NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1071 ภาระหน้าที่ของท่าน

บทที่ 1071 ภาระหน้าที่ของท่าน

ขับรถมาได้ราวๆ ครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็ถึงบ้านของโจวซู

เลขาฯหลิวเดินนำลงจากรถไปก่อน ก่อนจะเปิดประตูรถให้หลี่ฝาง

“คุณหลี่ เชิญ” ท่าทีของเลขาฯหลิวนั้น หลังจากที่ผ่านการคุยบนรถเล็กน้อย ดูเคารพกว่าตอนที่อยู่ที่คลังสมบัติอีก

หลี่ฝางเดินลงมาจากรถ ก่อนจะเงยหน้ามองเล็กน้อย

เขตที่อยู่ตรงหน้านั้นมันดูธรรมดามาก แถมยังดูโทรม แต่ใครจะคิด ว่าคนอย่างโจวซูนั้น จะมาอยู่ในที่แบบนี้ แล้วอยู่มายี่สิบปีแล้วงั้นเหรอ?

เพียงไม่นาน เลขาฯหลิวก็ดึงดูดให้หลี่ฝางมาอยู่ตรงหน้าของโจวซู

“หลี่ฝาง คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้” โจวซูหัวเราะก่อนจะหัวเราะแล้วมองหลี่ฝาง

“นั่นสิพี่ใหญ่ ร่างกายของคุณหายดีหรือยัง?” หลี่ฝางเองก็หัวเราะขึ้นมาก่อนจะตอบ

“ฮ่าๆ ตอนแรกคิดว่าไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าไหร่ คุณดูสิ นี่มันหายดีแล้วไม่ใช่เหรอ?” โจวซูพูด ก่อนจะโชว์ขาที่ขยับเขยื้อนของตัวเอง

“หลี่ฝาง ในที่สุดคุณก็มาแล้ว ท่านรออยู่ในนี้สองชั่วโมงแล้ว รีบมาเถอะ!”

หลังจากที่ทักทายถามไถ่กับโจวซูอย่างมีมารยาทสักพักแล้ว หลิวฮุยก็อดไม่ได้ที่จะดึงหลี่ฝางเข้ามา

“ได้ เรื่องของท่านสิถึงจะสำคัญ เอาไว้ฉันจะมาคุยกับคุณนะ”

โจวซูเองก็เปิดทางให้เอง เขาไม่กล้ารบกวนเวลาของท่านหรอก

“พูดแล้วไม่คืนคำ”ฉินเฟยหัวเราะ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องกับหลิวฮุย

……

จากนั้นไม่กี่นาที ด้านหน้าหลี่ฝาง ท่านค่อยๆ เปิดปากพูดขึ้น “เสี่ยวฝาง ครั้งนี้ที่ฉันมาหาคุณ อันที่จริงมาเพราะคำสั่งน่ะ”

หลี่ฝางอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะถาม “ท่าน คุณมีเรื่องอะไรให้ฉันทำหรือเปล่า?”

ท่านหัวเราะก่อนจะพูด “คนรายงานของญี่ปุ่นเอาเอกสารลับที่สำคัญจากประเทศของฉันไปแล้ว ฉันหวังว่าคุณจะไปญี่ปุ่นแล้วเอาเอกสารกลับมาได้”

“ห๊ะ?” หลี่ฝางลูปท้ายทอย พลางมองหลิวฮุยที่อยู่ข้างๆ ท่านด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไมเขาไม่ไป?”

ในฐานะที่เป็นแผนกพิเศษของต้าเซี่ยหลงเช่ว ก็ควรจะจัดการเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เหรอ!

“แฮ่มๆ” หลิวฮุยกระแอมอย่างเต็มแรงเพื่อกลบความทำตัวไม่ถูกของตัวเอง เมื่อเห็นหลี่ฝางยังจ้องตัวเองอยู่ เลยพูดอย่างจนปัญญา “ฝีมือของฉันเพียงเท่านี้ ถ้าไปมันไม่เหมือนการรนหาที่ตายเหรอ……”

“น่าจะใช่ กู่ยี่เทียนนั่นยังไม่เปิดตราประทับออกเลย” หลี่ฝางพยักหน้า ด้วยความพูดอะไรไม่ออก

ในตอนนั้นเองท่านเปิดปากพูด “เสี่ยวฝาง เรื่องนี้ฉันจะไม่บังคับคุณ ถึงอย่างไรความทรงจำของคุณก็ยังไม่กลับมา ฉันจะให้เวลาคุณคิดสักหน่อย ถ้าเกิดคุณไม่อยากไป……”

“ไม่ต้องพูดแล้ว!ฉันตกลง ออกเมื่อไหร่ล่ะ?”

หลี่ฝางพูดอย่างไม่ลังเล

ท่านมาเชิญเขาด้วยตัวเอง เขาไม่อยากทลายความหวังของท่าน

“งั้นก็ดี ฉันจะขอบคุณคุณแทนประเทศก่อน” ท่านพยักหน้าอย่างชื่นชม พลางพูด “เรื่องอื่นๆ คุณก็ปรึกษาหลิวฮุยเถอะ การกระทำในครั้งนี้ เขาจะพยายามหากำลังเสริมมาให้คุณเท่าที่คุณจะต้องการ”

“โอเค!” หลี่ฝางพยักหน้า

“เอาล่ะ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันขอไปก่อนนะ เด็กน้อยคุณอยู่ด้านนอกต้องระวังหน่อยนะ อย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่น”

สุดท้ายที่กำชับกับหลี่ฝางเสร็จ คนชราก็จากไปโดยการไปส่งของหลิวฮุย

เมื่อเห็นเงาที่โอนเอนของชายชรา ไม่รู้ว่าทำไม หลี่ฝางกลับถอนหายใจออกมาเบาๆ

อายุของชายชรา ถึงอย่างไรก็มากแล้ว แต่เพื่อเรื่องนี้ เขาเลยต้องไปมาๆ

ในใจของหลี่ฝางนั้นตัดสินใจแล้ว ว่าครั้งนี้มันจะต้องทำภารกิจนี้จนสำเร็จ แล้วจะไม่มีทางล้มเหลว

……

ขณะที่หลี่ฝางกำลังคุยเรื่องภารกิจกับหลิวฮุยอยู่ ตระกูลซุนที่อยู่ด้านข้าง ในตอนนี้กลับระเบิดวุ่นวายไปหมด

ตระกูลซุนเป็นตระกูลใหญ่ จะต้องมีคนมากมายอยู่แล้ว การประชุมของครอบครัวในครั้งนี้ คนสิบกว่าคนนั้นกำลังถกเถียงกัน ทุกคนดูโกรธเป็นอย่างมาก

“พ่อ พี่สี่ถูกคนทำร้ายขนาดนี้ พวกเราจะทำเป็นไม่รู้เรื่องไม่ได้หรอกนะ!”

“ใช่!พี่สี่เป็นคนที่ในชีวิตของพวกเราดูเป็นคนกำลังภายในที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา รุ่นต่อไปของตระกูลซุนคงจะ……”

ทุกคนต่างมีท่าทีโกรธแค้นเป็นอย่างมาก ราวกับว่าโกรธเคืองเพราะเรื่องที่ซุนกั๋วอันถูกทำร้าย

เมื่อได้ยินเสียงถกเถียงมากมายไม่หยุด นายท่านซุนก็ตบโต๊ะอย่างรุนแรง จนทำให้โต๊ะไม้พยุงที่เพิ่งทำเสร็จแตกละเอียด จนทำให้ห้องโถงนั้นเงียบลงทันที

“พวกคุณอยากแก้แค้นมากเลยเหรอ?” นายท่านซุนมีแววตาเย็นชาลง ก่อนจะกวาดตามองใบหน้าของผู้คนที่โกรธเคือง

“พวกคุณรู้ไหมว่าคนคนนั้นเป็นใคร?”

จากนั้นจึงเห็นความงุนงงอยู่บนใบหน้าของคนเหล่านั้น แววตาของนายท่านซุนก็ผิดหวังเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปด้านนอกพลางโบกมือ

เพียงไม่นาน ก็มีชายหนุ่มเดินเข้ามา เขามองไปก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเล็กน้อย ราวกับว่าไม่ค่อยคุ้นเคยที่มีคนมากมายมองอยู่

“คุณมาพูดฐานะของคนคนนั้นหน่อยเถอะ”

นายท่านซุนพูดเสียงเย็นชา

คนคนนั้นสะดุ้งไปทั้งตัว กลับไม่กล้าขัดคำของนายท่านซุน เลยทำได้เพียงเปิดปากพูดอย่างตะกุกตะกัก “คนคนนั้น……คนคนนั้นคือหลี่ฝาง!”

“หลี่ฝาง?หลี่ฝางคือใคร?”

ถึงอย่างไรหลี่ฝางก็เพิ่งจะมีชื่อเสียง ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงมานาน ที่จะทำให้ใครๆ ฟังแล้วก็คุ้นหู

ดังนั้นเมื่อคนมากมายของตระกูลซุนได้ฟังชื่อนี้อยู่สักพัก ก่อนจะไม่ได้มีสติขึ้นมาในทันที

แต่เพียงไม่นานก็มีคนคิดขึ้น ก่อนจะมองนายท่านซุนที่หน้าเคร่งเครียด เลยกลืนน้ำลายก่อนจะถามอย่างระวัง “หรือว่าจะเป็นอันดับกำลังภายในที่เด็กที่สุด……หลี่ฝางงั้นเหรอ?”

“ใช่ เขานั่นแหละ” คนคนนั้นตอบอย่างระมัดระวัง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท