เมื่อพูดจบ ลุงวัยกลางคนก็เอากล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ สีดำส่งให้ด้านหน้าหลี่ฝาง สี่เหลี่ยมเล็กๆ นั้นมันเป็นประกาย สีสวยงาม ถึงแม้จะเป็นกล่องเล็กๆ แต่หลี่ฝางกลับรู้สึกหนักเมื่ออยู่ในมือ
ตอนที่เพิ่งได้จับกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นั้น หลี่ฝางก็รู้สึกว่าจิตวิญญาณแข็งทื่อไป จากนั้นก็มีกระแสไฟฟ้าส่งผ่านนิ้วขึ้นมาด้วยความรวดเร็วเข้าไปทั่วร่าง จากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนฟ้ากลับตาลปัตร จากนั้นก็รู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปในกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ
“พี่!” เมื่อสาวน้อยเห็นหลี่ฝางเป็นลมล้มไปก็ตกใจ ก่อนจะเข้าไปพยุงหลี่ฝางพลางถามตาแก่หลี่ “พ่อ พี่เขาเป็นอะไรเหรอ?ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นลมลงไป?”
เมื่อเห็นหลี่ฝางที่กำลังไม่ได้สติ ตาแก่หลี่ก็มองเหม่อไปด้วย ก่อนจะพูดกับตัวเอง “คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ฟ้าลิขิตนั้นจะเป็นเขา”
“พ่อ!คุณกำลังพูดอะไรเหรอ คนที่ฟ้าลิขิตคืออะไรเหรอ?พี่ไม่ได้สติไปแล้ว พวกเรารีบส่งเขาไปโรงพยาบาลเถอะ!” สาวน้อยเห็นว่าพ่อของตัวเองไม่เพียงแค่ไม่รีบร้อน แต่ยังพูดบ้าบอคนเดียว เลยร้อนใจขึ้นมา
เมื่อถูกลูกสาวตัวเองดุ ตาแก่หลี่เองก็ไม่ได้โกรธอะไร เลยนั่งยองลงก่อนจะพาหลี่ฝางที่นอนอยู่บนพื้นไป โดยที่ไม่เก็บแผงเลย ก่อนจะพาสาวน้อยกลับเข้าไปในห้องเช่า
สาวน้อยตักน้ำอุ่น ก่อนจะเช็ดตัวให้หลี่ฝางที่ไม่ได้สติ ใบหน้าเล็กๆ นั้นทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนจะบ่นอุบ
“ตาแก่หลี่บ้า พี่เป็นถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่พาไปส่งโรงพยาบาลอีก แถมยังบอกไม่เป็นไร น่าโมโหจริงๆ เลย!”
ตาแก่หลี่กำลังยกถ้วยโจ๊กมาพอดี เมื่อได้ยินสาวน้อยบ่นแต่ก็ไม่อธิบาย ก่อนจะตรวจหลี่ฝางบริเวณหัวเตียงเล็กน้อย หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าหลี่ฝางนั้นร่างกายไม่เป็นอะไรก็นั่งลงข้างๆ
“พ่อ พี่เป็นลมไปหลายชั่วโมงแล้ว เราส่งเขาไปที่โรงพยาบาลเถอะ ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นเรา……”
เมื่อเห็นท่าทีของตาแก่หลี่ที่เหมือนจะไม่สนใจ สาวน้อยก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ ก่อนจะบอกให้พาหลี่ฝางไปส่งที่โรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันรอให้เธอพูดจบ หลี่ฝางที่อยู่บนเตียงก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา
เมื่อเห็นสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย หลี่ฝางก็ยังไม่ทันได้มีสติกลับมา จนกระทั่งสาวน้อยปรี่เข้ามาหาเขา แล้วตะโกนเรียกเขาว่าพี่ เขาเลยคิดถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาได้
เขาเคาะสมองที่ปวดเล็กน้อย จากนั้นก็นั่งขึ้นมาบนเตียง พลางมองตาแก่หลี่ที่อยู่ข้างๆ โดยไม่พูดอะไรแล้วถาม “รุ่นพี่หลี่ คุณเองก็เคยไปที่ซากปรักหักพังลึกลับใช่ไหม?”
คืนนี้หลี่ฝางไม่ได้เป็นลมไปอย่างธรรมดา แต่จิตใจของเขานั้นถูกดึงเข้าไปในสี่เหลี่ยมเล็กๆ กล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นี้มันเหมือนกับภาพที่ภูเขาและแม่น้ำเลย ในนั้นมีหลุมดำอื่นๆ มันแสดงจุดเริ่มต้นและการพัฒนาของนักรบ
อีกอย่างลี่เหลี่ยมเล็กๆ นี้มันเหมือนจะมีความเกี่ยวข้องกับซากปรักหักพังลึกลับเป็นอย่างมาก ด้านในมีพลังที่รวมอยู่และเป็นที่ปล่อยออกมาเหมือนกับพลังภายในของนักรบ
เพราะสี่เหลี่ยมเล็กๆ นั้นทำให้หลี่ฝางเข้าใจเรื่องของซากปรักหักพังลึกลับนี้ ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว ซากปรักหักพังลึกลับถูกคนที่เรียกว่าอูนัส เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของนักรบ คนที่เข้าไปถึงคนของอูนัสนั้น อย่างน้อยต้องเป็นปรมาจารย์กำลังภายในขึ้นไป
อูนัสในตอนนั้นมีพื้นที่ที่กว้างไกลเป็นอย่างมาก และมีซากปรักหักพังลึกลับในตอนนี้เป็นจุดศูนย์กลาง จากนั้นก็แพร่กระจายออกไปอย่างน้อยห้าพันลี้
อีกอย่างระดับของอูนัสนั้นแบ่งอย่างชัดเจน นักรบที่เพิ่งเข้าไปในอูนัสนั้นจะใช้ชีวิตอยู่ภายนอก ด้านในจะเป็นเขตอาศัยของครึ่งเทพ แต่ตอนนี้ที่ของซากปรักหักพังลึกลับนั้น กลับเป็นที่ของเทพ
อูนัสมีเทพสององค์ที่ทั้งมืด และสว่าง ที่แบ่งกันดูแลอูนัส ในขณะเดียวกันนักรบของอูนัสนั้นก็แบ่งเป็นฝ่ายมืดกับฝ่ายสว่างด้วย แล้วการฝึกเองก็ไม่เหมือนกัน
สำนักมืดฝึกอย่างโหดร้าย เทพมืดนั้นทำเพื่อฝึกให้ตัวเองสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เลยค้นพบวิธีการดึงดูดการฝึกของนักรบคนอื่นๆ นักรบหลายคนนั้นมีฝีมือที่โหดร้าย สำนักสว่างเองก็เริ่มเกิดการรบกับเทพมืด ซึ่งมันกินเวลาไปหลายร้อยปี
สุดท้ายวันหนึ่งก่อนหน้านี้ราวพันปี เทพสว่างนำครึ่งเทพสิบสองตนไปสู้กับเทพมืด เสียการฝึกทั้งหมดไป สุดท้ายก็ปิดเทพมืด คนของสำนักสว่างก็ใช้เวลานี้เพื่อเริ่มกำจัดสำนักมืด สุดท้ายก็เหลือเพียงคนเล็กน้อยที่หนีออกมาจากอูนัส โดยที่ไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว
หลี่ฝางนั้นถึงขั้นมองไปเห็นอนาคตได้ด้วยซ้ำ ในสี่เหลี่ยมเล็กๆ นั้นตอนที่เขากำลังอยู่ในซากปรักหักพังลึกลับและสู้กับอาซาโทสนั้น ก็ถูกม้วนเข้าไปในการระเบิด จนเหมือนจะแพ้แล้ว
หลี่ฝางยังอยากรู้อะไรอยู่อีก แต่ว่ากลับถูกสี่เหลี่ยมเล็กๆ ผลักออกมาอีกครั้งมันทำให้ใจของหลี่ฝางนั้นฮวบลงเป็นอย่างมาก อนาคตก็ดับมืดไปอีกครั้ง
“สี่เหลี่ยมเล็กๆ นี้เรียกว่าหินเฮยสวน ก่อนหน้านี้หลายปีฉันกับพวกพ้องเอาพลังที่มีอยู่มากมายจากซากปรักหักพังลึกลับออกมาด้วย มีเพียงคนที่ฟ้าลิขิตเท่านั้นที่สามารถเกิดการเชื่อมต่อได้ หลายปีมานี้ เพื่อการหาคนที่ฟ้าลิขิต ฉันเลยปิดบังชื่อของตัวเอง จากนั้นก็พาลูกเมียออกมาไกล แถมยังเป็นเพราะหินเฮยสวนนี้ด้วยที่ทำให้ครอบครัวแตกสลาย”
“ฉันคิดว่าชีวิตนี้จะหาคนที่ฟ้าลิขิตไม่ได้อีกแล้ว แถมยังคิดว่าจะโยนหินนี้ทิ้งไป คิดไม่ถึงเลยว่าคุณกลับมาปรากฏตัวในตอนนี้ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ นะ วันนี้ฉันเอาหินเฮยสวนนี้ให้คุณ ก็ถือว่าเป็นหน้าที่แล้ว ฉันจะได้มีชีวิตที่ดีกับญาญาสักที”
ตาแก่หลี่มองหลี่ฝางด้วยความเห็นใจ ดวงตาทั้งสองข้างนั้นก็มีความนึกถึงช่วงเวลาใดๆ เต็มไปหมด มองออกเลยว่าหลายปีมานี้เพราะหินเฮยสวนนี้ทำให้เขาต้องจ่ายอะไรไปมากมาย แถมคำพูดจากปากของเขาทำให้หลี่ฝางเดาออก ว่าแม่ของญาญานั้นอย่างมากต้องจากไปเพราะหินเฮยสวนนี้แน่นอน
“รุ่นพี่หลี่ คุณเข้าไปในซากปรักหักพังลึกลับได้ อีกอย่างยังกลับมาได้อย่างปลอดภัยอีก การฝึกของคุณจะต้องไม่น้อยแน่ๆ แล้วทำไม……”
คำพูดด้านหลังนั้นหลี่ฝางไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด เขาเชื่อว่าตาแก่หลี่รู้ว่าตัวเองอยากถามอะไร
หลังจากที่ได้ฟังหลี่ฝางถาม ร่างกายของตาแก่หลี่ก็สั่นขึ้นมา สีหน้านั้นก็ขมขื่น ราวกับว่าคำถามนี้มันดึงความทรงจำอันเจ็บปวดของเขาขึ้นมา
เมื่อเห็นหน้าตาเจ็บปวดของตาแก่หลี่ หลี่ฝางก็เสียดายที่ถามคำถามนี้ออกไป ตอนที่กำลังจะบอกตาแก่หลี่ว่าไม่ต้องตอบ ตาแก่กลับอยู่ในความคิดนั้น
ตาแก่หลี่เคยเป็นผู้ฝึกที่มีความสามารถคนหนึ่ง อายุไม่ถึงสามสิบปีก็เป็นปรมาจารย์กำลังภายใน แต่ว่าหลายปีมานี้ติดอยู่แต่ที่แดนปรมาจารย์ เลยไม่มีทางที่จะทะลุไปต่อได้
นี่มันทำให้เขาเจ็บปวดมาก ในตอนนี้พวกพ้องของเขาหลายคนนั้นได้รับภาระหน้าที่ ว่าให้ไปหาของในซากปรักหักพังลึกลับ เพราะการกระตุ้นของพวกพ้องเหล่านั้นเลยตัดสินใจเข้าไปเสี่ยงในซากปรักหักพังลึกลับ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นได้ถึงครึ่งเทพระดับธรรมดาเลยนะ
ตอนแรกคนที่ร่วมกับตาแก่หลี่มีเพียงห้าคนเท่านั้น แต่หลังจากนั้นระหว่างทางก็มีคนต่างชาติคนหนึ่งเข้ามาร่วมด้วย คนต่างชาติคนนี้ไม่ได้มีฝีมือมาก ยังไม่ถึงขั้นปรมาจารย์ ถึงแม้จะไม่ใช่คนชาติเดียวกัน แต่ว่าเพราะเห็นใจคนอ่อนแอ พวกตาแก่หลี่เลยดูแลเขาตลอดทาง แต่สำหรับเรื่องการหาหินเฮยสวนนั้น พวกตาแก่หลี่กลับไม่เคยพูดออกมาเลยแม้แต่น้อย