NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่962 การตายของหวางซีหมิง

บทที่962 การตายของหวางซีหมิง

“คณอยากตายขนาดนี้เชียว?”หลี่ฝางมองเกียร์อย่างแปลกใจ“ผมทำให้คุณสมปรารถนาได้ ค่าตอบแทนก็คือ ……ชีวิตของคุณ”

“เหรอ?ผมกลับรอคอยเลยแหละ”เกียร์หัวเราะอย่างเย็นชา ดีดนิ้ว แล้วจึงมีร่างเดินออกมาจากมุมมืดมายืนตรงหน้าหลี่ฝางทีละคนทันที

“ดูว่าคุณจะทนอยู่ในมือพวกเขาได้นานแค่ไหน หรือว่าคุณอยากฆ่าผมล่ะก็ แต่ว่า ตรงนี้เกรงว่า จะเป็นไปไม่ได้”เกียร์หัวเราะอย่างเย็นชา

“ดูเหมือนพวกคุณจะยังไม่เข้าใจอะไรเลยนะ”หลี่ฝางส่ายหน้า ในสายตามีความเมตตาออกมา

“ประเทศจีนพวกคุณมีคำโบราณพูดไว้ว่า มดจำนวนมากก็กัดช้างตายได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนของพวกเรานี้ ที่ไม่ใช่มด แต่เป็นสิงโต”

“เหรอ?”หลี่ฝางทำเสียงเย็นชา ไม่พูดเหลวไหลต่อไปอีก

เขาจะใช้กำลังที่แท้จริง ให้คนพวกนี้รู้ว่าตัวเองโง่เง่ามากแค่ไหน!

……

เกียร์นอกจากเป็นสมาชิกสำนักหยิ่งซาแล้ว ยังเป็นราชามวยที่น่ายำเกรงอันดับหนึ่งอีกด้วย เคยประสบความสำเร็จชนะอย่างโดดเด่นบนสังเวียนมวย พลังหมัดของเขาไปถึงจุดที่น่าหวาดกลัวสุดๆท่ามกลางการฝึกซ้อมมาหลายปี

เขาที่คิดเองว่าน่ายำเกรงสุดๆ เป็นคนแรกที่ตัวต่อตัวกับหลี่ฝาง ปล่อยหมัดของตัวเองออกไปที่หลี่ฝาง

เห็นหลี่ฝางเลือกหมัดชนหมัดกับเขา ในใจเกียร์ก็ดีใจ เขาที่เชื่อมันในหมัดของตัวเองมาก คิดว่าหมัดตัวเองนี้จะทำให้หลี่ฝางสูญเสียอย่างหนัก

อย่างไรก็ตามแป๊บเดียว เขาก็เข้าใจผิดว่าไม่ใช่หลี่ฝาง แต่เป็นตัวเอง

พลังที่เรียกว่าน่ากลัวจากหมัดของหลี่ฝางส่งไปที่หมัดของเกียร์ในทันที เปรียบเทียบกันแล้ว เกียร์ที่ภูมิใจในพลังก็น่าตลกเหมือนกับเด็กเล่นสร้างครอบครัว

แค่ชั่วพริบตาเดียว ทั้งแขนของเกียร์ก็ถูกตัดทิ้ง

อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายไม่ยอมแพ้ในการโจมตีเลย

ทันใดนั้นต้นขาข้างหนึ่งก็ถีบไปที่หัวของหลี่ฝางแรงๆ ต้นขานั้นเตะเข้ามาก็เอาเสียงดังอู้ๆมาด้วย เหมือนว่ากำลังบอกฝ่ายตรงข้ามถึงพลังที่น่ายำเกรงนั้น

ถ้าถูกต้นขานี้เตะ เกรงว่าหัวของคนทั่วไปจะระเบิดออกเหมือนกับแตงโม

อย่างไรก็ตามในเวลาถัดมาต้นขานี้ก็ถูกหลี่ฝางจับไว้ บิดทันที แล้วกระดูกขาที่แข็งก็หักลงทันที

ในเสียงร้องโหยหวนนั้น อีกคนหนึ่งใช้ช่องว่างนี้ต่อยไปที่หน้าท้องหลี่ฝาง ระหว่างนิ้วมือของเธอ ยังซ่อนใบมีดที่คมกริบไว้ด้วย แต่กรีดเบาๆ ก็ทำท้องของหลี่ฝางแตกออกได้ ทำให้เขาตายได้ในทันที

อย่างไรก็ตามหมัดของหญิงสาวปล่อยไปที่ตัวของหลี่ฝาง ไม่ใช่แค่ไม่มีผลลัพธ์ใดๆ กลับกันยังเหมือนกับต่อยไปที่เหล็ก ส่งเสียงอู้อี้ออกมา

จากนั้นท่ามกลางสายตาที่คาดไม่ถึงของหญิงสาว ขาข้างหนึ่งของหลี่ฝางก็ถีบหญิงสาวออกไปแรงๆ จนเธอเสียชีวิตกลางอากาศ

ที่คนพวกนี้คิดไม่ถึงคือ กำลังภายในของหลี่ฝาง ไปถึงกำลังภายในของแดนเต๋า กระทั่งว่าแม้แต่กระสุนก็ยังกันได้ แล้วนับประสาอะไรกับใบมีดเล็กๆเล่มหนึ่ง

เห็นฉากนี้ สีหน้าของทุกคนต่างดูแย่ขั้นสุด

ส่วนที่หน้าของหลี่ฝาง กลับปรากฏรอยยิ้มอันโหดร้าย

สองสามนาทีถัดมา การต่อสู้นี้ก็จบลง

คนที่เกียร์ส่งออกมา พ่ายแพ้ให้กับหลี่ฝางหมดแล้ว ถึงแม้จะพยายามออมมือสุดๆแล้ว แต่กลับมีกว่าครึ่งหนึ่งที่ตาย ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนั้นก็หมดสติ หรือเสียความสามารถในการตอบโต้

และในฐานะที่เป็นแกนนำของคนกลุ่มนี้ กลับยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ เหมือนกับว่าคนพวกนั้นไม่ใช่ลูกน้องของเขา

“ดูเหมือนผมจะประเมินค่าความแข็งแกร่งของคุณต่ำไป”เกียร์ยิ้มออกมา

“เหรอ?”หลี่ฝางมองไปที่เกียร์ด้วยรอยยิ้มเย็นชา

การต่อสู้นี้ถึงสำหรับเขาแล้วจะไม่ธรรมดาเลย ถึงแม้คนพวกนี้ทำร้ายเขาไม่ได้ กลับทำให้เสื้อผ้าที่ตัวเขาขาดหลุดลุ่ย บางจุดก็เปื้อนเต็มไปด้วยเลือด มองไปแล้วไม่อาจสวมได้อีก

ส่วนเกียร์ กลับยังคงมีใบหน้าราบเรียบ มองหลี่ฝางค่อยๆออกมา เขาโบกมือแล้วยิ้ม

“ผมเข้าใจช่องว่างของตัวเองกับท่านดี ดังนั้นตั้งแต่แรกผมจึงไม่เคยคิดจะลงมือ”

ระหว่างที่เกียร์พูด เฮียติงก็ผลักหวางซีหมิงค่อยๆออกมาจากมุมมืด

“ถ้าลูกหลานตระกูลหวางตายไป น่าจะสร้างปัญหาใหญ่ให้คุณสินะ?”ใบหน้าเขามีรอยยิ้มบางๆ น้ำเสียงกลับมีความเคร่งขรึม

“คุณกำลังขู่ผมเหรอ?”หลี่ฝางหรี่ตาคู่นั้นลง รัศมีในดวงตาดูไม่ดี

รู้สึกถึงความอาฆาตที่ค่อยๆปล่อยออกมาจากตัวหลี่ฝาง เกียร์ก็เหมือนกับถูกทิ้งไปในน้ำทะเลอันเยือกเย็น

เหมือนว่าวินาทีต่อไป ทั้งมหาสมุทรจะกลายเป็นน้ำแข็ง ส่วนเขา ก็จะถูกขังตายในน้ำแข็ง จมดิ่งลงสู่ก้นทะเลอันมืดมิดตลอดไป ไม่มีวันหวนกลับมาอีก

“ไม่ไม่ไม่ ผมแค่เล่าความจริงเฉยๆ”เกียร์ยกมุมปากขึ้น ยังคงลองพยายามรักษาความสง่างาม

พูดประโยคนี้เสร็จ ทันใดนั้นในมือของเขาก็ปรากฏกริชเล่มหนึ่ง เอาไว้ที่คอของหวางซีหมิงเบาๆ กริชที่คมกริบนั้นเหมือนกำลังบอกหลี่ฝางว่า ถ้าเขาขยับอีก กริชนี้จะปาดคอหวางซีหมิงขาด ส่งหวางซีหมิงไปลงนรก

ตอนนี้เอง จู่ๆหวางซีหมิงก็ได้สติคืนมา

เหมือนคิดว่าตระหนักได้ถึงอันตรายถึงชีวิตแล้ว หรือบางทีอาจจะเพราะเวลาออกฤทธิ์ของยาหมดแล้ว สรุปคือ เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญพอดี หวางซีหมิงก็ได้สติขึ้นมาทันที และยังรู้สึกถึงความเย็น ที่แนบไปที่ผิวส่วนคอของเขา

ความรู้สึกใกล้ตายนั้น ทำให้ในใจของหวางซีหมิงตื่นตระหนกในทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท