NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1108 กล้าอวดดีต่อหน้าผม

บทที่ 1108 กล้าอวดดีต่อหน้าผม

“คนที่ฉันด่าคือคนจอมโอ้อวดอย่างแก! ไม่พอใจก็ฝืนทนเอาไว้ซะ!”

“ด่าแกงั้นเหรอ? ฉันล่ะอยากจะอัดให้สักหมัด! กล้าไม่ไว้หน้านางฟ้าของเรา กล้าตัวต่อตัวกับกูไหม!”

“รีบไสหัวไปซะ อย่าปรากฏตัวขึ้นที่นี่อีก!”

“อย่าให้เจอนะ ไม่งั้นถ้าเจออีกครั้งจะอัดให้เละเลย!”

แต่ละข้อความที่ถูกปัดขึ้น ทำให้สีหน้าของฟางหยู่ถงบูดบึ้ง

“ไอ้พวกน่าสงสาร” หลี่ฝางส่ายหน้า

น่าเสียดาย ที่เขาอัดคนผ่านออนไลน์ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะทุบคนพวกนี้คนละหนให้ได้

ทว่าประโยคของหลี่ฝาง ทำให้นักเลงคีย์บอร์ดก่นด่าหนักยิ่งกว่าเก่า คำหยาบคายแต่ละคำ ปิดบังหน้าจอเกือบทั้งหมด

“ฮ่าๆ ……” หลี่ฝางจ้องมองหน้าจอที่หนาแน่นไปด้วยข้อความ เกิดโมโหขึ้นมา ทันใดนั้นก็เกิดคิดวิธีกลั่นแกล้งให้เจ้าคนพวกนี้โมโหหนัก

ฟางหยู่ถงในตอนนี้ตกอกตกใจทำอะไรไม่ถูกกำลังคิดหาวิธีที่จะทำให้หลี่ฝางและผู้ชมใจเย็น ทันใดนั้น ก็ได้พบกับใบหน้าของหลี่ฝางยื่นเข้ามาใกล้

ต่อมา ความรู้สึกอุ่นร้อนแผ่ซ่านเข้ามาในริมฝีปาก

หน้าจอแทบระเบิด

“ไม่! ไม่~~~~”

“มีดกูอยู่ไหน? กูจะสับมันให้เละเป็นโจ๊ก!”

“นางฟ้าของฉันแปดเปื้อนแล้ว! ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว!”

“ฉัน……ฉันไม่รู้ว่าควรจะอิจฉาใครดี……”

ไม่เพียงแต่หน้าจอเท่านั้นที่ระเบิด เหล่าแฟนคลับในไลฟ์เองก็ระเบิดเช่นเดียวกัน เพราะไม่รู้ว่าใครที่อยากรู้อยากเห็นที่กดของขวัญอย่างบ้าคลั่ง ดึงดูดความสงสัยของผู้คนให้เข้ามาดู หลังจากนั้นบุคคลที่กดของขวัญเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ผู้ชมพุ่งทะยานขึ้นเป็นหลักสิบล้าน

ฟางหยู่ถงและบอดี้การ์ดอีกสองคนตกตะลึง ไม่คาดคิดเลยว่าหลี่ฝางจะทำแบบนี้

หลังจากนั้นบอดี้การ์ดทั้งสองได้สติกลับคืนมา เกิดคลั่ง พุ่งเข้าไปคำรามใส่หลี่ฝางด้วยความโมโห “หยุดนะ……ถอนปากแกออก!”

หลี่ฝางปล่อยฟางหยู่ถง หัวเราะใส่กล้องอย่างได้ใจ รอยยิ้มที่โอหัง แทบทำให้ผู้ชมเหล่านั้นปาโทรศัพท์ทิ้ง

ทว่าน้ำเสียงที่เบาราวกับแมลงวันของฟางหยู่ถงดังขึ้นที่ใบหูของหลี่ฝาง “ฉัน……จูบแรกของฉัน……”

เมื่อเห็นขอบตาที่แดงก่ำของฟางหยู่ถง ในหัวของหลี่ฝางเกิดเสียงดัง “วิ้ง”

เมื่อสักครู่มัวแต่คิดเอาคืนแฟนคลับ จนลืมสิ่งเหล่านี้ไปเลย!

เป็นความผิดของพวกนักเลงคีย์บอร์ดไร้มารยาทพวกนั้นแท้ๆ

“คือว่า……เธอจูบฉันคืนแล้วเราหายกันได้ไหม?” หลี่ฝางกล่าว

“โอ๊ยๆ! ฉันจะบ้าตาย!”

“ไอ้บ้านี่มันไร้ยางอายชะมัด! ฉันให้ของขวัญร้อยชิ้น! ใครที่อยู่ใกล้มันช่วยตีขามันให้หักที!”

“ฉันก็ให้ของขวัญร้อยชิ้นตีขาอีกข้างของมันให้หักที!”

“ฉันก็ให้ของขวัญร้อยชิ้นเอาให้มัน……”

ทุกคนต่างบ้าคลั่ง บอดี้การ์ดสองนายนั้นก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป พลันพุ่งเข้าไปพับแขนเสื้อคิดที่จะอัดหลี่ฝาง

เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้หากไม่สามารถทำให้คุณหนูพึงพอใจได้ พวกเขาเองก็ไม่มีหน้าที่จะอยู่ต่อ เก็บข้าวของแล้วไสหัวไปเลยซะดีกว่า!

ในเวลานี้เอง เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นจากที่ไกลออกไป พุ่งเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว

หลี่ฝางที่อยู่ไกลออกไปสังเกตเห็นเงาร่างนั้น พบว่าเขาหุ้มกายด้วยชุดดำมิดชิด ไม่ปรากฏใบหน้าให้เห็นแม้แต่น้อย แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีอะไร

ไม่นานบอดี้การ์ดสองนายก็เห็นเงาร่างนั้นอย่างรวดเร็ว จึงรีบคุ้มกันฟางหยู่ถงสองข้างซ้ายขวา จับจ้องบุคคลในชุดดำอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัย

ไม่นาน ชายชุดดำปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา

“แกเป็นใคร!”

บอดี้การ์ดสองนายร้อนรน

ช่วงนี้เจ้านายของพวกเขาเกิดปัญหาขึ้น เป็นห่วงความปลอดภัยของฟางหยู่ถง เพราะงั้นถึงได้ให้พวกเขาสองคนคอยปกป้องฟางหยู่ถงทุกฝีก้าว

บุคคลในชุดดำคนนั้น พิจารณาฟางหยู่ถงด้วยสายตาดูหมิ่น

ในสายตาของเขา บอดี้การ์ดสองคนนี้พอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ก็เท่านั้น ไม่สามารถข่มขู่เขาได้แม้แต่น้อย

ให้เขามาจับตัวเด็กสาวที่อ่อนแอแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายหรือไง?

ส่วนหลี่ฝางที่ใจเย็นลงแล้ว ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาแม้แต่น้อย

เขาตัดสินใจแล้ว บุคคลในชุดดำพุ่งไปที่บอดี้การ์ดทั้งสอง

ทว่าบอดี้การ์ดสองนายนั้นตามความว่องไวของเขาไม่ได้แม้แต่น้อย ถูกบุคคลในชุดดำเล่นงานจนนอนกองกับพื้น กระอักเลือดทั้งคู่ จนคลานลุกขึ้นไม่ได้

บอดี้การ์ดสองนายถูกจัดการได้อย่างรวดเร็ว ชายชุดดำกวาดสายตาไปยังฟางหยู่ถง

ฟางหยู่ถงเกิดหวั่นวิตก

โทรศัพท์ของเธอตกพื้นเพราะความตกใจ มุมกล้องแนวทแยงสามารถมองเห็นได้เพียงมุมเดียวเท่านั้น

ทันใดนั้น แฟนคลับต่างร้อนรนขึ้นมา

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ให้ตาย! เหมือนว่านางฟ้าจะเจอพวกโจรเข้า!”

“ไอ้หมอนี่ฝีมือเก่งใช้ได้เลย บอดี้การ์ดสองคนนั้นถึงกับลุกไม่ขึ้นเลย!”

“ไอ้สารเลวนั่นทำไมยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับล่ะ ไม่คิดที่จะเข้าไปช่วยหรือยังไง?”

บนหน้าจอ หลี่ฝางยืนอยู่มุมหนึ่ง ยืนดูเหตุการณ์ราวกับตกใจกลัว

ปฏิกิริยาของเขา ทำให้แฟนคลับเริ่มก่นด่าอีกครั้ง

ฟางหยู่ถงในตอนนี้ตื่นตระหนกจนถึงขีดสุด เผชิญกับชายชุดดำที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เธออยากจะหนี แต่กลับพบว่าเธอตกใจกลัวจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ขาทั้งสองข้างอ่อนยวบ สามารถประคองตนเองไม่ให้นั่งลงก็ถือว่าขีดสุดแล้ว

ตอนนี้เอง สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดผวาและวิงวอน ตกไปอยู่ที่หลี่ฝาง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท