หลิวฮุยตะโกนเสียงดังทำให้หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะเอียงหูออกจากโทรศัพท์ ขมวดคิ้วพลางพลางแคะหู
“สองร้อยล้าน? เป็นใครกันที่ยอมจ่ายเงินนี่?”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? ทีมตรวจสอบของพวกเราสังเกตเห็นข้อมูลของนายก็ไม่เลวแล้ว จะให้ไปหาคนที่ให้เงินรางวัลจากที่ไหน? นายระวังตัวเองหน่อยเถอะ”
หลิวฮุยบ่นหลี่ฝางอย่างเอือมๆ และก็วางสายไป
หลี่ฝางยิ้มอ่อนๆ ดาร์กเว็บพวกนี้ คนที่มีอำนาจทุกคนจะคิดหาวิธีตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ไม่เช่นนั้นจะไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกล่าหัวหรือไม่ มันกระอักกระอ่วนขนาดไหน?
โดยเฉพาะพวกหลิวฮุย ยิ่งต้องจับตาดูตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ดูว่าบนดาร์กเว็บจะมีรายชื่อที่พวกเขาปกป้องปรากฏอยู่หรือไม่
ถ้ามีใครไม่ลืมหูลืมตากล้าเสนอรางวัลค่าหัวของคนที่พวกเขาปกป้องในดาร์กเว็บ ไม่ต้องพูดเรื่องตรวจสอบข้อมูลเงินรางวัลเลย วันนั้นพวกเขาสามารถฆ่าคนที่ประกาศเงินรางวัลได้เลย
“แต่ว่าเป็นใครกันแน่นะที่จู่ๆ ลงเงินรางวัลให้ฉัน? คงไม่ใช่เจิ้งเหวินซิงที่ล้มอยู่กลางถนนนั่นหรอกมั้ง?” หลี่ฝางแอบเดาอยู่ในใจ ถึงยังไงคนที่เขาสร้างปัญหาด้วยช่วงนี้ คนที่สามารถเอาเงินสองร้อยล้านเหรียญออกมาได้อย่างง่ายๆ เหมือนจะมีแค่เจิ้งเหวินซิงนะ
ตอนนี้ โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ดังขึ้นอีก
ครั้งนี้เป็นเบอร์เดี่ยวๆ เอาไว้ใช้ติดต่อแค่พวกเฉินหรานเท่านั้น
หลี่ฝางขมวดคิ้ว เขาเคยสั่งเฉินหรานไว้ ถ้าไม่มีเรื่องที่เร่งด่วนไม่ต้องโทรเบอร์นี้ แต่หากโทรมาแล้ว ก็แสดงว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้น
หลี่ฝางรับสาย เสียงหายใจที่หนักหน่วงของเฉินหรานก็ดังขึ้นจากด้านใน: “เจ้านาย พวกเราถูกจับแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงหลี่ฝางเข้มลง
ในโทรศัพท์มีเสียงอู้อี้ของเฉินหรานดังขึ้นและก็เปลี่ยนเป็นเสียงงึมงำภาษาจีน: “สวัสดี คนแปลกหน้า ช่วงนี้นายหาเรื่องมาให้พวกเราไว้เยอะ คืนนี้สี่ทุ่ม ที่โรงงานเฉินซีเลขที่17 นายมาคนเดียว ห้ามพกอาวุธใดๆ มาทั้งสิ้น ถ้าหากไม่มา เด็กของนายพวกนี้จะลงไปดำน้ำในทะเล ถ้าหากนายพาคนอื่นหรือพกอาวุธมา เด็กของแกพวกนี้จะถูกไปเลี้ยงเป็นอาหารหมา ฉันหวังว่านายจะมา”
“ติ๊ด!” สายตัดไปแล้ว หลี่ฝางฟังเสียง “ตู๊ดๆ ” ที่ดังขึ้นจากด้านใน ความเย็นชาก็ปรากฏในดวงตา
คนที่จับพวกเฉินหรานไป ก็คงจะมีแต่พวกกลุ่มคนผิวสีที่มีอำนาจนั่นแล้ว
หลังจากตกดึก หลี่ฝางก็รีบไปถึงสถานที่ที่พูดในโทรศัพท์ ก็พบว่ามันคือโรงงานร้าง ไกลออกไปยังสามารถได้ยินเสียงหมาป่าหอนอยู่ในนั้นได้เลย
ประตูใหญ่ปิดแน่น ด้านนอกมีรถตู้สองคันจอดไว้ รั้วล้อมสูงสามเมตรที่ขึงกรงเหล็กกับกระจกที่แตก
หลี่ฝางดูรอบๆ โรงงานจากที่ไกลๆ ไปหนึ่งรอบ และก็ไม่สามารถยืนยันได้เลยว่าที่นี่จะใช่รังโจรธรรมดาหรือไม่
ขณะนั้น จู่ๆ ด้านข้างก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์โผล่มา ในมือของพวกเขาชูปืนปก ค่อยๆ เล็งไปที่หลี่ฝาง
คนพวกนี้ก็รู้ว่าหลี่ฝางไม่ธรรมดา คนที่ทะเลาะและสามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง ดังนั้นสีหน้าของแต่ละคนจึงระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ไม่กล้าประมาท
คนผิวสีที่นำกลุ่มถือปืน เดินมาถึงด้านหน้าหลี่ฝาง หน้าสีดำมีความลนลานเล็กน้อย: “เป็นนายที่ฆ่าคนของพวกเรา? แถมยังแย่งของของพวกเรา?”
“หัวหน้าของพวกนายอยากเจอฉันไม่ใช่เหรอ? รีบให้เขาโผล่หัวมา อย่าทำให้ฉันเสียเวลา” หลี่ฝางพูดอย่างไม่เกรงใจ
“นายนี่อวดดีจริงๆ หวังว่าอีกครู่นึงจะยังทนไหว” คนผิวสีคนนั้นหัวเราะอย่างเย็นชา และขยับปืน แสดงความหมายให้หลี่ฝางเดินเข้าไปด้านใน
หลี่ฝางไม่พูดอะไร และเดินเข้าไปในโรงงานโดยมีกลุ่มคนผิวสีล้อมรอบ คนผิวสีคนนั้นเดินอยู่ด้านหลังเขา จ้องไปที่ท่าทางของหลี่ฝาง
เดินเข้าไปในโรงงาน ก็เห็นพื้นที่โล่งหลังประตูบานใหญ่ คนห้าหกสิบคนยืนเรียงสองแถว ทั้งหมดล้วนถือปืน เมื่อเห็นหลี่ฝางเดินเข้ามาก็ต่างจ้องไปที่หลี่ฝางอย่างมุ่งร้าย
หลังจากหลี่ฝางเดินเข้ามา หมาสองตัวก็เห่าใส่หลี่ฝางไม่หยุด
“แม่งเอ๊ย เห่าหาพ่อง สองคนมาเอาหมาลากไปที”
ชายผิวสีหัวล้านที่ร่างหนากว่าสูงกว่าเดินออกมาจากด้านใน กล้ามแข็งราวกับก้อนหินไปทั้งร่าง ผิวทั่วตัวทั้งดำทั้งมันเงา
คนด้านหลังเพราะว่าหลี่ฝางเข้ามาอยู่ในวงล้อมของพวกเขา จึงดูบึกบึนไม่น้อย และผลักไหล่หลี่ฝางทีนึง: “ไปเถอะ นายสู้ได้ไม่ใช่เหรอ วันนี้มีคนอยู่ที่นี้หกสิบกว่าคนพอดี ฉันจะดูว่านายจะล้มได้กี่คน”
คนแถวนึงเดินเข้าไปในโกดัง มองตามไป สินค้าเดิมของโกดังยังมีหลงเหลือบางส่วนอยู่ด้านใน ชั้นวาง เว้นที่ว่างไว้ให้กว้างมาก
เมื่อหลี่ฝางเดินเข้ามาแล้ว พวกร่างใหญ่ที่เคยอยู่ด้านนอกก็ตามเข้ามา และแบ่งออกไปนั่งตามมุมของโกดัง ปล่อยให้หลี่ฝางยืนอยู่ตรงกลาง เต็มไปด้วยแรงอาฆาต
แต่หลี่ฝางไม่ได้ชายตามองพวกเขาเลย สายตาของเขาถูกดึงดูดด้วยอีกมุมนึงของโกดัง
นั่นก็คือกรงแบบที่เอาไว้ขังเสือในสวนสัตว์ ข้างในกรงขังพวกเฉินหรานไว้ห้าคน
เพราะว่ากรงมันแคบ และก็ไม่สูงพอ ดังนั้นพวกเขาห้าคนจึงทำได้แค่นั่งยองๆ เบียดกัน บนร่างมีรอยเลือดเปื้อน บนใบหน้ามีรอบฟกช้ำและเลือด
“เจ้านาย……” เมื่อเห็นหลี่ฝางเข้ามา เฉินหรานก็เรียกอย่างอ่อนแรง
เพราะว่าหลี่ฝางได้ให้เงินทุนสำหรับกิจกรรมของพวกเขามาตลอด ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกหลี่ฝางว่าเจ้านายโดยธรรมชาติไป
แต่ว่าตั้งแต่คืนที่เขาเจอเฉินหรานครั้งแรก หลี่ฝางก็ได้ปกปิดฐานะที่แท้จริงเอาไว้ ดังนั้นทุกคนจึงไม่รู้ถึงฐานะที่แท้จริงของหลี่ฝาง
หลี่ฝางพยักหน้าไปทางพวกเขา แล้วพูด: “ความทรมานที่พวกนายได้รับ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นสิบเท่า”
“ไอ้หนู นายอวดดีมากนักนะ” คนผิวสีหัวล้านร่างใหญ่คนนั้นจ้องเขม็งไปที่เขาและยิ้มอย่างโหดเหี้ยมพลางพูด: “นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?”
“ฉันไม่ต้องการรู้ว่านายเป็นใคร” หลี่ฝางยกมือขึ้นมาข้างนึง เขาขี้เกียจแม้กระทั่งจะมองดูรูปร่างหน้าตาของคนพวกนี้อย่างละเอียด “ฉันไม่พูดมากกับคนตาย!”
ความรู้สึกวิกฤตและความหวาดกลัวเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในหัวของชายหัวโล้นร่างใหญ่ ต่อมาเขาก็แหกปากเสียงดัง: “รีบฆ่ามัน!รีบยิงเร็วเข้า!”
เมื่อเขาเอ่ยปาก พวกคนที่รู้สึกตึงเครียดอยู่แล้วยังลั่นปืนทันทีโดยไม่ต้องคิด
เมื่อคนหัวโล้นร่างใหญ่พูด ในใจก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เพราะจากที่เขาเห็นไม่มีใครที่สามารถมีชีวิตอยู่รอดหลังจากปืนหลายสิบกระบอกนี้
ที่จริงเขาอยากจะถามว่าที่จริงแล้วเป็นใครที่ส่งหนุ่มจีนที่อยู่ตรงหน้ามาจัดการกับพวกเขา ตอนนี้คนก็อยู่ไม่ได้แล้ว
และวินาทีต่อมา คนหัวโล้นร่างใหญ่ก็เบิกตากว้างทันที
กระสุนทั้งหมดถูกยิงจนหมดแม็ก เงาร่างของหลี่ฝางราวกับปีศาจ แว๊บไปมาซ้ายขวา ทั้งร่างกลายเป็นเงาสีดำ หลีกเลี่ยงการโจมตีทั้งหมด
ต่อมา คนรอบข้างก็มองด้วยสายตาเหลือเชื่อราวกับได้เห็นสัตว์ประหลาด หลี่ฝางหัวเราะ ยื่นมือขวาออกมาปัดไปปัดมา ภายใต้การควบคุม กระสุนทั้งหมดถูกยิงออกมาตามวิถีกระสุน ด้วยความเร็วเหมือนกัน และหันกลับไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เสียงดัง “ฉึกๆ ” เลือดเนื้อถูกยิงจนเกิดเสียง ทุกคนที่ลั่นไกเมื่อกี้ทั้งหมดต่างล้มลงไปกับพื้น
“อ๊า!ฉันจะฆ่าแก!”
คนหัวโล้นร่างใหญ่พูดเสียงดัง แต่ก็แค่โมโหกลบความหวาดกลัวเท่านั้น แถมยังเป็นความกลัวที่มากเกินไปทำให้เขาเสียสติ ตัวเขารีบพุ่งเข้าไปหาหลี่ฝางอย่างบ้าคลั่ง