NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1054 ใครกล้าก่อความวุ่นวาย

บทที่ 1054 ใครกล้าก่อความวุ่นวาย

ไม่นาน เสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์ก็ได้ดังขึ้น รถ BMW สีดำขลับคันหนึ่งก็ได้ขับเข้ามา

โจวหมิงนั่งอยู่ที่นั่งคนขับและยิ้มแหะ ๆ ให้กับทุกคน

“สาว ๆ รีบขึ้นรถเร็ว ผมเป็นคนขับรถให้พวกคุณโดยเฉพาะเลยนะ”

“ดูไม่ออกเลยนะ โจวหมิง นายยังเป็นเศรษฐีอำพรางอีกด้วย” ทันทีทันใด แววตาของสาว ๆ ต่างเปล่งประกายขึ้นมา และรีบขึ้นรถไปทันที

สาว ๆ ทั้งหมดห้าคน ล้วนอัดเข้าไปนั่งในรถของโจวหมิง จางเสว่นั่งบนที่นั่งข้างคนขับ และที่นั่งด้านหลังนั่งกันสี่คน แต่ว่าทั้งสี่คนนั้นต่างก็ดูมีความสุข ให้นั่งแท็กซี่ไปไม่มีทางแน่นอน

โจวหมิงโบกมือให้กับทุกคน และกล่าวอย่างได้ใจ: “พี่น้อง ผมนำหน้าไปจองที่ก่อนนะ อีกเดี๋ยวเจอกัน!”

กล่าวจบ โจวหมิงก็สตาร์ตรถพาสาว ๆ จากไปอย่างสง่าผ่าเผย

หลี่ฝางและคนอื่น ๆ ต่างก็มองการกระทำของโจวหมิงอย่างมึนงง

“เชรด มิน่าปกติหมอนั่นถึงได้ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย ที่แท้ก็เป็นลูกหลานคนมีเงินนี่เอง”

“เฮ้อ ได้ยินมาว่าพ่อของเขาเปิดบริษัทเอง และยังเป็นพันธมิตรกับบริษัทเราด้วย”

“แล้วทำไมหมอนั่นถึงมาเป็นรปภ. ล่ะ?”

“เป็นรปภ. ทำไมเหรอ ทำงานสบาย ๆ แถมมีเวลาว่างเยอะ อีกอย่างเงินเดือนของรปภ. อย่างพวกเราก็ถือว่าเยอะอยู่”

“หมอนั่น ไม่มีน้ำใจเอาซะเลย อีกเดี๋ยวนะต้องผลาญเขาให้หนัก ๆ!”

“เฮ้อ พี่น้องทุกคน ฉันคิดว่าพวกเราน่าจะวางมือจากเลขาจาง แล้วตั้งอกตั้งใจเป็นจีบสาว ๆ คนอื่นเถอะ”

คนพวกนั้นแย่งกันพูดคุยถกเถียงอยู่ครึ่งค่อนวัน และตัดสินใจนั่งแท็กซี่ไปจัดการกับโจวหมิงให้หนัก ๆ

พอถึงผับก็พบว่าโจวหมิงได้พูดคุยกับสาว ๆ อยู่อย่างเมามัน หน้าบานเป็นกระด้ง เห็นแล้วทำให้ทุกคนร้อนเหมือนโดนไฟเผาขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะกระโจนเข้าไปหา

ในเมื่อสาว ๆ พวกนั้นยินยอมที่จะออกมาด้วย จะต้องไม่ใช่สาวๆที่ไร้เดียงสาอย่างแน่นอน เพราะการแสดงออกก่อนหน้านี้ของโจวหมิง เห็นได้ชัดว่าสาว ๆ พวกนั้นกระดี๊กระด๊าอยู่ไม่น้อย

ถึงแม้โจวหมิงจะทอดสะพานให้กับจางเสว่อยู่ตลอด แต่สาว ๆ ก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไร หลังจากที่พวกหลี่ฝางได้มาถึง พวกเธอก็เริ่มสำรวจคนที่มาใหม่

ไม่แน่ว่า ในกลุ่มคนที่เหลืออยู่นี้อาจจะมีลูกหลานของผู้ดีมีเงินซ่อนอยู่ด้วยก็ได้?

เพราะถึงจะยังไง ไม่บอกใครจะไปคิดล่ะว่าจะมีคนขับรถราคาหลายแสนหยวนมาเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย?

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับชายหนุ่มหญิงสาวที่คึกคักครื้นเครงพวกนั้น หลี่ฝางที่ไม่มีความสนใจสักเท่าไหร่นั้นราวกับเป็นตัวประหลาด

เหมือนกับว่าเขาจะไม่มีความสนใจต่อผู้คนและเรื่องราวที่อยู่รอบ ๆ เลยสักนิด คนอื่นคุยด้วยเขาก็แค่ตอบกลับสองสามประโยค ไม่พูดอะไรเขาก็นั่งอยู่ตรงนั้นเฉย ๆ ไม่นาน สาว ๆ ก็ไม่เข้ามาหาเขาแล้ว

แต่ในนั้นมีเพียงจางเสว่ที่รู้ว่า ฐานะของหลี่ฝางนั้นไม่ธรรมดา ถึงแม้เธอจะยังคงไม่รู้สถานะที่ชัดเจนของหลี่ฝาง แต่นั่นก็ไม่อาจขัดขวางการเอาอกเอาใจที่เธอมีต่อหลี่ฝาง

“หัวหน้าหลี่ มา ฉันดื่มกับคุณสักแก้ว!”

เธอเป็นฝ่ายจู่โจมยกแก้วเข้าหาหลี่ฝาง คิดที่จะทำลายความเงียบของหลี่ฝาง เพื่อไม่ให้เขารู้สึกประหม่าที่ต้องนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว

“อย่าเลยดีกว่า ผมคออ่อนไปน่ะ” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เขาไม่รู้สึกประหม่าเลยสักนิดที่ต้องนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว ดื่มเครื่องดื่มไปพลางคิดทบทวนเรื่องที่กู่ยี่เทียนคุยกับเขา เขาไม่อยากให้คนอื่นมารบกวนจริง ๆ

“อ๊ะ?” จางเสว่รู้สึกเขินอายเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี

เมื่อเห็นดังนั้นหลี่ฝางเองก็รู้สึกว่าคำพูดของตัวเองนั้นเหมือนจะเย็นชาไปหน่อย จึงรีบเอ่ยขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม: “ผมดื่มเครื่องดื่มก็พอแล้ว อีกเดี๋ยวถ้าเกิดเมาขึ้นมา พวกคุณแบกผมไม่ไหวหรอกนะ”

“หัวหน้าหลี่ล้อเล่นเก่งจริง ๆ เลย” จางเสว่ยิ้มกริ่ม สีหน้าก็ดูดีขึ้นมาหน่อย และกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง: “งั้นเดี๋ยวฉันไปเอาเครื่องดื่มมาให้คุณ”

กล่าวจบ เธอก็ลุกขึ้นมาแล้วจะไปเอาเครื่องดื่มมาให้ดีฟังจริง ๆ เพียงแต่ว่าลุกขึ้นเร็วเกินไป เพิ่งจะเดินออกไปก็ได้ชนเข้ากับคนที่กำลังเดินมาพอดี

“นี่หล่อนเดินไม่ลืมตาหรือไง!” ทันใดนั้น ชายที่ถูกชนก็ตะโกนด่าขึ้นมา

“ขอโทษด้วยค่ะ” จางเสว่ผงะตกใจ รีบเอ่ยขอโทษอย่างร้อนรน

ส่วนในเวลานี้ชายคนนั้นก็ได้เห็นรูปร่างหน้าตาของจางเสว่ชัดเจน จู่ ๆ ก็มีท่าทางราวกับได้ค้นพบแผ่นดินใหม่ และยิ้มขึ้นมาอย่างอ่านกิน

“หน้าตาไม่เลวนี่ สาวน้อย มาเที่ยวเหรอ?”

ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ เข้าใจความหมายขึ้นมาทันที และขวางจางเสว่ที่กำลังจะเดินหนีไปเอาไว้พลางกล่าว: “ทำไม ชนแล้วคิดจะหนีงั้นเหรอ? ไปดื่มเป็นเพื่อนลูกพี่ของเราสักแก้วสองแก้ว และนั่งคุยกันสักพัก รอลูกพี่พวกเราหายโกรธค่อยไป!”

จางเสว่รู้ขึ้นมาทันทีว่าอีกฝ่ายนั้นไม่หวังดี เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เมื่อสักครู่ ทำให้เธอเองก็มีอารมณ์โมโหขึ้นมา และกล่าวปฏิเสธไปทันที: “ขี้เหร่ไม่พอ แล้วยังฝันหวานอีก หลีกไป!”

สีหน้าท่าทางของชายหน้าตาอัปลักษณ์ดุร้าย รูปร่างแปลกประหลาดคนนั้นบึ้งตึงลงไปทันที

“ดูเหมือนว่าเธอจะพูดดี ๆ ด้วยไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลัง!”

“เอาตัวไป”

ทันใดนั้น ก็มีผู้ชายสองคนออกมาจากด้านหลังของชายคนนั้น แล้วจับตัวจับจางเสว่เอาไว้และบังคับจะพาตัวเธอไป

“หยุดนะ!” โจวหมิงเห็นว่าเหตุการณ์ไม่ปกติ จึงรีบตะโกนและลุกขึ้นมาอย่างร้อนรน

“พวกแกปล่อยเธอนะ!”

ชายคนนั้นเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างดูหมิ่นทันที

“ทำไม วีรบุรุษช่วยสามงามงั้นเหรอ? ไอ้หนุ่ม แกมีความสามารถแบบนั้นเหรอ?”

พิจารณาดูพวกหลี่ฝางสักพัก ถึงแม้ทางฝ่ายตัวเองจะมีแค่สี่คน แต่ก็ไม่ได้เกรงกลัวเลยสักนิด แต่ยิ่งกำเริบเสิบสานเข้าไปใหญ่

“นี่เพื่อน ทุกคนต่างก็ออกมาเที่ยวเล่น นายทำแบบนี้ไม่ค่อยจะดีมั้ง?” โจวหมิงเองก็พิจารณาดูชายคนนั้น และกล่าวเสียงเบา: “ฉันขอโทษแทนแฟนฉันด้วยแล้วกัน เรื่องนี้ถือว่าผ่านไป ได้ไหม?”

ดูก็รู้ว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นโจวหมิงจึงไม่อยากทำมันเป็นเรื่องใหญ่ จึงมีท่าทางอ่อนลง เลือกที่จะอดกลั้นและอ่อนข้อให้เพื่อให้เรื่องราวสงบลง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท