NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1184 ทีมหลงหยาที่ภักดี

บทที่ 1184 ทีมหลงหยาที่ภักดี

เพราะเวลาบีบบังคับ กู่ยี่เทียนและหลี่ฝางไม่สามารถช่วยหลี่ฉี่หมิงเปิดผนึกได้ แต่บอกวิธีการเปิดผนึกให้กับเขาแทน ให้เขากลับไปที่ตระกูลหลี่แห่งภาคอีสานขอความช่วยเหลือจากเผ่าเอง

ฟ้าเพิ่งสว่างหลี่ฝางและกู่ยี่เทียนอยู่บนเที่ยวบินที่จะไปสู่ซากปรักหักพังลึกลับ เป้าหมายในครั้งนี้ชัดเจน คือต้องเข้าไปสู่ซากปรักหักพังลึกลับ เพื่อกำจัดอาซาโทส

เพราะงั้นครั้งนี้หลี่ฝางและกู่ยี่เทียนจึงไม่ได้ปกปิดความเคลื่อนไหว ทว่าไปที่ปากทางเข้าซากปรักหักพังลึกลับตามคำสั่งของผู้อาวุโส

“หัวหน้า! ขอแสดงความยินดีด้วยที่เปิดผนึกได้!” ที่ปากทางเข้าซากปรักหักพังลึกลับได้ถูกองค์กรต้าเซี่ยหลงเช่วล้อมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อลูกน้องของกู่ยี่เทียนเห็นเขา ต่างก็เดินเข้ามา

โดยเฉพาะสมาชิกของทีมหลงหยา เมื่อรู้ว่ากู่ยี่เทียนเปิดผนึกสู่แดนครึ่งเทพเรียบร้อยแล้ว ดีใจจนหน้าบาน ราวกับว่ากู่ยี่เทียนเลื่อนชั้นสำเร็จแล้ว ได้พาพวกเขาไปสู่แดนครึ่งเทพด้วยอย่างไรอย่างงั้น

“ทำไม ครั้งนี้พวกเขาสี่คนจะเข้าไปด้วยงั้นหรือ?” หลี่ฝางจ้องมองหงส์แดงและคนอื่นๆ พร้อมกล่าวถาม

แม้ประโยคของเขาจะไร้เจตนาร้าย แต่สำหรับมังกรฟ้า เสือขาว หงส์แดง เต่าดำแล้ว เต็มไปด้วยความไม่พอใจ เสือขาวที่อารมณ์ร้อนปรี๊ดแตกในทันที ก้าวไปข้างหน้า ถลึงตาใส่หลี่ฝาง

“แกหมายความว่ายังไง ดูถูกเรางั้นใช่ไหม? แม้ความสามารถของเราเทียบกับแกไม่ได้ แต่เราสี่คนรวมตัวกันก็เพียงพอที่จะโค่นแก หลี่ฝางแกอย่าอวดเก่งไปหน่อยเลย!”

ก่อนหลี่ฝางจะทะเลแดนเป็นครึ่งเทพเขาก็ไม่ได้วางทั้งสี่ของกู่ยี่เทียนเอาไว้ในสายตาแล้ว มาถึงจุดแล้วยิ่งไม่มีอะไรที่ต้องกลัว

แต่ความสัมพันธ์ของเขาและกู่ยี่เทียนถือว่าใช้ได้ ถึงไม่อยากถือความเสือขาว พลันยักไหล่อย่างได้ใจ หัวเราะแผ่ว “คราวนี้แกคิดมากไปเองจริงๆ ผมก็แค่ถามเท่านั้น หากพวกแกจะเข้าไปด้วยผมก็ไม่ขัด ถึงเวลาอย่างเป็นตัวถ่วงก็พอแล้ว”

“แก!”

เสือขาวโมโหจนควันออก อยากจะใช้กำลัง ว่าถูกมังกรฟ้าขัดขวางเอาไว้เสียก่อน

ในสี่คนของกู่ยี่เทียน หลี่ฝางคิดว่าคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดก็คือมังกรฟ้า แถมหัวหน้าของมังกรฟ้าเองก็โดดเด่นมาก นิสัยนิ่งขรึม เมื่อเผชิญกับปัญหาก็สามารถแยกแยะไตร่ตรองได้ หลี่ฝางค่อนข้างประทับใจในตัวเขา

มังกรฟ้าเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าหลี่ฝาง ก่อนโค้งคำนับ การกระทำของเขาทำให้ทุกคนไม่เข้าใจ หงส์แดงเอื้อมมือประคองเขาให้ลุกขึ้น

“มังกรฟ้า แกบ้าไปแล้วหรือ? ทำไมถึงได้โค้งคำนับให้กับคนแบบนี้?”

มังกรฟ้าสลัดมือของหงส์แดงออกอย่างเรียบเฉย ไม่ได้ตอบคำถามของเขา พลางหันหน้าไปทางหลี่ฝาง “หลี่ฝาง ขอบคุณมากที่ครั้งนี้คุณช่วยหัวหน้าของเราเปิดผนึก ไปสู่แดนครึ่งเทพ เราสี่คนหากมีการล่วงเกินก่อนหน้านี้ หวังว่าคุณจะใจกว้าง เมื่อคุณกับหัวหน้ากลับมาอย่างปลอดภัย ผมจะจัดงานเลี้ยงฉลองแน่นอนครับ”

ประโยคของเขาเพิ่มความประทับใจกับมังกรฟ้าในใจของหลี่ฝางอีกครั้ง พลันหันหน้ากลับไปล้อเล่นกับกู่ยี่เทียน

“เหล่ากู่ ลูกน้องคนนี้ของนายไม่เลวเลย! ไม่เพียงแต่ความสามารถมาก ตัดการเรื่องราวเองก็เก่ง ไม่ทราบว่านายจะให้เขากับฉันได้ไหม จะได้ช่วยฉันจัดการโหจื่อจอมดื้อของฉันด้วย”

จบประโยค กู่ยี่เทียนผลักไสมือของหลี่ฝางที่พาดเอาไว้บนหัวไหล่ของเขาออกไม่มีทางเป็นไปได้ “ยังไม่ตกดึกเลย นายก็เริ่มเพ้อฝันซะแล้ว? ฉันจะบอกนายให้ มังกรฟ้าพวกเขาไม่เพียงแต่เป็นลูกน้องของฉัน แต่เป็นพวกพ้องของฉันด้วย นายเลิกคิดที่จะมีความคิดต่อพวกเขาเลยนะ!”

รู้อยู่แล้วว่ากู่ยี่เทียนจะตอบอย่างงั้น หลี่ฝางลูบปลายจมูกพร้อมหัวเราะออกมา

มังกรฟ้าสี่คนกู่ยี่เทียนฝึกฝนมากับมือ ถือว่าเป็นพวกพ้องที่เคียงบ่าเคียงไหล่ของกู่ยี่เทียน และเห็นได้ชัดว่ากู่ยี่เทียนจะฝึกฝนมังกรฟ้าให้เป็นหัวหน้าทีมหลงหยา

ต่อให้กู่ยี่เทียนยอมตกลงมอบมังกรฟ้าให้แก่หลี่ฝาง หลี่ฝางก็ไม่กล้ารับเอาไว้อยู่ดี

“หัวหน้า ไม่งั้นท่านไปลองพูดกับท่านผู้อาวุโสใหม่ ให้เราไปกับท่านเถอะ เรายอมรับว่าความสามารถของเราเทียบกับท่านไม่ได้ แต่คนเยอะก็แรงเยอะ ไม่แน่เราอาจจะมีประโยชน์ก็ได้!”

หลังหยอกล้อ บรรยากาศกลับมาเคร่งขรึมอีกครั้ง โดยเฉพาะหงส์แดง เขาไม่พอใจอย่างมากที่ผู้อาวุโสให้หลี่ฝางและกู่ยี่เทียนเข้าไปที่ซากปรักหักพังลึกลับเพียงแค่สองคนเท่านั้น

อาซาโทสมีลูกน้องฝีมือดีสิบสองนายคอยช่วยเหลือ เพียงแค่หลี่ฝางและอาซาโทสสองคนจะสู้ไหวได้อย่างไร!

พวกเขาทีมหลงหยาเมื่อได้ข่าวก็ยื่นคำร้อง ตัดสินใจที่จะออกรบพร้อมกับกู่ยี่เทียน แต่ไม่ว่าพวกเขาจะให้เหตุผลว่าอย่างไร ทางด้านผู้อาวุโสใหญ่ก็ปฏิเสธท่าเดียว

ในใจของหงส์แดงทั้งรีบร้อนและโมโห เมื่อไร้หนทางจึงได้แต่มาขอร้องกู่ยี่เทียนเอง สำหรับเธอ ขอเพียงแค่กู่ยี่เทียนยอมตกลง ทางด้านผู้อาวุโสใหญ่ก็ไร้คำพูด

“ฮ่าๆ หงส์แดง ไม่ใช่ว่าผมดูถูกพวกคุณนะ แม้ว่าพวกคุณอยู่ในประเทศจีนถือว่าอยู่ในระดับสูง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเหนือคนยังมีคนเหนือฟ้ายังมีฟ้า ความสามารถแค่นี้ของพวกคุณ เมื่อเจอกับอาซาโทส แม้แค่สิบกระบวนท่ายังรับไม่ไหวเลย”

“ถ้าพวกคุณตามเข้าไปด้วย อย่าว่าแต่ช่วยเหลือเลย ไม่สร้างปัญหาก็ถือว่าขอบคุณฟ้าดินแล้ว! ในเวลาแบบนี้ ก็ช่วยเก็บความจงรักภักดีที่มีต่อกู่ยี่เทียนเถอะ”

ไม่รอให้กู่ยี่เทียนได้พูดอะไร หลี่ฝางก็ปฏิเสธหงส์แดงอย่างไร้เยื่อใยขึ้นมาเสียก่อน สำหรับเขา การเข้าสู่ซากปรักหักพังลึกลับที่ยากที่จะมีชีวิตรอดออกมา เขากับกู่ยี่เทียนเข้าไปก็ไม่แน่ว่าจะมีชีวิตออกมาได้ พวกหงส์แดงเข้าไปก็เท่ากับรนหาที่ตาย

ใบหน้าที่งดงามของหงส์แดงก็ต้องโมโหเพราะคำกล่าวของหลี่ฝาง ดวงตากลมโตคู่นั้นจ้องเขม็งหลี่ฝางอย่างโกรธแค้น กัดฟันกรอด

“หลี่ฝาง ฉันถามหัวหน้าของเรา เกี่ยวอะไรกับแก! ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจริงๆ!”

“เห้ จะไม่เกี่ยวกับผมได้ยังไง? หากพวกคุณสี่คนตามเข้าไปด้วย ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของอาซาโทสขึ้นมา ผมก็ต้องช่วยพวกคุณใช่ไหม? ไม่รู้อะไรซะบ้างเลย”

อย่าคิดว่าจะผมไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับกู่ยี่เทียน

หลังจบประโยค หลี่ฝางลอบเสริมในใจประโยคหนึ่ง

อันที่จริงทุกคนต่างก็ดูออก หงส์แดงมีความคิดต่อกู่ยี่เทียน โดยปกติมีอันตรายอะไรเธอจะขวางอยู่หน้ากู่ยี่เทียนทันที สายตาคู่นั้นแทบจะเฝ้ากู่ยี่เทียนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

แต่กู่ยี่เทียนก็เป็นนายเซ่อ ชัดเจนขนาดนี้ยังดูไม่ออก แถมยังนับหงส์แดงเป็นสหายอย่างใสซื่อ

ไม่รู้ว่าจะพูดว่าเขาแข็งกระด้าง หรืออีคิวต่ำดี

“แก! ต่อให้ฉันถูกอาซาโทสจับ ก็ไม่ต้องให้แกช่วย!” หงส์แดงโกรธจัดกับคำถากถางของหลี่ฝาง กระทืบเท้าอย่างแรงจากนั้นจึงไม่แยแสหลี่ฝางอีก

กู่ยี่เทียนจ้องมองหลี่ฝางและหงส์แดงอย่างปวดหัว ไม่รู้ว่าพูดยังไงดี เขาเองก็ไม่รู้ว่าพวกหงส์แดงทำไมถึงไม่ชอบหลี่ฝางขนาดนี้ เจอกันทีไรต้องทะเลาะกันตลอด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท