หัวหน้า คุณเป็นลูกหลานคนรวยระดับซูเปอร์ที่ซ่อนตัวอยู่หรือเปล่า? หรือว่าจะเป็นคนของสุดยอดตระกูลใหญ่?”
โจวหมิงเดินเข้ามาแล้วเอ่ยถามด้วยใบหน้าทะเล้น
ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็มองมาทางนี้ ในสายตาซ่อนความสงสัยเอาไว้ไม่อยู่
เพราะเรื่องเมื่อวานนั้น มันพิลึกพิลั่นมากเกินไป เมื่อคืนนั้นเพราะพวกเขายังไม่หายจากอาการตกใจจึงไม่ได้ถาม แต่หลังจากผ่านการหมักหมมมาหนึ่งคืนเต็ม ๆ ในที่สุดคนพวกนี้ก็อดไม่ได้แล้ว
“เฮ้อ! ก็ได้ ไม่เสแสร้งแล้ว ฉันจะบอกความจริงก็ได้……”
หลี่ฝางถอนหายใจยาว ๆ และกล่าวอย่างเอ้อระเหย: “ความจริงแล้วฉันเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง แบบที่สามารถสู้คนเป็นร้อยได้ด้วยตัวคนเดียว”
หลี่ฝางพยายามพูดให้เล็กที่สุด เพื่อไม่ให้คนพวกนี้รับไม่ได้ถ้าพูดโอเวอร์ ถึงแม้เขาจะคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรถ้าเขาจะสู้กับคนเป็นพันด้วยตัวคนเดียว
คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลี่ฝางแล้ว ทุกคนจะหัวเราะเอิ๊กอ๊ากขึ้นมา
“หัวหน้า คุณแต่งได้ไม่น่าเชื่อถือสักนิดเลย”
“นั่นน่ะสิ หัวหน้า ต่อให้คุณไม่อยากบอกความจริงกับพวกเรา แต่คำพูดแบบนี้มันไม่มีแรงในการโน้มน้าวเลยสักนิด”
“อย่าล้อเล่นอีกเลย หัวหน้าหลี่ ยิปมันยังแค่หนึ่งต่อสิบ หนึ่งต่อร้อยมันจะเกินความจริงไปมากไปแล้ว
……
หลี่ฝางยักไหล่เล็กน้อย ฉันพูดความจริง พวกนายจะไม่เชื่อก็เรื่องของพวกนาย
วันนี้ก็ได้ผ่านไปอย่างสงบอีกครั้ง แต่ทว่าในตอนที่ใกล้จะเลิกงานนั่นเอง สายโทรเข้าจากเฮียเว่ย ทำให้วันนี้ไม่สงบอีกต่อไป
“นายทำอะไร?”
หลังจากที่รับสายของฝ่ายตรงข้าม หลี่ฝางก็แปลกใจเล็กน้อย
“คุณหลี่ คุณอย่าเข้าใจผิดนะครับ เพราะเห็นว่าน้องชายของผมล่วงเกินคุณไงล่ะ ก็เลยอยากจะเชิญคุณออกมาเที่ยว อยากจะขอขมาคุณสักหน่อย”
เหมือนว่าจะฟังความไม่พอใจของหลี่ฝางออก เฮียเว่ยกล่าวด้วยความหวาดผวาเล็กน้อย
“ก็ได้ ไปเที่ยวที่ไหนล่ะ?”
หลี่ฝางคิด ๆ ดูแล้วถึงยังไงก็ไม่มีอะไรทำ ก็เลยรับปากไป
“ผมได้เตรียมรถไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้ว พวกเราออกเดินทางได้ทุกเมื่อ” เฮียเว่ยเอ่ยอย่างร้อนรน
“อ้อใช่แล้ว คุณหลี่ครับ เรียกเพื่อนของคุณไปเที่ยวด้วยกันก็ได้นะครับ”
หลี่ฝางคิด ๆ ดูก็รู้สึกว่าไปกันเป็นกลุ่มดีกว่าผู้ชายสองคนไปด้วยกันจริง ๆ เลยพยักหน้าตอบตกลงไป
“ได้ ฉันจะชวนพวกเขาไปด้วย”
“งั้นผมจะรอคุณที่ข้างนอกนะครับ”
หลังจากที่หลี่ฝางได้บอกเรื่องนี้กับทุกคน ทันทีทันใด ทั่วทั้งห้องพนักงานรักษาความปลอดภัยก็อลหม่านขึ้นมา ทุกคนต่างล้อมรอบเข้ามาด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ
หานจื้อเย่และคนอื่น ๆ อีกสองคนก็ได้หน้าบูดบึ้งขึ้นมา เพราะว่าคืนนี้พวกเขาต้องเข้าเวร ไม่สามารถไปด้วยได้
“ฉันอยากกร้องไห้จังเลย พี่น้องทุกคน ใครยินดีที่จะเปลี่ยนเวรกับฉันบ้าง? สามวันแลกหนึ่งวัน”
“อย่าว่าแต่สามวันเลย ต่อให้นายแลกด้วยหนึ่งอาทิตย์พวกเราก็ไม่เปลี่ยนหรอก”
หลี่เหวยเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแป้น ตบเข้าไปที่ไหล่ของหานจื้อเย่เบา ๆ พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “เพื่อน สู้ ๆ ปกป้องทรัพย์สินของบริษัทให้ดี นายเก่งอยู่แล้ว!”
“โถ่……” พี่น้องชะตาเดียวกันทั้งสามคนต่างมองตากัน ล้วนมองเห็นความเจ็บปวดจาง ๆ ที่อยู่ในสายตาของอีกฝ่าย……
ไม่นาน ทุกคนก็ได้แต่งตัวอีกครั้ง และเดินออกไปจากบริษัทด้วยอารมณ์ตื่นเต้นดีใจ
ทันทีที่เดินออกมาจากประตูใหญ่ ก็พบว่าที่ด้านนอกตึกบริษัทมีรถเบนซ์สีดำจอดเรียงรายอยู่เป็นแถว ภาพเหตุการณ์เช่นนั้น ทำให้พวกหลี่เหวยมองจนเอ๋อแดกไปเลยทีเดียว
รถเบนซ์ระดับพรีเมียมที่จอดเรียงกันอยู่เป็นแถวนี่ อย่างน้อยก็สิบล้านหยวนขึ้นไป
“เย็xเข้ นี่มันจะสุดยอดเกินไปแล้ว!”
“หัวหน้าหลี่คุณยังจะมาบอกอีกว่าคุณไม่ใช่คุณชายตระกูลใหญ่!”
“หัวหน้าหลี่สุดยอดไปเลย!”
ส่วนเฮียเว่ยในเวลานี้กำลังยืนรออยู่ที่ด้านหน้าของรถคันแรก เมื่อเห็นหลี่ฝางเดินออกมา เขาก็รีบเดินเข้าไปรับพลางกล่าวอย่างนอบน้อม: “คุณหลี่ เชิญขึ้นรถครับ”
หลี่ฝางพยักหน้า และขึ้นไปนั่งบนรถตามที่เฮียเว่ยได้เปิดประตูให้
เฮียเว่ยไม่กล้านั่งที่ด้านข้างของหลี่ฝาง หลังจากที่ปิดประตูรถให้หลี่ฝางอย่างนอบน้อมแล้ว ตัวเองก็ขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งข้างคนขับ
ไม่นานรถก็ได้ขับเคลื่อนออกไป ขับเรียงกันเป็นแถวไปตามถนน
ไม่นาน รถก็ได้ขับออกไปจากตัวเมือง สุดท้ายรถก็ได้จอดลงที่ด้านหน้าอาคารที่ดูแล้วแสนจะธรรมดาแห่งหนึ่ง
ทุกคนมองดูตึกเล็ก ๆ ที่แสนจะธรรมดาแห่งนี้ ก็พลันรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที เพราะถึงยังไงก็เป็นเฮียเว่ยเป็นคนเลี้ยง ทำไมถึงได้พาพวกเขามาสถานที่แบบนี้ล่ะ?
กลับเป็นลูกหลานตระกูลคนมีเงินอย่างโจวหมิงที่รู้จักที่นี่ เขากล่าวอย่างตกใจ: “นี่ก็คือสถานที่ละลายทรัพย์ในตำนานไงล่ะ!”
“ถูกต้อง รู้ดีไม่เบานี่” เฮียเว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ดูแล้วที่บ้านของน้องชายคนนี้ก็ไม่ธรรมดา”
โจวหมิงรีบกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม: “ที่ไหนกันครับ ครอบครัวของผมแค่ทำธุรกิจเล็ก ๆ เอง เมื่อเทียบกับเฮียเว่ยแล้วไม่คู่ควรที่จะเอ่ยถึงเลยสักนิด”
เฮียเว่ยหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง เดิมทีเขายังคิดที่จะโอ้อวดต่อหน้าหลี่ฝางสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ใด ๆ เลยสักนิด ในตอนนี้โจวหมิงได้ยกประเด็นนี้ขึ้นมา เขาถึงได้มีโอกาสเอ่ยแนะนำ
“แหล่งรวมพวกเศรษฐีที่มีชื่อเสียงของเมืองจินซาน สถานที่ละลายทรัพย์ ขอแค่มีเงิน ก็สามารถเพลิดเพลินกับบริการราวกับได้ขึ้นสวรรค์ได้ที่นี่!”
เดิมทีเฮียเว่ยหวังว่าการแนะนำเช่นนี้ของตัวเองสามารถทำให้หลี่ฝางรู้สึกประทับใจขึ้นมา
แต่น่าเสียดาย หลี่ฝางยังคงมีสีหน้าสงบนิ่ง ราวกับว่าได้เห็นเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทำให้เฮียเว่ยไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาประทับใจหรือไม่
ถึงแม้หลี่ฝางไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ แต่ในเวลานี้พวกหลี่เหวยได้เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว
ตอนนี้พวกเขาแทบทนรอไม่ไหวที่จะเข้าไปสนุกสนานเพลิดเพลินที่ข้างในแล้ว ทั่วทั้งสมองเต็มไปภาพกินเหล้าฟังดนตรีเคล้านารี สำมะเลเทเมา
รวมทั้งโจวหมิงเองก็มีท่าทีตื่นเต้นดีใจพลางกล่าว: “สถานที่แห่งนี้ ไม่ใช่ว่าแค่มีเงินก็สามารถเข้ามาได้หรอกนะ ยังต้องมีฐานะตำแหน่งที่แน่นอนด้วยถึงจะได้ ไม่อย่างนั้น คุณแค่มีเงินก็อย่างหวังเลยว่าจะเข้าไปดูได้”