NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1247 เผชิญหน้าระหว่างศัตรู

บทที่ 1247 เผชิญหน้าระหว่างศัตรู

“เหอะ ไม่มีฉัน แกคิดว่าแกจะหาคริสทัลเจอในสุสานที่เหมือนกับเขาวงกตนี่เจองั้นหรือ?”

แม่มดจ้องมองเหล่าหลี่ต๋าคางกล่าวอย่างไม่เกรงกลัว

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หลี่ฝางจำต้องชะงักฝีเท้า แคทเธอรินรับรู้ถึงตำแหน่งของคริสทัล หากเธอนำทางจะสะดวกขึ้นมาก และถ้าหากต้องการรวมตัวกับกู่ยี่เทียน และส้าวส้วย ก็ต้องเพิ่งพาความช่วยเหลือจากแคทเธอริน

“ได้เป็นร่างเทพอ้านกลับชาติมาเกิด นั่นเป็นเกียรติของแก หลี่ฝาง ขอแค่แกเชื่อฟังคำสั่งของฉัน ฉันรับประกันว่าหลังจากที่เทพอ้านฟื้นคืนชีพจะดีต่อครอบครัวของแก”

เมื่อเห็นหลี่ฝางลังเล แม่มดคิดว่าเธอเป็นต่อ มุมปากอดฉีกยิ้มไม่ได้

“หืม? ถ้าผมบอกไม่ล่ะ?” หลี่ฝางจ้องแม่มดอย่างสมเพช ไม่อยู่ในการข่มขู่ของเธอ ไม่มีความช่วยเหลือจากแคทเธอริน เขาก็แค่เดินหาทีละห้อง

แม่มดไม่คิดเลยว่าหลี่ฝางจะตอบตนแบบนั้น สีหน้าของเธอแข็งขึ้นมาทันที เหลือบมองหลี่ฝางที่ใบหน้าเฉยชา เธอกัดฟันแน่น หัวเราะเยาะ “ถ้างั้นพวกแกอย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไปจากปากหลุมสุสานนี่ได้”

หลี่ต๋าคางทำตาขวางใส่แม่มดที่สีหน้าบิดเบี้ยว ความอาฆาตฉายแววในสายตา “ก็ต้องคอยดูว่าเธอมีความสามารถนั้นไหม”

ขณะที่ทั้งสองฝ่ายอดทนต่อไปไม่ไหว สีหน้าของแคทเธอรินเปลี่ยนไป “มีคนหาหัวใจของเทพอ้านเจอแล้ว!”

“อะไรนะ? ใครกัน?” ข้อความที่มาอย่างกะทันหัน เหล่าหลี่ฝางเองก็หน้าถอดสี

“อาซาโทส”

เมื่อได้ยินชื่อที่ไม่อยากได้ยินมากที่สุดหลุดออกจากปากของแม่มด บรรยากาศรอบตัวของหลี่ฝางและหลี่ต๋าคางเปลี่ยนไป

“เขาอยู่ที่ไหน? พาเราไปเร็วเข้า!”

คริสทัลตกไปอยู่ในเงื้อมมือของอาซาโทส หากไม่รีบไปขัดขวางเขาดูดพลัง สิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า

หลี่ฝางอยากจะเข้าไปจับข้อมือของแม่มด แต่กลับถูกท่านชายป๋ายยู่ขวางเอาไว้เสียก่อน

“แกคิดจะทำอะไร?”

สายตาของท่านชายป๋ายยู่ยากที่จะหยั่งถึง ใบหน้าสวยขรึมเล็กน้อย จับข้อแขนของหลี่ฝางแน่น ด้วยความกลัวว่าหลี่ฝางจะทำอะไรแคทเธอริน

“แก……” เมื่อจับจ้องท่านชายป๋ายยู่ที่ดื้อดึง หลี่ฝางโมโหจนแทบระเบิด พลันใช้แรงสะบัดมือของเขาออก น้ำเสียงเย็นชากว่าเมื่อสักครู่ “ป๋ายเจินเจิน แกจะมีสมองหน่อยได้ไหม! ถ้าอาซาโทสกลายเป็นเทพขึ้นมา เราทุกคนจบเห่แน่!”

ท่านชายป๋ายยู่สีหน้าเคร่งขรึม กล่าวช้าๆ “ฉันไม่สนใจว่ามันจะเป็นเทพไหม ถ้าแกทำร้ายแคทเธอริน ฉันป๋ายเจินเจินไม่มีทางยอม!”

เมื่อเห็นว่าท่านชายป๋ายยู่ขาดสติไปอย่างสิ้นเชิง คงต้องฟังคำของแคทเธอริน

“แก……”

หลี่ฝางโมโหจนอยากจะลงมือ แต่กลับถูกหลี่ต๋าคางที่อยู่อีกด้านรั้งเอาไว้ หลี่ต๋าคางจับจ้องหลี่ฝางที่สายตาลุกโชน ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่จะหันไปพูดกับแม่มดที่อยู่ด้านหลังของท่านชายป๋ายยู่อย่างเย็นชา

“แม่มด อาซาโทสเป็นศัตรูของเรา ตอนนี้เขาหาคริสทัลเจอแล้ว ถ้าไม่รีบไปหยุดเขา เมื่อเขาเป็นเทพ อย่าว่าแต่เทพอ้านของเธอจะฟื้นคืนชีพเลย แม้แต่เธอเองก็ยากที่จะมีชีวิตต่อไปได้”

“จะบอกที่ตั้งของคริสทัลกับเราไหม เธอลองคิดดูให้ดี”

แม่มดเองก็ไม่ได้โง่ ก่อนหน้านี้แคทเธอรินปฏิเสธการร่วมมือกับอาซาโทส แถมยังช่วยพวกหลี่ฝางเข้าสู่โลกใต้พิภพ เท่ากับว่าได้ล่วงเกินอาซาโทสอย่างสิ้นเชิง

หากอาซาโทสกลายเป็นเทพขึ้นมา สิ่งแรกคงจะสังหารนักรบในปากหลุมสุสานในตอนนี้แน่ ต่อจากนั้นก็ชาวอูข่าทั้งหมด

ต่อให้แม่มดอยากจะฟื้นคืนชีพเทพอ้านมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่ใช่คนเลือดเย็น ชนเผ่าและคนรุ่นหลังของเธอ ยังไม่ถึงกับอำมหิตมากนัก

“คริสทัลอยู่ที่ออกจากนี่ไปเลี้ยวซ้าย ห้องลับห้องที่สี่” นิ่งอยู่สักพัก ท้ายที่สุดแม่มดก็ให้ที่ตั้งของคริสทัล

“ขอบใจ” หลี่ฝางนิ่งไปสักพัก กล่าวขอบคุณก่อนที่จะมุ่งไปยังห้องลับที่มีคริสทัลอยู่

“ขอแสดงความยินดีฝ่าบาท ยินดีด้วยฝ่าบาท ที่ได้หัวใจของเทพอ้านมาครอบครอง จะได้เป็นเทพในเร็ววันนี้”

อัศวินที่เหลือทั้งหลายที่ข้างกายเทพอ้านต่างคุกเข่าลงกับพื้น แสดงความยินดีกับอาซาโทสที่อยู่บนโขดหิน

“ฮ่าๆ ในที่สุดฉันก็หาเจอ!” อาซาโทสชูหินสีดำแวววาวที่มีขนาดเท่าไข่ห่านขึ้นด้วยมือเดียว

เขามาที่ซากปรักหักพังกับพรรคพวกได้เกือบครึ่งเดือนแล้ว ลำบากสุดแสนมาตลอดทาง สูญเสียลูกน้องไปกว่าครึ่ง ในที่สุดก็หาหัวใจของเทพอ้านเจอจนได้

เหลือเพียงแค่ดูดพลังข้างใน รับสายฟ้าทั้งเก้า เพื่อไปสู่แดนดั่งเทพก็เป็นอันลุล่วง

“ไป!” เขาเก็บหัวใจของเทพอ้าน ก่อนที่อาซาโทสจะนำพาลูกน้องที่เหลือออกจากที่

แต่เมื่อเขาเปิดประตูหินห้องลับออก ก็ได้พบกับหลี่ฝางที่รีบเร่งเข้ามา

“อาซาโทส! จะหนีไปไหน!” หลี่ฝางเตรียมตัวต่อสู้มาตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นว่าเป็นอาซาโทส ปราณในร่างแผ่ซ่าน มือทั้งสองข้างกระแทกเข้าใส่

“ฝ่าบาทระวัง!” ชายหนุ่มผมทรงเดรดร็อกบนหัวผิวสีน้ำตาลที่อยู่ใกล้อาซาโทสมากที่สุดรีบปรี่เข้ามา ทั้งคู่สู้กันหลายสิบกระบบกระบวนท่าอย่างไม่ลดละในประตูหินอันคับแคบ

“รีบจบการต่อสู้ซะ!” อาซาโทสรู้ว่าครั้งนี้หลี่ฝางเรียกคนมาไม่น้อย ยิ่งช้าเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อพวกเขามากเท่านั้น เขาส่งสัญญาณให้กับสองคนด้านหลัง ให้พวกเขาเข้าไปช่วย

“กลับมา!” หลี่ต๋าคางที่ยืนอยู่ด้านหลังของหลี่ฝางสังเกตการณ์เหล่าอาซาโทสมาตลอด เมื่อเห็นว่าอีกสองคนคิดที่จะจู่โจม จึงดึงหลี่ฝางถอยมาด้านหลัง หลบการโจมตีของทั้งสาม

“แม่งเอ๊ย ไอ้ญี่ปุ่นขี้โกง! คิดเล่นสกปรกกับกูงั้นหรือ” หลี่ฝางมองเสื้อผ้าที่ถูกอัศวินเหล่านั้นฉีกขาด ถุยน้ำลายอย่างเกรี้ยวโกรธ

แม้สามคนนั้นจะไม่เข้าใจสิ่งที่หลี่ฝางพูดมากนัก แต่ก็รู้ว่าเขากำลังด่าตน ต่างคนต่างจ้องหน้ากัน ก่อนสบถอย่างไม่พอใจเริ่มโจมตีอีกครั้ง

ไม่นานเสือขาวและหงส์แดงเองก็เข้าร่วมการต่อสู้ ทว่าแม่มดและท่านชายป๋ายยู่กลับยืนดูอยู่อีกด้าน ไม่คิดที่จะเข้าไปยื่นมือข้องเกี่ยวแม้แต่น้อย

“แคทเธอริน อืม ไม่สิ ฉันควรเรียกเธอว่าแม่มดมิคาลินถึงจะถูก ทำไม ยังฟื้นคืนชีพเทพอ้านไม่สำเร็จงั้นหรือ?”

อาซาโทสหรี่ตา จ้องมองแม่มด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท