“ผมติดหนี้บุญคุณชิว”ส้งหมิงพูดขึ้นเรียบๆ
“คุณยินดีมอบชีวิตให้กับอิแค่บุญคุณเนี่ยนะ?”หลี่ฝางแปลกใจ
“ยินดี”ส้งหมิงยังคงพูดโดยไม่ลังเล
ได้ยินเช่นนั้นหลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะนับถือ
“เห็นแก่คำพูดนี้ ผมจะไว้ชีวิตคุณสักครั้ง”หลี่ฝางมองส้งหมิงพลางพูด
“ปรมาจารย์หลี่จะกดดันเช่นนี้จริงๆเหรอ?”ส้งหมิง ทั้งสามคนได้ยินแล้วหน้าถอดสี
สำหรับพวกเขา แม้หลี่ฝางเก่งกว่าพวกเขา แต่ก็ยังเป็นแค่ปรมาจารย์กำลังภายใน
แม้ก่อนหน้านี้สามารถสู้1ต่อ3ได้ แต่ก็เพราะใช้วิธีพิเศษ แน่นอนว่าต้องชดใช้เป็นจำนวนมาก
แต่ตอนนี้ทำเพราะเรื่องที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย มันคุ้มแล้วจริงๆเหรอ?
“ผมไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน แค่คนอื่นคงทำ”หลี่ฝางส่ายหน้าพลางหัวเราะเบาๆ จู่ๆก็ตะโกนดังขึ้น
“ท่าน ไหนๆก็มาแล้ว ทำไมต้องหลบๆซ่อนๆเช่นนี้ด้วยล่ะ?”
คำพูดของหลี่ฝาง ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นทันใด
ส้งหมิงทั้งสามคนหันไปมองรอบๆทันที มองหาคนที่หลี่ฝางพูดถึง แต่กลับไม่พบอะไร
“ปรมาจารย์หลี่ ท่านหมายถึงใครกัน?”พวกเขาถามขึ้นด้วยความสงสัย
หลี่ฝางกลับไม่ตอบอะไรพวกเขา แต่หันไปมองกลุ่มคนด้านล่าง พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม:“ผมเดาว่าท่านก็คงเป็นคนที่มีชื่อเสียง แต่ทำไมตอนนี้ลับๆล่อไม่ปรากฏตัวออกมา?”
จากทิศทางสายตาที่หลี่ฝางมองไป ทุกคนก็หลบอย่างรวดเร็ว กลัวคนอื่นจะเข้าใจผิดแล้วเกิดเรื่องเดือดร้อนขึ้น
สถานการณ์แบบนี้ หลบไปจนถึงตรงหน้าชายร่างสูงน่าเกรงขามคนหนึ่งถึงจะหยุดลง
ชายหญิงสี่คนที่อายุไม่เยอะมากยืนอยู่ด้านหลังชายคนนั้น ปกป้องชายร่างสูงน่าเกรงขามผู้นั้นไว้อย่างแน่นหนา
“กู่ยี่เทียน!”ส้งหมิงส่งเสียงตกตะลึงขึ้นเป็นคนแรก
คนผู้นี้คือกู่ยี่เทียน ผู้แข็งแกร่งหมายเลขหนึ่งของต้าเซี่ยหลงเช่ว และเป็นปรมาจารย์กำลังภายในลำดับที่3
ส่วนชายหญิงสี่คนข้างๆกู่ยี่เทียน ก็ถูกผู้คนจำได้อย่างรวดเร็ว
“นั่นคือสี่ขุนศึกของต้าเซี่ยหลงเช่ว มังกรฟ้า เสือขาว หงส์แดง และเต่าดำ!”
“เป็นปรมาจารย์กำลังภายในทั้งหมดเลย!”
ทันใดนั้น ทั้งจัตุรัสก็ระเบิดขึ้นมา
ไม่มีใครคาดคิดว่าในงานตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลชิว จะรวมตัวยอดฝีมือกำลังภายในไว้ถึง9คน ภาพแบบนี้ อย่างกับเรื่องมหัศจรรย์สำหรับนักศิลปะต่อสู้ธรรมดาๆในจัตุรัส
แต่ที่ทุกคนคิดไม่ถึงก็คือ ปรมาจารย์กำลังภายในที่อยู่ในนี้จริงๆแล้วไม่ใช่แค่9คน แต่เป็น10คน ยังมีไท่ซางที่ปกปิดตัวตนอีกคนหนึ่งเท่าที่รู้ตอนนี้ยังไม่เปิดเผยตัวตนออกมา
เมื่อเห็นทั้ง5คนค่อยๆเดินไปด้านหน้า หลี่ฝางก็หรี่ตาลงอย่างอดไม่ได้
เขาเพิ่งมารู้จักต้าเซี่ยหลงเช่วก็ช่วงนี้ สงสัยมานานแล้วว่าทำไมต้าเซี่ยหลงเช่ว ถึงปราบปรามสำนักได้เยอะขนาดนี้ เพราะจากภายนอกต้าเซี่ยหลงเช่วก็ไม่ได้เห็นว่ามียอดฝีมืออะไรนัก
จากข่าวที่หลี่ฝางรู้มาช่วงนี้ ยอดฝีมือไม่กี่คนที่ปรากฏให้เห็นของต้าเซี่ยหลงเช่วนั้น อย่างมากก็แค่พลังระดับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ แม้จะบวกกับกู่ยี่เทียน ก็ไม่เกินพลังปรมาจารย์กำลังภายในหนึ่งคน
จนกระทั่งวันนี้หลี่ฝางถึงได้เข้าใจ ว่าพลังที่ต้าเซี่ยหลงเช่วปิดซ่อนไว้นั้นแข็งแกร่งเพียงใด
“คุณพบผมได้อย่างไร?”กู่ยี่เทียนมองหลี่ฝางอย่างไม่สะทกสะท้าน พลางถามอย่างเรียบเฉย ภายใต้สายตาจับจ้องของผู้คน
ส้งหมิงและคนอื่นๆไม่เข้าใจว่าทำไมกู่ยี่เทียนถามแบบนี้ เพราะพลังของหลี่ฝางก็ไม่ได้อ่อนด้อย พบกู่ยี่เทียนก็เป็นเรื่องธรรมดา
แต่หลี่ฝางรู้ว่าที่กู่ยี่เทียนนั้นไม่ใช่สิ่งนี้
เพราะกู่ยี่เทียนในตอนนี้นั้นเหมือนกับหลี่ฝาง ปริมาณของกำลังภายในแตกต่างกับกำลังภายในของยอดฝีมือคนอื่นๆโดยสิ้นเชิง
เขาได้ก้าวข้ามขั้นไปไกลกว่ากำลังภายในแล้ว
ตอนหลี่ฝางเพิ่งมาถึงที่นี่ รู้สึกได้ถึงไอพลังที่ไม่เหมือนใครในกลุ่มฝูงชน บางที่เพราะกู่ยี่เทียนมั่นใจว่าไม่มีใครมีพลังถึงขั้นนี้ จึงไม่ได้ซ่อนไอพลังของตัวเองไว้
แม้กำลังภายในผู้แข็งแกร่งธรรมดาคนอื่นๆไม่อาจรับรู้ถึงความพิเศษของกู่ยี่เทียน แต่สำหรับหลี่ฝาง กู่ยี่เทียนกลับสะดุดตาเหมือนช้างในฝูงมด
และตอนนั้นการค้นพบนี้ก็ทำเอาหลี่ฝางอึ้งไปเลย
บนโลกนนี้มียอดฝีมือเยอะขนาดนี้เลย?เขาเพิ่งจะฝ่าทะลวงได้ จากนั้นผ่านไปแค่พริบตาเดียวก็มีคนที่เหมือนเขาโผล่ขึ้นมาอีกคน ยิ่งไปกว่านั้นคือเก่งกว่าเขาอีก
หลี่ฝางเผชิญสายตาสงสัยของกู่ยี่เทียน ไม่ตอบอะไร แสร้งทำเป็นลึกลับซับซ้อนทันที
“หลี่ฝาง อย่าคิดว่าตัวเองมีชื่อเสียงนิดหน่อยแล้วไม่เห็นหัวคนอื่นไปหน่อยเลย ลำดับของลูกพี่เราสูงกว่าคุณอีกนะ”กู่ยี่เทียนไม่ได้พูดอะไร เสือขาวด้านข้างเขาจึงทนไม่ได้
“รอให้คุณตามลำดับผมทันก่อนแล้วค่อยพูดแบบนี้กับผมเถอะ”หลี่ฝางก็ตอกกลับไปอย่างไม่เกรงใจ
เสือขาวกำลังจะเกิดโทสะ ก็ถูกกู่ยี่เทียนห้ามเอาไว้
กำลังภายในของเขาฝ่าทะลวงอีกครั้ง และมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ เดิมทีคิดว่าเมื่อมาถึงระดับนี้ก็ไม่มีใครสู้ตนได้แล้ว(ไร้ศัตรู) แต่ตอนนี้ได้เจอหลี่ฝางอีกครั้ง เขากลับพบว่าตนนั้นยังไม่หมดสิ้นศัตรู
ส้งหมิงทั้งสามคนในขณะนี้รู้สึกหมดหวังสุดๆ
กู่ยี่เทียนและสี่ขุนศึกของต้าเซี่ยหลงเช่วปรากฏตัวขึ้น เท่ากับประกาศถึงความพ่ายแพ้ของพวกเขาอย่างสมบูรณ์
แต่พวกทั้งสามยังคงไม่ยอม ไม่ยอมให้แผนการที่วางไว้เนิ่นนานมาพังทลายลงแบบนี้ ไม่ยอมให้ความพยายามเสียเปล่า
คิดเช่นนี้ ชิวจงเทียนก็จะสู้สักตั้ง จึงเดินก้าวไปด้านหน้า กัดฟันถาม:“ปรมาจารย์กู่ผู้น่าเกรงขาม พาคนมาตระกูลชิวของผมเยอะแยะขนาดนี้ ไม่ทราบว่ามีเรื่องสำคัญอะไร?”