NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1025 วิกฤติที่เกิดจากน้ำลายหนึ่งคำ

บทที่ 1025 วิกฤติที่เกิดจากน้ำลายหนึ่งคำ

“งั้นทำไม่เอาพวกมันไปปลูกที่อื่นล่ะ?” กู่เฟยจางเอ่ยถาม: “ทิ้งไว้ที่นี่แบบนี้ มันสิ้นเปลืองมากจริง ๆ นะ”

“ทำไม่ได้ สภาพแวดล้อมที่อำนวยของที่นี่ทำให้หญ้าวิเศษมีชีวิตต่อไปได้ แต่ทันทีที่ไปสู่โลกภายนอก หญ้าวิเศษก็จะเฉาตายไปอย่างรวดเร็ว สูญเสียฤทธิ์ยาทุกอย่างไป” กู่ยี่เทียนกล่าวอธิบาย

“น่าเสียดายจัง” กู่ยี่เทียนถอนหายใจยาว ๆ

“ถ้าหากคุณยินยอมที่จะเข้าร่วมศึกษาค้นคว้ากับพวกเรา ผมคิดว่าไม่นานก็คงจะค้นพบวิธีใช้ประโยชน์จากหญ้าวิเศษ” จู่ ๆ กู่ยี่เทียนก็เอ่ยขึ้นมา: “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะเข้าร่วม”

กู่เฟยจางยินดีปรีดาขึ้นมาทันที: “แน่นอน! ผมยินดีที่จะเข้าร่วมอย่างแน่นอน!”

สำหรับคนที่หลงใหลในเภสัชวิทยาเช่นนี้แล้ว เขาไม่ยอมที่จะพลาดโอกาสแบบนี้ไปอย่างแน่นอน

กู่ยี่เทียนยิ้มขึ้นมาทันที

สีหน้าท่าทางของปรมาจารย์กำลังภายในคนอื่น ๆ พิลึกกึกกือขึ้นมา

กู่เฟยจางเป็นเจ้าหุบเขาแห่งหุบเขาราชายา ท่าทีของเขาก็คือท่าทีของหุบเขาราชายา ในครั้งนี้……มันไม่ธรรมดา!

กู่ยี่เทียนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ: “ไปกันเถอะ เดินไปข้างหน้าต่อ!”

ทุกคนเดินผ่านเส้นทางมายามา เดินไปได้อีกสักระยะ กู่ยี่เทียนก็ได้หยุดฝีเท้าลงอีกครั้ง

“ข้างหน้าเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างมากอีกแห่งหนึ่ง ที่มีแรงฉุดดึงที่แข็งแกร่งอยู่ทั่วทุกสารทิศ อย่าลืมใช้กำลังภายในปกป้องจุดที่อ่อนแอที่สุดในร่างกายของพวกนายเอาไว้”

เมื่อเห็นท่าทีจริงจังของกู่ยี่เทียน เป็นธรรมดาที่ทุกคนจะไม่กล้าเป็นเหมือนตอนที่เข้ามาแรก ๆ ต่างพากันระแวดระวังขึ้นมาทันที

“พวกเราเรียกที่นี่ว่าวังวนใหญ่ เข้าไปกันเถอะ”

กล่าวจบ กู่ยี่เทียนก็ได้ใช้รัศมีห่อหุ้มตัวเองไว้ ราวกับได้เอาตัวเองเข้าไปซ่อนอยู่ในฟองอากาศ

กู่ยี่เทียนปล่อยพลังชี่ที่แข็งแกร่งออกมาจากร่างกาย จากนั้นพลังชี่ก็ได้หดตัวลง ราวกับชุดเกราะที่ไม่มีรอยต่อห่อหุ้มร่างของเขาเอาไว้

“ถ้าหากไม่สามารถปกป้องร่างกายของตัวเองทั่วทุกตารางนิ้วได้ จะต้องรีบบอกโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นหลังจากที่เข้าไปแล้วพบกับอันตรายอย่าหาว่าผมไม่เตือน พลังและทิศทางของแรงฉุดดึงในที่นี่นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พลังมหาศาล เพียงพอที่จะฉีกขาดเหล็กกล้า ถ้าหากไม่ทันระวังถูกฉุดเอาลูกตาหรือใบหูออกมา งั้นก็ทำได้เพียงยอมรับว่าตัวเองนั้นโชคร้ายแล้ว”

กล่าวไป ทุกคนก็พลางเดินไปข้างหน้า ไม่นาน แผ่นหยกใต้เท้าที่ทุกคนเดินอยู่นั้นก็ได้หายไป ด้านหน้านั้นไม่ได้มีอะไรปูรองพื้นอีก แต่เป็นเพียงพื้นดินโคลนเปล่า ๆ

หลี่ฝางเหยียบเท้าลงไปบนพื้นดินโคลน และได้ทิ้งรอยที่ชัดเจนเอาไว้

ในเวลานี้ เขาเองก็สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสนามพลังที่มาจากทั่วทุกสารทิศ

รัศมีที่ครอบคลุมปกป้องร่างกายเอาไว้นั้น ได้ถูกพลังของที่นี่ฉุดกระชากลากดึงจนมีเสียงดัง “เอี๊ยด ๆ”

ถ้าหากเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งอยู่ที่นี่ เกรงว่าคงถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ไปภายในไม่กี่วินาที

หลี่ฝางหันหลังกลับไปดูคนที่อยู่ด้านหลัง เหล่าปรมาจารย์กำลังภายในพวกนั้นดูแล้วค่อนข้างจะกินแรงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไร ทำให้หลี่ฝางวางใจลงมาบ้าง

“สถานที่บ้าบออะไรเนี่ย! ถุย!”

โจวเหว่ยยี่จากตระกูลเมืองโจวเจียงตงตะโกนด่าด้วยความโมโห พลางถ่มน้ำลายลงไปบนพื้น ดูแล้วเหมือนจะอารมณ์เสียมาก

และเหตุการณ์นี้ก็ได้ถูกกู่ยี่เทียนเห็นเข้าพอดี ทันใดนั้นเขาก็ตวาดขึ้นมา: “ไอ้บ้าเอ๊ย แกทำอะไรของแก!”

“ฉันทำอะไรเหรอ?” โจวเหว่ยยี่เอ่ยถามด้วยท่าทางประหลาดใจ

“ปัญญาอ่อนเอ๊ย นี่แกกล้าถ่มน้ำลายลงไปบนพื้นได้ยังไง!” กู่ยี่เทียนโมโหขึ้นมากกว่าเดิม

“ฉันแค่ถ่มน้ำลายนายก็จะยุ่งด้วยเหรอ?” โจวเหว่ยยี่โมโหขึ้นมาทันที จะว่ายังไงเขาก็เป็นปรมาจารย์กำลังภายใน ต่อให้กู่ยี่เทียนแข็งแกร่งกว่าเขามาก ก็ไม่จำเป็นต้องมาหาเรื่องตัวเองเพราะเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้หรอก!

และในตอนนั้นเองจู่ ๆ หลี่ฝางก็พลันพบว่า พื้นดินตำแหน่งที่โจวเหว่ยยี่ถ่มน้ำลายลงไปนั้น ก็ได้ค่อย ๆ นูนขึ้นมา

หลี่ฝางสามารถพบได้ เป็นธรรมดาที่กู่ยี่เทียนจะยิ่งไม่อาจละลาย เขาใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบลงไปบนพื้นอย่างหนัก แฝงไปด้วยพลังอันมหาศาล จนเกิดแรงระเบิดเป็นหลุมขนาดใหญ่

การลงมืออย่างกะทันหันของกู่ยี่เทียนทำให้ทุกคนตกใจ และได้รีบร้อนมุงขึ้นไปดู ก็ได้พบว่าในหลุมที่ถูกกู่ยี่เทียนระเบิดออกมานั้นมีอะไรบางอย่างที่เหมือนกับรากไม้ปรากฏอยู่ กลับมุดดินลงไปราวกับสิ่งมีชีวิต ช่างน่าขนลุกยิ่งนัก

สีหน้าของกู่ยี่เทียนพลันเปลี่ยนไป และใช้เท้ากระทืบลงไปบนพื้นอีกครั้ง กำลังภายในระเบิดออกมา พลังทำลายล้างของเท้านี้นั้นไม่ธรรมดา ระเบิดจนเป็นหลุมขนาดใหญ่ลึกสองเมตร

ฝุ่นลอยตลบอบอวล ทุกคนต่างรีบขยับหลบทันที กลับเห็นกู่ยี่เทียนมีสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นโดยที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

หลี่ฝางอดไม่ได้จึงถามขึ้นมา: “เกิดอะไรขึ้นน่ะ!”

นี่ก็เป็นสิ่งที่คนอื่น ๆ คิดอยากจะถามเหมือนกัน ทันใดนั้นทุกคนต่างก็ได้เพ่งความสนใจมาทางนี้

“มีปัญหานิดหน่อย” กู่ยี่เทียนส่ายหัว “อยู่ที่ตรงนี้ กลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลร้ายแรงได้ เหมือนกับพวกรากไม้เมื่อสักครู่……เพียงแค่ได้รับข้อมูลทางพันธุกรรมเพียงเล็กน้อย ก็ได้ถูกสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นมาภายในชั่วพริบตา”

“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย?” หลี่ฝางตกใจเล็กน้อย: “พันธุกรรมเพียงเล็กน้อย……หรือว่า……”

ทั้งสองต่างก็ได้หันมองไปที่โจวเหว่ยยี่

โจวเหว่ยยี่เองก็ตะลึงงัน แล้วตะโกนขึ้นมาทันที: “นี่พวกนายแกล้งฉันเล่นหรือเปล่าเนี่ย ฉันแค่ถ่มน้ำลายคำเดียวเอง ก็สามารถสร้างสัตว์ประหลาดออกมาได้แล้วหรือยังไง?”

“ถุย ฉันดูแล้วนายก็แค่คิดจะหลอกล่อให้พวกเราเข้าร่วมต้าเซี่ยหลงเช่ว นายคิดว่าฉันเป็นเหมือนกู่เฟยจาง……”

โจวเหว่ยยี่ยังไม่ทันได้พูดจบ จู่ ๆ ที่ใต้เท้าก็ได้เกิดแรงสั่นสะท้านขึ้น ไม่รอให้โจวเหว่ยยี่ได้ตอบสนองใด ๆ ทันใดนั้นพื้นดินก็ได้ถล่มลงไป ปรากฏเป็นหลุมลึกขนาดมหึมา และได้กลืนกินโจวเหว่ยยี่เข้าไปทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท