NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1198 กลับมาที่สถานตากอากาศอีกครั้ง

บทที่ 1198 กลับมาที่สถานตากอากาศอีกครั้ง

“อืม หลักนั้นคือสถานตากอากาศของลูกพี่ใหญ่ แต่ช่วงนี้เขาไม่ค่อยกลับมาพักที่สถานตากอากาศ เวลาส่วนมากถ้าไม่ได้ออกไปทำภารกิจก็อยู่กับวี่เฟยพี่สะใภ้……เอ่อ……ผมหลุดปาก พี่สะใภ้คิดซะว่าไม่ได้ยินแล้วกัน”

ไท่ซางกำลังทะเลาะกับหวางซีเหยาอย่างดุเดือด เมื่อได้ยินคำของหยางฉงก็พูดออกมาโดยไม่ทันคิด สุดท้ายถึงรู้ตัวว่าพูดผิดไป ประหม่าจนไม่รู้ว่าวางมือเอาไว้ตรงไหนดี

“ไท่ซาง! ฉันอยากจะเย็บปากนายจริงๆ เลย!”

หวางซีเหยาที่เห็นสายตาหม่นหมองของหยางฉง ใช้ศอกกระทุ้งเอวของไท่ซางอย่างดุดัน กัดฟันพูดเสียงแผ่ว ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มเอาใจหยางฉง

“คือว่า เสี่ยวฉง สถานตากอากาศที่นี่ไม่เลวเลย เราจะเดินเล่นก่อนแล้วค่อยไปหาหลี่ฝางกันดีไหม?”

หยางฉงเองก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร พอเธอท้องก็ค่อนข้างคิดมากเศร้าโศก ทั้งๆ ที่ยอมรับเรื่องของหลี่ฝางและฉินวี่เฟยแล้วแท้ๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวกับพวกเขาก็รู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาทุกที

“พี่สะใภ้ สถานตากอากาศที่นี่สนุกมากเลยนะ ลูกพี่ใหญ่สร้างสถานบันเทิงเอาไว้เยอะมากเลย เดี๋ยวผมจะพาไปเล่น”

ไท่ซางเห็นหยางฉงใบหน้าเศร้าโศก จึงรีบเอาใจ

ล้อเล่นอะไรกัน ตอนนี้ในท้องของหยางฉงตั้งครรภ์ลูกของหลี่ฝางอยู่ หากเธอเศร้าเพราะคำพูดของเขา เกิดผลกระทบต่อเด็กในท้อง ถ้าหลี่ฝางรู้ต้องฆ่าเขาแน่?

แม้ก่อนหน้านี้หลี่ฝางจะตัดสินใจเลิกกับหยางฉงแล้ว แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ท้องแล้วไม่ใช่หรือไง? ใครจะไปรู้จะอีกหน่อยหลี่ฝางจะเห็นแก่ลูกเลือกที่จะอยู่กับหยางฉง

เพราะงั้นไท่ซางคิดว่าเขาควรจะเอาใจหยางฉงไว้ก่อน

“พอได้แล้ว พวกเธอไม่จำเป็นต้องระมัดระวังกับฉัน ฉันไม่เป็นอะไร” เมื่อเห็นความตื่นเต้นของหวางซีเหยาและไท่ซาง หยางฉงควบคุมอารมณ์ของตนเอง เผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง

ยังไงซะเธอก็มาแล้ว บางเรื่องที่ควรเผชิญหน้ายังไงก็ต้องเผชิญหน้า ไม่ว่าจุดจบจะเป็นยังไง เธอก็ล้มไม่ได้ ต่อให้สุดท้ายหลี่ฝางเลือกฉินวี่เฟยเธอก็ไม่สน เธอยินดีเดิมพลันและยอมรับผลพ่าย

“อ้าว นี่ไท่ซางไม่ใช่หรือไง? แกกลับมาได้ยังไง? สาวสวยสองท่านนี้คือใคร? แฟนใหม่หรือ?” ส้าวส้วยกลับมาจากข้างนอกพอดี เห็นไท่ซางกับผู้หญิงสองคนยืนอยู่ที่ทางเข้านิ่ง จึงรีบจอดรถทักทาย

“แกพูดบ้าอะไร! นี่เป็นผู้หญิงของลูกพี่ ฉันก็แค่ผู้ติดตาม คำพูดแกถ้าลูกพี่มาได้ยินเข้า แกโดนดีแน่”

คำพูดของส้าวส้วยทำให้ไท่ซางตกใจแทบแย่ จึงรับชี้ไปที่หยางฉงพร้อมอธิบาย

ให้ตายเขานอนกับผู้หญิงของใครก็ไม่กล้านอนกับผู้หญิงของหลี่ฝางหรอก! แม้ประโยคของโหจื่อจะไม่ได้เจตนา แต่ก็พูดมั่วซั่วไม่ได้

“ผู้หญิงของลูกพี่ใหญ่? ลูกพี่ใหญ่คนไหนกัน?” ส้าวส้วยไม่ทันไหวตัวว่าคนที่ไท่ซางพูดถึงคือใครกันแน่ เพราะหลังจากที่หลี่ฝางฟื้นความจำก็ไม่ได้กลับมาที่สถานตากอากาศ พวกเขาจึงไม่รับรู้การมีอยู่ของพี่สะใภ้อย่างหยางฉง

“โอ๊ย เรื่องนี้เวลาสั้นๆ ฉันพูดกับแกไม่รู้เรื่อง ลูกพี่ใหญ่เขากลับมายัง? ภารกิจนี่จะสองเดือนอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่มีข่าวคราวอะไรเลย”

ไท่ซางเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องของหยางฉงกับส้าวส้วยยังไงดี เพราะงั้นจึงข้ามขั้นตอนนี้ สอบถามความเคลื่อนไหวของหลี่ฝางแทน

“ลูกพี่ใหญ่เขายังไม่กลับมา ฉันได้รับข่าวจากลูกพี่ใหญ่เมื่อสองเดือนก่อนว่าเขาไปทำภารกิจแค่นั้น หลังจากนั้นก็ไม่ได้ข่าวของลูกพี่ใหญ่อีกเลย” เมื่อพูดถึงหลี่ฝาง ส้าวส้วยอดเผยสีหน้าเป็นกังวลไม่ได้

พวกเขาไม่ได้พบกับหลี่ฝางมาเป็นเวลาครึ่งปีแล้ว เขาเฝ้าอยู่ที่สถานตากอากาศกับโหจื่อทุกวัน แล้วช่วยหลี่ฝางดูแลกิจการ

“พี่สะใภ้ พวกเธอขึ้นรถก่อนเถอะ” อย่ามองว่าไท่ซางปกติวันๆ ไม่เอางานเอาการ แต่เขาดูแลคนเก่ง รู้ว่าต้องเปิดประตูรถให้หยางฉงขึ้นรถ

ส้าวส้วยจ้องมองหยางฉงที่ดูปกป้องบริเวณท้องเล็กน้อย พร้อมกล่าวถาม “ไท่ซาง นี่เป็นผู้หญิงของลูกพี่ใหญ่คนไหนของแก? ท้องอยู่ทำไมถึงได้ออกมาข้างนอกแบบนี้ล่ะ?”

“ลูกพี่ใหญ่คนไหนอะไรกัน ข้าเป็นถึงปรมาจารย์ จะเป็นลูกน้องคนอื่นได้ง่ายๆ งั้นหรือ? ชีวิตนี้ฉันมีแค่หลี่ฝางที่เป็นลูกพี่ใหญ่คนเดียว?”

ไท่ซางเป็นคนชอบเอาชนะ หากไม่ถูกความสามารถที่ล้นหลามของหลี่ฝางเอาชนะได้ เขาไม่มีทางยอมรับหลี่ฝางเป็นลูกพี่ใหญ่แน่ ส้าวส้วยนี่ยังจะถามว่าลูกพี่ใหญ่คนไหน นี่มันดูถูกความสามารถของเขาเห็นๆ

“เห้ แกบอกเองว่าเขาเป็นผู้หญิงของลูกพี่ใหญ่เราไม่ใช่หรือไง? ไท่ซาง แกน้ำเข้าสมองรึเปล่า? ผู้หญิงของลูกพี่ใหญ่คือฉินวี่เฟยชัดๆ ผู้หญิงคนนี้เป็นพี่สะใภ้ที่ไหนกัน?”

“แกไม่ต้องสนใจหรอก ขับรถกลับไปก่อน ถึงบ้านแล้วเล่าให้ฟัง” ไท่ซางตบหัวของส้าวส้วยอย่างหงุดหงิด เร่งให้เขาขับรถ

ส้าวส้วยลูปคลำหัวที่ถูกตบจนเจ็บ หันหน้ากลับไปขับรถอย่างไม่พอใจ ตอนนี้เขาสงสัยจะแย่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?

ไท่ซางหายไปทีละหลายเดือน เมื่อกลับมาก็พาผู้หญิงตั้งท้องกลับมา แถมยังบอกว่าเป็นผู้หญิงของหลี่ฝาง นี่มันเป็นไปได้ยังไง?

หยางฉงเงียบกริบนั่งอยู่ที่เบาะหลัง มองออกไปยังทิวทัศน์นอกหน้าต่าง หวางซีเหยาจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเธอ ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่ดูออก ว่าตอนนี้หยางฉงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก

อันที่จริงแค่คิดก็รู้แล้ว หลี่ฝางเป็นโลกทั้งใบของหยางฉง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ต้องบอกหลี่ฝางซะหมด อยากจะบอกคนทั้งโลกว่าหลี่ฝางเป็นแฟนหนุ่มของเธอ

แต่เมื่อหยางฉงมาถึงที่เมืองตงไห่ถึงได้รู้ว่า ที่แท้คนรอบข้างของหลี่ฝางไม่รู้การมีตัวตนอยู่ของเธอ แถมเธอก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับหลี่ฝางเลย

ความแตกต่างมากมายขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหนก็คงทนไม่ได้

“พี่ไท่ พี่กลับมาแล้วหรือ!” ไท่ซางเพิ่งเดินเข้าประตูสถานตากอากาศ โหจื่อก็พุ่งไปทางเขาด้วยความดีใจ คิดที่จะกอดเขา จนไท่ซางต้องตบเขาออกฉาดใหญ่

หากเป็นสาวงามขาเรียวยาวผิวขาวพุ่งใส่เขาแบบนี้ เขาต้องรู้สึกดีมากแน่ แต่กลับเป็นผู้ชายที่ผอมแห้งแถมยังไม่ได้หน้าตาดีอีกต่างหาก ไท่ซางไม่เล่นงานจนแม่เขายังจำเขาไม่ได้ก็ถือว่าใจดีแล้ว

“ถุย พี่ฉิน พี่จะไร้หัวใจเกินไปแล้ว” โหจื่อเองก็หนังหนามาก ถูกไท่ซางฟาดเข้าให้ราวกับคนไม่เป็นอะไร พลันลุกขึ้นสบถอย่างโกรธแค้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท