ด่าก็ส่วนด่า เขายังหวังให้ซุนเฟยจับเจิ้งเหวินจุ้นได้ จึงได้แต่พูดเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด “เฟยเฟย หากแกได้อยู่กับคุณชายเจิ้ง จะได้เสพสุขกับความมั่งคั่งไปทั้งชีวิตเลยนะ ฉันทำทุกอย่างก็เพราะหวังดีกับแก ทำไมแกถึงได้ไม่เข้าใจเอาซะเลย?”
เมื่อได้ฟังประโยคจอมปลอมของบิดา ซุนเฟยรู้สึกสะอิดสะเอียน
เธอไม่เคยคาดคิด ว่าบิดาของตนจะพูดไม่คิดแบบนี้ออกมาได้โต้งๆ
“พ่อคะ ท่านคงไม่ได้ไม่รู้ว่าเศษเดนคนนี้เป็นคนอย่างไรใช่ไหม? ท่านอยากจะผลักไสให้หนูลงเหวขนาดนั้นเลยเหรอ?”
คำของซุนเฟย ทำให้รอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้าของเจิ้งเหวินจุ้นเลือนหายไป
“มีไม่กี่คนที่กล้าพูดแบบนี้กับคุณชายอย่างฉัน นางแพศยา เธออยากตายสินะ!”
เจิ้งเหวินจุ้นที่ใช้อำนาจจนเคยชิน ง้างฝ่ามือขึ้นคิดที่จะเหวี่ยงไปที่หน้าของซุนเฟย
เขาต้องการสั่งสอนผู้หญิงคนนี้ให้หลาบจำ จึงจะยอมเชื่อฟังแต่โดยดี!
ผู้หญิงที่เขาเจิ้งเหวินจุ้นต้องการ ไม่เคยไม่ได้!
ซุนจื้อเหวินยกมือขึ้นหวังขัดขวาง เมื่อคิดได้ว่าเจิ้งเหวินจุ้นเป็นคุณชายตระกูลใหญ่ มือที่ยกขึ้นจึงวางลง
ซุนเฟยที่เห็นอย่างนั้น แสดงสีหน้าเยาะเย้ยออกมา
ในเวลานี้เอง มือข้างหนึ่งยื่นเข้ามากะทันหัน จับมือที่กำลังจะตกกระทบเอาไว้
“ไอ้หนู แกยุ่งไม่เข้าเรื่องเลยนะ!” จับจ้องชายหนุ่มที่จับมือของตนเอาไว้ เจิ้งเหวินจุ้นคำรามอย่างไม่พอใจ
หลี่ฝางจ้องมองเจิ้งเหวินจุ้นอย่างเย็นชา มือที่จับแขนของเขาเริ่มออกแรง
ทันใดนั้น ความเจ็บปวดมหาศาลทำให้เจิ้งเหวินจุ้นกรีดร้องออกมาอย่างอนาถ
“ไอ้บ้า ปล่อยมือเดี๋ยวนี้! แกอยากตายใช่ไหม!”
ความเจ็บปวดแบบนี้ทำให้เจิ้งเหวินจุ้นที่ไม่เคยเป็นรองมาก่อนเจ็บจนแทบน้ำตาไหล
“เอ๋ แก……”
ซุนเฟยจับจ้องหลี่ฝางอย่างตกตะลึง ในสายตาเต็มไปด้วยความยากที่จะเชื่อ
ทีแรกซุนเฟยเจอกับดักที่ประเทศเหล่า เกาเมิ่งฉีรับกระสุนแทนหลี่ฝาง หลังจากนั้นส้าวส้วยออกหน้าพาเขาออกไป เรือที่ทั้งคู่นั่งเป็นเรือของซุนจื้อเหวิน
ตอนนั้นพวกเขาเจอโจรกลางทะเล หลี่ฝางเองที่เป็นคนสังหาร หรือจะพูดว่า เรือของซุนจื้อเหวิน ถูกเท้าของหลี่ฝางกระทืบจนพังเสียหาย
ซุนเฟยไม่คิดเลย ผู้ชายที่ทิ้งร่องรอยความทรงจำให้กับเธอเพียงแค่เวลาสั้นๆ จะปรากฏตัวต่อหน้าเธออีกครั้ง
“ขี้หมาอย่างแก รู้ไหมว่าแกล่วงเกินใครเขา! รีบปล่อยฉันซะ ไม่งั้นฉันจะสั่งให้คนหั่นแกเป็นชิ้นแล้วให้หมากินซะ!”
“ฮ่าๆ ตระกูลเจิ้ง……” หลี่ฝางเหลือบมองซุนเฟย ก่อนละสายตาไปยังเจิ้งเหวินจุ้น หัวเราะอย่างเย็นชา
ต่อมา กำมือออกแรงบีบ
แกร็ก!
เสียงที่ราวกับกิ่งไม้แห้งถูกหักดังชัดเจน คนในเหตุการณ์ต่างหวาดเสียว
หลี่ฝางคลายมือออก ก็ได้เห็นแขนของเจิ้งเหวินจุ้นทิ้งตัวห้อยลง หักโดยสมบูรณ์
“โอ๊ะ!” เจิ้งหวินจุ้นกอดแขนของตนเองกรีดร้องอย่างอนาถปานใจจะขาด เม็ดเหงื่อบนใบหน้าผุดขึ้นราวกับสายฝน
“คุณชายเจิ้ง คุณชายเจิ้ง!”
ซุนจื้อเหวินเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตกใจจนใบหน้าขาวซีด คิดว่าชีวิตนี้ของเขาจบเห่ลงแล้ว
ต่อให้เขาไม่ใช่คนทำร้ายเจิ้งเหวินจุ้น แต่การพาลโกรธของตระกูลเจิ้งก็ทำให้เขาพังทลายได้!
“แกกล้าทำร้ายคุณชายตระกูลเจิ้ง แกจบเห่แน่! แกจบเห่แน่!” เจิ้งเหวินจุ้นชี้หน้าหลี่ฝางตะโกนด้วยความหวาดกลัว
ต่อให้เขานึกออกว่าหลี่ฝางเป็นคนช่วยพวกเขาเอาไว้ที่ทะเล ตอนนี้เขาก็ได้แต่อยู่ให้ห่างความสัมพันธ์ของหลี่ฝาง ไม่อยากจะได้รับผลกระทบไปด้วย
ต่อให้ฝ่ายตรงข้ามทำเพื่อช่วยเหลือซุนเฟย เขาก็ไม่ลังเลที่จะชี้หน้าว่ากล่าวหลี่ฝาง
ความเย็นชาของซุนจื้อเหวิน หลี่ฝางไม่แยแส พลันเอ่ยกลับเจิ้งเหวินจุ้นอย่างเรียบเฉย “ไสหัวกลับไป บอกเจิ้งชิง ช่วงนี้ให้ตระกูลน้อยๆ หน่อย อย่าล่วงเกินผมอีก สามวันให้หลังค่อยคิดบัญชีกับตระกูลเจิ้ง!”
คำพูดแบบนี้ ทำให้ซุนจื้อเหวินที่อยู่อีกด้านถึงกับพูดไม่ออก หลังจากนั้นจึงจ้องมองหลี่ฝางราวกับคนเสียสติ
เขาบอกว่าจะคิดบัญชีกับตระกูลเจิ้ง? มีความสามารถหน่อยก็ลืมต้นกำเนิดของตัวเองเสียสิ้น!
แต่ต่อมาซุนจื้อเหวินนกลับรู้สึกยินดีขึ้นมา ในสายตาเขาคนที่กล้าหาเรื่องตระกูลเจิ้งอย่างหลี่ฝางได้กลายเป็นศพไปแล้ว หลังจากนั้นขอแค่เขาส่งซุนเฟยให้กับเจิ้งเหวินจุ้น ตัดขาดกับหลี่ฝาง เรื่องนี้ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว
ถึงตอนนั้นก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วไม่ใช่เหรอไง? เพียงแต่จะทำอย่างไรให้ซุนเฟยเชื่อฟังแต่โดยดี!
ความโกรธของเจิ้งเหวินจุ้น หลี่ฝางไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย ทิ้งท้ายประโยคก่อนหมุนตัวไปทางซุนเฟย “ไปกับผม
ประโยคที่ราบเรียบ ทำให้หัวใจซุนเฟยเต้นรัว ก่อนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น เดินตามหลังของหลี่ฝางไป
ซุนจื้อเหวินคิดจะรั้งซุนเฟยเอาไว้ แต่สถานการณ์ของเจิ้งเหวินจุ้นตรงหน้า ทำให้เขานึกถึงความเก่งกาจของหลี่ฝาง จึงไม่กล้าขัดขวาง
ซุนเฟยที่เดินตามอยู่ข้างหลัง เพียงเหลือบมองซุนจื้อเหวินที่ส่งสายตาเตือน ก่อนหันหน้ากลับอย่างสิ้นหวัง สาวเท้ายาวออกไป
รอบข้างถูกห้อมล้อมเอาไว้ ถูกล้อมสนิทแม้แต่อากาศยังเล็ดลอดเข้ามาไม่ได้
“เขาเป็นอะไร?” ใครบางคนกล่าวถามอย่างสงสัย
“เหอะๆ คุณชายน้อยของตระกูลเจิ้งเกิดเรื่องแล้ว ผู้บัญชาการหวางกล้าไม่มาเหรอ?” บางคนหัวเราะเยาะ
เมื่อเห็นผู้บัญชาการหยัง เจิ้งเหวินจุ้นหัวเราะออกมาอย่างได้ใจ คู่กับสีหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด ทำให้ดูน่าสยองมากกว่าเก่า
“แกจบเห่แน่!”