NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่977 ความเห็นต่างกันก็ระเบิดพลีชีพ

บทที่977 ความเห็นต่างกันก็ระเบิดพลีชีพ

รอเขาจัดการทั้งบริษัทคลอริส ถึงตอนนั้นข้อมูลศึกษาอะไรไม่มี ก็ไม่ต้องให้คาร์ลลงมือเลย

คาร์ลที่ในใจไม่กังวลในที่สุดก็พูดทุกอย่างที่ตัวเองรู้ออกมา

ที่จริงคาร์ลเป็นลูกจ้างติดอาวุธของบริษัทคลอริส ต่อมาในการต่อสู้ครั้งหนึ่ง ทำให้ทั้งร่างกายอัมพาต ดังนั้นจึงได้รับการทดสอบดัดแปลงพันธุกรรมของบริษัท

สุดท้ายผลการทดลองล้มเหลว เขาถูกบริษัทย้ายจาก ห้องปฏิบัติการที่เจ็ดที่เชี่ยวชาญด้านการศึกษาวิจัยอาวุธพันธุกรรมไปที่ห้องปฏิบัติการที่สามที่รับผิดชอบการศึกษาค้นคว้าอาวุธเครื่องกลโดยเฉพาะ

หลังจากเปลี่ยนแปลงสำเร็จ เขาก็รับหน้าที่ต่อ ยังคงชายชีวิตให้บริษัทคลอริส

ตอนหลี่ฝางได้ยินคาร์ลบอกว่าห้องปฏิบัติการที่เจ็ดแบ่งไปอยู่ที่พม่า ประเทศเหล่ากับประเทศเยว่แต่ละที่ต่างมีแห่งละสาขา และก็นึกถึงตอนนั้นที่เกาเมิ่งฉีถูกจับแล้ว ทำไมถึงถูกส่งไปที่พม่า

ที่แท้เบื้องหลังนี้ยังมีเงาของบริษัทคลอริส

ยิ่งคาร์ลพูด หลี่ฝางก็ยิ่งตกใจ เพราะว่าเขาพบว่าตัวเองเหมือนจะขุดความลับใหญ่อะไรขึ้นมาได้

บางทีหลังจากเอาข้อมูลนี้รายงานไป เบื้องบนอาจจะสามารถตามรอย แล้วหาปัญหาเจอได้มากขึ้น!

ในใจหลี่ฝางคิดแบบนี้

ส่วนอีกด้าน โดซานกับคนของBlood goldนัดเจอกันที่ร้านอาหาร แป๊บเดียวก็ถูกหลี่ฝางกำจัด

มองคนที่ล้มไปที่พื้นอย่างกลาดเกลื่อน ไอ้หน้าหนวดที่รับหน้าที่เชื่อมต่อกับโดซานก็คุกเข่าที่พื้นไม่กล้าพูดอะไร

“ให้เขานัดกากีออกมา”หลี่ฝางพูดว่า“หรือบอกพวกเราว่ากากีอยู่ไหน”

แป๊บเดียว ไอ้หน้าหนวดก็หาคำอธิบายดีๆ เล่าว่าหลี่ฝางเป็นลูกเศรษฐี มาคุยธุรกิจกับพวกเขา ส่วนกากีก็เห็นด้วยที่จะเจอกับหลี่ฝางทันที พูดคุย“ธุรกิจใหญ่”ด้วยตนเอง

หลี่ฝางคิด รู้ว่าเรื่องที่นี่เกือบจะเสร็จหมดแล้ว จึงเอาไอ้หน้าหนวดไปขังไว้ที่หนึ่ง แล้วตัวเองก็พาโล่ซือหานออกไป

“อันนี้ให้คุณ เป็นค่าไกด์ของคุณวันนี้”หลี่ฝางหยิบเงินก้อนหนึ่งทั้งหมดหนึ่งหมื่นวางไว้ตรงหน้าโล่ซือหานแล้วหัวเราะ:“วันนี้ต้องขอบคุณคุณมาก ตัวตนของคุณจะไม่เปิดเผย วางใจเถอะ”

ได้ยินหลี่ฝางพูดแบบนี้ โล่ซือหานเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรทันที ถามไปอย่างลังเลว่า:“พรุ่งนี้……”

“พรุ่งนี้ผมก็ไปแล้ว”หลี่ฝางพูดตรงๆ

“โอเค ได้”โล่ซือหานก้มหน้าลง ดูเสียใจอย่างเห็นได้ชัด“ขอบคุณนะ”

หลังจากพูดขอบคุณเสร็จ โล่ซือหานก็ค่อยๆเอาเงินใส่ไปในกระเป๋าของตัวเอง แล้วก็มองหลี่ฝางอย่างลึกซึ้ง กัดริมฝีปาก สุดท้ายก็จากไป

การจากลานี้ เป็นการจากลาตลอดไป ทั้งสองคนไม่ได้พัวพันกันอีกต่อไป

โล่ซือหานที่กลับไปในชีวิตปกติชีวิตต่อจากนี้ก็เป็นชีวิตประจำวันทั่วไปที่ปลอดภัย ไม่มีคลื่นลูกใหญ่ใดๆ ก็แค่แต่งงานมีลูก ถึงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่ง แต่ก็สะดวกสบายมาก

มีแค่บางเวลาที่อยู่คนเดียว เธอถึงนึกถึงประสบการณ์แฟนตาซีที่แทบจะลืมไปหมด นึกถึงที่ทั้งๆเป็นเพียงแค่วันเดียวแต่กลับเป็นเรื่องราวที่วิเศษมาก นึกถึงผู้ชายที่เหลือเชื่อคนนั้น

วันถัดมา

ระหว่างทางที่หลี่ฝางพาไอ้หน้าหนวดไปผับที่นัดไว้กับกากี ผับนั้นก็ถูกเคลียร์หมดแล้วในตอนนี้ ผู้ชายกำยำยี่สิบกว่าคนนั่งอยู่ข้างใน แต่ละคนมาพร้อมอาวุธ ท่าทางน่าเกรงขาม

และในกลุ่มคนนี้ผู้ชายวัยกลางคนที่ดูเป็นลูกพี่อย่างเห็นได้ชัดมีชื่อว่าลิเวอร์ซาน หลังจากมาถึงที่นี่แล้วรอสักพักแล้ว ลิเวอร์ซานถามอย่างทนไม่ไหว:“ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”

“ห้าทุ่มกว่า”

“แม่เอ๊ย ไอ้ระยำนั่นทำไมยังมาไม่ถึง?”ลิเวอร์ซานโมโหทันที“ตายระหว่างทางเหรอไง?”

เพิ่งพูดจบ หลี่ฝางก็ถีบประตูใหญ่ ลากไอ้หน้าหนวดเดินเข้ามา มองลิเวอร์ซาน จากนั้นโยนไอ้หน้าหนวดไปที่พื้น

“เขาคือกากีเหรอ?”

“ไม่ ไม่ใช่เขา เขาไม่ใช่กากี……”ไอ้หน้าหนวดนอนล้มลงพื้น เงยมองลิเวอร์ซาน ตกใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา

“คุณหักหลังพวกเรา!”ลิเวอร์ซานตอบสนองได้ทันที“คุณมัน……”

ตู้ม!

เสียงของลิเวอร์ซานถูกเสียงระเบิดปกปิดไว้อย่างรุนแรง ผับนั้นกลายเป็นซากปรักหักพังทันที เปลวไฟที่โหมกระหน่ำปล่อยความร้อนสูงมาก ควันหนาทึบลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า เปลวไฟที่โหมกระหน่ำปล่อยความร้อนระดับสูงออกมา

หลี่ฝางในตอนนี้กลับพาไอ้หน้าหนวดกับลิเวอร์ซานมาปรากฏตัวที่สถานที่หนึ่งอีกหลายร้อยเมตร มองผับที่กลายเป็นทะเลไฟ แล้วโยนสองคนนั้นทิ้งไปที่พื้น

“ลูกน้องของตัวเองบอกว่าเสียสละก็เสียสละ สุดยอด โหดมาก”หลี่ฝางหัวเราะหึหึอย่างเย็นชา พูดกับลิเวอร์ซาน:“ความรู้สึกที่เกือบถูกคนของตัวเองกำจัดทิ้งมันเป็นยังไง?”

ลิเวอร์ซานรอซากปรักหักพังเหล่านั้น ดวงตาทั้งคู่มีประกายแห่งความเกลียดชังออกมา

เวลานี้ กากีกำลังหลบในคฤหาสน์ของตัวเอง มองดูผับทางนั้นที่ไฟไหม้โหมกระหน่ำผ่านโทรทัศน์ ก็ส่ายเหล้าที่อยู่ในมือเบาๆ แสดงอาการพอใจสุดๆ

“ทำไมไม่ให้ผมไปจับผู้ชายคนนั้นเลย?”ผู้ชายรูปร่างผอมเล็กคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆถาม

“จับมาทำอะไรล่ะ?”กากีหัวเราะเหอะเหอะ“นั่นไม่มีความหมาย แซมบิน ไม่มีความหมาย เรื่องที่ทำเงินไม่ได้ล้วนแต่ไม่มีความหมายใดๆ”

“ที่แท้ก็แบบนี้ เข้าใจแล้วครับ”แซมบินก้มหน้าพูด

“ฮ่าฮ่าฮ่า แซมบิน ที่คุณต้องเรียนรู้ยังมีอีกเยอะนะ ถึงแม้คุณ……”

เสียงพูดจบ จู่ๆด้านนอกก็มีเสียงดังขึ้นมา

“เป็นไงบ้าง ด้านนอกเกิดอะไรขึ้น?”กากีนั่งขึ้นมาทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท