ในขณะที่มาถึงโรงแรมนั้น หลี่ฝางก็ได้มองเห็นตำรวจสองสามนายยืนอยู่ที่ห้องโถงของโรงแรมพอดี
จากนั้นก็ได้มองเห็นพวกจวงเชี่ยน จึงได้รีบเดินเข้าไปทันที แล้วเอ่ยถามขึ้นมา: “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เมื่อเห็นหลี่ฝางกลับมาอย่างกะทันหัน จวงเชี่ยนทั้งตกใจทั้งดีใจ จึงเดินเข้ามาและกล่าวอย่างรีบร้อน: “ประธานฉินถูกคนจับตัวไปแล้ว!”
“วี่เฟย?” หลี่ฝางตะลึงงัน เขายื่นมือออกไปจับจวงเชี่ยนไว้แน่น และกล่าวยังดุร้าย: “เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”
“โอ๊ย เจ็บ!” จวงเชี่ยนร้องออกมาด้วยความเจ็บ หลี่ฝางตระหนักถึงความเสียมารยาทของตัวเองขึ้นมา จึงปล่อยมือจากเธอ และหลังจากที่เอ่ยขึ้นมาว่า “ขอโทษนะ” เสร็จ ก็ได้เดินไปทางตำรวจที่กำลังสอบปากคำอยู่
“ผมเป็นเพื่อนของวี่เฟย ขอถามหน่อยครับว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”
ตำรวจมองดูหลี่ฝาง จากนั้นก็ส่ายหัวกล่าว: “ต้องขอโทษด้วย พวกเราเองก็เพิ่งจะได้รับโทรศัพท์ และมาถึงที่นี่ไม่นาน”
เมื่อได้ยินตำรวจกล่าวเช่นนี้ หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เขารู้ว่าไม่สามารถฝากความหวังไว้กับพวกเขาได้ และกำลังจะไปหาเบาะแสที่ห้อง ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ของเขาก็ได้ดังขึ้น
เหมือนเป็นสัญชาตญาณ หลี่ฝางคิดว่าโทรศัพท์สายนี้ได้โทรเข้ามาจากโจรลักพาตัวพวกนั้น
พอรับโทรศัพท์ ก็มีเสียงแหบแห้งทุ่มต่ำเสียงหนึ่งดังออกมาจากอีกฝั่งของสายทันที
“ผู้หญิงของแกอยู่ในมือของฉัน ถ้าอยากช่วยเธอก็ให้มาที่โรงงานร้างในเขตตะวันตก ไม่อย่างงั้น……”
เพิ่งกล่าวจบ อีกฝ่ายก็ได้ตัดสายไป
หลี่ฝางหรี่ตาทั้งสองข้างลง ในใจกลับค่อย ๆ โล่งอกขึ้นมาเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายจะเป็นตัวเอง เช่นนั้นก่อนที่เขาจะปรากฏตัว ฉินวี่เฟยก็น่าจะไม่มีอันตรายอะไร
“แต่ใครกันล่ะที่จะทำเรื่องแบบนี้?” หลี่ฝางครุ่นคิดในสมองอย่างรวดเร็ว เขาหาคำตอบที่ตัวเองต้องการไม่เจอ
ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ หลี่ฝางก็ได้กดโทรศัพท์โทรออกไปอีกครั้ง
ไม่นาน เสียงของลู่เผิงเฟยก็ได้ดังขึ้น
“พี่หลี่? มีอะไรเหรอครับ?”
“ช่วยฉันตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่งหน่อย”
เขาฟังออกถึงกลิ่นของความผิดปกติที่อยู่ในน้ำเสียงของหลี่ฝาง ลู่เผิงเฟยจริงจังขึ้นมาทันที
วางโทรศัพท์ไป หลี่ฝางมองพิจารณาดูตำรวจที่ไป ๆ มา ๆ อยู่สองสามครั้ง รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ
เหมือนกับว่า พวกเขากำลังเสแสร้งทำเป็นจริงจังกับการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างไรอย่างนั้น แต่ความจริงแล้ว การเคลื่อนไหวส่วนมากของพวกเขาคือทำเพื่อบังหน้าเท่านั้นเอง
เพราะถึงยังไงที่โรงแรมแห่งนี้ก็มีกล้องวงจรปิดอยู่ แต่ว่าคนพวกนี้กลับไม่ได้ไปขอดูข้อมูลในกล้องวงจรปิดเลย
ทันใดนั้น หลี่ฝางรู้สึกว่าคนพวกนี้น่าจะรู้อะไรบางอย่าง เพียงแต่ตั้งใจปิดบังบางสิ่งบางอย่างอยู่
เพราะถึงยังไงแล้ว กล้าบุกเข้ามาจับตัวคนถึงในโรงแรมกลางวันแสก ๆ การกระทำเช่นนี้ มันค่อนข้างกำเริบเสิบสานจนเกินไป
ลู่เผิงเฟยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว รอเพียงไม่กี่นาที เขาก็ได้ส่งอีเมลฉบับหนึ่งมาให้กับหลี่ฝาง ข้างในนั้นมีข้อมูลของเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด
“จางกุ้ย ฉายาเจ้าสามจาง……”
ในเอกสารฉบับนี้ ครอบคลุมข้อมูลสำคัญเกือบทั้งหมด บันทึกเรื่องราวของเจ้าสามจางตั้งแต่เล็กจนโตไว้อย่างละเอียด
สามารถเห็นได้ว่า เจ้าสามจางคนนี้เป็นอันธพาลมาตั้งแต่ตอนหนุ่ม ๆ กระทำความผิดจนถูกจับเข้าไปสำนึกผิดอยู่บ่อยครั้ง
แต่ทว่าเมื่อห้าปีก่อน เขากลับไม่มีคดีใด ๆ ถูกบันทึกไว้อีกเลย เพียงแต่ว่าเรื่องที่เขาทำนั้นหนักหนาสาหัสขึ้นมาเรื่อย ๆ และทุกอย่างนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้เข้าพึ่งพาคนคนหนึ่งที่ชื่อว่าเฮียติง
……
ณ โรงงานร้างในเขตตะวันตกที่ถูกปล่อยร้างมาเป็นเวลานาน ปกติแล้วไม่ค่อยจะมีคนมาที่นี่ เพราะเหตุนี้ที่นี่จึงเงียบสงบเป็นพิเศษ
แต่ทว่าวันนี้ ความเงียบสงบเช่นนี้ได้ถูกทำลายไป
อย่างน้อยมีชายหญิงนับร้อยกว่าคนหยอกล้อคลุกคลีกันอยู่ที่นี่ตามอำเภอใจ ทำให้โรงงานแห่งมีเสียงดัง สับสนอลหม่านไปหมด
ฉินวี่เฟยในเวลานี้ถูกมัดไว้ในโรงงานแห่งนี้ เผชิญหน้ากับสายตาที่แปลกประหลาดและกำเริบเสิบสานของกลุ่มชายที่อยู่รอบ ๆ ภายในใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยความหวัดกลัว
แต่ทว่าถึงแม้สายตาที่ชายพวกนั้นมองฉินวี่เฟยจะน่ากลัวมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ฉินวี่เฟยแม้แต่คนเดียว ราวกับใครบางคนได้ออกคำสั่งซึ่งทำให้พวกเขาหวาดกลัว
แต่ว่าถึงแม้คนพวกนี้จะไม่กล้าแตะต้องฉินวี่เฟย แต่ปากของพวกเขากลับเอ่ยคำสกปรกอยู่ไม่หยุด
“แหะ ๆ ผู้หญิงที่สวยแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นตัวเป็น ๆ อยากจะย่ำยีให้เต็มที่ซะจริง ๆ เลย”
“สวยกว่าพวกดาราซะอีก หากฉันได้นอนด้วยสักครั้งนะ ถึงตายก็คุ้มค่าแล้ว”
“ก็นั่นน่ะสิ ฉันแม่งอยากจะลองอยู่ตรงนี้ตอนนี้เลยจริง ๆ”
คนพวกนี้ดวงตาเป็นประกาย ไม่ปิดบังความปรารถนาของตัวเองเลยสักนิด
“จะลองดูก็ได้ แต่คนที่ตายจะไม่ใช่แกเพียงคนเดียว” ในตอนนั้นเอง คนคนหนึ่งได้เดินเข้ามาจากด้านนอก และกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม: “พอถึงตอนนั้นคนในครอบครัวของแกไม่ว่าจะเป็นคนแก่หรือลูกเล็กเด็กแดงต่างก็ต้องตายไปพร้อมกับแกด้วย”
“แค่ก แค่ก ๆ ลูกพี่พวกเราแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง ฮ่า ๆ ๆ ……”
ทุกคนต่างก็รีบหัวเราะฮ่า ๆ ออกมา และไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย
สำหรับคนพวกนี้แล้ว พวกเขาเคารพและเกรงกลัวเจ้าสามจางลูกพี่ของตัวเองเป็นอย่างมาก
บนหลังของเจ้าสามจางแบกชีวิตคนไว้กี่ชีวิตยังสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเช่นนี้ได้ เป็นธรรมดาที่จะทำให้ลูกน้องพวกนี้เคารพหวาดเกรง
เจ้าสามจางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เขากล่าวเตือนขึ้นมาด้วยสายตาที่ดุร้าย: “ตื่นตัวกันหน่อยนะ เรื่องนี้เป็นคำสั่งจากเฮียติง จะต้องทำให้ดี ถ้าใครเกิดผิดพลาดขึ้นมา เตรียมถูกโยนลงทะเลเลี้ยงปลาได้เลย!”
“พี่สามสบายใจได้ หากไอ้หมอนั่นกล้ามา มันจะต้องไปจากที่นี่ไม่ได้แน่!”
ลูกน้องคนที่เอ่ยปากเมื่อกี้กล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มอย่างโหดเหี้ยม
“ใช่ ฉันไม่เชื่อหรอกนะ แม้แต่ของสิ่งนี้พวกเราก็ยังเอามาได้ แล้วจะให้ไอ้หมอนั่นเล่นตลกอะไรออกมาได้อีก?”
ลูกน้องอีกคนเปิดเสื้อออก สิ่งของที่อยู่บริเวณเอวปรากฏออกมา ทำให้รู้สึกปลอดภัยขึ้นมามาก