“คุณโจว นั่งลง!”ชายวัยกลางคนที่อายุค่อนข้างมากนั่งอยู่ตรงกลางพูดว่า “คุณใจเย็นลงหน่อย!”
คุณโจวเคลื่อนไหวอืดอาด นั่งลงไปด้วยความโมโห
“หึหึหึ ได้ยินไหม คุณต้องใจเย็นหน่อย ไม่งั้น คุณทำผมตกใจได้ ผมเป็นคนขี้ขลาด”
คนผิวดำพูดอย่างภูมิใจ เขาหันหน้า มองไปที่สาววัยรุ่นที่อยู่อีกด้านของชายวัยกลางคน
“หึ สาวสวย เดี๋ยวไปดื่มสักแก้วไหม แล้วไปนั่งที่บ้านผม โซฟาบ้านผมทั้งใหญ่ทั้งนุ่ม ……”
“มึงหุบปากเดี๋ยวนี้!”คุณโจวลุกขึ้นมาอีกครั้งด้วยความโกรธ
“โหย โหยคุณจะลิดรอนสิทธิ์ในการพูดของผมเหรอ?ไม่ได้ หัวใจผมรับไม่ได้ ผมกลัวมาก ผมจะคุยกับสถานทูต”คนผิวดำแกล้งทำเป็นหวาดกลัว
ใบหน้าขาวๆของหญิงสาวเหมือนกับน้ำค้าง ลุกขึ้นออกไปไม่พูดอะไร
นักเรียนต่างชาติคนผิวดำภูมิใจอย่างมาก คุณโจวที่โกรธจนยั้งอารมณ์ไว้ไม่ได้ หญิงสาวที่ออกไปด้วยความโมโห ชายวัยกลางคนมองฉากตรงหน้า ในใจก็ถอนหายใจแรงๆ
เขารู้ว่า ครั้งนี้ก็ไม่มีผลลัพธ์ใดๆ หลักฐานไม่พอ ถึงผู้ถูกกระทำจะตายต่อหน้าเขา เขาก็ยังไร้อำนาจ
คนกลุ่มนี้เลวมาก!
และก็เป็นอย่างที่ชายวัยกลางคนคิดไว้ ครั้งนี้ยังคงไม่มีผลใดๆ
ถึงเวลา พวกเขาก็ปล่อยคนผิวดำคนนั้นออกไป ตามองเขานั่งรถที่คนผิวดำด้านนอกสองสามคนมารับเขา หัวเราะอย่างเย่อหยิ่งแล้วออกไป
ในหัวชายวัยกลางคนมีข้อมูลของผู้ตายปรากฏขึ้นมา
จางจิ้ง นักเรียนของมหาวิทยาลัยjแห่งเมืองตง ครอบครัวลำบาก คะแนนผลการเรียนดี
เพราะว่างานสานสัมพันธ์ที่จัดขึ้นในโรงเรียนครั้งหนึ่ง จึงถูกคนผิวดำพวกนั้นทำมิดีมิร้าย เวลาสั้นๆเพียงหนึ่งเดือนก็ผ่านจุดที่หมดหวังสุดๆของชีวิตคน สุดท้ายกระโดดตึกลงมาจากหอพัก
ถึงแม้ชายวัยกลางคนจะรู้ทุกอย่าง แต่เพราะว่า“เหตุผลพิเศษ”บางอย่างกับหลักฐานไม่เพียงพอ เลยทำอะไรฆาตกรตัวจริงพวกนั้นไม่ได้!
ถึงแม้ในใจเขาจะมีความโกรธแค่ไหน สุดท้ายก็ได้แต่หมดหนทาง……
กลางดึก ผับแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า“ราตรี”
คนผิวดำตอนกลางวันคนนั้นจะควงกับหญิงสาวที่ย้อมผมสีทอง ด้านข้างมีเพื่อนคนผิวดำสองสามคนของเขา เดินตรงไปที่บาร์อย่างหลงระเริง
ตลอดทาง เดินผ่านพวกอันธพาล ผู้หญิงที่ดูนักเลงต่างก็ทักทายเขาหมด มองดูแล้วจะสนิทกับเขามาก
และยังมีสาวน้อยสองสามคนที่ย้อมผมสีทอง ใบหน้ามีแต่งหน้าจัด สวมชุดเปิดเผย
คนผิวดำหัวเราะ:“ฮ่าฮ่า ผมชอบ”
พาผู้หญิงกลุ่มหนึ่งนั่งลงในห้องส่วนตัวเล็กๆที่อยู่ใกล้ๆ บอกว่าเป็นห้องส่วนตัวเล็กๆ แต่ที่จริงแล้วก็แยกกับห้องโถงด้วยผ้าม่าน สามารถมองเห็นสถานการณ์ด้านนอกได้
และก็เช่นนี้ คนผิวดำที่ผมตั้งพูดกับคนผิวดำตอนกลางวันคนนั้นว่า:“ไคล์ คืนนี้ลูกพี่คาร์เตอร์มาที่นี่ไหม?”
ไคล์พูดว่า:“แน่นอนสิ j ยังไงคุณก็เพิ่งมาจากในประเทศ ลูกพี่คาร์เตอร์จะต้องมาต้อนรับคุณอยู่แล้ว ได้ยินว่าพาคนที่สุดยอดท่านหนึ่งมาด้วยนะ”
“อ้อ?”คนผิวดำผมตั้งที่ชื่อว่าjพูดอย่างสนใจ:“สุดยอดมาก ลึกลับไหม?”
ไคล์ทำเป็นส่ายหน้าอย่างลึกลับ ที่จริงเขาก็ไม่รู้ ได้แต่เปลี่ยนเรื่องพูดว่า:“j เป็นไงบ้าง?เทียบกับร้านกลางคืนที่เมื่อก่อนคุณไปแล้วเป็นไงบ้าง?นี่เป็นถิ่นผม ต้องการอะไรคุณบอกผมได้เลย”
“สุดยอด ไคล์ ในประเทศพวกเราหาผู้หญิงที่เป็นมิตรขนาดนี้ไม่เจอเลย”
Jหัวเราะหึหึ แล้วก็ชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นไม่เพียงแต่ไม่หลบ กลับหัวเราะชอบใจออกมา
“ก็คือว่า หึหึ ผู้หญิงพวกนี้ชอบพวกเรามาก พวกเธอล้วนแต่เป็น eazy gril”
ไคล์พูดอย่างภูมิใจ ถือแก้วเหล้าบนโต๊ะขึ้นมากรอกใส่ปากของผู้หญิงที่อยู่ข้างๆคนนั้น สำลักจนเธอไอออกมา แล้วไคล์ก็หัวเราะเสียงดังอย่างภูมิใจ
“เอี๊ยด!”เสียงรถเบรกดังขึ้น โรลส์รอยสรุ่นใหม่สุดคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูบาร์ราตรี
คนผิวดำสวมชุดสูทสบายๆคนหนึ่งลงมาจากรถ ที่ลงตามมาก็คนผิวดำคนหนึ่งที่สวมเสื้อลายดอก
ได้ยินแค่คนผิวดำเสื้อลายดอกนั้นตำหนิไปที่ชามสวมชุดสูท:“คาร์เตอร์ ทำไมคุณต้องมาหยุดผม?ทั้งๆที่สามารถกำจัดของปลอมนั่นอย่างสบายๆ”
คาร์เตอร์มองเพื่อนของตัวเองแวบหนึ่ง ตั้งแต่มาถึงที่นี่ หลังจากใช้“ความสามารถ”ของตัวเองปราบปรามศัตรูจำนวนมากแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็ยิ่งไร้ยางอายมากขึ้นเรื่อยๆ พฤติกรรมก็เย่อหยิ่งมากกว่าเดิม เอาแต่คร่าชีวิตคน
เขาไม่รู้ แต่คาร์เตอร์รู้ นักรบที่นี่แข็งแกร่งมาก ตอนนี้ยังไม่ได้เจอก็แค่พวกเขายังเป็นแค่นักเลงก่อกวนทั่วๆไป
ถ้าไม่ใช่คาร์เตอร์หยุดไว้ เกรงว่าเพื่อนเขาคนนี้คงไปก่อเรื่องใหญ่โตให้คนมาฆ่าตายแล้ว
“วิชชี่ คุณระวังตัวหน่อย ก่อนที่ยังทำเรื่องที่เบื้องบนสั่งมาไม่เสร็จ พวกเราต้องอยู่นิ่งๆบ้าง ไม่อย่างนั้นก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมาผมจะผลักคุณออกไปตายแทนเอง!”
คาร์เตอร์รู้ว่าห้ามปกติไม่ได้ผลต่อวิชชี่ แต่การข่มขู่เช่นนี้กลับได้ผลไม่เลว
อย่างที่คิด วิชชี่เชื่อฟังคาร์เตอร์ ถึงแม้จะยังบ่นพึมพำเล็กน้อย แต่ไม่ได้โหวกเหวกแล้วเสียงดัง
สองคนนี้เดินหน้าคนหลังคนเข้าไปในบาร์ราตรี
ตอนที่สองคนนั้นเดินเข้าไป ชายหนุ่มห้าคนทำตัวลับๆล่อๆแอบซ่อนอยู่ที่มุมกำแพงของซอยตรงข้ามผับ จ้องสองคนนี้เดินเข้าไป
“พวกเขาเข้าไปแล้ว”ชายหนุ่มรูปร่างสูงยาว สวมแว่นคนหนึ่งพูด
“ลูกพี่ ทำไงดี?”ชายร่างสูง กับชายร่างสูงล่ำที่เหมือนกับหอคอยสีดำเผชิญหน้าถามชายหนุ่มที่อยู่ตรงกลางพวกเขา
ชายคนนั้นดูอายุยังไม่มาก ท่าทางน่าจะประมาณยี่สิบสี่ยี่สิบห้า ใบหน้าสะอาดสะอ้าน แค่มองความรู้สึกแรกที่ให้ผู้คนก็คือนักเรียนหรือเจ้าหน้าที่พลเรือน
แต่ดวงตาของเขาเป็นประกายเกินกว่าคนทั่วไป ในดวงตานั้นมีสายตาแห่งความแน่วแน่เป็นอย่างมาก เป็นแบบที่หากแน่ใจกับเป้าหมายแล้วก็จะไม่ยอมแพ้ไปง่ายๆ ทำให้คนยากที่จะลืมได้
“แม่เอ๊ย ลูกพี่ แค่พี่พูดมา ผมจะพุ่งข้าไปฟันพวกเขาตายทันที!”
ชายอ้วนคนหนึ่งพูดจาเสียงดัง ดวงตาทั้งคู่แพร่ความโหดร้ายออกมา
“คุณจะฟันพวกเขาตายได้ยังไง?ถึงจะไม่อยากยอมรับเท่าไหร่ แต่กลัวว่าถึงคุณเป็นสิบคนก็ยังสู้คนผิวดำนั่นไม่ได้เลยสักนิด!”
ชายที่รูปร่างค่อนข้างเตี้ยอีกคนพูดเสียดสีอย่างไม่รักษาน้ำใจ
“เจียวพี คุณพูดอะไรน่ะ มีคนที่มุ่งมั่นจะทำลายความน่าเกรงขามตัวเองเช่นคุณไหม?”คนอ้วนพูดอย่างไม่พอใจ
“พอแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว”
ลูกพี่คนนั้นพูดว่า:“Tank เจียวพีพูดถูก คนดำสองคนนั้นไม่ใช่คนทั่วไป พวกเราจะสู้โดยประมาทไม่ได้ ได้แต่ชิงด้วยไหวพริบ”
เขาโบกมือให้คนสองสามคนนั้น ส่งสัญญาณให้พวกเขาเข้ามา พูดเบาๆว่า:“วันนี้ผมทำของดีๆมาได้สองใบจากเหล่าเฉียว คนทั่วไปกินไปคำหนึ่งก็ท้องเสียได้วันหนึ่งเลย สองใบนี้เพียงพอที่คนต่างชาติสองคนนี้จะได้รับ อีกเดี๋ยวพวกเราผสมปนเข้าไปข้างใน ไอ้แมวคุณก็……”
ขณะเดียวกัน บนดาดฟ้าของบาร์ราตรี เงาดำกระโดดขึ้นมาจากอาคารตรงข้าม เหมือนกับผีในยามราตรี มองลงไปตรงประตูทางเข้าผับ ชายหญิงที่สำมะเลเทเมากำลังเข้าๆออกๆ
ในแววตาของหลี่ฝางมีความแดงเดือดพล่าน พูดพึมพำว่า:“พวกเขาอยู่นี่แล้ว……”
ที่นี่ก็จะเป็นที่ล่าของเขาในวันนี้