่ยังกล้าทำแบบนี้กับเจ้าสำนักข่งอีกงั้นเหรอ?”
“เขาไม่กลัวเจ้าสำนักข่งเอาถึงตายรึไง?”
“ไม่รู้จริงๆว่าทำไม่คนแบบนี้ ถึงมีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้ โดยที่ไม่โดนคนทุบตาย”
ผู้คนคิดว่าหลี่ฝางกำลังโกหกอยู่ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างส่งเสียงให้มอบบทเรียนแก่หลี่ฝาง
ในที่สุดข่งจิ่งยู่ก็ทนไม่ไหวเช่นกัน เท้ากระแทกพื้น ร่างงดงามพุ่งไปหาหลี่ฝางอย่างรวดเร็ว
“เร็วมาก!”ผู้คนเกิดความตกตะลึงกับความเร็วอันน่ากลัวของเจ้าสำนักข่ง
นักศิลปะการต่อสู้ธรรมดาๆมองไม่ทันแม้แต่เงาของข่งจิ่งยู่ ทว่าพวกเขาก็คิดว่าครั้งนี้หลี่ฝางซวยแล้วล่ะ
แต่ทว่าร่างที่พวกเขาคิดว่าจะถูกซัดจนกระเด็น กลับยกแค่แขนซ้ายขึ้น คว้าหมัดที่ข่งจิ่งยู่ซัดมาในทันที
สีหน้าข่งจิ่งยู่เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้สุดๆ
เดิมทีเขาคิดว่าการโจมตีที่ทรงพลังจะได้ผล คิดไม่ถึงว่ามันจะไม่มีผลอะไรกับหลี่ฝางแม้แต่น้อย ถูกหลี่ฝางรับได้อย่างง่ายดายเหมือนเป็นเรื่องตลก
เขาจะโจมตีต่อ ทว่าพลังที่มือของหลี่ฝางกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวใดๆได้
พลังค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ทำให้เขารู้สึกว่ารับไม่ได้แล้ว
ส่วนผู้คนรอบๆก็ค่อยๆเงียบลง มองหลี่ฝางอย่างทั้งตกใจทั้งกลัว เหมือนกำลังมองเรื่องมหัศจรรย์ก็ไม่ปาน
“นี่มัน เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่นึกเลยว่าจะรับหมัดของเจ้าสำนักข่งได้?”
“คงไม่ใช่การแสดงหรอกใช่ไหม?”
“คุณโง่หรือไง คุณดูสีหน้าเจ้าสำนักข่งสิว่าเหมือนแสดงหรือเปล่า?หรือคุณคิดว่าปรมาจารย์กำลังภายในผู้น่าเกรงขาม จะร่วมมือกับเขาคนนั้นแสดงละครให้คุณดู?”
ส่วนข่งจิ่งยู่ ขณะนี้ก็เต็มไปด้วยความฉงนเช่นกัน ไม่รู้เลยจริงๆว่าเป็นแบบนี้ได้ยังไง
เพราะส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาคือร่างกาย แม้ให้ต่อสู้กับส้งหมิงแล้วใช้แค่พลังของร่างกาย เขาก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย เห็นได้ว่าร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งแค่ไหน
แต่ทว่าพลังที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นที่มือ แม้แต่เส้นเลือดที่แตกออกไปแล้ว กลับกำลังบอกเขาว่าความแข็งแกร่งทางร่างกาย ของชายหนุ่มตรงหน้านั้นเหนือกว่าเขามาก
และในขณะนั้นเอง หลี่ฝางถีบออกมาเบาๆ แล้วปล่อยมือออก
จากนั้นร่างของข่งจิ่งยู่ก็ลอยกระเด็นออกไปทันที ความเร็วนั้นเมื่อเทียบกันทั้งเร็วและโหดร้ายกว่า
ข่งจิ่งยู่พยายามที่จะหยุดร่างกายตัวเอง แต่ทุกครั้งที่เขากดเท้าลงไป จะทิ้งรอยเท้าลึกไว้บนพื้น แต่ร่างกายกลับลอยกระเด็นไป ความเร็วไม่มีท่าทีว่าจะลดลงเลย
ชิวจงเทียนรีบพุ่งเข้าไปคว้าตัวข่งจิ่งยู่ แรงมหาศาลกระทบแขนทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที ต้องยื่นแขนออกไปสองข้างถึงจะคว้าข่งจิ่งยู่ไว้ได้
ถึงกระนั้น ทั้งสองก็ถอยหลังออกไปอย่างต่อเนื่อง พื้นไม้แตกเป็นเสี่ยงๆ เศษไม้ลอยกระเด็น
ทันใดนั้น ทั้งจัตุรัสก็เงียบสงบลง
ภาพเช่นนี้ น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว ทุกคนถึงกับไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
“พี่ข่ง พี่เป็นไงบ้าง?”ชิวจงเทียนเห็นแขนของข่งจิ่งยู่ห้อยลง ก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ข่งจิ่งยู่ส่ายหน้าไปมา แต่ยังคงจ้องหลี่ฝางเขม็ง
แขนเขาเลือดไหล่พลั่ก ปริมาณเลือดออกขนาดนั้นถ้าเป็นคนธรรมดา คงต้องส่งโรงพยาบาลไปนานแล้ว
“รีบไปเอายามา!”ชิวจงเทียนออกคำสั่งทันใด
หลี่ฝางมองคนที่รีบวิ่งมาจัดการแผลให้ข่งจิ่งยู่อย่างน่าตกใจอยู่เงียบๆ ไม่พูดอะไร
เขาแค่มาเพื่อขัดขวางศึกชิงจ้าวยุทธภพ ไม่ได้อยากมาสู้รบปรบมือกับคนเหล่านี้
ในที่สุด หลังจากพันแขนข่งจิ่งยู่เสร็จ กำลังภายในทั้งสามก็เข้ามาพร้อมกัน มองหลี่ฝางด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“ท่านเป็นใครกันแน่?”
ตอนนี้ทุกคนในจัตุรัสสงสัยเป็นอย่างมาก รีบร้อนอยากรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของหลี่ฝางเป็นใครกันแน่
ในที่สุด ภายใต้การจับจ้องของฝูงชน หลี่ฝางก็ไม่ได้อยากปลอมตัวต่อแล้ว ยื่นมือไปถอดหน้ากากบนหน้าตัวเองออก
เมื่อโฉมหน้าที่แท้จริงของหลี่ฝางปรากฏต่อหน้าทุกคน ความตกตะลึงของทุกคนก็ยิ่งเพิ่มเข้าไปไม่ได้อีกแล้ว
“นี่ นี่ยังหนุ่มเกินไปแล้ว?”
“เขาไม่ใช่ปรมาจารย์กำลังภายในเหรอ?ถ้าไม่ใช่ปรมาจารย์กำลังภายใน แล้วชนะเจ้าสำนักข่งได้ยังไง?”
“เป็นไปไม่ได้ ปรมาจารย์กำลังภายในที่อายุน้อยขนาดนี้ พวกเราเคยได้ยินมาก่อนงั้นเหรอ?”
“ไม่เคยได้ยินมาก่อน ขนาดคิดก็ไม่เคยคิดถึงมาก่อน”
ทุกคนต่างไม่อยากจะเชื่อ ว่าหลี่ฝางจะอายุน้อยขนาดนี้
ชิวทิงหยุนที่อยู่ไม่ไกลตาเป็นประกาย มองหน้าที่อายุน้อยของหลี่ฝาง หน้าก็แดงขึ้นเล็กน้อย