NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1076 แอบสืบหา

บทที่ 1076 แอบสืบหา

“มีคนมาอีกแล้วเหรอ?” หลี่ฝางนึกคิด “เหมือนว่าจะเป็นเสียงฝีเท้าของผู้หญิง”

ยังไงซะ หากไม่ใช่เพราะตั้งใจวางฝีเท้าให้เบาที่สุด ฝีเท้าของผู้ชายไม่มีทางเบาได้ขนาดนี้ได้แน่

แถมฝีเท้าที่ตั้งใจวางให้เบากับฝีเท้าที่เดินปกตินั้นแตกต่างกันอย่างมาก

ไม่นาน หญิงสาวอายุยี่สิบกว่าก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของทั้งคู่

เมื่อได้พบกับคนแปลกหน้าอย่างหลี่ฝาง แถมยังยืนอยู่ข้างริโกะ โคมุระ สีหน้าของหญิงสาวเผยความไม่ประสงค์ดีขึ้นมาทันที

หลี่ฝางที่ได้ดูประวัติของทุกคนในตระกูลโคมุระมาแล้ว เขารู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวตรงหน้าคือเอโกะ โคมุระพี่สาวคนรอง

“ริโกะ ผู้ชายคนนี้คือใคร ทำไมแกถึงได้กล้าขัดคำสั่งของคุณพ่อ พาเขากลับมาที่บ้านโดยพลการ?” เอโกะ โคมุระสำรวจหลี่ฝาง ก่อนที่จะกล่าวกับริโกะ โคมุระอย่างเย็นชา

“เขาชื่ออาสึกะ เป็นเพื่อนของฉัน เมื่อสักครู่เขาช่วยฉันจัดการขับไล่โยตะ!” แม้ริโกะจะโต้แย้ง แต่กลับไม่กล้าแม้แต่จะแหงนหน้าขึ้นประจันหน้าพี่สาวด้วยซ้ำไป

“งั้นเหรอ? ฮ่าฮ่า” เอโกะไม่วายที่จะสำรวจเสื้อผ้าการแต่งกายบนร่างของเขาที่สุดแสนจะธรรมดา

โยตะที่วันๆ ไม่ทำอะไร ฟังแล้วเหมือนว่าจะมีความร้ายกาจสักหน่อย สำหรับคนธรรมดาแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับจอมวายร้าย แต่กลับไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอ

สำหรับเธอ การแต่งกายของหลี่ฝางบ่งบอกว่าเขาไม่ใช่ชนชั้นสูงอะไร เพียงแค่มีฝีมือการต่อสู้เท่านั้น ไม่มีอะไรน่ายกย่องเลยแม้แต่น้อย

“ใช่สิ งานเลี้ยงน้ำชาพรุ่งนี้แกอย่าทำให้คุณพ่อเสียหน้าเชียวนะ ทางที่ดีหาผู้ชายที่เหมาะสมจะดีกว่านะ ไม่เช่นนั้น ……” เธอไม่วายเหลือบตาจับจ้องหลี่ฝาง ก่อนหันหลังกลับเดินขึ้นบันได

กับน้องสาวคนละแม่แบบเธอ ไม่ว่ายังไงเธอก็รู้สึกดูถูก

เพราะมารดาของริโกะเป็นเพียงนางระบำเท่านั้น ในตอนนั้นเธอได้คลอดริโกะออกมาเมื่อตอนบิดาของเธอโนะชิมะ โคมุระสมัยยังเป็นหนุ่มเจ้าชู้

หลังจากนั้นเธอได้เงินก้อนโตจากโนะชิมะ โคมุระ แถมยังทิ้งริโกะที่เพิ่งคลอดได้ไม่นานเอาไว้ที่ตระกูลโคมุระ หนีไปพร้อมกับเงินก้อนโต

เพราะงั้นตั้งแต่เกิดมาริโกะจึงไม่มีใครชอบเธอเลย แม้แต่โนะชิมะ โคมุระเอง ก็เย็นชากับเธอ ไม่ห่วงใยเธอ

ส่วนมิเอะ โคมุระและเอโกะ โคมุระพี่สาวสองคนนี้ กดขี่ข่มเหงกลั่นแกล้งเธอสารพัดตั้งแต่เด็ก

เอโกะเองก็จ้องมองริโกะไม่สามารถข้องเกี่ยวกับชนชั้นสูง วันๆ ได้แต่อยู่กับพวกกระจอก ถูกบิดาลงโทษเพราะขายขี้หน้าด้วยความสุข

เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูอย่างแรงจากชั้นบน ริโกะส่งสายตารู้สึกผิดไปทางหลี่ฝาง

ยังไงซะตั้งแต่เธอเกิดมาก็ประสบกับเหตุการณ์นี้มานาน ผ่านไปสิบกว่าปี เธอชินชาซะแล้ว

หลี่ฝางตอบโต้ริโกะด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน พลันลอบถอนหายใจ

เด็กสาวอายุสิบกว่าปีแบบนี้ โตมาขนาดนี้ไม่รู้ว่าต้องแบกรับในสิ่งที่ช่วงวัยของเธอไม่ควรได้ประสบมามากมายขนาดไหน

เมื่อตามริโกะไปที่ห้องของเธอ ไม่นาน ริโกะก็ทำแผลให้กับเขาอย่างเบามือ พร้อมติดปลาสเตอร์ให้กับเขา

หลี่ฝางจ้องมองท่าทีอ่อนโยนและแผ่วเบาของเธอ พลันสงสัยว่ากว่าเธอจะทำแผลเสร็จ บาดแผลของเขาคงได้สมานเองแล้ว

หลังจากที่ทำแผลเสร็จ ริโกะยิ้มอย่างดีใจ “สองวันให้หลังถึงจะแกะออกได้นะ”

หลี่ฝางเองก็ตอบโต้ด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณมากครับ”

หลังจากนั้น หลี่ฝางยังอยากจะคุยกับริโกะมากกว่านี้ เพื่อให้เธอรู้สึกดีกับเขามากขึ้น แต่กลับพบว่าเธออารมณ์ไม่ดีตั้งแต่ที่กลับมาบ้าน ต่อให้หลี่ฝางพยายามมากแค่ไหนก็ไม่ได้ผลลัพธ์เหมือนอย่างระหว่างทาง

ผ่านไปสักพัก ริโกะปริปากกล่าวอีกครั้ง “ขอโทษค่ะ คุณอาสึกะ ฉันต้องขอโทษแทนกิริยาของพี่สาวฉันเมื่อกี้นี้ด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอก” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมมองออกว่าเธอมีเรื่องราว หากไม่รังเกียจ จะพูดกับผมก็ได้นะ”

ริโกะกอดเขาทั้งสองข้างนิ่งเงียบไป

หลี่ฝางคิดว่าเขารีบร้อนเกินไป สะกิดบาดแผลในใจของริโกะเข้าทำให้เธอไม่อยากพูดอีก ขณะคิดหาวิธีแก้ตัว ริโกะกลับปริปากเล่าเรื่องราวของเธอ

ฟังที่ริโกะเล่า ต่อให้ได้ดูประวัติของเธอมาตั้งแต่ต้น รับรู้เรื่องราวทุกสิ่งอย่างหลี่ฝาง ก็ไม่วายรู้สึกเห็นใจเด็กสาวคนนี้

“โทษที เหมือนว่าผมจะถามในสิ่งที่ไม่ควรถามเข้า” หลังจากที่ริโกะเล่าเรื่องราวของเธอ หลี่ฝางกล่าวอย่างรู้สึกผิด

“อันที่จริง ทุกอย่างในชีวิตต้องเพิ่งพาตนเองไขว่คว้ามา เพิ่งพาคนอื่นมากเกินไป ท้ายที่สุดก็เป็นแค่ข้าราชเท่านั้น มีเพียงแค่ตัวเองยิ่งใหญ่ ถึงจะเป็นรากฐานของทุกสิ่ง”

นี่เป็นประโยคจากใจหลี่ฝาง และเขาค้นพบว่า เมื่อได้ฟังประโยคของเขา ริโกะเหมือนว่าจะสั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย

แต่ก็เท่านั้น

ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยคิดที่จะตอบโต้ แต่เธออ่อนแอเกินไป และเธอไม่มีแม้กระทั่งวิธีที่จะทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นด้วยซ้ำไป

“คุณอาสึกะ ฉันช่วยคุณทำแผลเสร็จแล้ว อีกเดี๋ยวฉันจะไปส่งคุณ”

จบประโยค ริโกะจึงเดินออกไป

ส่วนหลี่ฝางในตอนนี้ แผนการบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว

โนะชิมะ โคมุระไม่อยู่บ้าน บางทีนี่อาจเป็นโอกาสที่ดี

หากได้เบาะแสอะไรมาบ้าง เขาก็ไม่ต้องเสียเวลามากมาย

เมื่อคิดได้อย่างนั้น หลี่ฝางแอบออกไปจากห้องของริโกะ เตรียมแอบสำรวจห้องของโนะชิมะ โคมุระ

ภายใต้ความช่ำชองของเขาต่อการก่อสร้างของญี่ปุ่น หลี่ฝางเล็งเป้าไปที่ห้องหนึ่งอย่างรวดเร็ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท