ไม่นาน เสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์ก็ได้ดังขึ้น รถ BMW สีดำขลับคันหนึ่งก็ได้ขับเข้ามา
โจวหมิงนั่งอยู่ที่นั่งคนขับและยิ้มแหะ ๆ ให้กับทุกคน
“สาว ๆ รีบขึ้นรถเร็ว ผมเป็นคนขับรถให้พวกคุณโดยเฉพาะเลยนะ”
“ดูไม่ออกเลยนะ โจวหมิง นายยังเป็นเศรษฐีอำพรางอีกด้วย” ทันทีทันใด แววตาของสาว ๆ ต่างเปล่งประกายขึ้นมา และรีบขึ้นรถไปทันที
สาว ๆ ทั้งหมดห้าคน ล้วนอัดเข้าไปนั่งในรถของโจวหมิง จางเสว่นั่งบนที่นั่งข้างคนขับ และที่นั่งด้านหลังนั่งกันสี่คน แต่ว่าทั้งสี่คนนั้นต่างก็ดูมีความสุข ให้นั่งแท็กซี่ไปไม่มีทางแน่นอน
โจวหมิงโบกมือให้กับทุกคน และกล่าวอย่างได้ใจ: “พี่น้อง ผมนำหน้าไปจองที่ก่อนนะ อีกเดี๋ยวเจอกัน!”
กล่าวจบ โจวหมิงก็สตาร์ตรถพาสาว ๆ จากไปอย่างสง่าผ่าเผย
หลี่ฝางและคนอื่น ๆ ต่างก็มองการกระทำของโจวหมิงอย่างมึนงง
“เชรด มิน่าปกติหมอนั่นถึงได้ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย ที่แท้ก็เป็นลูกหลานคนมีเงินนี่เอง”
“เฮ้อ ได้ยินมาว่าพ่อของเขาเปิดบริษัทเอง และยังเป็นพันธมิตรกับบริษัทเราด้วย”
“แล้วทำไมหมอนั่นถึงมาเป็นรปภ. ล่ะ?”
“เป็นรปภ. ทำไมเหรอ ทำงานสบาย ๆ แถมมีเวลาว่างเยอะ อีกอย่างเงินเดือนของรปภ. อย่างพวกเราก็ถือว่าเยอะอยู่”
“หมอนั่น ไม่มีน้ำใจเอาซะเลย อีกเดี๋ยวนะต้องผลาญเขาให้หนัก ๆ!”
“เฮ้อ พี่น้องทุกคน ฉันคิดว่าพวกเราน่าจะวางมือจากเลขาจาง แล้วตั้งอกตั้งใจเป็นจีบสาว ๆ คนอื่นเถอะ”
คนพวกนั้นแย่งกันพูดคุยถกเถียงอยู่ครึ่งค่อนวัน และตัดสินใจนั่งแท็กซี่ไปจัดการกับโจวหมิงให้หนัก ๆ
พอถึงผับก็พบว่าโจวหมิงได้พูดคุยกับสาว ๆ อยู่อย่างเมามัน หน้าบานเป็นกระด้ง เห็นแล้วทำให้ทุกคนร้อนเหมือนโดนไฟเผาขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะกระโจนเข้าไปหา
ในเมื่อสาว ๆ พวกนั้นยินยอมที่จะออกมาด้วย จะต้องไม่ใช่สาวๆที่ไร้เดียงสาอย่างแน่นอน เพราะการแสดงออกก่อนหน้านี้ของโจวหมิง เห็นได้ชัดว่าสาว ๆ พวกนั้นกระดี๊กระด๊าอยู่ไม่น้อย
ถึงแม้โจวหมิงจะทอดสะพานให้กับจางเสว่อยู่ตลอด แต่สาว ๆ ก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไร หลังจากที่พวกหลี่ฝางได้มาถึง พวกเธอก็เริ่มสำรวจคนที่มาใหม่
ไม่แน่ว่า ในกลุ่มคนที่เหลืออยู่นี้อาจจะมีลูกหลานของผู้ดีมีเงินซ่อนอยู่ด้วยก็ได้?
เพราะถึงจะยังไง ไม่บอกใครจะไปคิดล่ะว่าจะมีคนขับรถราคาหลายแสนหยวนมาเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย?
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับชายหนุ่มหญิงสาวที่คึกคักครื้นเครงพวกนั้น หลี่ฝางที่ไม่มีความสนใจสักเท่าไหร่นั้นราวกับเป็นตัวประหลาด
เหมือนกับว่าเขาจะไม่มีความสนใจต่อผู้คนและเรื่องราวที่อยู่รอบ ๆ เลยสักนิด คนอื่นคุยด้วยเขาก็แค่ตอบกลับสองสามประโยค ไม่พูดอะไรเขาก็นั่งอยู่ตรงนั้นเฉย ๆ ไม่นาน สาว ๆ ก็ไม่เข้ามาหาเขาแล้ว
แต่ในนั้นมีเพียงจางเสว่ที่รู้ว่า ฐานะของหลี่ฝางนั้นไม่ธรรมดา ถึงแม้เธอจะยังคงไม่รู้สถานะที่ชัดเจนของหลี่ฝาง แต่นั่นก็ไม่อาจขัดขวางการเอาอกเอาใจที่เธอมีต่อหลี่ฝาง
“หัวหน้าหลี่ มา ฉันดื่มกับคุณสักแก้ว!”
เธอเป็นฝ่ายจู่โจมยกแก้วเข้าหาหลี่ฝาง คิดที่จะทำลายความเงียบของหลี่ฝาง เพื่อไม่ให้เขารู้สึกประหม่าที่ต้องนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว
“อย่าเลยดีกว่า ผมคออ่อนไปน่ะ” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขาไม่รู้สึกประหม่าเลยสักนิดที่ต้องนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว ดื่มเครื่องดื่มไปพลางคิดทบทวนเรื่องที่กู่ยี่เทียนคุยกับเขา เขาไม่อยากให้คนอื่นมารบกวนจริง ๆ
“อ๊ะ?” จางเสว่รู้สึกเขินอายเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
เมื่อเห็นดังนั้นหลี่ฝางเองก็รู้สึกว่าคำพูดของตัวเองนั้นเหมือนจะเย็นชาไปหน่อย จึงรีบเอ่ยขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม: “ผมดื่มเครื่องดื่มก็พอแล้ว อีกเดี๋ยวถ้าเกิดเมาขึ้นมา พวกคุณแบกผมไม่ไหวหรอกนะ”
“หัวหน้าหลี่ล้อเล่นเก่งจริง ๆ เลย” จางเสว่ยิ้มกริ่ม สีหน้าก็ดูดีขึ้นมาหน่อย และกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง: “งั้นเดี๋ยวฉันไปเอาเครื่องดื่มมาให้คุณ”
กล่าวจบ เธอก็ลุกขึ้นมาแล้วจะไปเอาเครื่องดื่มมาให้ดีฟังจริง ๆ เพียงแต่ว่าลุกขึ้นเร็วเกินไป เพิ่งจะเดินออกไปก็ได้ชนเข้ากับคนที่กำลังเดินมาพอดี
“นี่หล่อนเดินไม่ลืมตาหรือไง!” ทันใดนั้น ชายที่ถูกชนก็ตะโกนด่าขึ้นมา
“ขอโทษด้วยค่ะ” จางเสว่ผงะตกใจ รีบเอ่ยขอโทษอย่างร้อนรน
ส่วนในเวลานี้ชายคนนั้นก็ได้เห็นรูปร่างหน้าตาของจางเสว่ชัดเจน จู่ ๆ ก็มีท่าทางราวกับได้ค้นพบแผ่นดินใหม่ และยิ้มขึ้นมาอย่างอ่านกิน
“หน้าตาไม่เลวนี่ สาวน้อย มาเที่ยวเหรอ?”
ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ เข้าใจความหมายขึ้นมาทันที และขวางจางเสว่ที่กำลังจะเดินหนีไปเอาไว้พลางกล่าว: “ทำไม ชนแล้วคิดจะหนีงั้นเหรอ? ไปดื่มเป็นเพื่อนลูกพี่ของเราสักแก้วสองแก้ว และนั่งคุยกันสักพัก รอลูกพี่พวกเราหายโกรธค่อยไป!”
จางเสว่รู้ขึ้นมาทันทีว่าอีกฝ่ายนั้นไม่หวังดี เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เมื่อสักครู่ ทำให้เธอเองก็มีอารมณ์โมโหขึ้นมา และกล่าวปฏิเสธไปทันที: “ขี้เหร่ไม่พอ แล้วยังฝันหวานอีก หลีกไป!”
สีหน้าท่าทางของชายหน้าตาอัปลักษณ์ดุร้าย รูปร่างแปลกประหลาดคนนั้นบึ้งตึงลงไปทันที
“ดูเหมือนว่าเธอจะพูดดี ๆ ด้วยไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลัง!”
“เอาตัวไป”
ทันใดนั้น ก็มีผู้ชายสองคนออกมาจากด้านหลังของชายคนนั้น แล้วจับตัวจับจางเสว่เอาไว้และบังคับจะพาตัวเธอไป
“หยุดนะ!” โจวหมิงเห็นว่าเหตุการณ์ไม่ปกติ จึงรีบตะโกนและลุกขึ้นมาอย่างร้อนรน
“พวกแกปล่อยเธอนะ!”
ชายคนนั้นเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างดูหมิ่นทันที
“ทำไม วีรบุรุษช่วยสามงามงั้นเหรอ? ไอ้หนุ่ม แกมีความสามารถแบบนั้นเหรอ?”
พิจารณาดูพวกหลี่ฝางสักพัก ถึงแม้ทางฝ่ายตัวเองจะมีแค่สี่คน แต่ก็ไม่ได้เกรงกลัวเลยสักนิด แต่ยิ่งกำเริบเสิบสานเข้าไปใหญ่
“นี่เพื่อน ทุกคนต่างก็ออกมาเที่ยวเล่น นายทำแบบนี้ไม่ค่อยจะดีมั้ง?” โจวหมิงเองก็พิจารณาดูชายคนนั้น และกล่าวเสียงเบา: “ฉันขอโทษแทนแฟนฉันด้วยแล้วกัน เรื่องนี้ถือว่าผ่านไป ได้ไหม?”
ดูก็รู้ว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นโจวหมิงจึงไม่อยากทำมันเป็นเรื่องใหญ่ จึงมีท่าทางอ่อนลง เลือกที่จะอดกลั้นและอ่อนข้อให้เพื่อให้เรื่องราวสงบลง