เห็นเพียงว่าที่ใต้ดินแห่งนี้เป็นดั่งสวรรค์บนดิน กลุ่มเมฆหมอกลอยปกคลุมไปทั่ว สิ่งก่อสร้างจากหยกสีขาวเรียงสลับซับซ้อนอย่างมีรสนิยม ประณีตและงดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
และท่ามกลางกลุ่มเมฆหมอกที่ลอยเป็นเกลียว ยังเกลื่อนกลาดไปด้วยแสงอรุโณทัยเปลี่ยนแปลงไปร้อยแปดพันเก้า บางครั้งก็มีบางครั้งก็หาย เหมือนจะจริงเหมือนจะเป็นภาพลวงตา มันช่างทำให้คนรู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ
“นี่ก็คือพลังอันแปลกประหลาดพวกนั้น” กู่ยี่เทียนกล่าว พลางเอื้อมมือออกไปคว้า ทันใดนั้น แสงอรุโณทัยก้อนหนึ่งตกลงมาในมือของเขา และถูกเขาดูดกลืนเข้าไปในพริบตา
หลี่ฝางเห็นการกระทำของกู่ยี่เทียน ภายใต้ความอยากรู้อยากเห็นเขาจึงได้ลองทำตาม ชั่วพริบตาเดียว พลังอันแปลกประหลาดที่ถูกเขาคว้าเอามานั้นก็ได้ผสมผสานเข้ากับกำลังภายในที่อยู่ในร่างของเขา ทำให้กำลังภายในในร่างของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นมาเล็กน้อย
“สามารถดูดซับได้ในชั่วพริบตาเลยงั้นเหรอ?” หลี่ฝางค่อนข้างแปลกใจ “มันสามารถผสมผสานได้เองเหรอ?”
“ฮ่า ๆ ๆ นี่ก็คือจุดที่น่าประหลาดใจของพลังอันแปลกประหลาดนี่ บริสุทธิ์อย่างมาก ไม่ต้องมีการแปรผันเลยสักนิด เพียงแค่ร่างกายของคุณสามารถรับได้ คุณก็สามารถดูดซับเข้าไปเรื่อย ๆ เพื่อเพิ่มพลังกำลังภายใน!”
“สุดยอด” หลี่ฝางกล่าวชื่นชม “ถึงว่าทำไมพลังของนายถึงได้เพิ่มขึ้นเร็วขนาดนี้”
“เหอะ ๆ ……” กู่ยี่เทียนเจ็บปวดไม่น้อย พลังของเส้นลี่ฝางกับกู่ยี่เทียน ในตอนนี้ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ หลี่ฝางกล่าวเช่นนี้ เหมือนกับกำลังชมว่าตัวเองร้ายกาจอย่างไรอย่างนั้น
คำพูดของทั้งสองคนเมื่อตกถึงหูของปรมาจารย์กำลังภายในคนอื่น ๆ ก็พลันทำให้พวกปรมาจารย์กำลังภายในรู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที
คนที่ลงมือคนแรกมีชื่อว่าลู่เจิ้งชู เขาไม่คิดอะไรเลยสักนิด แล้วยื่นมือออกไปคว้าก้อนพลังอันแปลกประหลาดนั้นลองดูก่อนค่อยว่ากัน
แต่ทว่าเพียงชั่วพริบตานั้นเอง จู่ ๆ ดวงตาทั้งสองข้างของลู่เจิ้งชูก็พลันนูนออกมา กำลังภายในที่อยู่ในร่างกายถูกพลังอันแปลกประหลาดนั่นกวาดล้าง ถึงขนาดพูดได้ว่าเปราะบางเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้น ลู่เจิ้งชูก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย “อั๊ก” เลือดสด ๆ กระอักออกมาจากปากของเขา
“ปัญญาอ่อน!” เสือขาวที่อยู่ด้านข้างกล่าวเหยียดหยาม “ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเต๋าถึงจะสามารถดูดกลืนพลังอันแปลกประหลาดนี่ได้โดยตรง แค่ฝีมืออย่างนาย ช่างน่าตลกเสียจริง!”
ลู่เจิ้งชูโมโหขึ้นมาทันที: “สารเลว!”
ในตอนนี้เองกู่ยี่เทียนก็ได้เอ่ยขึ้นมา: “พอเถอะน่า ในเมื่อได้รับบทเรียนแล้วก็เงียบ ๆ หน่อย! ในที่แห่งนี้มีอะไรที่คาดไม่ถึงอยู่มากมาย ถ้าหากพวกนายทำอะไรมั่วซั่วตามอำเภอใจโดยไม่ฟังคำสั่ง พอถึงตอนนั้นอย่าโทษที่ฉันโยนพวกนายออกไป!”
“ครับ!” สี่ขุนศึกกล่าวโดยพร้อมเพรียง
ปรมาจารย์กำลังภายในคนอื่น ๆ มองหน้ากันไปมา และทำได้เพียงพยักหน้ารับอย่างจำใจ
ความสามารถสู้คนอื่นไม่ได้ พวกเขาเองก็ไม่มีอะไรจะพูด
หลี่ฝางมองดูสีหน้าท่าทางปรารถนาของไท่ซางและราฟาเอล จึงยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เขาลงมือสลายกลุ่มพลังอันแปลกประหลาดก้อนหนึ่งออกแล้วผสมผสานเข้าด้วยกันอีกครั้ง ที่พลังภายในสามารถดูดซับได้
หลี่ฝางมอบพลังอันแปลกประหลาดที่ตัวเองได้ผสมผสานใหม่อีกครั้งนั้นให้กับไท่ซางและราฟาเอล พลางกล่าว: “พลังงานทั้งสองก้อนนี้ถึงแม้พลังภายในจะสามารถดูดซับได้ แต่ก็ต้องค่อย ๆ ดูดซับทีละนิด ถ้าหากเร็วเกินไป พวกนายเองก็จะทนรับไม่ได้”
“ขอบคุณครับลูกพี่” ไท่ซางหัวเราะแหะ ๆ และรับเอาก้อนพลังอันแปลกประหลาดมาเป็นคนแรก ราฟาเอลถึงแม้จะไม่ได้เร่งรีบเหมือนเจ้าลิงคนนั้น แต่ก็ปรากฏความรีบร้อนขึ้นมาในสายตา หลังจากที่ได้เอ่ยขอบคุณตามแล้วจึงได้รับเอามา
ทั้งสองคนทดลองดู สามารถดูดซับได้อย่างที่คิดจริง ๆ จึงรู้สึกปีติยินดีขึ้นมาภายในใจทันที
คนอื่น ๆ เห็นท่าทางเบิกบานอย่างได้ใจของไท่ซางและราฟาเอล ก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาภายในใจ
คงจะไม่ให้พวกเขายอมเป็นลูกน้องของหลี่ฝาง แล้วขอร้องให้หลี่ฝางช่วยทำให้ตัวเองสักหน่อยหรอกใช่ไหม?
ของล้ำค่าแบบนี้อยู่ของกายแต่ทำอะไรไม่ได้มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานจริง ๆ
“พวกนายวางใจเถอะ พวกเราได้ศึกษาวิธีดูดซับพลังงานพวกนี้ออกมาได้แล้ว หลังจากที่ออกไปแล้วจะเอามาให้พวกนายได้ใช้” คำพูดของกู่ยี่เทียน ทำให้ทุกคนรู้สึกสงบลงมาไม่น้อย
ทุกคนเดินต่อไปยังข้างหน้า เดินผ่านสะพานโค้งตึกหอหรูหรา ยิ่งเดินยิ่งลึกเข้าไปเรื่อย ๆ
ด้านหน้าค่อย ๆ ปรากฏถนนเล็ก ๆ ที่ราบเรียบขึ้นมา กู่ยี่เทียนได้หยุดฝีเท้าลง
“ที่นี่อันตรายมาก จะต้องระมัดระวังอย่างสุดขีด รักษาสติปัญญาและกำลังเอาไว้ อย่าชะล่าใจอย่างเด็ดขาด!”
เมื่อได้ยินคำตักเตือนของกู่ยี่เทียน ทุกคนก้ได้พินิจพิจารณาถนนด้านล่างสายนี้ด้วยความประหลาดใจ กลับพบว่าหมอกควันที่อยู่ด้านข้างของถนนทั้งสองฝั่งนั้นหนาแน่นเป็นพิเศษ ถึงขั้นที่ความสามารถในการมองเห็นอันแข็งแกร่งของทุกคนก็ไม่อาจมองทะลุได้ แฝงไปด้วยความรู้สึกอึมครึมบางอย่าง
มีเพียงถนนที่อยู่ตรงกลางสายนั้นไม่มีหมอกปกคลุม ถูกขับดันด้วยหมอกที่อยู่ทั้งสองข้างทาง ดุจดั่งเส้นทางสู่โลกยมบาล
หลี่ฝางและกู่ยี่เทียนเดินนำเข้าไป เดินมาได้สักระยะ หลี่ฝางไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใด ๆ
ในขณะที่กำลังจะเอ่ยถามกู่ยี่เทียนนั่นเอง จู่ ๆ ก็เห็นคนในกลุ่มคนหนึ่งเดินออกไปจากกลุ่ม มุ่งหน้าไปยังหมอกหนาที่อยู่ข้างถนน
ไม่คิดรีรอเลยสักนิด หลี่ฝางตะโกนขึ้นมา แล้วพุ่งเข้าไปหาชายคนนั้น
และในขณะเดียวกัน เสียงตะโกนอีกเสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้นมา เป็นเสียงตะโกนของกู่ยี่เทียน
เสียงตะโกนของทั้งสองคนราวกับฟ้าผ่าตอนกลางวัน จู่ ๆ ก็ทำให้ปรมาจารย์กำลังภายในสั่นสะท้านไปทั้งตัว จากนั้นบนใบหน้าของพวกเขาก็ได้มีท่าทางหวาดผวาอย่างบอกไม่ถูกปรากฏขึ้นมา
เพราะว่าเมื่อสักครู่นั้นทุกคนต่างเหมือนดั่งได้ตกอยู่ในภาพเพ้อฝัน ในสมองสับสนวุ่นวายไปหมด พวกเขาได้ติดกับเข้าให้แล้ว แต่กลับไม่รู้ตัวเลยสักนิด!
สถานการณ์เช่นนี้ ถ้าหากที่ข้างกายมีศัตรูอยู่ เช่นนั้นพวกเขาคงไม่หมดลมหายใจไปเลยเหรอ?
พอนึกถึงตอนนี้ ทุกคนต่างหวาดผวาจนเหงื่อไหลท่วมกาย
ส่วนเงาร่างคนที่เดินไปไกลที่สุดร่างนั้น กลับเป็นกู่เฟยจางเจ้าหุบเขาแห่งหุบเขาราชายา เขาได้เดินไปจนถึงเส้นขอบของหมอกอันหนาทึบนั่นแล้ว ถ้าช้าไปอีกนิดก็คงหลงเข้าไปอย่างสิ้นเชิง
“ที่นี่แม้แต่ปรมาจารย์กำลังภายในอย่างพวกเราเองยังถูกทำให้สับสนได้โดยไม่รู้ตัว!” กู่เฟยจางกล่าวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“ถูกต้อง” กู่ยี่เทียนเดินขึ้นมาพลางกล่าว: “ที่นี่มีพืชชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่าหญ้าวิเศษ ถูกปลูกไว้ในหมอกหนาทึบที่อยู่สองข้างทาง มีฤทธิ์ทำให้ประสาทหลอนที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก ไร้สีไร้กลิ่น ออกฤทธิ์ได้ผ่านทางผิวหนัง อันตรายสุดขีด”
กู่ยี่เทียนสีหน้าเคร่งขรึม: “ถ้าหากเมื่อสักครู่มีคนเดินเข้าไปในพงหญ้าจริง ๆ ตอนนี้ก็คงออกมาไม่ได้อย่างแน่นอน ฤทธิ์ที่ทำให้ประสาทหลอนที่ข้างในนั้น ปรมาจารย์กำลังภายในเองก็ต้องจมอยู่ในนั้นโดยสิ้นเชิง”
เหล่าปรมาจารย์กำลังภายในเมื่อได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกขนพองสยองเกล้า อดไม่ได้ที่จะเบียดเขาไปตรงกลางของถนน
“หรือว่าจะปล่อยให้ของบ้า ๆ พวกนี้อยู่ที่นี่ตามอำเภอใจเหรอ?” คนคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา: “กวาดล้างพวกมันให้สิ้นซากไปเลยดีกว่า!”
“นายรู้ไหมว่าพืชพันธุ์พวกนี้สื่อถึงอะไร?” กู่ยี่เทียนกล่าวอย่างเรียบ ๆ พลางชายตามองปรมาจารย์กำลังภายในคนนั้น: “มูลค่าของมัน สูงกว่านายเป็นหลายสิบเท่า”
คนคนนั้นพลันโมโหขึ้นมา แต่กลับไม่อาจถกเถียงได้ ทำได้เพียงอดกลั้นเอาไว้