NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1055 ไอ้หมูตอน

บทที่ 1055 ไอ้หมูตอน

เห็นคนพวกนั้นไม่มีท่าทางตอบสนองใด ๆ โจวหมิงก็กล่าวด้วยรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง: “ผับแห่งนี่มีเพื่อนฉันเป็นคนดูแล ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่มันก็ไม่ดีกับทั้งสองฝ่าย นายไว้หน้าฉันหน่อย ได้ไหม?”

ที่ตรงข้ามของโจวหมิงถึงแม้จะมีเพียงสี่คน แต่ทว่าแต่ละคนต่างก็ไม่น่ามีเรื่องด้วย ดังนั้นจึงคิดที่จะอ้างชื่อของเพื่อนออกมา คิดจะใช้มันยุติเรื่องนี้ลง

แต่หลังจากที่ฝ่ายตรงข้ามได้ยิน กลับหัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา ชายหนุ่มอายุน้อยคนนั้นยิ่งหัวเราะเยาะพลางกล่าว: “เพื่อนแกคงไม่มีคุณสมบัติแม้แต่ถือรองเท้าให้ลูกพี่ของพวกเราด้วยซ้ำ แกยกมันออกมาขู่ใครเหรอ?”

“แกให้ฉันไว้หน้าแก? ไอ้หนุ่ม แกไม่ไปลองถามดูว่าฉันพี่หุยเป็นใคร แกกล้าให้ฉันไว้หน้าแกเหรอ?”

โจวหมิงเห็นพี่หุยโสโอหังแบบนี้ ถึงแม้พอจะเคยได้ยินชื่อนี้อยู่บ้าง แต่คิดว่าคงไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเล็กน้อย จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรให้เพื่อนที่ดูแลผับแห่งนี้มาที่นี่หน่อย

จากนั้นไม่นาน ผู้ชายร่างกายแข็งแรงกำยำคนหนึ่งก็ได้เดินมาทางทั้งสองคน เดินไปก็พลางเอ็ดไป: “ใครรังแกเพื่อนฉัน ไสหัวออกมา!”

“พี่หยาง ผมอยู่ตรงนี้!” โจวหมิงโบกมือเรียกคนคนนั้น

“เสี่ยวโจว ใครรังแกนายเหรอ? บอกพี่มา! เดี๋ยวพี่จัดการให้!” พี่หยางคนนั้นกล่าวเหมือนจะเปิดเผยตรงไปตรงมา

“พวกเขาไงล่ะ!” โจวหมิงชี้ไปทางคนกลุ่มนั้นพลางกล่าว: “พี่หยาง พวกเขาไม่ไว้หน้าเลยสักนิด!”

“อ๋อ? ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครร้ายกาจขนาดนั้น กล้าแม้แต่ก่อเรื่องบนอาณาเขตของเฮียเว่ย!” พี่อย่างเดินเข้ามาด้วยความโมโหร้าย

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ พวกหลี่เหวยต่างก็วางใจลงไปบ้าง

พวกเขาพอจะเคยได้ยินชื่อเสียงของพี่หยางมาบ้าง เขาได้ติดตามเฮียเว่ยที่ร้ายกาจที่สุดของที่นี่ ปกติแล้วตัวละครเล็ก ๆ ไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะพูดเมื่ออยู่ต่อหน้าของเขา

แต่ทว่าพวกเขากลับไม่เห็น หลังจากที่ได้ยินเสียงของพี่หยางแล้ว คนพวกนั้นไม่เพียงไม่กลัว แถมบนใบหน้ายังมีแววหยอกล้ออยู่อีกด้วย

“พี่หยาง? แกเจ๋งมากนี่ กล้ามาสั่งสอนฉันแล้วเหรอ?”

คนคนนั้นเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ

เมื่อเห็นหน้าของคนคนนั้น สีหน้าของพี่หยางก็ซีดเซียวลงไปทันที

“พี่หุย เป็น เป็นพี่ได้ยังไง?” พี่หยางถามเสียงสั่น

“ทำไม ฉันมาที่นี่ไม่ได้เหรอ?” พี่หุยคนนั้นหัวเราะอย่างเย็นชา: “อ๋อ ใช่สิ แกพี่หยางเจ๋งมากสินะ แม้แต่ฉันแกยังไม่เห็นอยู่ในสายตา!”

เหงื่อเย็น ๆ ผุดขึ้นมาบนหน้าฝากของพี่หยาง เขากล่าวอย่างตะกุกตะกัก: “พี่ พี่หุย ผมผิดไปแล้ว พี่ พี่ยกโทษให้ผมเถอะนะ……”

“ยกโทษให้แก? แกเจ๋งมากไม่ใช่เหรอ? จะออกหน้าแทนน้องชายแกไม่ใช่เหรอ? แกออกหน้าสิ!” จู่ ๆ พี่หุยก็ตะคอกขึ้นมา กล่าวด้วยท่าทางดุร้าย

พี่หยางสั่นสะท้านไปทั้งตัว พลันหันกลับไปฟาดเข้าที่ใบหน้าของโจวหมิง

“ยังไม่รีบคุกเข่าลงขอโทษพี่หุยอีก!”

โจวหมิงโดนฝ่ามือนั้นฟาดจนหน้ามืดตามัว เขาเอามือกุมใบหน้าพลางกล่าวอย่างน้อยใจ: “พี่ พี่หยาง เป็นพวกเขาที่มาหาเรื่องก่อนชัด ๆ ……”

“แกแม่งปัญญาอ่อนหรือไง!” พี่หยางถีบเข้ามาอีกครั้งจนโจวหมิงล้มลง: “พี่หุยเป็นน้องชายแท้ ๆ ของเฮียเว่ย!”

“น้องชายแท้ ๆ ?”

วินาทีนั้น เมื่อได้ยินชื่อเฮียเว่ย ทุกคนก็เงียบไปทันที พวกโจวหมิง ต่างก็ตัวสั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

เฮียเว่ยคนนี้ มีอำนาจและชื่อเสียงเป็นวงกว้างในสถานที่แห่งนี้ ผู้คนในสังคมเดียวกันไม่มีใครกล้าที่จะไปมีเรื่องกับเขาเลย

อาศัยอะไรงั้นเหรอ? ก็อาศัยชื่อเสียงบารมีที่สร้างมานับสิบปียังไงล่ะ

พูดได้ว่า อยู่ที่นี่เฮียเว่ยพูดคำไหนคำนั้น ส่วนคนที่มีฐานะเป็นน้องชายแท้ ๆ ของเฮียเว่ย นั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งเลย

ตอนนี้ไม่จำเป็นที่พี่หยางต้องพูดอะไรอีก โจวหมิงก็เอ่ยขอโทษขอโพยขึ้นมาทันที: “ต้องขอโทษด้วยนะครับพี่หุย ผมมีตาหามีแววไม่ พี่ได้โปรดปล่อยพวกผมไปเถอะนะ ผมจะมอบหนึ่งแสนหยวนเป็นค่าขอขมาทันที”

“แกรวยไม่เบาเลยนี่?” พี่หุยยักคิ้วพลางยิ้มกล่าวอย่างดูแคลน

พี่หยางที่อยู่ด้านข้างรีบเอ่ยขึ้นมา: “พี่หุย ครอบครัวเขาเปิดบริษัท ทุนหลายสิบล้าน พอจะมีเงินอยู่บ้าง เอาอย่างนี้ดีไหม……”

“แม่งเอ๊ย หลายสิบล้านจะนับอะไรได้!” ไม่รอให้พี่หยางกล่าวจบ ฝ่ามือของพี่หุยก็ได้ฟาดลงไปบนหน้าของพี่หยาง ตบจนเขาก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว และไม่กล้าพูดอะไรอีก

“ให้น้องสาวคนนี้ไปกับฉัน แกค่อย……เอาเงินมาให้ฉันใช้เล่นอีกสักห้าล้านหยวน เรื่องนี้ก็ถือว่าผ่านไป” พี่หุยโบกมือไปมา และกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

ถึงแม้เฮียเว่ยค่อนข้างจะร่ำรวย แต่ว่าเฮียเว่ยไม่ได้ให้เงินกับเขามากสักเท่าไหร่ เพราะเขารู้นิสัยน้องชายคนนี้ของเขาดี ถ้าให้เขามีเงินในมือมากไป เกรงว่าเขาจะสร้างปัญหามากมายที่ทำให้ตัวเองต้องปวดหัว

ดังนั้นเมื่อพี่หุยเห็นเนื้อก้อนโตอย่างโจวหมิงในตอนนี้ เป็นธรรมดาที่ต้องผลาญให้หนัก ๆ

สีหน้าของโจวหมิงซีดเซียวลงไปทันที

ก็จริงอยู่ที่ว่าพ่อของเขามีทรัพย์หลายสิบล้านแต่นั่นก็เป็นพวกทรัพย์สินของบริษัท อสังหาริมทรัพย์พวกนั้น ห้าล้านหยวน จะให้เขาไปหามาจากที่ไหน?

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าให้เขามอบจางเสว่ เขาไม่มีทางยอมแน่ ๆ

“ได้ ไม่เอามาใช่ไหม?” พี่หุยเห็นท่าทางของโจวหมิง ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา

“เอาตัวสาวน้อยคนนี้และไอ้หนุ่มไม่รู้จักเป็นตายนั่นมา พวกเราไปกัน!”

ได้ยินคำสั่งของพี่หุย ลูกน้อยพวกนั้นก็ไปหิ้วเอาตัวของโจวหมิงและจางเสว่ทันที และเตรียมที่จะลากพาไปด้วย

“พวกนายหยุดนะ!” หานจื้อเย่ หลี่เหวยและพรรคพวกต่างรีบลุกขึ้นและตะโกนขึ้นมาเสียงดัง และจากนั้นก็ได้ถูกพี่หุยหันมาถลึงตาใส่ คนพวกนั้นเสียงหายไปทันที

เพราะยังไงซะพวกเขาก็เป็นเพียงคนธรรมดา เผชิญหน้ากับตัวละครอย่างเฮียเว่ย ต่อให้เป็นเพียงน้องชายของเขา พวกเขาก็กลัวเหมือนกัน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท