ขับรถมาได้ราวๆ ครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็ถึงบ้านของโจวซู
เลขาฯหลิวเดินนำลงจากรถไปก่อน ก่อนจะเปิดประตูรถให้หลี่ฝาง
“คุณหลี่ เชิญ” ท่าทีของเลขาฯหลิวนั้น หลังจากที่ผ่านการคุยบนรถเล็กน้อย ดูเคารพกว่าตอนที่อยู่ที่คลังสมบัติอีก
หลี่ฝางเดินลงมาจากรถ ก่อนจะเงยหน้ามองเล็กน้อย
เขตที่อยู่ตรงหน้านั้นมันดูธรรมดามาก แถมยังดูโทรม แต่ใครจะคิด ว่าคนอย่างโจวซูนั้น จะมาอยู่ในที่แบบนี้ แล้วอยู่มายี่สิบปีแล้วงั้นเหรอ?
เพียงไม่นาน เลขาฯหลิวก็ดึงดูดให้หลี่ฝางมาอยู่ตรงหน้าของโจวซู
“หลี่ฝาง คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้” โจวซูหัวเราะก่อนจะหัวเราะแล้วมองหลี่ฝาง
“นั่นสิพี่ใหญ่ ร่างกายของคุณหายดีหรือยัง?” หลี่ฝางเองก็หัวเราะขึ้นมาก่อนจะตอบ
“ฮ่าๆ ตอนแรกคิดว่าไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าไหร่ คุณดูสิ นี่มันหายดีแล้วไม่ใช่เหรอ?” โจวซูพูด ก่อนจะโชว์ขาที่ขยับเขยื้อนของตัวเอง
“หลี่ฝาง ในที่สุดคุณก็มาแล้ว ท่านรออยู่ในนี้สองชั่วโมงแล้ว รีบมาเถอะ!”
หลังจากที่ทักทายถามไถ่กับโจวซูอย่างมีมารยาทสักพักแล้ว หลิวฮุยก็อดไม่ได้ที่จะดึงหลี่ฝางเข้ามา
“ได้ เรื่องของท่านสิถึงจะสำคัญ เอาไว้ฉันจะมาคุยกับคุณนะ”
โจวซูเองก็เปิดทางให้เอง เขาไม่กล้ารบกวนเวลาของท่านหรอก
“พูดแล้วไม่คืนคำ”ฉินเฟยหัวเราะ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องกับหลิวฮุย
……
จากนั้นไม่กี่นาที ด้านหน้าหลี่ฝาง ท่านค่อยๆ เปิดปากพูดขึ้น “เสี่ยวฝาง ครั้งนี้ที่ฉันมาหาคุณ อันที่จริงมาเพราะคำสั่งน่ะ”
หลี่ฝางอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะถาม “ท่าน คุณมีเรื่องอะไรให้ฉันทำหรือเปล่า?”
ท่านหัวเราะก่อนจะพูด “คนรายงานของญี่ปุ่นเอาเอกสารลับที่สำคัญจากประเทศของฉันไปแล้ว ฉันหวังว่าคุณจะไปญี่ปุ่นแล้วเอาเอกสารกลับมาได้”
“ห๊ะ?” หลี่ฝางลูปท้ายทอย พลางมองหลิวฮุยที่อยู่ข้างๆ ท่านด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไมเขาไม่ไป?”
ในฐานะที่เป็นแผนกพิเศษของต้าเซี่ยหลงเช่ว ก็ควรจะจัดการเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เหรอ!
“แฮ่มๆ” หลิวฮุยกระแอมอย่างเต็มแรงเพื่อกลบความทำตัวไม่ถูกของตัวเอง เมื่อเห็นหลี่ฝางยังจ้องตัวเองอยู่ เลยพูดอย่างจนปัญญา “ฝีมือของฉันเพียงเท่านี้ ถ้าไปมันไม่เหมือนการรนหาที่ตายเหรอ……”
“น่าจะใช่ กู่ยี่เทียนนั่นยังไม่เปิดตราประทับออกเลย” หลี่ฝางพยักหน้า ด้วยความพูดอะไรไม่ออก
ในตอนนั้นเองท่านเปิดปากพูด “เสี่ยวฝาง เรื่องนี้ฉันจะไม่บังคับคุณ ถึงอย่างไรความทรงจำของคุณก็ยังไม่กลับมา ฉันจะให้เวลาคุณคิดสักหน่อย ถ้าเกิดคุณไม่อยากไป……”
“ไม่ต้องพูดแล้ว!ฉันตกลง ออกเมื่อไหร่ล่ะ?”
หลี่ฝางพูดอย่างไม่ลังเล
ท่านมาเชิญเขาด้วยตัวเอง เขาไม่อยากทลายความหวังของท่าน
“งั้นก็ดี ฉันจะขอบคุณคุณแทนประเทศก่อน” ท่านพยักหน้าอย่างชื่นชม พลางพูด “เรื่องอื่นๆ คุณก็ปรึกษาหลิวฮุยเถอะ การกระทำในครั้งนี้ เขาจะพยายามหากำลังเสริมมาให้คุณเท่าที่คุณจะต้องการ”
“โอเค!” หลี่ฝางพยักหน้า
“เอาล่ะ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันขอไปก่อนนะ เด็กน้อยคุณอยู่ด้านนอกต้องระวังหน่อยนะ อย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่น”
สุดท้ายที่กำชับกับหลี่ฝางเสร็จ คนชราก็จากไปโดยการไปส่งของหลิวฮุย
เมื่อเห็นเงาที่โอนเอนของชายชรา ไม่รู้ว่าทำไม หลี่ฝางกลับถอนหายใจออกมาเบาๆ
อายุของชายชรา ถึงอย่างไรก็มากแล้ว แต่เพื่อเรื่องนี้ เขาเลยต้องไปมาๆ
ในใจของหลี่ฝางนั้นตัดสินใจแล้ว ว่าครั้งนี้มันจะต้องทำภารกิจนี้จนสำเร็จ แล้วจะไม่มีทางล้มเหลว
……
ขณะที่หลี่ฝางกำลังคุยเรื่องภารกิจกับหลิวฮุยอยู่ ตระกูลซุนที่อยู่ด้านข้าง ในตอนนี้กลับระเบิดวุ่นวายไปหมด
ตระกูลซุนเป็นตระกูลใหญ่ จะต้องมีคนมากมายอยู่แล้ว การประชุมของครอบครัวในครั้งนี้ คนสิบกว่าคนนั้นกำลังถกเถียงกัน ทุกคนดูโกรธเป็นอย่างมาก
“พ่อ พี่สี่ถูกคนทำร้ายขนาดนี้ พวกเราจะทำเป็นไม่รู้เรื่องไม่ได้หรอกนะ!”
“ใช่!พี่สี่เป็นคนที่ในชีวิตของพวกเราดูเป็นคนกำลังภายในที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา รุ่นต่อไปของตระกูลซุนคงจะ……”
ทุกคนต่างมีท่าทีโกรธแค้นเป็นอย่างมาก ราวกับว่าโกรธเคืองเพราะเรื่องที่ซุนกั๋วอันถูกทำร้าย
เมื่อได้ยินเสียงถกเถียงมากมายไม่หยุด นายท่านซุนก็ตบโต๊ะอย่างรุนแรง จนทำให้โต๊ะไม้พยุงที่เพิ่งทำเสร็จแตกละเอียด จนทำให้ห้องโถงนั้นเงียบลงทันที
“พวกคุณอยากแก้แค้นมากเลยเหรอ?” นายท่านซุนมีแววตาเย็นชาลง ก่อนจะกวาดตามองใบหน้าของผู้คนที่โกรธเคือง
“พวกคุณรู้ไหมว่าคนคนนั้นเป็นใคร?”
จากนั้นจึงเห็นความงุนงงอยู่บนใบหน้าของคนเหล่านั้น แววตาของนายท่านซุนก็ผิดหวังเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปด้านนอกพลางโบกมือ
เพียงไม่นาน ก็มีชายหนุ่มเดินเข้ามา เขามองไปก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเล็กน้อย ราวกับว่าไม่ค่อยคุ้นเคยที่มีคนมากมายมองอยู่
“คุณมาพูดฐานะของคนคนนั้นหน่อยเถอะ”
นายท่านซุนพูดเสียงเย็นชา
คนคนนั้นสะดุ้งไปทั้งตัว กลับไม่กล้าขัดคำของนายท่านซุน เลยทำได้เพียงเปิดปากพูดอย่างตะกุกตะกัก “คนคนนั้น……คนคนนั้นคือหลี่ฝาง!”
“หลี่ฝาง?หลี่ฝางคือใคร?”
ถึงอย่างไรหลี่ฝางก็เพิ่งจะมีชื่อเสียง ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงมานาน ที่จะทำให้ใครๆ ฟังแล้วก็คุ้นหู
ดังนั้นเมื่อคนมากมายของตระกูลซุนได้ฟังชื่อนี้อยู่สักพัก ก่อนจะไม่ได้มีสติขึ้นมาในทันที
แต่เพียงไม่นานก็มีคนคิดขึ้น ก่อนจะมองนายท่านซุนที่หน้าเคร่งเครียด เลยกลืนน้ำลายก่อนจะถามอย่างระวัง “หรือว่าจะเป็นอันดับกำลังภายในที่เด็กที่สุด……หลี่ฝางงั้นเหรอ?”
“ใช่ เขานั่นแหละ” คนคนนั้นตอบอย่างระมัดระวัง