“มีปัญหาอะไรไหม?” หลี่ฝางกล่าวเสียงเบา
“ฮ่า ๆ ๆ หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย ฮ่า ๆ ๆ ……” ซูจื้อเย่หัวเราะจนตัวงอ ราวกับได้ฟังเรื่องราวที่น่าหัวเราะอย่างสุดขีด ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็หัวเราะเยาะเย้ยตามอย่างอย่างไร้ความปรานี
“นี่ ฉันคิดไม่ถึงจริง ๆ นะ หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง จะทำให้ฉันให้ความสำคัญตั้งแต่เริ่มเรกแบบนี้ ฮ่า ๆ ๆ ……” ซูจื้อเย่หัวเราะเสียงดังอย่างไม่หยุด
สายตาที่เขามองหลี่ฝาง เต็มไปด้วยความดูถูกและเหยียดหยาม ส่วนสายตาที่มองฟางหยู่ถงนั้น กลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและเห็นใจ
หึหึ แม้แต่หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยยังเข้าตาเธอได้ คราวนี้ถูกเปิดโปงเข้าให้แล้ว ดูสิว่าเธอจะ หยิ่งกับฉันต่อไปยังไง!
คิดอยู่แบบนี้ ซูจื้อเย่ก็หันไปเอ่ยกับหลี่ฝางด้วยท่าทางเห็นอกเห็นใจ: “นี่นาย ต่อไปถ้าหมดหนทาง ก็มาหาฉันที่บริษัทรักษาความปลอดภัยจินตุ้น เดี๋ยวฉันจะจัดหางานให้นายเอง รับรองว่าตำแหน่งสูงกว่าหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยแน่นอน! ฮ่า ๆ ๆ ……”
เมื่อรู้สถานะของหลี่ฝาง ไฟโมโหที่อยู่ในใจของซูจื้อเย่ ก็ถูกปลดปล่อยไปทันที มันรู้สึกดีมากเลยจริง ๆ
คำพูดของซูจื้อเย่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม แต่คนที่อยู่ในเหตุการณ์กลับคิดว่ามันปกติ เพราะถึงยังไงในสายตาของพวกเขา หลี่ฝางเป็นเพียงแค่หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยเท่านั้นเอง
รวมทั้งสวู่เจินเจินและข่งจู ความประทับใจที่มีต่อหลี่ฝางนั้นก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
หลี่ฝางกลับไม่ได้รีบร้อนอะไร การยั่วยุของคนพวกนี้ สำหรับเขาแล้วก็เป็นเหมือนเรื่องตลก ที่ไม่อาจทำให้เขารู้สึกอะไรได้เลยสักนิด
“ลู่เผิงเฟยมาแล้ว!”
ในตอนนั้นเอง ก็มีคนตะโกนขึ้นมาที่ด้านข้าง ทำให้ผู้คนที่อยู่ทางนี้ต่างมองไปที่ประตูทันที ก็พบว่าคนกลุ่มหนึ่งมุงกันอยู่ตรงนั้น เหมือนกับจะคึกคักเป็นพิเศษ
“ได้ยินมานานแล้วว่าคุณชายลู่ท่านนี้มาที่เมืองจินซาน คิดไม่ถึงว่าเขาจะมางานเลี้ยงวันเกิดในวันนี้ด้วย”
“พวกเราเองก็เข้าไปทักทายหน่อยเถอะ” ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ควรจะเป็นเช่นนั้น ถึงแม้อิทธิพลของตระกูลลู่จะไม่ได้อยู่ที่เมืองจินซาน แต่ถึงยังไงก็เป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศ จะต้องเป็นมิตรด้วย จะเป็นศัตรูด้วยไม่ได้” ซูจื้อเย่พยักหน้ากล่าว
ลู่เผิงเฟยลูกหลานของตระกูลใหญ่อันดับต้น ๆ ท่านนี้ ฐานะและตำแหน่งนั้นสูงกว่าพวกเขามาก
ทันทีทันใด ทุกคนต่างก็ไม่มีเวลาจะมาเหยาะเย้ยหลี่ฝางแล้ว และเดินไปทางลู่เผิงเฟยทันที
หลังจากที่คนพวกนี้ได้จากไปแล้ว ฟางหยู่ถงก็ได้เอ่ยขอโทษหลี่ฝาง: “คนพวกนี้พูดจาไม่น่าฟัง ต้องขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้คุณต้องได้รับความไม่เป็นธรรมฟรี ๆ แบบนี้”
ในสายตาของเธอ อาชีพอะไรก็มีสังคมอย่างนั้น เดิมทีหลี่ฝางอยู่ในสังคมของตัวเองดี ๆ ก็ต้องถูกเธอดึงมาให้คนอื่นหัวเราะเยาะอยู่ในสังคมนี้ เป็นธรรมดาที่เธอจะรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่เคยเห็นตัวตลกแบบนั้นอยู่ในสายตาเลยสักนิด” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“หึ ขี้โม้!” ข่งจูหันไปกล่าวกับหลี่ฝางด้วยความโมโห
เธอไม่ได้ดูถูกสถานะหน้าที่การงานของหลี่ฝางหรอกนะ แต่หลี่ฝางเงียบในตอนที่คนพวกนั้นพูดจาเหยียดยาม พอมาตอนนี้กลับยกหางตัวเอง จึงทำให้ข่งจูไม่พอใจเป็นธรรมดา
หลี่ฝางยิ้มพลางส่ายหัว และไม่ได้กล่าวอะไร
และในกลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่ตรงนั้น ลู่เผิงเฝยกำลังทักทายกลับแต่ละคนที่เข้าไปทักทายเขาอย่างสุภาพมีมารยาท
ต่อให้เขารู้ว่าคนพวกนั้นเพียงเพราะฐานะคุณชายแห่งตระกูลลู่ ต้องการประจบสอพลอเขา อยากจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับตระกูลลู่ เพื่อผลกำไรมหาศาล
ให้ตัวเองก้าวหน้าไปอีกขั้น หรือแม้แต่มีความคิดกลอุบายมากกว่านั้น มีแผนการชั่วร้าย ลู่เผิงเฟยล้วนไม่ใส่ใจทั้งนั้น
ถึงยังไงเรื่องแบบนี้ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่รู้ว่าเขาผ่านมากี่ครั้ง จนชินกับมันไปนานแล้ว พูดได้ว่าเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้มาตั้งแต่เกิด จึงสามารถรับมือกับมันได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีความกดดันใด ๆ เลยสักนิด
ณ เวลานี้ซูจื้อเย่เองก็ได้เข้าไปต้อนรับเหมือนกัน เป็นธรรมดาที่ลู่เผิงเฟยจะรู้จักซูจื้อเย่ ท่าทีที่มีต่อเขานั้น จึงดูสนิทสนมกว่าคนอื่น ๆ ไม่น้อย
เขารู้ว่าคุณแม่ของซูจื้อเย่เป็นคนของตระกูลใหญ่ด้านยุทธภพของหนานเจียง คุณพ่อของเขาก็เป็นนักธุกิจที่มีชื่อเสียง เป็นธรรมดาที่ฐานะของเขาจะสูงส่งกว่าคนอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบมาก
ซูจื้อเย่เองก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าท่าทีที่ลู่เผิองเฟยมีต่อเขานั้นไม่เหมือนกัน พลันรู้สึกได้ใจขึ้นมาทันที
“อ้อใช่ คุณชายซู หยู่ถงก็น่าจะมาแล้วใช่ไหม?” จู่ ๆ ลู่เผิงเฟยก็เอ่ยถามซูจื้อเย่ขึ้นมา
ลู่เผิงเฟยเองก็เคยแสดงออกว่ารู้สึกดีต่อฟางหยู่ถง และฟางหยู่ถงก็ได้ปฏิเสธเขาไปเช่นเดียวกัน
ถึงแม้หลังจากนั้นมาลู่เผิงเฟยจะไม่เคยถามอีก แต่ถึงยังไงวันนี้ก็ได้มาถึงที่นี่แล้ว ในเมื่อเขามีใจ จึงคิดที่จะเอ่ยถามเป็นธรรมดา
“ฮ่า ๆ ๆ คุณชายลู่ ตอนนี้หยู่มีแฟนแล้วนะ พวกเราสองคนไม่ได้ต้องเป็นศัตรูหัวใจล่องหนกันอีกต่อไปแล้ว” ซูจื้อเย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “คุณดูสิ หยู่ถงอยู่ทางนั้นยังไงล่ะ”
ซูจื้อเย่พึ่งจะเริ่มตามจีบฟางหยู่ถง ทีหลังลู่เผิงเฟย ถ้าหากลู่เผิงเฟยยังตามจีบฟางหยู่ถงอยู่ ตีให้ตายเขาก็ไม่กล้าแย่งลู่เผิงเฟย
“หือ? หยู่ถงมีแฟนตั้งแต่ตอนไหนกัน?” ลู่เผิงเฟยขมวดคิ้วถาม
ซูจื้อเย่แอบดีใจขึ้นมา และกระซิบเสียงเบา: “นั้นไงล่ะ ผู้ชายคนที่ยืนอยู่กับหยู่ถงคนนั้นไง”
ถึงแม้เขาอยากจะเล่นงานหลี่ฝางให้ตาย แต่ว่าถ้าหากเขาเป็นคนลงมือเอง เกรงว่าจะทำให้ฟางหยู่ถงแค้นเคือง พอถึงตอนนั้นเขาคงไม่มีโอกาสจีบหยู่ถงติดอีกแล้ว
ดังนั้นเขาเลยจงใจพูดแบบนี้ต่อหน้าลู่เผิงเฟย เพื่อให้ลู่เผิงเฟยโมโหนั่นเอง
อาศัยฐานะของลู่เผิงเฟย คิดจะจัดการพนักงานรักษาการเล็ก ๆ คนหนึ่งนั้นไม่ต้องลงมือเองด้วยซ้ำ เพียงแค่มีท่าทีเกลียดชัง ก็จะมีผู้คนนับไม่ถ้วนลงมือกับหลี่ฝางเพื่อประจบลู่เผิงเฟย