NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1252 การต่อสู้ของคนสองคน

บทที่ 1252 การต่อสู้ของคนสองคน

หลี่ฝางคว้าผมของอาซาโทสเอาไว้ได้ ออกแรงกระชากไปด้านหลัง ทั้งคู่กอดรัดสู้กันเป็นก้อนอย่างรวดเร็ว

“พ่อ! มาช่วยผมเร็วเข้า!” หลี่ฝางต่อสู้กับอาซาโทสจนไม่สามารถละมือได้ ขอเพียงแค่ตอนนี้หลี่ต๋าคางเข้ามา ก็จะสามารถกำราบอาซาโทสได้

แต่ในขณะที่มือของหลี่ต๋าคางแตะต้องอาซาโทส ปากหลุมสุสานเกิดเปลี่ยนทิศอีกครั้ง พริบตาหลายคนที่อยู่ด้วยกันกลับจากกันไปคนละทิศละทางของปากหลุมสุสานทั่วทุกหนแห่ง

หลี่ฝางจ้องทิศทางที่หลี่ต๋าคางหายตัวไปตกอยู่ในภวังค์เล็กน้อย ให้ตายนี่มันเรื่องอะไรกัน! ในเวลาสำคัญที่สุดแต่กลับหมุนเวียนใหม่!

“ฮ่าๆ ดูเหมือนว่าสวรรค์จะอยู่ข้างฉันนะ หลี่ฝาง เตรียมตัวตายซะ!” อาซาโทสเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขานิ่งไปสักพักก่อนที่จะฉีกยิ้มอย่างได้ใจ

หมัดของอาซาโทสห่อหุ้มด้วยหมอกทมิฬหนาเตอะพุ่งไปที่หัวของหลี่ฝาง หลี่ฝางรูม่านตาขยาย ไม่กล้าสู้กับเขาโดยตรง พลางกลิ้งไปอีกด้านอย่างอนาถ หลบหมัดของเขาได้อย่างหวุดหวิด

“คิดจะฆ่าผม ไม่ง่ายอย่างงั้นหรอก!” เมื่อหลบได้จึงรีบคลานลุกขึ้นจากพื้น หมัดกำแน่น พุ่งโจมตีไปที่อาซาโทสอย่างรุนแรง

“ทำไมแกไปเป็นอะไรเลยล่ะ? เมื่อกี้ฉันโดนตัวแกแล้วแท้ๆ!” อาซาโทสจ้องมองหลี่ฝางที่ไม่เป็นอะไรเลยด้วยความตกใจเล็กน้อย แม้หลี่ฝางจะหลบหมัดที่เหวี่ยงไปยังหัวของเขา แต่อาซาโทสก็รับรู้ได้ว่าเขาโดนแขนข้างซ้ายของหลี่ฝาง

หลังแห่งการเขมือบกลืนต่อให้แตะโดนเพียงนิดเดียว ก็จะดูดพลังของศัตรูได้กว่าครึ่ง

แต่เมื่อสักครู่อาซาโทสได้ได้รับการดูดพลังใดๆ ทั้งสิ้น ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย

“งั้นหรือ?” หลี่ฝางกล่าวถามอย่างประหลาดใจ ถ้าเขาจำไม่ผิด เมื่อสักครู่อาซาโทสได้โดนแขนข้างซ้ายของเขา และแขนข้างซ้ายของเขาใช้การไม่ได้เพราะยังผนึกหลังแห่งการเขมือบกลืนของเทพอ้านเอาไว้อยู่ หรือว่าพลังแห่งการเขมือบกลืนสามารถต้านกันและกันได้?

“แกมีพลังของการเขมือบกลืนได้ยังไง!” หมัดเมื่อสักครู่นี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับหลี่ฝางเท่าไหร่นัก เพียงแค่ทำให้ผ้าที่พันแขนข้างซ้ายของเขาขาดเท่านั้น เพราะงั้นแขนที่ดำขลับจึงปรากฏให้อาซาโทสได้เห็น

เขาจ้องมองหลี่ฝางที่มีพลังแห่งการเขมือบกลืนเหมือนกันด้วยความตกใจอย่างมาก ตอนแรกคิดว่าแผนการฟื้นคืนชีพเทพอ้านของแม่มดล้มเหลว ไม่คิดเลยว่าหลี่ฝางจะได้พลังของเทพอ้านมาส่วนหนึ่ง แถมยังผนึกพลังที่เหลือเอาไว้ในร่างอีกต่างหาก

“แกก็กลัวพลังแห่งการเขมือบกลืนนี่งั้นหรือ?” หลี่ฝางจ้องมองสีหน้าที่เคร่งเครียดของอาซาโทส ในหัวเกิดแผนการอะไรบางอย่าง

ตอนนี้การที่อาซาโทสจัดการยาก สิ่งสำคัญเพราะพลังเขมือบกลืนในร่างของเขา เพียงแค่กำจัดพลังเขมือบกลืนได้ ก็จะสามารถสู้กับเขาได้อย่างซึ่งๆ หน้า

ในเมื่ออย่างงั้น ก็สกัดจุดที่ผนึกแขนข้างซ้ายออก ยังไงตอนนี้ก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว เพิ่งพาแค่ตนเองในตอนนี้ไม่มีทางล้มอาซาโทสได้แน่ แถมคนอื่นต่างก็แยกไปคนละทิศละทางของปากหลุมสุสาน ไม่รู้ว่าจะมารวมตัวกันได้เมื่อไหร่

ถ้างั้นก็ลองสักตั้ง

หลังจากที่มีแผนการ หลี่ฝางลงมือทันที สกัดจุดที่ผนึกแขนซ้ายออก เมื่อพลังแห่งการเขมือบกลืนสีดำสูญเสียการจำกัด จึงเริ่มเคลื่อนไหว มุดเข้าไปที่หัวใจของหลี่ฝาง

ดีที่หลี่ฝางจิตแข็งพอ ควบคุมพลังแห่งการเขมือบกลืนเหล่านี้ได้

“เหอะ แกใช้พลังแห่งการเขมือบกลืนไม่เป็นสักนิด แต่แกยังกล้าดีคิดที่จะใช้วิธีนี้เพื่อล้มฉัน ไม่เจียมตัว”

แม้อาซาโทสจะตกใจในพลังแห่งการเขมือบกลืนในร่างของหลี่ฝางมาก แต่ก็ไม่วางเอาไว้ในสายตาเช่นเดิม สำหรับเขา ไม่มีความช่วยเหลือจากหลี่ต๋าคางและคนอื่นๆ ก็แค่หลี่ฝางไม่ถึงกับข่มขู่เอาได้

“ถ้างั้นก็ลองดูแล้วกัน!” หลี่ฝางไม่พูดอะไรมาก ฝีเท้าออกแรง ร่างของเขาจึงมาหยุดอยู่ตรงหน้าอาซาโทสราวกับสายฟ้า แขนซ้ายที่ดำทมิฬเหวี่ยงไปยังหน้าของเขา

อาซาโทสเบี่ยงสายตา มือทั้งสองข้างกันอยู่ข้างหน้า ป้องกันหมัดของหลี่ฝางได้ วินาทีที่สัมผัสกันและกัน ทำให้เกิดลมพายุขนาดใหญ่ ทั้งคู่ถึงกับต้องถอยไปข้างหลัง

ฝีเท้าของทั้งคู่ยึดแน่นกับพื้นถดถอยไปหลายก้าว ทิ้งรอยเท้าลึกเอาไว้ที่พื้น เห็นได้ชัดว่า ความสามารถของทั้งคู่แข็งแกร่งมากแค่ไหน

หมดกำลังสุดท้าย หลี่ฝางหัวเราะใส่อาซาโทสที่อยู่ไม่ไกลอย่างน่ากลัว ลิ้นของเขายื่นออกมาเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ฉีกยิ้มอย่างกระหายเลือด “จักรพรรดิของประเทศญี่ปุ่น ก็ไม่เท่าไหร่”

สีหน้าของอาซาโทสค่ำเครียดจนบีบเอาหมึกออกมาได้ ประโยคนี้สำหรับอาซาโทสที่ทำเพื่อชาติทั้งหัวใจช่างดูถูกเหยียดหยาม หมอทมิฬในร่างข้นขึ้นกว่าเดิม “หลี่ฝาง แกจะต้องเสียใจกับสิ่งที่แกพูด”

หมัดที่รุนแรงของอาซาโทสนำพาคลื่นลมขนาดใหญ่ ผ่านเส้นผมของหลี่ฝาง กระทบกับหินข้างหลังจนเกิดรอยแตกร้าว หลบการโจมตีของเขาได้ หลี่ฝางเม้มริมฝีปากแน่น ยกฝีเท้าขึ้นเตะไปยังบริเวณที่อ่อนแอที่จุดของอาซาโทส

แม้การทำแบบนี้จะเป็นการเล่นสกปรกในการต่อสู้ แต่ตามกฎหมาย สำหรับคนแบบนี้ จะเล่นสกปรกแค่ไหนก็ไม่เกินไปนักหรอก เพื่อหลบหลีกการจู่โจมของหลี่ฝาง อาซาโทสไม่ถอยหลังไม่ได้ ทิ้งระหว่างของทั้งคู่อีกครั้ง หลี่ฝางใช้โอกาสนี้ออกแรงที่ฝ่าเท้ากับพื้น ร่างกายโน้มเล็กน้อย ราวกับธนูที่ไม่มีคัน พุ่งไปที่อาซาโทสอย่างรุนแรง

ระยะห่างไม่ถึงสิบเมตร โดยแทบจะถึงที่ในทันที แต่ในขณะที่หมัดของหลี่ฝางกำลังจะโดนหน้าอกของอาซาโทส อีกฝ่ายกลับใช้พลังของปรากฏขึ้นที่ที่แขนขวาของหลี่ฝาง

สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย หลี่ฝางก้มตัวลง ฝ่ามือที่ดำขลับของเขาแทบจะพุ่งผ่านเส้นผมของเขา หลับหลบได้ หลี่ฝางใช้แขนซ้ายเป็นศูนย์กลาง หมุนร่างหนึ่งรอบ เหวี่ยงแขนซ้ายที่มีพลังแห่งการเขมือบกลืนไปยังบริเวณเอวของอาซาโทส

แม้อาซาโทสจะว่องไวมาก แต่หมัดนี้ก็ยังคงโดนเข้าจนได้ หลี่ฝางได้ยินเสียงกระดูกที่แตกหักชัดเจน

เขาถือโอกาสนี้ แต่อาซาโทสกลับเริ่มการตอบโต้เสียแล้ว ฝ่าของกว้างเกร็งเป็นกรงเล็บ พุ่งไปที่หัวของหลี่ฝาง ร่างของหลี่ฝางแทบจะนอนราบไปกับพื้น ใช้มือยันกับพื้นเอาไว้ด้วยมือเดียว ไถลไปข้างหน้าครึ่งเมตร หลบหลีกการโจมตีที่เอาชีวิตได้อีกหน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท