NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1199 พบผู้ใหญ่

บทที่ 1199 พบผู้ใหญ่

“แกไสหัวไปเลย เกะกะข้า!” ไท่ซางรู้สึกว่าเขาไม่ควรกลับมา รีบวับไปอยู่ด้านหลังของหยางฉง

โหจื่อคิดที่จะดื้อด้านต่อไป แม้เมื่อเห็นหยางฉงและหวางซีเหยาดวงตาแทบถลน “พี่ไท่ พี่ออกไปทีโชคดีจังเลยนะ สาวสองคนนี้ดูดีหน่อย ดีกว่าผู้หญิงแต่ก่อนของพี่เยอะ”

เมื่อไท่ซางได้ยินคำของโหจื่อแทบกระอักเลือด ไอ้หมอนี่ เพียงไม่กี่คำก็พูดความรุ่งโรจน์ของเขาที่ผ่านมาจนหมดสิ้น

แถมเขายังไม่คิดเลยว่าภาพลักษณ์ของเขาในสายตาของโหจื่อและคนอื่นๆ จะแย่ขนาดนี้ เขาก็แค่มีแฟนหลายคนไม่ใช่หรือไง? ก็เขาหน้าตาดี มีเสน่ห์ จะโทษใครได้?

“โหจื่อ เลิกเล่นได้แล้ว แกไปโทรหาพวกท่านพ่อ บอกให้เขามานี่ที่” ส้าวส้วยจ้องมองหยางฉงที่อ่อนล้า รู้ว่าเรื่องราวไม่ง่ายแน่ จึงเร่งโหจื่อ ให้เขาไปติดต่อบิดาของหลี่ฝาง

“เอ๋? ทำไมต้องโทรหาท่านพ่อด้วย?” โหจื่อจ้องมองส้าวส้วยอย่างฉงน ไม่เข้าใจความหมายของเขา

ไท่ซางถีบก้นของโหจื่อ กล่าวอย่างดุดัน “ให้แกโทรแกก็ไปโทรสิ พูดมาก”

หลี่ต๋าคางและเมี๋ยวชุ่ยหลังจากที่ทำภารกิจเมื่อคราวก่อนก็อยู่ที่สถานตากอากาศตลอด หนึ่งเพื่อฟื้นฟูร่างกายของเมี๋ยวชุ่ย และสองพื้นฐานของหลี่ฝางคือสถานตากอากาศ พวกเขาอยู่เพื่อช่วยดูแล

โหจื่อและพวกกับหลี่ฝางเป็นความสัมพันธ์ร่วมเป็นร่วมตาย ในสายตาของหลี่ต๋าคางและเมี๋ยวชุ่ยไม่ต่างอะไรกับลูกของตนเอง เพราะงั้นโจจื่อและพวกจึงเรียกหลี่ต๋าคางว่าพ่อ เมี๋ยวชุ่ยเป็นแม่บุญธรรม

โหจื่อที่ถูกเล่นงานควักโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่พอใจ ติดต่อหาหลี่ต๋าคาง

“ท่านพ่อ มาช่วยผมเร็วเข้า ส้าวส้วยกับไท่ซางร่วมมือกันกลั่นแกล้งผม หากท่านยังไม่มาผมจะถูกพวกเขาอัดจนตายแน่”

หลี่ต๋าคางในตอนนี้กำลังนวดขาให้กับเมี๋ยวชุ่ยอยู่ เมี๋ยวชุ่ยเป็นคนรับสาย เมื่อเธอได้ยินเสียงของโหจื่อกลั้นหัวเราะอย่างสนุกสนาน “พวกแกโตๆ กันแล้ว ทำไมถึงต้องเล่นกันเป็นเด็กอยู่ ครั้งก่อนเพิ่งถูกส้าวส้วยแก้ผ้าต่อหน้าสาธารณชน นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน แกคันยิกอีกแล้วใช่ไหม?”

“โอ๊ย แม่บุญธรรม เลิกพูดเรื่องนี้ทีสิครับ ขายขี้หน้าจะแย่” เมื่อได้ยินคำของเมี๋ยวชุ่ย โหจื่อห่อไหล่ทันที

แม้ส้าวส้วยจะเป็นอาจารย์ของโหจื่อ แต่โหจื่อเป็นพวกไม่ตีสามวัน ก็ดื้อรั้น หลายวันก่อนส้าวส้วยให้เขาตั้งใจฝึกยุทธ แต่เขาไม่ฝึก

ถึงขนาดเพื่อแอบอู้ ไปอยู่ข้างนอกสามวัน ทำให้ส้าวส้วยหัวเสียหนัก โหจื่อถึงถูกแก้ผ้าจนเหลือกางเกงในตัวเดียวโยนเอาไว้ที่ข้างถนนของสถานตากอากาศ

คนผ่านไปผ่านมาเห็นมากมาย โหจื่อขายขี้หน้าแทบแย่ เพราะเรื่องนี้ โหจื่อไม่กล้าออกจากบ้านหลายวัน กลัวว่าคนอื่นจะจำเขาได้

“โอเค โอเค ฉันไม่แกล้งแล้ว ไท่ซางกลับมาแล้วหรือ? ครั้งก่อนเสี่ยวฝางบอกฉันว่าเขามีแฟนแล้ว ครั้งนี้ได้พากลับมาไหม?”

รู้ว่าโหจื่ออับอายในเรื่องนี้มาก เมี๋ยวชุ่ยจึงจี้จนถึงที่สุด บทสนทนาจึงค่อยๆ หันมาที่ไท่ซาง เมื่อเมี๋ยวชุ่ยพูดถึงแฟนของไท่ซาง ที่เธอหมายถึงคือครั้งก่อนหลี่ฝางพาไท่ซางไปร่วมงานประลองยุทธของตระกูลชิวและได้รู้จักกับสาวอกโตหยูหลิงฮุ่ย

ในตอนนั้นหลี่ฝางเองก็บอกกับเมี๋ยวชุ่ยผ่านโทรศัพท์ท่านั้น ไม่คิดเลยว่าเมี๋ยวชุ่ยจะยังจำได้จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าเพราะอายุมากแล้ว เริ่มป่วนห่วงเรื่องงานแต่งของเหล่าเด็กๆ

“ฮ่าๆ พากลับมาแล้ว! แถมคราวนี้พี่ไท่พากลับมาตั้งสองคน! แม่บุญธรรม หนึ่งในนั้นเหมือนว่าจะท้องแล้วด้วย”

เมื่อเห็นว่าเมี๋ยวชุ่ยถามเรื่องของไท่ซางโหจื่นตื่นเต้น พลางเล่าเรื่องของหยางฉงและหวางซีเหยา พร้อมรายงานสถานการณ์กับหวางซีเหยาเสียงแผ่ว

เมื่อได้ข่าวจากโหจื่อบอกว่าลูกสะใภ้ตั้งครรภ์ เมี๋ยวชุ่ยดีดลุกขึ้นนั่งจากเก้าอี้นวด น้ำเสียงเองก็สูงขึ้นไม่น้อย “จริงหรือ? ท้องแล้วหรือ? ข่าวดีนี่! โหจื่อ แกให้สาวคนนั้นรอก่อน ฉันกับพ่อของแกจะไปเดี๋ยวนี้”

จบประโยค เมี๋ยวชุ่ยจึงตัดสายทิ้งอย่างอดทนรอไม่ไหว ลากหลี่ต๋าคางมุ่งไปที่บ้านพักตากอากาศของโหจื่ออย่างรีบร้อน

โทรศัพท์สายนี้โหจื่อแอบไท่ซางและคนอื่นๆ โทร เพราะงั้นไท่ซางเองก็ไม่รู้ว่าโหจื่อพูดอะไรไปบ้าง รู้แค่ว่าอีกประเดี๋ยวเมี๋ยวชุ่ยและหลี่ต๋าคางจะมาที่นี่

“ไท่ซาง ที่พวกคุณว่าท่านพ่อกับแม่บุญธรรม เป็นพ่อแม่ของหลี่ฝางรึเปล่า?” หยางฉงได้ยินบทสนทนาของไท่ซางและโหจื่อ จึงกล่าวถามอย่างไม่มั่นใจนัก

“ใช่ๆ เป็นพ่อแม่ของลูกพี่ใหญ่ เพราะเราเป็นสหายของลูกพี่ใหญ่ ก็เลยนับถือพวกเขาเป็นพ่อแม่บุญธรรม” คำถามของพี่สะใภ้ในอนาคต ไท่ซางต้องตอบอยู่แล้ว

เพราะเขากลัวตายชัดๆ จึงอ่อนโยนกับหยางฉง แต่ในสายตาของโหจื่อ กลับกลายเป็นพลอดรักกับกลัวเมียไปเสียได้ จึงอดหัวเราะเยาะไท่ซางไม่ได้ขึ้นมา

“พี่ไท่ ไม่คิดเลยว่าคนรักความสนุกอย่างพี่จะมีวันที่กลับใจได้ด้วย? ฮ่าๆ ฮ่า คำโบราณว่าไว้ เมื่อผู้ชายมีลูกเมียแล้ว ก็จะเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ อีกเดี๋ยวพ่อกับแม่บุญธรรมมา ต้องชื่นชมพี่แน่”

“แกจะให้กูพูดอีกกี่รอบ นี่ไม่ใช่เมียฉัน นี่เป็นผู้หญิงของลูกพี่ใหญ่ เมียของหลี่ฝาง!” ไท่ซางทนทนไม่ไหว คำรามใส่โหจื่อหลายประโยค

เมี๋ยวชุ่ยและหลี่ต๋าคางเดินมาถึงหน้าบ้านพักตากอากาศพอดี เมื่อได้ยินประโยคของไท่ซางตัวแข็งทื่อทันที

“ต๋าคาง คุณ คุณหยิกฉันหน่อย ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม? ไท่ซางบอกว่าเด็กในท้องแม่หนูนี่เป็นลูกของหลี่ฝาง?”

เมี๋ยวชุ่ยรู้สึกขาทั้งสองข้างอ่อนยวบ ตบบ่าของหลี่ต๋าคางพร้อมกล่าวอย่างสั่นเครือที่ตัวแข็งทื่อ ให้เขาช่วยหยิกเธอสักที

ต้องฟังผิดแน่ แฟนสาวของหลี่ฝางคือฉินวี่เฟยไม่ใช่หรือไง? เด็กสาวที่อยู่ข้างๆ ไท่ซางมันอะไรกัน? หรือว่าหลี่ฝางเปลี่ยนแฟนแล้ว?

เมื่อทุกคนได้ยินความเคลื่อนไหวต่างพุ่งไปที่หน้าประตู เมื่อหยางฉงเห็นสองสามีภรรยาหลี่ต๋าคาง อดหน้าแดงไม่ได้ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอกับพ่อกับแม่ของหลี่ฝางในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยแม้แต่น้อย

ขณะที่หยางฉงพิจารณาสองสามีภรรยาหลี่ต๋าคาง เมี๋ยวชุ่ยและหลี่ต๋าคางก็กำลังพินิจหยางฉงอย่างละเอียดเช่นเดียวกัน รูปลักษณ์หน้าตาใช้ได้ ดูแล้วก็เป็นพวกเด็กดี อย่างน้อยความรู้สึกแรกของมี๋ยวชุ่ยก็ไม่เลวเลย

“ท่านพ่อ แม่บุญธรรม! ในที่สุดก็มากันสักที! ถามเร็วเข้าว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ผมงงจะแย่”

โหจื่อในตอนนี้เกือบจะบ้าคลั่ง เขาตกใจกับคำพูดของไท่ซางราวกับสายฟ้าฟาด รีบแล่นไปที่เมี๋ยวชุ่ยและคนอื่นๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ

“ไท่ซาง แม่หนูนี่มันเรื่องอะไรกัน?” เมี๋ยวชุ่ยเดินเข้าบ้านพักตากอากาศภายใต้การประคองของหลี่ต๋าคาง จ้องมองหยางฉงถามอย่างสงสัย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท