NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1182 ตัดสินใจ

บทที่ 1182 ตัดสินใจ

เหลียงเชี่ยนพูดไม่ออกกับคำพูดของหลี่ฝาง ทีท่าความเจ็บปวดที่แสดงเหลียงเชี่ยนดูออกว่าหลี่ฝางยังรักฉินวี่เฟยอยู่ เพียงแต่ที่เธอไม่เข้าใจ ในเมื่อหลี่ฝางยังรักฉินวี่เฟย ทำไมถึงยังไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่น?

หรือว่าจะเป็นอย่างที่คนอื่นว่า ภรรยาในบ้านไม่ดีเท่ากับหญิงข้างนอก?

“อันหน้านี้ผมความจำเสื่อม ลืมว่าตัวเองคือใคร ลืมเรื่องในอดีตทั้งหมด และลืมวี่เฟยที่รอผมมาตลอด หลังจากนั้นผมได้เจอผู้หญิงคนหนึ่ง เธอช่วยผมที่ใกล้ตายในตอนนั้นเอาไว้ ดูแลผมอย่างดี อยู่ด้วยกันทุกวันทำให้ผมตกหลุมรักเธออย่างห้ามไม่ได้”

“จนหลายวันก่อนผมถึงได้ฟื้นความจำ แต่ตอนนั้นได้สายไปแล้ว ความผิดมหันต์นี้จนผมไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับวี่เฟยยังไง ลังเลอยู่หลายวันถึงได้กลับมาหาเธอ ยังไงซะหากพูดความจริงกับวี่เฟย ผมรู้ดีว่าหากต้องการให้วี่เฟยให้อภัยผมเป็นเรื่องยาก แต่ผมก็ยังอยากรองสักตั้ง ผมไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเขาจบไปแบบนี้”

ประโยคสุดท้าย หลี่ฝางกล่าวอย่างมุ่งมั่น ขอเพียงแค่คราวนี้เขารอดกลับมาจากซากปรักหักพังลึกลับได้ เขาก็จะจีบวี่เฟยใหม่แน่นอน รักษาผู้หญิงที่รักเขาให้ดี

“นายพูดง่าย ประธานฉินคราวนี้เธอเสียใจมาก นายคิดว่าเพียงคำพูดหวงแหนไม่กี่ประโยคจะชดเชยกันได้หรือ? ยิ่งไปกว่านั้น ทางนั้นยังมีสาวงามอีกหนึ่งคนไม่ใช่หรือไง? นายคืนดีกับประธานฉิน แล้วเธอจะทำยังไง?”

เหลียงเชี่ยนอดไม่ได้ที่จะมองบน แม้การนอกใจจะมีสาเหตุ แต่เหล่านี้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเขาในใจเหลียงเชี่ยนเป็นผู้ชายสารเลว ยังไงซะการนอกใจก็เป็นเรื่องจริง ผู้หญิงคนนั้นก็มีตัวตนอยู่จริง จะคลี่คลายได้ในประโยคสองประโยคได้ยังไง

เมื่อนึกถึงหยางฉง หลี่ฝางเองก็ไร้หนทาง หากไม่ได้ผ่านเหตุการณ์ในหินเฮยสวนหลายชั่วโมงนั้น เขาก็ยังรู้จักใจจริงๆ ของตนเองเสียที

หากต้องเลือกระหว่างหยางฉงและฉินวี่เฟยคนใดคนหนึ่ง หลี่ฝางก็ยังจะเลือกฉินวี่เฟย ความสัมพันธ์หลายปีลึกซึ้งกว่าเวลาเพียงไม่กี่เดือน

“รอผมกลับมา ผมจะตัดขาดจากเธอ แล้วใช้ชีวิตกับฉินวี่เฟย” หลังหลี่ฝางทำการตัดสินใจ เขาบอกกับเหลียงเชี่ยนอย่างมุ่งมั่น

“เหอะ พูดปากเปล่า รอนายตัดขาดกับผู้หญิงคนนั้นก่อนแล้วค่อยพูด” แม้หลี่ฝางจะกล่าวประโยคด้วยความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม แต่เหลียงเชี่ยนก็ยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

โบราณว่าไว้ ผู้ชายนอกใจมีแต่ไม่เคยกับนับไม่ถ้วน หลี่ฝางคือว่ามีคดีติดตัวแล้ว อยากจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่คงไม่ใช่เรื่องง่าย

ยิ่งพูดเยอะก็ไม่มีประโยชน์อะไร หลี่ฝางตัดสินใจที่จะยืนยันด้วยการกระทำแทนคำพูด รอเขาออกมาจากซากปรักหักพังลึกลับคุยกับหยางฉงให้รู้เรื่องแล้วกัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสามยังไงซะก็ต้องมีผลลัพธ์

หลังรู้เรื่องราวความสารเลวของหลี่ฝาง ไม่ว่าหลี่ฝางจะพูดยังไงเหลียงเชี่ยนก็ไม่ยอมให้เขาพาฉินวี่เฟยไป ยังไงก็ต้องให้ฉินวี่เฟยอยู่ภายใต้สายตาของเธอ หลี่ฝางจึงมีแต่ต้องไปส่งฉินวี่เฟยที่บ้านของเหลียงเชี่ยน

“เหลียงเชี่ยน วี่เฟยรบกวนเธอด้วยนะ” หลี่ฝางจ้องมองวี่เฟยที่นอนหลับลึกบนเตียง กำชับเหลียงเชี่ยนอย่างอาลัย

เหลียงเชี่ยนเบะปาก “เรื่องนี้ไม่ต้องนายกำชับหรอก ฉันต้องดูแลประธานฉินให้ดีที่สุดอยู่แล้ว สารเลวหลี่ นายต้องจำสิ่งที่พูดในวันนี้ให้ดี นายไม่ตัดขาดกับผู้หญิงคนนั้นหนึ่งวัน ฉันก็จะไม่ให้นายพบกับฉินวี่เฟยหนึ่งวัน”

เมื่อนึกถึงภาพจุดจบการสอดส่องที่หินเฮยสวน หลี่ฝางนัยน์ตาสั่นหลอน อารมณ์สับสน “ผมหลี่ฝางพูดคำไหนคำนั้น แต่ต้องผมมีชีวิตกลับมา”

เมื่อจบประโยค หลี่ฝางจ้องมองฉินวี่เฟยด้วยความลึกซึ้งอีกครั้ง แทบจะอดยัดเธอเข้าไปในสายตาของเขาไม่ไหว เมื่อเหลียงเชี่ยนเห็นอย่างนั้นก็เกิดหวั่นไหวขึ้นมาบ้าง จึงเว้นช่องว่างให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างเงียบๆ

แม้เธอจะไม่เข้าใจในเรื่องของโลกนักรบ แต่เธอก็รับรู้ถึงความอันตรายในนั้น ยิ่งไปกว่านั้นหลี่ฝางไม่มีเหตุผลที่จะเอาชีวิตมาล้อเล่น ในเมื่อเขาบอกครั้งนี้อันตรายมาก คงจะเป็นเรื่องจริง

คนที่แม้แต่ความเป็นกับความตายยังให้คำตอบไม่ได้ ต่อให้เขาเป็นผู้ชายที่สารเลว เหลียงเชี่ยนก็ไม่ใจร้ายถึงขนาดแยกทั้งคู่ออก

“วี่เฟย ขอโทษ” นั่งอยู่บนหัวเตียงของวี่เฟย หลี่ฝางลูบไล้ใบหน้าของเธอเบาๆ พลันกระซิบแผ่วเบาครั้งแล้วครั้งเล่า

ฉินวี่เฟยที่อยู่บนเตียงหลับไม่สนิทนัก คิ้วใบหลิวคู่นั้นขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย คงจะรับรู้ได้ถึงลมหายใจของหลี่ฝาง เธอประชิดเข้าหาหลี่ฝางอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ทีท่าของฉินวี่เฟยที่เพิ่งพาเขาแบบนั้นทำให้หลี่ฝางหวั่นไหว อดที่จะก้มหน้าลงบรรทมจูบเธอไม่ไหว “วี่เฟย รอผมกลับมานะ ผมรักคุณ”

เพราะยังมีเรื่องของหินเฮยสวนที่จะไม่คลี่คลาย หลี่ฝางอยู่ที่บ้านของเหลียงเชี่ยนนานไม่ได้ หลังล่ำลากับฉินวี่เฟยอย่างอาลัย เขาจึงวกกลับมาที่บ้านของตาแก่หลี่อีกครั้ง

กู่ยี่เทียนที่หลับไปแล้วในทีแรก ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ของหลี่ฝาง บอกว่าเขาได้ของวิเศษที่สุดยอดมา หลังจากนั้นก็ได้แชร์โลเคชันให้กับเขา ให้เขาไปรอเขาที่นั่นเดี๋ยวนี้

เมื่อหลี่ฝางมาถึงกู่ยี่เทียนกำลังพิงสูบบุหรี่อยู่ที่เสาไฟต้นหนึ่ง เมื่อเห็นรถของเขาจึงดับบุหรี่ พ้นเอาควันบุหรี่ออกมาพร้อมกล่าว “เรื่องราวจัดการเรียบร้อยแล้วหรือ?”

ไม่พูดอธิบายมาก หลี่ฝางก็รู้ว่าที่เขาถามคือเรื่องของตนกับฉินวี่เฟย ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่จะเดินไปยังห้องเช่าของตาแก่หลี่

รับรู้ได้ถึงความเศร้าของหลี่ฝาง กู่ยี่เทียนจึงไม่ถามมาก เรื่องของความรู้สึกเขาไม่เข้าใจ แถมยังกับผู้หญิงสองคนอีกต่างหาก

หลี่ฝางได้เล่าเรื่องราวความเป็นไปคร่าวๆ ให้กู่ยี่เทียนฟังในโทรศัพท์แล้ว เพื่อความรอบคอบกู่ยี่เทียนได้ให้คนสืบประวัติของตาแก่หลี่แล้ว ไม่สืบก็ไม่รู้ พอได้สืบตกใจแทบแย่

ที่แท้ตาแก่หลี่มีชื่อเต็มว่าหลี่ฉี่หมิง ปีนี้อายุสี่สิบห้าปี แต่ก่อนเขาเป็นทายาทสายตรงตระกูลหลี่ซื่อแห่งอีสาน และเคยเป็นผู้ที่มีอิทธิพลโด่งดัง เพียงแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ดาราดังคนนี้ถึงได้ตกอับกะทันหัน และสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย ตระกูลหลี่ซื่อออกโรงทั้งตระกูลก็ไร้ข่าวคราวร่องรอยของเขาแม้แต่น้อย

ไม่รู้ว่าหลี่ฝางไอ้หมอนี่โชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ แม้แต่ทานอาหารมื้อเย็นก็ยังพบกับคนในตำนานแบบนี้ได้

“ทำไมเรื่องดีๆ ถึงได้ให้นายพบเข้าจนหมดเลย หินเฮยสวนอะไรนั่นที่นายว่าฉันรองสืบดูแล้วนะ ที่หลี่ฉี่หมิงพูดโดยส่วนมากถูกหมดเลย แต่มีอย่างหนึ่งที่เขาไม่รู้ คือหินเฮยสวนไม่เพียงแต่สามารถกักเก็บพลังเพื่อให้คนดูดซับเท่านั้น แถมยังใช้วิธีพิเศษเพื่อดูดพลังของคนอื่นได้ด้วย”

เมื่อหลี่ฝางได้ยินอย่างนั้น ในหัวเกิดไอเดียสุดเจ๋ง เขายังไม่ทันได้พูดอะไร กู่ยี่เทียนก็มองเขาทะลุปรุโปร่ง ตัดความคิดของเขาจนเตลิด

“ฉันรู้ว่านายคิดอะไรอยู่ ตอนแรกฉันก็มีความคิดที่จะใช้หินเฮยสวนเพื่อดูดพลังของอาซาโทส แต่หลังจากนั้นก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป เพราะการใช้หินเฮยสวนดูดพลังของคนอื่นมีกฎอยู่หนึ่งข้อ นั่นคือแดนของนายต้องอยู่สูงกว่าคนที่นายจะดูดพลังเขา ไม่อย่างนั้นก็จะถูกฝ่ายตรงข้ามดูดแทน”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท