NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1144 กำเนิดครึ่งเทพ

บทที่ 1144 กำเนิดครึ่งเทพ

นาทีอันตรายมาเยือน หลี่ฝางไร้ความรู้สึกใดๆ อย่างน่าประหลาด มีเพียงแค่ความสงบนิ่งที่ยากจะบรรยาย

เสมือนกับผ้าตาข่ายอันบางเบาได้ถูกเปิดออก ในหัวความทรงจำในอดีตที่ไม่ว่าจะพยายามนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก แต่ตอนนี้ในหัวของเขาราวกับมีแถบอักษรวิ่งผ่าน

บางที นี่อาจเป็นนาทีสุดท้ายของชีวิต ในที่สุดหลี่ฝางก็จำทุกอย่างได้

เพียงชั่วพริบตา ก็ได้เดินผ่านชีวิตของตนเองในอดีต ภาพสุดท้ายในหัวของหลี่ฝางหยุดอยู่ในช่วงเวลาที่เขาสูญเสียความทรงจำไป

นั่นก็คือที่สุสานจูหลง เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในครั้งนั้นที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์!

แถมยังเลือนรางราวกับไม่มีอยู่นั่นอีก แต่ก็เสมือนว่าเป็นประตูเทพที่มีอยู่จริง……

ประตูที่ตั้งสูงตระหง่าน บานนั้นสลักไปด้วยลวดลายดอกไม้สลับซับซ้อนมากมาย อุดมไปด้วยกลิ่นอายความลึกลับแบบโบราณค่อยๆ แง้มออกเป็นร่องให้กับหลี่ฝาง

ความรู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่นเจือจางลง เมื่อเขาได้สติตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หลี่ฝางก็ได้กลับมายังโลกแห่งความเป็นจริงของเขา

ทุกสิ่งรอบกายยังคงอยู่ในช่วงเวลาเกิดระเบิด ระเบิดอุณหภูมิสูง ความดันสูง รังสีนิวตรอนมหาศาล การทำลายล้างที่น่าหวาดผวาชะงักกลางอากาศ

ในนาทีที่หลี่ฝางได้สติกลับคืนมา เวลาเริ่มเคลื่อนไหวใหม่อีกครั้ง การทำลายล้างจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้

ช่วงเวลาที่ฟื้นคืนสติ หลี่ฝางเก็บพลังงานของตนเองทันทีโดยไม่แม้แต่จะคิด

“ประตูเทพ!”

พลังงานบริสุทธิ์ไร้ขีดจำกัดพุ่งออกมาจากจุดไป่หุ้ย บนศีรษะค่อยๆ เข้มข้นขึ้น บนเหนือหัวของเขาค่อยๆ หลอมรวมเป็นรูปทรงประตูอย่างเลือนราง

ประตูที่สูงตระหง่านบานนี้ เมื่อมองผ่านเข้าไป กลิ่นอายของดึกดำบรรพ์ที่เก่าแก่และลึกลับปะทะเข้ามา ทว่าเลือนรางมากเกินไป ราวกับก่อตัวขึ้นจากเมฆหมอกบางๆ เลือนรางไม่ชัดเจน

ตอนนี้หลี่ฝางที่ได้ความทรงจำกลับคืนมา ในที่สุดก็ก้าวเข้าสู่ดินแดนครึ่งเทพ!

เพียงปลายนิ้วสัมผัส พลังของหลี่ฝางถูกขยายตัวออกอย่างรวดเร็ว แผ่ออกเป็นวงกว้างโดยไร้รูปร่าง ภายในหนึ่งในพันวินาทีดั่งผ้าแพรที่เทพธิดาในวรรณคดีถักทอขึ้น ก็ตกลงมาอย่างเชื่องช้า พลางครอบคลุมบริเวณหลายสิบกิโลเมตรรอบกาย

เสมือนกับเวลาไหลย้อนกลับ ในบริเวณเสื้อแพรระเบิด พลังงานทั้งสี่ที่ได้ระเบิดออกถูกหยุดค้างกลางอากาศ ลำแสงและความร้อนเริ่มลดลงคลื่นทำลายล้างเริ่มสงบลง

เพียงวินาทีสั้นๆ ราวกับทุกอย่างย้อนกลับไปก่อนการโจมตี

การทำลายล้างที่คิดเอาไว้ไม่ได้เกิดขึ้น เพียงแต่ลูกระเบิดที่โจมตีออกไปตกลงสู่พื้น ไม่ได้ย้อนกลับไปยังกระบอก ผู้คนที่ล้มตายไม่ได้ฟื้นคืนชีพ แต่กองเป็นศพดังเดิม

ที่สำคัญระเบิดพลังงานสูงทั้งสี่ลูกหายลับไปอย่างไร้ร่องรอย

ราวกับเปลวเพลิงที่จุดประกาย ถูกมือใหญ่ที่หยาบกระด้างดับมอด

หลี่ฝางแตะนิ้วมือต่อเนื่อง ชายมากฝีมือทั้งสี่ที่แบกกล่องลูกระเบิดต่างระเบิดพร้อมกันสิ้นชีพในพริบตา

เมื่อเหลือบมองไปทางชายหัวทองที่ยืนดูเหตุการณ์นิ่ง หลี่ฝางหมุนตัวพุ่งทะยานขึ้นฟ้าอย่างเย็นชา

เขาเหาะจากไปแล้ว!

ครึ่งเทพควบคุมแรงโน้มถ่วง!

หลี่ฝางต่อสายหาหลิวฮุย

“หลิวฮุยอยู่ไหม?”

“อยู่ ทำไมถึงโทรหาฉันในเวลานี้ล่ะ? เตรียมออกเดินทางแล้วเหรอ? การผ่าตัดของนายท่านหยางเป็นอย่างไรบ้าง?”

“แกอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้ บอกฐานทัพของสำนักหยิ่งซาทั้งหมดที่เมืองจินซานมาให้หมด”

“หลี่ฝาง แกจะทำอะไร?” หลิวฮุยรับรู้ถึงความผิดปกติจากน้ำเสียงของหลี่ฝาง

“บอกมา” น้ำเสียงของหลี่ฝางไม่แยแส

ลังเลอยู่สามวินาที ในที่สุดหลิวฮุยถึงได้ทำการตัดสินใจ

“……ได้ฉันจะส่งให้แกทั้งหมด หลี่ฝาง แก……อย่าให้เกิดอะไรขึ้นล่ะ”

หลี่ฝางที่เหาะกลางอากาศด้วยความเร็วสูง พลางเผยรอยยิ้มมุมปาก “ผมไม่มีปัญหาอะไรหรอก คนที่ควรอ้อนวอนคือพวกเขา”

สาขาย่อย สำนักหยิ่งซา เมืองจินซาน

หลี่ฝางลอยล่องอยู่เหนือสาขาย่อยแห่งนี้ พลางจับจ้องสิ่งสถาปัตยกรรมที่ซ่อนอยู่รอยยิ้มของเขาสดใสมากขึ้นเรื่อยๆ แต่นัยน์ตากลับเยือกเย็นเฉกเช่นเดิม

เขาเอื้อมแขนทั้งสองข้างออกไป ฝ่ามือตรงกับด้านล่างกลางฝ่ามือ พลังงานที่ไร้รูปร่างแผ่กระจายออก เพียงพริบตาก็ได้ปกคลุมสาขาทั้งหมด

พลังงานอันแรงกล้าทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด

เครือข่ายล้มเหลวทำให้สาขานี้กลายเป็น “เกาะร้าง” ไปในพริบตา ผู้นำสาขาย่อยได้รับเพียงแค่ข้อความหนึ่งจากสาขาใหญ่เท่านั้น “เอาตัวรอดอย่างสุดความสามารถ และมีชีวิตต่อไป”

ทั้งสาขาตกอยู่ท่ามกลางความหวาดผวา

“ตอนนี้เริ่มการล้างแค้น!” หลี่ฝางหัวเราะอย่างชั่วร้าย พลางประคองร่างพุ่งลงไปเบื้องล่าง

“ถอยทัพ! ถอยทัพ!”

“ภารกิจล้มเหลวครับ”

“ไปเร็วเข้า! เขาจะตามทันแล้ว”

หลี่ฝางจ้องมองกลุ่มคนที่หนีเอาชีวิตรอด พลางระเบิดหัวเราะดังลั่นภายใต้เสียงหัวเราะที่บ้าคลั่ง เพียงพริบตาก็ได้พรากชีวิตไปทั้งหมด เพราะงั้นถึงได้มีร่างกองเกลื่อนพื้น

หลังจากนั้น เขาก็มุ่งไปยังกลุ่มคนที่แตกกระจาย

ท่ามกลางความมืด เงาร่างหนึ่งที่มีเลือดสีแดงข้นพุ่งไปซ้ายขวา มีเพียงเสียงสั่นสะเทือน เสียงปืนเสียงร้องโหยหวนอย่างอนาถ แสงไฟที่เจิดจ้าในบางเวลาก็ทำให้เห็นถึงทิศทางแห่งการฆ่าล้างต่อไป

ไม่ถึงนาที มีคนพลีชีพนับร้อยเข้าไปแล้ว

นักรบก็ดี คนธรรมดาก็ดี ในเวลาแบบนี้ สำหรับหลี่ฝางแล้วก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไร

ก่อนจะพุ่งเข้าใส่พลังงาน แล้วกวาดไปทั่วทุกทิศดับชีพ

เมื่อเห็นมีคนพลังงานกวาดไปทั่วทุกทิศดับชีพ

สถานที่เยือนผ่านนั้นเสมือนกับเคียวแห่งความตายกำลังตกลงใส่

ไม่มีใครที่สามารถหยุดยั้งหลี่ฝางเอาไว้ได้ในตอนนี้

ความสิ้นหวัง ความหวาดผวาเข้าปกคลุมเหล่าฝูงชน

กำปั้นและเท้าไม่สามารถทำอะไรเกราะป้องกันจากกำลังภายในของหลี่ฝาง อาวุธสมัยใหม่ถูกพลังงานของหลี่ฝางทำลายจนหมดสิ้น

ความเร็วของหลี่ฝางอยู่สายใต้สายตาของทุกคน ทุกคนแทบจะมองไม่เห็นเงาร่างของเขาด้วยซ้ำ แต่ก็กลายเป็นซากศพเสียแล้ว

ทุกคนต่างตกอยู่ภายใต้ความหวาดผวา องค์กรอะไรกันความเชื่อเกียรติยศถูกละทิ้งไว้อีกทาง

หนีให้ห่างปีศาจตนนี้ หนีไปยิ่งไกลยิ่งดี นี่เป็นความคิดเดียวที่มีอยู่ในหัวของพวกเขา

แต่พวกเขาลืมไป ว่าในอดีตที่พวกเขาทำการฆ่าล้างทำร้ายนั้น ทำลายความหวังของผู้อื่น คนที่หัวเราะชอบใจก็เป็นพวกเขาในตอนนี้เอง

เพราะงั้นหลี่ฝางจึงไม่มีความปรานีต่อคนเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย

“โอ๊ย! ไอ้ปีศาจ!” บุคคลหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นฟ้า เขาเป็นหัวหน้าที่ใหญ่ที่สุดของสาขานี้ มีพลังอันแกร่งกล้าในครอบครอง ซึ่งฝึกฝนมาจากระหว่างความเป็นและความตาย

อำนาจของเขาแข็งแกร่งกว่าลูกหลานตระกูลชนชั้นสูงเหนือกว่าหลายชั้นนัก

แต่ต่อหน้าหลี่ฝาง สิ่งเหล่านี้ช่างไร้ความหมาย

ความอาฆาตอันเข้มข้น ปกคลุมเขาเอาไว้ ทำให้ชีวิตของเขากลายเป็นหนึ่งในพลังงานคลุ้งคาวเลือด

บุคคลตรงหน้าล้มตาย การต่อต้านของสำนักหยิ่งซาเองก็หมดลง

หลังจากนั้น หลี่ฝางใช้เวลาห้านาทีทำการกวาดล้างศิษย์สำนักหยิ่งซาแห่งนี้จนเรียบ

หลังควันเขม่าแห่งการกวาดล้างผ่านพ้นไป หลี่ฝางก็ค่อยๆ ลงมายังเบื้องล่าง ก่อนจะเหยียบย่ำลงบนผืนดินแห่งสถานที่พังพินาศนี้ “ต่อจากนี้ เมืองจินซานก็ห้ามไม่ให้สำนักหยิ่งซาก้าวเข้ามาแม้เพียงครึ่งก้าว ที่นี่ผมจะดูแลต่อเอง!”

ประโยคนั้นทำให้ซากปรักหักพังแห่งนี้ เล่าลือไปทั่วสำนักหยิ่งซา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท