NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่964 หลี่ฝางถูกจับ

บทที่964 หลี่ฝางถูกจับ

แป๊บเดียว สักสองสามคนของหน่วยต้าเซี่ยหลงเช่วก็เข้ามาในผับ คนที่เหลือก็เริ่มดำเนินการส่งมอบงาน

ส่วนเจิ้งเซียวก่อนที่มอบงานเสร็จแล้วออกไป ก็มองหลี่หยุนหยุนแวบหนึ่ง ในสายตาเต็มไปด้วยความชื่นชม

เพราะว่าเขารีบร้อนขึ้นมา เมื่อก่อนตอนที่พวกเขาทำคดีใหญ่ด้วยกัน ด้านบนจะส่งผู้หญิงคนนี้มาช่วย

ตอนแรกพวกเขาดูถูกเธอเพราะว่าเธอเป็นผู้หญิง อย่างไรก็ตามที่ทำให้พวกเขาคิดไม่ถึงก็คือ หยิบคีมมาจัดการด้วยตัวเธอเองคนเดียวอย่างรวดเร็ว ความเร็วนั้นเร็วจนน่าตกใจ

ในใจเจิ้งเซียวมีความแปลกใจอย่างไม่สิ้นสุดต่อการปรากฏตัวของต้าเซี่ยหลงเช่วชื่อนี้

ในผับตอนนี้วุ่นวายมาก อย่างกับเกิดพายุไต้ฝุ่นขึ้นมาอย่างนั้น ที่พื้นเต็มไปด้วยศพกับคนที่หมดสติไปหมด ซึ่งล้วนแต่เป็นคนที่ถูกหลี่ฝางจัดการก่อนหน้านี้

หลี่หยุนหยุนพูดเสียงเบา:“สรุปว่าใครที่ใจกล้ามาทำเรื่องแบบนี้ที่นี่?นี่มันช่างไม่มีขื่อมีแปเสียจริง!”

คนนำหน้าที่อยู่ท่ามกลางทุกคน ก็คือหลิวฮุยซึ่งตอบไปว่า:“หลี่ฝาง”

“หลี่ฝาง?ผู้ชายคนนั้นที่เฮียกู่ยอมรับกับปากเองว่าอยู่ในระดับพอๆกับเขาเหรอ?”

ได้ยินชื่อของหลี่ฝาง หลี่หยุนหยุนปรากฏความประหลาดใจขึ้นมาก่อน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นความชื่นชมอย่างสุดซึ้ง

“สุดยอดมาก!และยังหนุ่มมาก!”

“หยุนหยุนนะ……เห้อ!”

เห็นลูกน้องตัวเองจู่ๆก็บ้าผู้ชาย หลิวฮุยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

“ขอโทษค่ะลูกพี่!”

ตระหนักได้ถึงการเสียอาการของตัวเอง หลี่หยุนหยุนก็แลบลิ้น ยอมรับผิดอย่างตรงไปตรงมา

“พระเจ้า ความแข็งแกร่งของหลี่ฝางนั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหนกันแน่?”

แล้วพวกเขาก็สืบหาต่อไปสักพัก แป๊บเดียวก็เจอผลลัพธ์ส่วนหนึ่งออกมา พบว่าความแข็งแกร่งของคนพวกนี้ ไม่มีคนที่อ่อนแอเลย

หลี่หยุนหยุนอดไม่ได้ที่จะอุทาน:“คนพวกนี้ ต่างถูกหลี่ฝางฆ่าในพริบตาเดียว?”

“อือ”หลิวฮุยพยักหน้าด้วยใบหน้านิ่งเฉย เขารู้ว่า หลี่ฝางมีความแข็งแกร่งนี้อย่างแน่นอน

ฉากตรงหน้านั้นเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตกใจ แต่ตอนที่เห็นเกียร์ พวกเขาจึงตระหนักได้ว่าอะไรที่เรียกว่าความน่ากลัว

เกียร์ตายแล้ว ซึ่งยืนตาย และที่ตัวก็ไม่มีบาดแผลด้วย

บนตัวเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง ใบหน้าเหยเกขั้นสุด ทั้งตัวแข็งทื่อ การตายของเขาทำให้คนหวาดกลัวอย่างมาก

“ลูกพี่……”หลี่หยุนหยุนบ่นพึมพำ“เขาตายได้อย่างไร?”

“ถูกกำลังภายในตัดเส้นลมปราณ จึงตายไปเลย”

หลิวฮุยเข้าไปดู ก็ได้ข้อสรุปที่ถูกต้อง

“ลูกพี่!แย่แล้ว!”ลูกทีมคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจู่ๆก็ตะโกนออกมา ดึงดูดความสนใจของทุกคน

“เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นในใจหลิวฮุยก็รู้สึกถึงผิดปกติ รีบเข้าไปดู ต่อมา ฝีเท้าของเขาก็หยุดลง

ระหว่างที่หวางซีหมิงนอนหงายบนรถเข็น ใบหน้าก็หวาดกลัว ศพแข็งไปแล้ว

เห็นศพของหวางซีหมิง ในใจหลิวฮุยกับลูกทีมทุกคนก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาพร้อมกัน

“เรื่องใหญ่แล้ว”

……

หลังจากหลี่ฝางช่วยฉินวี่เฟยได้ ก็กลับไปที่ผับกับเธอ ฉินวี่เฟยในตอนนี้ หลังตากผ่านการตกใจแล้วก็รู้สึกทั้งกลัวและเหนื่อย คิดแต่จะนอนหลับสักตื่นดีๆ

แต่เธอยังกังวลหน่อยๆที่ครั้งนี้หลี่ฝางทำเรื่องใหญ่มาก จะเกิดปัญหาหนักตามมาหรือไม่

ยังไงครั้งนี้หลี่ฝางลงมือ คนก็เข้าไปด้วยตั้งเยอะ แต่ว่าตายอยู่ไม่กี่คน

“วางใจเถอะ!ผมไม่ได้ลงมือโหดร้าย อย่างมากคนพวกนั้นก็โชคร้ายเลยตายไป ซึ่งนั่นก็โทษผมไม่ได้นะ”

หลี่ฝางหัวเราะปลอบใจฉินวี่เฟย

“แต่ว่า……”

ฉินวี่เฟยอยากจะพูดว่า คนที่ตายพวกนั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย

“วางใจเถอะน่า”หลี่ฝางหัวเราะ“ตอนนั้นที่เมืองเอกก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ใช่เหรอไง?”

ฉินวี่เฟยถอนหายใจ ได้แต่เอาความกังวลไปไว้ในใจ ถามไปอีกว่า:“แต่ว่า ตระกูลหวางล่ะจะทำยังไง?ครั้งนี้หวางซีหมิงตายแล้ว กลัวว่าตระกูลหวางจะไม่ยอมวางมือง่ายๆ”

อิทธิพลของตระกูลหวางน่ายำเกรงจริงๆ จะนำปัญหามากมายมาให้เขาได้ แม้กระทั่งว่าถ้าตระกูลหวางจะแก้แค้นโดยไม่คำนึงถึงใดๆ ก็จะเกิดสถานการณ์อันตรายมากมาย ได้ด้วย

อีกอย่าง เขาห่วงว่าตระกูลหวางจะทำอะไรตัวเองไม่ได้ ก็จะลงมือกับคนข้างกายของเขา เช่นฉินวี่เฟย

ดูเหมือนต้องจัดการตระกูลหวางปัญหานี้ดีๆเสียแล้ว

ทางด้านตัวเองตอนนี้มีปรมาจารย์แดนเต๋าสามคนที่ระดมกำลังได้ ถ้าสามารถร่วมมือกับพลังด้านอื่นๆอีก เช่นหลิวฮุย เช่นตระกูลลู่ พลังมหาศาลที่แม้แต่ตระกูลหวางก็ยังไม่กล้ามีปัญหาด้วยง่ายๆ

คิดแบบนี้แล้ว หลี่ฝางจึงยิ้มให้ฉินวี่เฟย พูดว่า:“วางใจเถอะน่า ผมรับมือได้”

“อือ ฉันเชื่อคุณ!”

ในที่สุดฉินวี่เฟยก็โล่งอกลงได้

แต่แป๊บเดียว อารมณ์ของเธอก็ตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง

เพราะว่าตอนนี้ด้านนอกผับ มีเสียงไซเรนของรถตำรวจดังขึ้น

……

เจิ้งเซียวเดินไปที่ผับอย่างงงๆ ในใจยังคิดถึงคำสั่งที่ด้านบนให้มา

เพิ่งกลับเข้าทีม ด้านบนก็ให้ตัวเองออกมาจับผู้ต้องสงสัยในเรื่องใหญ่ครั้งนี้ และหลีกเลี่ยงจากพวกต้าเซี่ยหลงเช่ว

ทั้งๆที่เรื่องเพิ่งจะเกิดขึ้น คนของต้าเซี่ยหลงเช่วต่างกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ แล้วด้านบนจะจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างไร?

สัญชาตญาณเจิ้งเซียวคิดว่าเรื่องนี้แปลกๆ แต่กลับไม่โทรไปถามด้านบน ได้แต่ฟังคำสั่งอย่างเชื่อฟัง มาจับคนที่โรงแรม

เดินมาหน้าเคาน์เตอร์โรงแรม เจิ้งเซียวบอกความตั้งใจไปโดยตรง ทันใดนั้นหญิงสาวที่หน้าเคาน์เตอร์ก็ตกใจจนหน้าซีดขาว

แป๊บเดียวก็ได้ข้อมูลที่พักของหลี่ฝาง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท