NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1016 นายก็ออกไปเถอะ

บทที่ 1016 นายก็ออกไปเถอะ

ถึงยังไงตระกูลเจิ้งก็เป็นตระกูลอันดับต้นๆ ภายในประเทศ หลี่ฝางทำอะไรเจิ้งเหวินซิงขึ้นมาจริงๆ งั้นตระกูลเจิ้งก็คงจะต้องบ้าแน่ๆ

“ช่วยไม่ได้ เห็นที่ฉันคงต้องลงมือด้วยตัวเองแล้ว” เห็นท่าทีสู้ตายของเจิ้งเหวินซิง หลี่ฝางก็ถอนหายใจเบาๆ

“อะ……” เจิ้งเหวินซิงชะงักเล็กน้อย ไม่รอให้เขามีปฏิกิริยาตอบสนอง กำปั้นหนึ่งหมัดจู่ๆ ก็ชกไปที่ท้องของเขา

ต่อมา เจิ้งเหวินซิงก็รู้สึกเร็วปานลมกรดและสายฟ้าแลบ เพียงพริบตาของคนของคนรอบข้าง ร่างของเขาก็กระเด็นปลิวออกไปเหมือนกับเจิ้งซาน

“ปัง!”

ร่างของเจิ้งเหวินซิงปลิวออกไปผ่านรูใหญ่ที่เจิ้งซานกระแทกจนเป็นรูไว้

ครั้งนี้หลี่ฝางใช้แรงไม่เยอะ ดังนั้นทุกคนจึงได้ยินเสียงตกกระทบลงพื้นอย่างชัดเจน

“เอาล่ะๆ แยกย้ายกันให้หมด!”

หลี่ฝางปัดๆ มือ ราวกับว่าเมื่อกี้เพิ่งไล่แมลงวันออกไปแค่ตัวเดียวอย่างนั้น เขาพูดอย่างไม่สนใจพลางปัดมือ

ไม่นาน คนรอบข้างก็ค่อยๆ แยกย้าย และเงาร่างของหลี่ฝาง ไม่นานก็หายไปเช่นกัน

“พี่หลี่โคตรเจ๋ง!”

“นั่นคือทายาทตระกูลเจิ้งเลยนะ กลับถูกหลี่ฝางชกจนอนาถแบบนั้น”

“ชิ ทั้งหมดเป็นเจิ้งเหวินซิงหาเรื่องใส่ตัวเอง เขาเป็นคุณชายตระกูลเจิ้งแล้วยังไง พี่หลี่ใช่คนที่เขายั่วโมโหได้เหรอ?”

“นั่นมันแน่อยู่แล้ว ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้คุณชายตระกูลหวัง……”

“ชู่ว เรื่องพวกนี้ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าพี่หลี่มาได้ยิน นายก็อยากตายเหรอ……”

พวกเกาจื่อหมิงกำลังถกกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็ถูกเจิ้งจิ้นเผิงมาหยุดประเด็นนี้เอาไว้ก่อน

ทันใดนั้นเกาจื่อหมิงก็ได้สติ เรื่องมหัศจรรย์นั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องนั้นมากเกินไป ถ้าเขาอยู่ที่นี่แล้วเกิดพูดผิดไปสักคำเดียว ไม่แน่วันถัดมาศพของเขาอาจจะลอยอยู่ในแม่น้ำหยางจื่อก็เป็นได้

“เอาล่ะๆ เรื่องพวกนี้ต่อไปก็ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเราต่างคนต่างเล่นเถอะ……”

ในอีกห้องนึง เกาฉงพ่อลูกกับหลี่ฝางก็นั่งอยู่ด้านในนั้น

“เอ่อคือ……คุณหลี่ คุณแน่ใจว่าการที่โยนเจิ้งเหวินซิงออกไปจะไม่เป็นไรใช่มั้ย?” เกาฉงถามอย่างอดไม่ได้

“ไม่เป็นไร คนที่ชื่อเจิ้งซานนั่นต้องดูแลเจิ้งเหวินซิงอย่างดีแน่” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ พลางพูด

“งั้นก็ดีๆ เรื่องนี้เจิ้งเหวินซิงหาเรื่องคุณก่อน คุณจะโทษผมก็ไม่ว่าอะไร ขอแค่คนยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

เกาฉงโล่งใจ รู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

และในขณะนั้น จู่ๆ หลี่ฝางก็นึกเรื่องนึงขึ้นมาได้ และรีบถาม: “คนที่ชื่อเจียงมั่นหวั่นเป็นใครกันแน่ ตอนนี้หล่อนอยู่ไหนแล้ว?”

“เอ่อ……หล่อนก็คือดาราที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ไง” เกาฉงพูดอย่างไม่ค่อยเข้าใจ “ส่วนตอนนี้……ไม่ได้สังเกตจริงๆ แต่ว่าหล่อนก็น่าจะยังอยู่ที่นี่มั้ง? ให้ผมเรียกเธอมามั้ย?”

“ได้ ฝากคุณด้วย” หลี่ฝางพยักหน้า

ตั้งแต่ต้น เขารู้สึกว่าเจียงมั่นหวั่นนั่นไม่ธรรมดา

จากตอนนี้เห็นที เหมือนว่าเมื่อหล่อนเริ่มโผล่ไปที่ไหน ปัญหาก็เตรียมมาเลย และสายตาที่หล่อนมองหลี่ฝาง ยิ่งเต็มไปด้วยเรื่องลึกล้ำมากมาย

หลี่ฝางกำลังนึกคิดอย่างจริงจัง เกาอิงลู่กลับเข้ามาใกล้: “คุณหลี่ ขอบคุณที่มาร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดฉันนะ พูดตามตรง ที่คุณมาได้ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ จริงๆ ”

หลี่ฝางมองเกาอิงลู่อย่างเอือมๆ และพูดอย่างนิ่งๆ : “คุณหนูเกา ครั้งนี้ผมมาโดยไม่ได้รับเชิญ ต้องขออภัยด้วย”

“ไม่ๆๆ คุณมาได้ฉันก็รู้สึกเป็นเกียรติแล้ว” เกาอิงลู่สองตาเป็นประกาย: “คุณหลี่ ไม่ทราบว่าอีกสักครู่พอจะมีเวลาว่างมั้ยคะ อิงลู่อยากจะดื่มกับคุณแบบส่วนตัวสักแก้วสองแก้ว……”

ต่อหน้าการอ่อยแบบชัดเจนจนไม่รู้จะชัดเจนยังไง หลี่ฝางกับไม่ได้รับผลกระทบอะไร เขาส่ายหน้าเบาๆ : “ขอโทษด้วยคุณหนูเกา อีกแป๊บผมยังมีเรื่องต้องทำ ดังนั้นจึงต้องจำใจปฏิเสธคำเชิญคุณหนูแล้ว”

“แบบนั้นเหรอ” สายตาของเกาอิงลู่มีความผิดหวังแว๊บขึ้นมา แต่ว่าเธอก็ไม่ถอดใจ กัดฟันและขยับเข้าให้ตัวหลี่ฝาง

หลี่ฝางย้ายระยะห่างออกจากเกาอิงลู่อย่างเงียบๆ

ปกติแล้ว มาเสนอก็ต้องสนอง แต่ว่าพ่อหล่อนยังอยู่ด้านนอกนะ นี่มันเกรงใจจริงๆ

ผ่านไปสักครู่ เกาฉงก็เดินเข้ามาจากด้านนอก แล้วเช็ดเหงื่อที่ไม่ได้มีอยู่บนหน้า และพูดเสียงเบา: “คุณหลี่ เจียงมั่นหวั่นนั่น ไม่อยู่แล้ว”

“หือ? ไม่อยู่แล้วหมายความว่าไง?” หลี่ฝางไม่ค่อยเข้าใจ “หล่อนไม่ใช่คนของบริษัทคุณเหรอ? ทำไมไม่พูดไม่จาก็จากไป?”

“เรื่องนี้……ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” เกาฉงยิ้มเจื่อนๆ

หลี่ฝางให้เขาไปหา แถมยังเป็นคนของบริษัทบ้านตัวเองอีก เขาหาไม่เจอ ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนจริงๆ

“ช่างเถอะ ผมไปหาเองดีกว่า” หลี่ฝางสงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นต้องไม่ธรรมดา จึงไม่ลำบากเกาฉงแล้ว ตัวเองลุกขึ้นและออกจากห้องมา

แต่แค่ไม่ว่าเข้าจะหายังไง ก็กลับไม่เจอผู้หญิงที่ชื่อว่าเจียงมั่นหวั่น

หลี่ฝางที่หมดหนทาง ทำได้แค่วางเรื่องเจียงมั่นหวั่นลงก่อนในตอนนี้ และหันไปหาเป้าหมายตั้งแต่แรกของตน——เจิ้งเหวินซิง

คุณชายอย่างเจิ้งเหวินซิง อยากจะซ่อนตำแหน่งของตัวเอง ง่ายกว่าคนธรรม และก็ยากกว่าคนธรรมดา

เพราะว่าฐานะของพวกเขานั้นโดดเด่น ดังนั้นทุกวินาทีจะมีสายตาจำนวนนับไม่ถ้วนจ้องไปที่พวกเขา แต่ถ้าพวกเขาไม่อยากให้คนอื่นรู้ถึงตำแหน่งจริงๆ งั้นพวกเขาก็ต้องซ่อนให้ลึกมากๆ

แต่ว่าปาร์ตี้ครั้งนี้เจิ้งเหวินซิงถูกหลี่ฝางชกบาดเจ็บ คงต้องไม่มีกะจิตกะใจมาซ่อนตัวเองหรอก ดังนั้นหลี่ฝางจึงรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนอย่างง่ายดาย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท