NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1018 เฉินหรานถูกจับ

บทที่ 1018 เฉินหรานถูกจับ

หลิวฮุยตะโกนเสียงดังทำให้หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะเอียงหูออกจากโทรศัพท์ ขมวดคิ้วพลางพลางแคะหู

“สองร้อยล้าน? เป็นใครกันที่ยอมจ่ายเงินนี่?”

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? ทีมตรวจสอบของพวกเราสังเกตเห็นข้อมูลของนายก็ไม่เลวแล้ว จะให้ไปหาคนที่ให้เงินรางวัลจากที่ไหน? นายระวังตัวเองหน่อยเถอะ”

หลิวฮุยบ่นหลี่ฝางอย่างเอือมๆ และก็วางสายไป

หลี่ฝางยิ้มอ่อนๆ ดาร์กเว็บพวกนี้ คนที่มีอำนาจทุกคนจะคิดหาวิธีตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ไม่เช่นนั้นจะไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกล่าหัวหรือไม่ มันกระอักกระอ่วนขนาดไหน?

โดยเฉพาะพวกหลิวฮุย ยิ่งต้องจับตาดูตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ดูว่าบนดาร์กเว็บจะมีรายชื่อที่พวกเขาปกป้องปรากฏอยู่หรือไม่

ถ้ามีใครไม่ลืมหูลืมตากล้าเสนอรางวัลค่าหัวของคนที่พวกเขาปกป้องในดาร์กเว็บ ไม่ต้องพูดเรื่องตรวจสอบข้อมูลเงินรางวัลเลย วันนั้นพวกเขาสามารถฆ่าคนที่ประกาศเงินรางวัลได้เลย

“แต่ว่าเป็นใครกันแน่นะที่จู่ๆ ลงเงินรางวัลให้ฉัน? คงไม่ใช่เจิ้งเหวินซิงที่ล้มอยู่กลางถนนนั่นหรอกมั้ง?” หลี่ฝางแอบเดาอยู่ในใจ ถึงยังไงคนที่เขาสร้างปัญหาด้วยช่วงนี้ คนที่สามารถเอาเงินสองร้อยล้านเหรียญออกมาได้อย่างง่ายๆ เหมือนจะมีแค่เจิ้งเหวินซิงนะ

ตอนนี้ โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ดังขึ้นอีก

ครั้งนี้เป็นเบอร์เดี่ยวๆ เอาไว้ใช้ติดต่อแค่พวกเฉินหรานเท่านั้น

หลี่ฝางขมวดคิ้ว เขาเคยสั่งเฉินหรานไว้ ถ้าไม่มีเรื่องที่เร่งด่วนไม่ต้องโทรเบอร์นี้ แต่หากโทรมาแล้ว ก็แสดงว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้น

หลี่ฝางรับสาย เสียงหายใจที่หนักหน่วงของเฉินหรานก็ดังขึ้นจากด้านใน: “เจ้านาย พวกเราถูกจับแล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงหลี่ฝางเข้มลง

ในโทรศัพท์มีเสียงอู้อี้ของเฉินหรานดังขึ้นและก็เปลี่ยนเป็นเสียงงึมงำภาษาจีน: “สวัสดี คนแปลกหน้า ช่วงนี้นายหาเรื่องมาให้พวกเราไว้เยอะ คืนนี้สี่ทุ่ม ที่โรงงานเฉินซีเลขที่17 นายมาคนเดียว ห้ามพกอาวุธใดๆ มาทั้งสิ้น ถ้าหากไม่มา เด็กของนายพวกนี้จะลงไปดำน้ำในทะเล ถ้าหากนายพาคนอื่นหรือพกอาวุธมา เด็กของแกพวกนี้จะถูกไปเลี้ยงเป็นอาหารหมา ฉันหวังว่านายจะมา”

“ติ๊ด!” สายตัดไปแล้ว หลี่ฝางฟังเสียง “ตู๊ดๆ ” ที่ดังขึ้นจากด้านใน ความเย็นชาก็ปรากฏในดวงตา

คนที่จับพวกเฉินหรานไป ก็คงจะมีแต่พวกกลุ่มคนผิวสีที่มีอำนาจนั่นแล้ว

หลังจากตกดึก หลี่ฝางก็รีบไปถึงสถานที่ที่พูดในโทรศัพท์ ก็พบว่ามันคือโรงงานร้าง ไกลออกไปยังสามารถได้ยินเสียงหมาป่าหอนอยู่ในนั้นได้เลย

ประตูใหญ่ปิดแน่น ด้านนอกมีรถตู้สองคันจอดไว้ รั้วล้อมสูงสามเมตรที่ขึงกรงเหล็กกับกระจกที่แตก

หลี่ฝางดูรอบๆ โรงงานจากที่ไกลๆ ไปหนึ่งรอบ และก็ไม่สามารถยืนยันได้เลยว่าที่นี่จะใช่รังโจรธรรมดาหรือไม่

ขณะนั้น จู่ๆ ด้านข้างก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์โผล่มา ในมือของพวกเขาชูปืนปก ค่อยๆ เล็งไปที่หลี่ฝาง

คนพวกนี้ก็รู้ว่าหลี่ฝางไม่ธรรมดา คนที่ทะเลาะและสามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง ดังนั้นสีหน้าของแต่ละคนจึงระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ไม่กล้าประมาท

คนผิวสีที่นำกลุ่มถือปืน เดินมาถึงด้านหน้าหลี่ฝาง หน้าสีดำมีความลนลานเล็กน้อย: “เป็นนายที่ฆ่าคนของพวกเรา? แถมยังแย่งของของพวกเรา?”

“หัวหน้าของพวกนายอยากเจอฉันไม่ใช่เหรอ? รีบให้เขาโผล่หัวมา อย่าทำให้ฉันเสียเวลา” หลี่ฝางพูดอย่างไม่เกรงใจ

“นายนี่อวดดีจริงๆ หวังว่าอีกครู่นึงจะยังทนไหว” คนผิวสีคนนั้นหัวเราะอย่างเย็นชา และขยับปืน แสดงความหมายให้หลี่ฝางเดินเข้าไปด้านใน

หลี่ฝางไม่พูดอะไร และเดินเข้าไปในโรงงานโดยมีกลุ่มคนผิวสีล้อมรอบ คนผิวสีคนนั้นเดินอยู่ด้านหลังเขา จ้องไปที่ท่าทางของหลี่ฝาง

เดินเข้าไปในโรงงาน ก็เห็นพื้นที่โล่งหลังประตูบานใหญ่ คนห้าหกสิบคนยืนเรียงสองแถว ทั้งหมดล้วนถือปืน เมื่อเห็นหลี่ฝางเดินเข้ามาก็ต่างจ้องไปที่หลี่ฝางอย่างมุ่งร้าย

หลังจากหลี่ฝางเดินเข้ามา หมาสองตัวก็เห่าใส่หลี่ฝางไม่หยุด

“แม่งเอ๊ย เห่าหาพ่อง สองคนมาเอาหมาลากไปที”

ชายผิวสีหัวล้านที่ร่างหนากว่าสูงกว่าเดินออกมาจากด้านใน กล้ามแข็งราวกับก้อนหินไปทั้งร่าง ผิวทั่วตัวทั้งดำทั้งมันเงา

คนด้านหลังเพราะว่าหลี่ฝางเข้ามาอยู่ในวงล้อมของพวกเขา จึงดูบึกบึนไม่น้อย และผลักไหล่หลี่ฝางทีนึง: “ไปเถอะ นายสู้ได้ไม่ใช่เหรอ วันนี้มีคนอยู่ที่นี้หกสิบกว่าคนพอดี ฉันจะดูว่านายจะล้มได้กี่คน”

คนแถวนึงเดินเข้าไปในโกดัง มองตามไป สินค้าเดิมของโกดังยังมีหลงเหลือบางส่วนอยู่ด้านใน ชั้นวาง เว้นที่ว่างไว้ให้กว้างมาก

เมื่อหลี่ฝางเดินเข้ามาแล้ว พวกร่างใหญ่ที่เคยอยู่ด้านนอกก็ตามเข้ามา และแบ่งออกไปนั่งตามมุมของโกดัง ปล่อยให้หลี่ฝางยืนอยู่ตรงกลาง เต็มไปด้วยแรงอาฆาต

แต่หลี่ฝางไม่ได้ชายตามองพวกเขาเลย สายตาของเขาถูกดึงดูดด้วยอีกมุมนึงของโกดัง

นั่นก็คือกรงแบบที่เอาไว้ขังเสือในสวนสัตว์ ข้างในกรงขังพวกเฉินหรานไว้ห้าคน

เพราะว่ากรงมันแคบ และก็ไม่สูงพอ ดังนั้นพวกเขาห้าคนจึงทำได้แค่นั่งยองๆ เบียดกัน บนร่างมีรอยเลือดเปื้อน บนใบหน้ามีรอบฟกช้ำและเลือด

“เจ้านาย……” เมื่อเห็นหลี่ฝางเข้ามา เฉินหรานก็เรียกอย่างอ่อนแรง

เพราะว่าหลี่ฝางได้ให้เงินทุนสำหรับกิจกรรมของพวกเขามาตลอด ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกหลี่ฝางว่าเจ้านายโดยธรรมชาติไป

แต่ว่าตั้งแต่คืนที่เขาเจอเฉินหรานครั้งแรก หลี่ฝางก็ได้ปกปิดฐานะที่แท้จริงเอาไว้ ดังนั้นทุกคนจึงไม่รู้ถึงฐานะที่แท้จริงของหลี่ฝาง

หลี่ฝางพยักหน้าไปทางพวกเขา แล้วพูด: “ความทรมานที่พวกนายได้รับ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นสิบเท่า”

“ไอ้หนู นายอวดดีมากนักนะ” คนผิวสีหัวล้านร่างใหญ่คนนั้นจ้องเขม็งไปที่เขาและยิ้มอย่างโหดเหี้ยมพลางพูด: “นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?”

“ฉันไม่ต้องการรู้ว่านายเป็นใคร” หลี่ฝางยกมือขึ้นมาข้างนึง เขาขี้เกียจแม้กระทั่งจะมองดูรูปร่างหน้าตาของคนพวกนี้อย่างละเอียด “ฉันไม่พูดมากกับคนตาย!”

ความรู้สึกวิกฤตและความหวาดกลัวเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในหัวของชายหัวโล้นร่างใหญ่ ต่อมาเขาก็แหกปากเสียงดัง: “รีบฆ่ามัน!รีบยิงเร็วเข้า!”

เมื่อเขาเอ่ยปาก พวกคนที่รู้สึกตึงเครียดอยู่แล้วยังลั่นปืนทันทีโดยไม่ต้องคิด

เมื่อคนหัวโล้นร่างใหญ่พูด ในใจก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เพราะจากที่เขาเห็นไม่มีใครที่สามารถมีชีวิตอยู่รอดหลังจากปืนหลายสิบกระบอกนี้

ที่จริงเขาอยากจะถามว่าที่จริงแล้วเป็นใครที่ส่งหนุ่มจีนที่อยู่ตรงหน้ามาจัดการกับพวกเขา ตอนนี้คนก็อยู่ไม่ได้แล้ว

และวินาทีต่อมา คนหัวโล้นร่างใหญ่ก็เบิกตากว้างทันที

กระสุนทั้งหมดถูกยิงจนหมดแม็ก เงาร่างของหลี่ฝางราวกับปีศาจ แว๊บไปมาซ้ายขวา ทั้งร่างกลายเป็นเงาสีดำ หลีกเลี่ยงการโจมตีทั้งหมด

ต่อมา คนรอบข้างก็มองด้วยสายตาเหลือเชื่อราวกับได้เห็นสัตว์ประหลาด หลี่ฝางหัวเราะ ยื่นมือขวาออกมาปัดไปปัดมา ภายใต้การควบคุม กระสุนทั้งหมดถูกยิงออกมาตามวิถีกระสุน ด้วยความเร็วเหมือนกัน และหันกลับไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

เสียงดัง “ฉึกๆ ” เลือดเนื้อถูกยิงจนเกิดเสียง ทุกคนที่ลั่นไกเมื่อกี้ทั้งหมดต่างล้มลงไปกับพื้น

“อ๊า!ฉันจะฆ่าแก!”

คนหัวโล้นร่างใหญ่พูดเสียงดัง แต่ก็แค่โมโหกลบความหวาดกลัวเท่านั้น แถมยังเป็นความกลัวที่มากเกินไปทำให้เขาเสียสติ ตัวเขารีบพุ่งเข้าไปหาหลี่ฝางอย่างบ้าคลั่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท