NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1360 คฤหาสน์ของนายพลใหญ่

บทที่ 1360 คฤหาสน์ของนายพลใหญ่

ทั้งๆ ที่ท่านนายพลหญิงรู้ว่าคำพูดของหลี่ฝางนั้นไม่ใช่เรื่องจริง แต่กลับพอใจกับมันมาก จากนั้นเลยยกมือมาป้องปากหัวเราะ จู่ๆ ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ไท่ซือแล้วก็เดินลงมา ก่อนจะเอี้ยวตัวมาด้านหน้าของหลี่ฝาง

“ท่านหลี่ถ้าคุณเป็นคนธรรมดา ก็ไม่มีใครเป็นคนธรรมดาได้แล้วล่ะ คุณเงยหน้าขึ้นมา ให้ฉันได้มองคุณให้เต็มตาหน่อยสิ”

ท่านนายพลหญิงพูดพลางเชยคางหลี่ฝางขึ้นมา

ท่าทีของทั้งสองคนนั้นทำให้หลี่ฝางรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก เหมือนกับว่าเขาถูกเกี้ยวพาราสีเลยล่ะ

แต่อีกฝ่ายนั้นคือท่านนายพล มีเรื่องด้วยไม่ได้ เขาเลยทำได้เพียงเงยหน้าขึ้นอย่างเย็นชา

“ถึงแม้ใบหน้านี้จะไม่ได้เนียนงามไปกว่านัยเหลียง แต่กลับแอบมีความเป็นชายชาตรีอยู่ไม่น้อย ท่านหลี่ ไม่ทราบว่าคุณอยากจะเข้ามาในจวนของท่านนายพลของฉัน แล้วมาเป็นคู่ครองของท่านนายพลไหม?”

ท่านนายพลหญิงจ้องใบหน้าของหลี่ฝางสักพัก จากนั้นก็พูดด้วยความพอใจ

สิ่งที่เธอพูดไม่กี่ประโยคนั้นทำให้หลี่ฝาง ท่านผู้อาวุโสกับหลี่ฮุยตัวแข็งทื่อ หลี่ฝางยังเอามือไปแคะหูของตัวเองเล็กน้อย เพราะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า?นี่จะให้เขาเข้าไปในจวนของท่านนายพล เพื่อให้เป็นคู่ครองของท่านนายพลงั้นเหรอ?

น่าขันจริงๆ !

หลี่ฝางเป็นชายทั้งแท่ง จะทำเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร

“ขอบคุณที่ท่านนายพลรักใคร่ แต่ข้าหลี่นั้นไม่อาจไต่เต้าไปสูงได้ แถมข้ายังมีครอบครัวแล้วด้วย หวังว่าท่านนายพลจะบรรลุผลได้” หลี่ฝางไม่ได้คิดเลย แต่กลับปฏิเสธไปทันที

หลังจากที่ท่านนายพลหญิงได้ยินเขาพูดดังนั้นแล้ว ใบหน้าก็หนักใจขึ้นมา มือที่จับคางของหลี่ฝางเองก็บีบแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

“ท่านหลี่ ฉันไม่แคร์หรอกว่าคุณจะเคยมีครอบครัว ถ้าคุณไม่วางใจ ฉันให้เงินมากมายแก่พวกเธอก็ได้ รับรองว่าชีวิตหลังจากนี้ของพวกเธอจะไม่ต้องกังวลแน่นอน เพียงแค่คุณยอมมาเป็นคู่ครองของท่านนายพลของฉันก็พอ”

หลังจากที่หลี่ฝางได้ฟังดังนั้นก็กลอกตามองบน คุณไม่แคร์งั้นเหรอ?ก็ไม่ได้อยากเป็นคู่ครองของท่านนายพลของแกเข้าใจไหม?อีกอย่าง กูรวยอยู่แล้ว ยังจะขาดเงินอีกเหรอ?

“ท่านนายพล ฉันรักเหล่าภรรยาของฉันมาก ไม่ใช่ว่าจะใช้เงินในการแก้ปัญหาได้” หลี่ฝางพูดออกมาโดยไม่ได้มีน้ำเสียงเกรงใจเหมือนเดิม ก่อนจะเอาตัวเองคางของตัวเองออกมาจากมือของท่านนายพลหญิง พลางมองเธออย่างเย็นชาก่อนจะปฏิเสธอีกครั้ง

“ท่านหลี่ ที่ญี่ปุ่นนี้ ไม่มีอะไรที่ฉันอยากได้แล้วไม่ได้ คุณไปคิดให้ดีเถอะ”

เมื่อถูกหลี่ฝางปฏิเสธถึงสองครั้ง ท่านนายพลหญิงก็ไม่เหลือความอดทนต่อไปแล้ว แววตาก็เย็นชาจนน่ากลัว พลางมองหลี่ฝางอย่างร้ายกาจ ก่อนจะพูดเหมือนข่มขู่

“น่าเสียดาย ฉันไม่ใช่คนญี่ปุ่น ท่านนายพล หลี่ฝางอย่างฉันไม่เล่นกับอะไรแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

หลี่ฝางเองก็ไม่ใช่คนที่จะกลัวอะไร เขาสบตากับท่านนายพลหญิงอย่างแข็งกร้าว ท่าทีแกร่งเป็นอย่างมาก

“โอเค ดีมาก ดูเหมือนแกจะไม่สนใจความเป็นความตายของหญิงทั้งสองคนนี้สินะ มา ลงมือเลย”

ท่านนายพลหญิงมีสายตานิ่งไป ก่อนจะกำชับลูกน้องที่อยู่ด้านหลัง

หลี่ฝางได้ฟังดังนั้น ความเกรี้ยวกราดในร่างกายก็พุ่งออกมา จากนั้นจึงยกมือขึ้นบีบคอของท่านนายพลหญิงทันที

“ถ้าคุณกล้าทำอะไรพวกเธอ คอของคุณจะถูกฉันบิดออกจากคอในวินาทีต่อไปเลยล่ะ”

เมื่อรู้สึกถึงความอาฆาตของหลี่ฝางอย่างชัดเจน ท่านนายพลหญิงก็ตัวสั่นเล็กน้อย เมื่อนักสู้เห็นสถานการณ์ดังนั้นก็รีบปรี่เข้ามาก่อนจะเอาดาบที่อยู่ข้างเอวออกมา พลางเล็งไปที่คอของหลี่ฝาง

“ถอยออกไป” เมื่อเทียบกับนักสู้ที่จริงจังนี้ อารมณ์บนใบหน้าของท่านนายพลหญิงนั้นถือได้ว่าสบายอารมณ์เป็นอย่างมาก แถมยังมีความเพลิดเพลินเป็นอย่างมากด้วย

เธอยื่นมือออกไปนาบกับหน้าอกของหลี่ฝาง ก่อนจะลูบไล้เบาๆ มุมปากก็มีรอยยิ้มแสนหวาน พลางชายตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาข้างหน้า จนตัวนั้นแทบจะแนบกับตัวของหลี่ฝางแล้ว

“คุณกล้าทำเหรอ?คุณคิดว่าแค่เพื่อนพ้องของคุณไม่กี่คนนั้น จะสามารถปกป้องผู้หญิงและลูกของคุณได้งั้นเหรอ?”

ลมหายใจของท่านนายพลหญิงนั้นสัมผัสเข้ากับคอของหลี่ฝาง มันชาจนไร้เรี่ยวแรง หลี่ฝางใจเต้นแรง เขาถอยออกไปก้าวหนึ่งอย่างมีเงื่อนไข ก่อนจะทำให้ระยะห่างระหว่างกันมากขึ้น

“ฉันคิดว่า ชีวิตของท่านนายพลมีค่ามากกว่าพวกเรามาก ถ้าคุณทำอะไรพวกเธอแม้แต่นิดเดียว ถึงฉันจะต้องตาย ก็จะทำให้ญี่ปุ่นของคุณพังทลายราวฟ้ากับเหวไปด้วยเช่นกัน”

หลี่ฝางมองท่านนายพลหญิงอย่างเย็นชา พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นไปจนถึงกระดูก

ถ้าท่านนายพลหญิงคนนี้ไม่ยอม เลวร้ายที่สุดก็คือการจบเห่ไปพร้อมกันเพียงเท่านั้น

“คุณ!” ท่านนายพลหญิงโกรธจนจุกอก สีหน้าก็ดูไม่ได้เลย ตั้งแต่เด็กอยากได้อะไรก็ได้เธอเคยถูกปฏิเสธต่อหน้าทุกคนแบบนี้ที่ไหนกัน?

หลี่ฝางที่ไม่รู้จักว่าอะไรถูกผิดเลยจริงๆ !

“ท่านนายพล คนจีนคนนี้ไร้มารยาทจริงๆ ฉันจะสั่งสอนเขาแทนเอง!”

ชายที่ร่างกายกำยำมีกล้ามเป็นมัดๆ ทั้งตัวด้านหลังท่านนายพลหญิงนั้นลุกขึ้นมาด้วยใบหน้าเย็นชา แววตาที่มองหลี่ฝางก็เต็มไปด้วยความริษยา เกลียดชังและไม่แยแสเลย

ตอนที่เห็นชายกล้ามโตนั้น หลี่ฝางก็เดาออกว่าชายกล้ามโตคนนี้จะต้องเป็นชายที่เอาไว้บำเรอท่านนายพลหญิงอีกคนเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นเขาเองก็คงจะไม่มีทางจ้องตัวเองด้วยแววตาแบบนั้น

“ไอ้สารเลว!ฉันให้แกพูดตอนไหนกัน!”

ตอนแรกคิดว่าท่านนายพลหญิงจะตกลงกับสิ่งที่ชายกล้ามโตขอ แต่ใครจะไปรู้ว่าสิ่งที่ทำให้พวกหลี่ฝางผิดคาดก็คือ ท่านนายพลหญิงตบชายกล้ามโตคนนี้ต่อหน้าทุกคน

ชายกล้ามโตที่ถูกตบคุกเข่าลงกับพื้น ก่อนจะก้มหน้าพูดด้วยความรู้สึกผิด

“ข้าน้อยไม่คิดให้ดีเอง ข้าน้อยสมควรตาย!”

หลี่ฝางมองชายกล้ามโตที่มีท่าทีต่างจากเมื่อครู่ กล้ามเนื้อบนใบหน้าก็กระตุก

นี่ยังเป็นผู้ชายหรือเปล่านะ?ถูกผู้หญิงทำให้เสียหน้า แถมยังคุกเข่าให้เธออีกงั้นเหรอ?

ผู้ชายของท่านนายพลหญิงคนนี้ใช้ชีวิตอย่างน่าสงสารเกินไปแล้วล่ะ

“ท่านหลี่นั้นเป็นคู่ครองของท่านนายพลของฉัน พวกคุณเคารพเขาสักหน่อยจะดีกว่านะ”

ถึงแม้ชายกล้ามโตจะก้มหน้าลง ไม่เห็นสีหน้าท่าทีบนใบหน้าเขา แต่ท่านนายพลหญิงจะไม่รู้สิ่งที่เขาคิดได้อย่างไรล่ะ

คงจะไม่มีอย่างอื่นนอกจากหึงหวง แล้วก็ริษยานั่นแหละ

“ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”

หลังจากที่ได้ยินท่านนายพลหญิงพูดแล้ว ชายกล้ามโตก็เงียบไปสามสี่วินาที จากนั้นก็ตอบเสียงอ่อย

หลี่ฝางนั้นเห็นมือทั้งสองข้างของชายกล้ามโตกำขึ้นมา ก่อนจะมีกล้ามเนื้อเป่งขึ้นมาทั้งตัว

ถ้าท่านนายพลหญิงคนนี้ไม่ปกป้องหลี่ฝางแบบนี้ เขาเชื่อ ว่าชายกล้ามโตคนนี้คงจะเข้ามาทำร้ายตัวเองแล้วล่ะ

“เอาล่ะ ลุกขึ้นมาเถอะ จากนี้พวกคุณเป็นผู้ชายของฉันกันหมดแล้ว หวังว่าคุณจะใจกว้างกันสักหน่อย เข้าใจไหม?”

หลังจากที่สั่งสอนชายกล้ามโตเสร็จ ท่านนายพลหญิงก็มีสีหน้าแววตาที่อ่อนโยนขึ้นมา ก่อนจะนั่งยองลงแล้วพยุงชายกล้ามโตขึ้นมาจากพื้น พลางลูบหน้าของชายกล้ามโตที่ถูกตบจนแดงด้วยความรัก ก่อนจะพูดปลอบเสียงอ่อนโยน

การตบของท่านนายพลหญิงในครั้งนี้นั้นถือได้ว่าใช้อย่างเต็มแรง ความไม่พอใจที่มีอยู่ในแววตาของชายกล้ามโตในตอนแรกนั้น เมื่อถูกเธอปลอบใจแบบนี้ มันก็หายไปในทันที

ขนาดชายทั้งแท่งอย่างเขา ยังมีความเขินอายขึ้นมาเลย

หลี่ฝางเห็นตัวสั่นเทา ก็รู้สึกน่าสะอิดสะเอียน

“ท่านนายพล ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจ ฉัน หลี่ฝาง ไม่ใช่ผู้ชายของคุณ ชีวิตนี้ก็ไม่สามารถเข้าร่วมกองกำลังในหารบำเรอของคุณได้”

หลี่ฝางไม่อยากมีความสัมพันธ์อะไรกับท่านนายพลหญิงที่โดดเด่นแบบนี้ เมื่อได้ยินเธอบอกว่าตัวเองเป็นผู้ชายของเธอแล้ว ก็รีบแก้ต่างให้กับตัวเอง

ถ้าเกิดถูกฉินวี่เฟยกับหยางฉงรู้เข้า ไม่แน่ว่าอาจจะบ้านแตกก็ได้

“เหอะๆ ท่านหลี่ ฉันได้ยินมาว่าคุณกำลังหาเครื่องปรุงยาที่ชื่อว่าผลแก้วม่วง เพียงแค่คุณตอบตกลงที่จะเป็นคู่ครองของท่านนายพลของฉัน ผลแก้วม่วงนี้ฉันจะไปเอามาจากในราชวงศ์ให้เอง เป็นอย่างไรล่ะ?”

ท่านนายพลหญิงเอามือกอดอก พลางมองหลี่ฝางด้วยความ เหมือนกับมั่นใจมากว่าหลี่ฝางจะตอบตกลงตัวเอง

“คุณคิดว่าคนของจักรพรรดิอย่างพวกคุณ จะมาขวางฉันได้เหรอ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท