NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1290 ไม่รับผิดชอบ

บทที่ 1290 ไม่รับผิดชอบ

ไท่ซางมองหยูหลิงฮุ่ยที่อยู่ตรงหน้าอย่างช็อกๆ คิดไม่ถึงว่าเรื่องที่ไม่น่าเชื่อแบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับตัวเอง

ตอนนั้นที่เขาไปเข้าร่วมศึกชิงจ้าวยุทธภพที่ตระกูลชิวจัดขึ้นเป็นเพื่อนหลี่ฝาง จากนั้นก็ไปเตะตาหยูหลิงฮุ่ยที่พบกันระหว่างทาง ทั้งสองก็มีความสัมพันธ์ไปอย่างตามธรรมชาติ

แต่ไท่ซางก็ไม่เคยคิดว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาวกับหยูหลิงฮุ่ยต่อไป เขานั้นเป็นคนที่ชอบผู้หญิงสวยๆ และทุกคนที่คบกับเขาก็ไม่เคยเกินครึ่งปี

หยูหลิงฮุ่ยก็เหมือนกัน หลังจากพวกเขาคบกันมาห้าหกเดือนไท่ซางก็เบื่อ และก็บอกเลิกหยูหลิงฮุ่ย

และตอนนั้นหยูหลิงฮุ่ยก็ไม่ได้มาวอแวอะไรมาก เอาค่าชดเชยจากไท่ซางมา5สิบล้านหลังจากนั้นก็กลับบ้าน เวลาผ่านไปนานขนาดนั้น ไท่ซางลืมเธอไปนานแล้ว ไม่คิดว่าวันนี้หยูหลิงฮุ่ยจะท้องโตมาหาเขา

จู่ๆ ก็กลายเป็นพ่ออย่างงงๆ แบบนี้จะให้ไท่ซางยอมรับได้ยังไง

“บอกมา จะเอาเท่าไหร่ สองร้อยล้านพอมั้ย?”

คบกับหยูหลิงฮุ่ยมาหลายเดือน ไท่ซางรู้ว่าหล่อนเป็นคนประเภทไหน ถึงแม้ว่าจะหน้าตาโอเค หุ่นไม่เลว แต่กลับเป็นผู้หญิงที่โลภมากอยากรวย

ดังนั้นไท่ซางจึงคิดได้เลยว่าครั้งนี้ที่หยูหลิงฮุ่ยมาหาตน นั่นก็เพราะมาขอเงิน

จากความสามารถของไท่ซาง สำหรับเขาแล้วเรื่องเงินนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่

หลังจากได้ยินที่เขาพูด นัยน์ตาของหยูหลิงฮุ่ยก็เจ็บเล็กน้อย กำชุดของตัวเองแน่น และกัดฟันพูด

“ฉันไม่ได้มาเอาเงิน”

“เธอไม่ได้มาเอาเงินงั้นเธอมาหาฉันทำไม? หรือว่าฉันให้ฉันแต่งเธอหรือยังไง? หยูหลิงฮุ่ย ตอนนั้นฉันก็พูดกับเธอแล้ว ฉันแค่เล่นๆ กับเธอเท่านั้น ให้เธออย่าจริงจัง ตอนนี้เธอท้องโตมาหาฉัน หมายความว่าไง?”

ไท่ซางเสเพลมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เจอเรื่องแบบนี้ พูดตามตรงเขาช็อกจริงๆ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำยังไงกับหยูหลิงฮุ่ยและเด็กในท้องหล่อน

ฟังคำพูดที่ไร้ความปรานีแถมยังทิ่มแทงของเขา ใจของหยูหลิงฮุ่ยราวกับมีมดเป็นพันเป็นหมื่นตัวกำลังกัดกิน

เธอยอมรับว่าตอนแรกที่เธอคบกับไท่ซางนั้นเพราะเห็นความสามารถการเป็นปรมาจารย์ของเขาจริงๆ แต่หลังจากที่รู้จักหลังจากนั้นหลายเดือน ใจของเธออ่อนไป

แค่เพราะว่าไท่ซางพูดว่า เขาไม่จริงจัง ไม่คบกับเธอไปนานๆ หยูหลิงฮุ่ยจึงทำได้แค่ยอมแพ้อย่างหมดหนทาง

แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่ทั้งสองเลิกกันไปได้เดือนกว่าๆ หยูหลิงฮุ่ยก็ตรวจพบว่าเธอท้อง เด็กคนนี้ทำชีวิตหยูหลิงฮุ่ยวุ่นวายไปหมดจริงๆ พ่อของเธอขอให้เธอเอาเด็กคนนี้ออก แต่หยูหลิงฮุ่ยก็ไม่ยอม ดึงดันจะคลอดเด็กคนนี้

ที่จริงตามสภาพแวดล้อมตระกูลหยู เลี้ยงเด็กคนนึงไม่ใช่ปัญหา บวกกับเงินชดเชยที่ไท่ซางให้เธอมาห้าสิบล้าน

แต่ว่าเรื่องบนโลกช่างยาก ช่วงนี้ยุทธภพวุ่นวายทำให้ครอบครัวเล็กๆ อย่างตระกูลหยูนั้นต้องทุกข์ทรมานอย่างมาก

หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้พ่อของเธอถูกฆ่า ตระกูลพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง หยูหลิงฮุ่ยถูกคนไล่ออกมา ทรัพย์สินของตระกูลถูกยึดไป เธอผู้หญิงท้องโตคนนึง นอกจากจะมาหาพ่อของลูกแล้ว ก็ไม่มีทางเลือกอื่น

“ไท่ซาง ฉันรู้ว่านายคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงินและชื่อเสียง แต่นายลองถามตัวเองดู เวลาที่พวกเราคบกัน ฉันเคยทำอะไรไม่ดีกับนายมั้ย? ฉันยอมรับตอนแรกฉันหวังเงินและอำนาจของนาย แต่ตอนหลังฉันใจสั่นจริงๆ ถ้าหากฉันไม่ชอบนายด้วยใจจริง งั้นทำไมฉันจะต้องให้กำเนิดลูกของนายด้วย?”

หยูหลิงฮุ่ยสารภาพแต่ไม่ได้ทำให้ไท่ซางซาบซึ้ง แถมยิ่งทำให้ไท่ซางรู้สึกต่อต้านขึ้นมา

“เหอะ ฉันไม่คิดจริงๆ ว่าผู้หญิงอย่างเธอจะน่าขยะแขยงแบบนี้ ถึงกับคิดจะเอาเด็กมาจับฉัน บอกว่าใจสั่นกับฉัน? ตอนนั้นที่เอาเงินฉันไปทำไมง่ายนักล่ะ?”

ไท่ซางมองหยูหลิงฮุ่ยด้วยสีหน้าดูถูก และหัวเราะอย่างเย็นชาพลางพูด

“ฉัน……ฉันมีเหตุผล” หยูหลิงฮุ่ยมองเขาด้วยสายตารู้สึกผิดสุดๆ กัดริมฝีปาก ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไง “เพราะว่านายพูดว่านายไม่จริงจังกับฉัน เพราะงั้น……”

“เอาล่ะๆ ยังไงเธอก็ยังจำคำที่ฉันบอกกับเธอตอนนั้นได้ งั้นก็รบกวนเธอรีบเอาเงินแล้วไปซะ เด็กนี่เธออยากจะคลอดก็คลอด ไม่อยากคลอดก็ไปเอาออก ถึงยังไงมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน เธออย่าคิดว่าฉันจะยอมรับเขา”

ไม่รอให้หยูหลิงฮุ่ยพูดจบ ไท่ซางก็ปัดมืออย่างหมดความอดทน และควักเช็คออกมาจากกระเป๋าหนึ่งใบ เขียนตัวเลขลงบนนั้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โยนไปที่ด้านหน้าของหยูหลิงฮุ่ย

เมื่อเห็นเช็คใบนั้นปลิวหล่นลงพื้น น้ำตาที่หยูหลิงฮุ่ยกลั้นไว้ในที่สุดก็ไหลออกมา ร่างของเธอสั่นเทาเล็กน้อยเพราะว่าร้องไห้ ครั้งนี้ที่เธอมาหาไท่ซาง ไม่ได้คาดหวังว่าไท่ซางจะแต่งเธอ เธอแค่อยากให้ลูกมีที่เพิ่งเท่านั้น

แต่ใครจะคิดว่าไท่ซางจะไม่ยอมรับการมีอยู่ของเด็กคนนี้ แถมยังไม่สนใจว่าเด็กจะเป็นหรือตาย

“ไท่ซาง นี่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนายนะ!อีกแค่เดือนเดียวเขาก็จะเกิดแล้ว ทำไมนายถึงได้พูดคำแย่ๆ แบบนี้ออกมาได้!” หยูหลิงฮุ่ยถามไท่ซางอย่างสิ้นหวัง

“เด็กคนนี้เป็นเธอที่อยากคลอด ไม่ใช่ฉัน ฉันมันก็เป็นแบบนี้ ไม่ชอบฟังก็เอาเงินแล้วไสหัวไป เงินพวกนี้พอที่จะให้พวกเธอแม่ลูกใช้ไปทั้งชีวิตแล้ว”

เห็นหยูหลิงฮุ่ยร้องไห้โฮ ในใจของไท่ซางก็รำคาญมากๆ

ท่าทีของเขาแบบนี้ทำให้คนด้านข้างพวกหลี่ฝางดูต่อไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะหยางฉง เห็นแค่เธอเดินไปข้างๆ หยูหลิงฮุ่ย และพยุงเธอลุกขึ้นนั่งอย่างระมัดระวัง

ในฐานะที่เป็นแม่เหมือนกัน หยางฉงเข้าใจความรู้สึกหยูหลิงฮุ่ยสุดๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่ารักใครคนนึงจริงๆ เธอก็คงไม่มีทางให้กำเนิดเด็กออกมา

“พี่สาวท่านนี้ พี่อย่าร้องไห้เลย พี่ไม่คิดถึงตัวเอง ก็ต้องคิดถึงลูกในท้องนะ พี่ร้องไห้แบบนี้ ถ้าหากไปทำร้ายเด็กในท้องจะทำยังไง?”

หยางฉงปลอบหยูหลิงฮุ่ยอยู่ด้านข้าง หลี่ฝางก็ทำหน้าดำคร่ำเครียดแล้วลากไท่ซางไปที่ระเบียงโรงพยาบาล

“ไท่ซาง นายคิดจะทิ้งหยูหลิงฮุ่ยแม่ลูกจริงๆ เหรอ?” หลี่ฝางมองไท่ซางที่ทำหน้ารำคาญ และถามพลางขมวดคิ้ว

“ตอนแรกที่เลิกกันเธอไปอย่างไร้เยื่อใยสุดๆ ตอนนี้กลับท้องโตมาหาฉัน ใครจะรู้ว่าเด็กนั่นใช่ลูกของฉันหรือเปล่า?” ที่จริงไท่ซางไม่เชื่อว่าลูกของหยูหลิงฮุ่ยจะเป็นลูกของตน ถึงยังไงทั้งสองคนก็เลิกกันมานานแล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท