“แม่งเอ๊ย……” หลี่ต๋าคางก่นด่าอย่างอดไม่ได้เมื่อได้ยินอย่างงั้น แต่พูดได้เพียงไม่กี่ประโยค เปียวจื่อที่เปลี่ยนร่างมุ่งมาทางเขา รวดเร็วจนหลี่ต๋าคางแทบไหวตัวไม่ทัน
เปียวจื่อราวกับหมาบ้าที่ทับอยู่บนร่างของหลี่ต๋าคาง พลันอ้าปากหวังกัดหลี่ต๋าคาง
หลี่ต๋าคางรั้งคอของเปียวจื่อเอาไว้แน่น มืออีกข้างทุบหัวของเปียวจื่ออย่างบ้าคลั่ง
ทุกครั้งที่จู่โจมหลี่ต๋าคางใช้สุดกำลัง แต่เปียวจื่อเสมือนกับว่าไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างไรอย่างงั้น ต่อให้หัวถูกทุบจนแตก เขาราวกับสัตว์ร้ายที่ไร้สมองจู่โจมหลี่ต๋าคางท่าเดียว
“สัตว์ประหลาด! ไอ้สัตว์ประหลาด!” ตอนนี้ท่านจวนตกใจจนล้มลงกับพื้น ดวงตาคู่นั้นจับจ้องเปียวจื่ออย่างหวาดผวา ชี้นิ้วไปที่เขาตะโกนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“แม่งเอ๊ย! ไร้ประโยชน์สิ้นดี!” เมื่อจ้องมองท่านจวนที่ตกใจจนไม่กล้าขยับตัว หลี่ต๋าคางตะโกนเสียงทุ้มต่ำ ก่อนที่จะไปยังหน้าท่านจวนอย่างรวดเร็ว กอดท่านจวนกลิ้งไปกับพื้น หลบการโจมตีของเปียวจื่อ
เพราะท่านจวนมีร่างของหลี่ต๋าคางเป็นเกราะป้องกัน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เพื่อช่วยชีวิตเขาหลี่ต๋าคางถูกเปียวจื่อข่วนที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณไหล่
ความเจ็บปวดเจียนตายที่หัวไหล่ทำให้หลี่ต๋าคางต้องกรีดร้องออกมา ริมฝีปากขาวซีด ไม่ทันที่จะได้หายใจหายคอ ลมพายุลูกหนึ่งก็แล่นผ่านมาจากด้านหลังของเขา
คว้าท่านจวนที่อยู่ที่พื้น โยนเขาไปยังพื้นที่ที่สามารถเล่นได้สองคนราวกับลูกบอล
หลังจากนั้นฝ่ามือข้างหนึ่งแนบลงกับพื้น ฝ่าเท้าข้างหนึ่งง้างขึ้นจากผืนดิน ร่างกายพุ่งไปยังเปียวจื่อที่กำลังเร่งเข้ามา
เปียวจื่อที่ราวกับภูเขาลูกเล็กที่บินออกไป กระแทกลงที่พื้นเสียงดัง แม้แต่พื้นดินยังสั่นคลอนตามไปด้วย
เปียวจื่อในตอนนี้ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาสูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว แถมยังแยกแยะไม่ออกจู่โจมไปทั่ว ลูกน้องของทาเคชิตะ มัตสึซากะแทบจะถูกสังหารทั้งหมด
จากเรื่องราวก่อนหน้านี้เดาได้ว่า ยาพวกนี้เหมือนว่าจะมีเวลากำหนด เปียวจื่อในตอนนี้กำลังอยู่ในสุดที่คลั่งที่สุด หลี่ต๋าคางสู้กับเขาซึ่งๆ หน้าตอนนี้ไม่ใช่วิธีการที่ฉลาดเอาซะเลย เพราะงั้นเขาเลยหลบพร้อมกับรอเวลาหมดฤทธิ์ยาไปด้วย
“หลี่ต๋าคาง! ถ้าแกไม่อยากให้เด็กคนนี้ตาย ก็สู้กับสัตว์ประหลาดตัวนั้นซะ!”
ในเวลานี้เอง ทาเคชิตะ มัตสึซากะปรากฏกายขึ้นที่หน้าประตู ในมือของเขาจับรถเข็นเด็กเอาไว้ จ้องมองหลี่ต๋าคางพร้อมข่มขู่
“แกรนหาที่ตาย!” แม้หลี่ต๋าคางจะเคยเจอเด็กแค่ครั้งเดียว แต่เขาก็จำได้ทันทีว่าเด็กในมือของทาเคชิตะ มัตสึซากะก็คือหลานชายของเขาผิงอัน
ความเย็นยะเยือกแผ่ออกจากร่างของหลี่ต๋าคางมากขึ้น ขยับร่างเพียงน้อยนิดก็ไปอยู่ที่ทาเคชิตะมัตสึซากะ
แต่เพิ่งก้าวได้เพียงครึ่ง ก็ต้องนิ่งแข็งกับการกระทะของทาเคชิตะ มัตสึซากะต่อจากนี้
มือของทาเคชิตะ มัตสึซากะวางลงสวิตช์ตู้ทารก เพียงแค่เขากดเบาๆ ห้องทารกก็จะถูกเปิดออก ก็จะสัมผัสกับอากาศข้างนอก
ผิงอันคลอดก่อนกำหนด ร่างกายยังไม่สมบูรณ์ดี หากสัมผัสอากาศข้างนอก จะต้องเป็นอันตรายแน่
“หลี่ต๋าคาง ถ้าอยากให้เด็กรอด ก็ทำตามคำสั่งฉันซะ” ทาเคชิตะ มัตสึซากะจ้องมองหลี่ต๋าคางที่ชะงักฝีเท้า ใบหน้าเผยรอยยิ้มที่กระหายเลือด
เมื่อเห็นเสี่ยวผิงอันที่หลับใหลในตู้ หลี่ต๋าคางกัดฟันจนแทบแตก ดวงตาคู่นั้นจ้องทาเคชิตะ มัตสึซากะเขม็ง โกรธแค้นแต่ก็ไร้หนทาง
“ว่ามา จะให้ฉันทำอะไร”
ระหว่างชีวิตของตนเองและชีวิตของเสี่ยวผิงอัน หลี่ต๋าคางเลือกชีวิตของเสี่ยวผิงอันอย่างไม่ลังเล
“ฮ่าฮ่า แกนี่เป็นปู่ที่ใช้ได้เลย” หลี่ต๋าคางที่หยุดการขัดขืน ในสายตาของทาเคชิตะ มัตสึซากะเต็มไปด้วยความร้ายกาจ น้ำเสียงหัวเราะเยาะ “อันดับแรกแกต้องหกแขนของตัวเองก่อน แล้วก็ไปฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นซะ ถ้าในสถานการณ์แบบนี้แกยังมีชีวิตรอดได้ ฉันก็จะคืนเด็กให้แก”
เมื่อหลี่ต๋าคางได้ยินคำสั่งของทาเคชิตะ มัตสึซากะ รูม่านตาขยายเล็กน้อย เส้นเอ็นบนขมับนูนออก กล้ามเนื้อตึงแน่น มือทั้งสองข้างสั่นเทาด้วยความโกรธ
“ทาเคชิตะ มัตสึซากะ แกอย่าให้ฉันได้มีโอกาสรอดเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นฉันจะทำให้แกได้ว่าอะไรคือกายตายทั้งเป็น!”
จบประโยค หลี่ต๋าคางหักแขนของตนเองอย่างไม่ลังเล คนรอบข้างเพียงแค่ได้ยินเสียงก็รู้สึกเจ็บแล้ว แต่หลี่ต๋าคางราวกับคนที่ไร้ความรู้สึกอย่างไรอย่างั้น
จ้องทองทาเคชิตะ มัตสึซากะอย่างเย็นชา ก่อนที่จะมุ่งไปยังเปียวจื่อด้วยแขนที่ห้อยต่องแต่ง
เปียวจื่อที่ถูกรอยประทับของหลี่ต๋าคางไปสองทีได้รับบาดเจ็บภายใน เมื่อได้ยินเสียงของหลี่ต๋าคางเกิดคลั่งมากกว่าเก่า
พริบตาทั้งคู่สู้กันจนหินดินทรายปลิวว่อนไปทั่ว พื้นดินไหว
ก่อนที่หน้าหลี่ต๋าคางสู้กับเปียวจื่อกินแรงไปมาก ตอนนี้แขนสองเขาหักทั้งสองข้างยิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเปียวจื่อเข้าไปใหญ่
เพียงแค่ไม่กี่นาที เขาก็ถูกเปียวจื่ออัดจนล้มลงกับพื้นหลายหน เสื้อผ้าที่สะอาดสะอ้านถูกย้อมไปด้วยเลือด หลายต่อหลายครั้งที่เขาแทบจะจบชีวิตในเงื้อมมือของเปียวจื่อ แต่ทุกครั้งเขาก็ใช้ประสบการณ์การต่อสู้ที่หลากหลายและแรงต้านทานที่แข็งแกร่งหลบหลีกการโจมตีของเปียวจื่อได้
ทาเคชิตะ มัตสึซากะที่ดูเหตุการณ์อยู่อีกด้านกระทืบเท้าต่อเนื่อง โยนตู้ทารกให้กับลูกน้องคนสนิท ก่อนที่จะควักปืนออกมาจากเอวจ่อไปที่หลี่ต๋าคางสามนัด
หลี่ต๋าคางที่ได้ยินเสียงปืนไหวตัวในทันที น่าเสียดายที่เขาหลบกระสุนทั้งสามนัดไม่ได้หมด กระสุนนัดสุดท้ายโดนเข้าที่ท้องของเขาเต็มๆ
พริบตาเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบริเวณท้องของเขา ความเจ็บปวดของร่างกายทำให้เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ในไม่กี่วินาทีสั้นๆ ทำให้เปียวจื่อได้โอกาส กำปั้นหนึ่งซัดเข้าหลี่ต๋าคางจนกระเด็นกับพื้น
เลือดสดกระอักไหลออกจากปากของหลี่ต๋าคางไม่หยุด เขารู้สึกว่าสติของเขาค่อยๆ พร่ามัว คิดที่จะตอบโต้ แต่ตัวของเขากระตุกสั่นไปทั้งร่าง เพียงแค่ขยับเล็กน้อยก็ปวดเจ็บราวกระดูกหัก
เขาจ้องมองเปียวจื่อที่อยู่เหนือหัว บนใบหน้าเผยรอยยิ้มขมขื่น
“เสี่ยวฝาง พ่อพยายามที่สุดแล้ว” หลี่ต๋าคางพูดกับท้องฟ้า ก่อนหลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรม