NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1370 เชื่อฟังคำสั่ง

บทที่ 1370 เชื่อฟังคำสั่ง

“ฉันเตือนคุณไว้นะ ถ้าเกิดคุณกล้ามาแกล้งยาโกะล่ะก็ ฉันจะไม่มีทางปล่อยคุณแน่!อย่าได้คิดว่าท่านเจียเหอจัดให้มาปรนนิบัติคุณ แล้วคุณจะสามารถเรียกเขาทำอะไรก็ได้ จากนี้คุณเองก็ต้องทำเรื่องของตัวเองด้วย!อย่าคิดจะมาเรียกใช้ยาโกะ!”

ให้ตายจื่อยีก็ไม่ได้เห็นหลี่ฝางเป็นคู่ครองของท่านนายพล แถมยังไม่ชอบหน้าของคนนอกเป็นอย่างมากด้วย เพื่อนของตัวเองถูกจัดมาให้ปรนนิบัติ เขาคิดไปก็โกรธไป

หลี่ฝางเห็นจื่อยีที่โกรธตัวเอง ก็เชิดคางขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง

“ในเมื่อเขาถูกเจียเหอจัดมาให้ดูแลความเป็นอยู่ของฉัน งั้นฉันอยากให้เป็นอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้นสิ ถ้าคุณมีความเห็นต่างอะไร ก็ไปบอกเจียเหอเองสิ”

จื่อยีกำหมัดไม่พอใจเพราะคำพูดของหลี่ฝาง ใบหน้าก็แดงเพราะความโกรธ เขาใช้นิ้วชี้ไปหาหลี่ฝาง พลางอึกอักอยู่นาน ก่อนจะพูดออกมาได้

“คุณ!คุณรอฉันก่อนนะ!ยาโกะ เราไปกันเถอะ!”

เมื่อพูดจบ จื่อยีก็คล้องแขนของคิริน ยาโกะกำลังจะเดินไป หลี่ฝางก็รีบเข้ามาขวางพวกเขาเอาไว้ด้านหน้า พลางเอามือกอดอก ก่อนจะมองพวกเขาอย่าง

“เห้อ ตอนนี้เขาเป็นคนของฉันนะ คุณจะพาเขาไปไหน?”

“คนของคุณอะไรกัน!ตอนที่คุณยังไม่ได้แต่งงานกับท่านนายพล ตัวตนของคุณก็ไม่ได้สูงส่งไปกว่าเรา!คุณจะแสดงพลังโอ้อวดอะไรก็ให้มันน้อยๆ หน่อย!”

มองออกเลย ว่าจื่อยีนั้นโกรธเพราะหลี่ฝางไม่เบา หลังจากที่ตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธแล้ว ก็ยื่นมือออกมาผลักหลี่ฝาง พลางอยากจะพยายามพายาโกะไป

หลี่ฝางมองแขนขาบางๆ ของจื่อยี ก็อดไม่ได้ที่จะทำเสียงจิ๊จ๊ะออกมา เขาที่ตัวเล็กๆ นั้น แม้จะออกแรงจนเต็มกำลังแล้วแต่ก็คงจะขยับตัวเองไม่ได้แม้เพียงครึ่งก้าว

“นี่นาย ตัวของคุณในตอนนี้ ยังอยากจะผลักฉันเหรอ?คุณกินข้าวอีกหลายๆ ปีเถอะ”

มือหนึ่งอังอยู่ที่หน้าผากของจื่อยี ใช้แรงเล็กน้อย หลี่ฝางก็ทำให้จื่อยีถอยหลังไปได้แล้ว

มันทำให้จื่อยีคิดว่าตัวเองรู้สึกเหมือนโดนดูแคลนเป็นอย่างมาก หลังจากที่ตะโกนออกไป ก็ปรี่เข้าไปหาหลี่ฝางเหมือนกำลังจะขวิด

หลี่ฝางเองก็ไม่หลบ แต่ยืนรอเขาอยู่ที่เดิม จากนั้นก็เกิดเสียงตุ้บขึ้น จื่อยีก็ชนเข้ากับหน้าอกของหลี่ฝาง

หลี่ฝางตัวโอนเอน แต่กลับไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย อารมณ์บนใบหน้าก็นิ่งเฉยเป็นอย่างมาก โดยไม่มีท่าทีแปลกอะไรเลย กลับเป็นจื่อยีที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาที่ชนจนฟันร้าว จากนั้นก็จับหัวตัวเองพลางร้องพึมพำ

“จื่อยี คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” คิริน ยาโกะที่อยู่ข้างๆ ดึงจื่อยีออกมาจากอ้อมกอดของหลี่ฝาง ก็มองหน้าผากปูดๆ ของเขาพลางถาม

“คนคนนี้ทำมาจากก้อนหินหรือเปล่าเนี่ย?ทำไมมันแข็งขนาดนี้!”

จื่อยีนั้นใช้มือกุมหัวของตัวเองด้วยความมึน จากนั้นก็พูดอย่างน้อยใจ

หลี่ฝางขำเพราะท่าทีของพวกเขา พลางขำพรวดออกมา

“พวกคุณสองคนเนี่ย สนุกจริงๆ เลย” เมื่อหัวเราะไปได้สักพัก หลี่ฝางถึงได้มีแรงกลับมาเป็นปกติ

จากนั้นก็ยื่นมือไปจับหัวของพวกเขาสองคน ก่อนจะพูดด้วยความสบายอารมณ์เป็นอย่างมาก” เอาล่ะ ฉันเองก็ไม่ต้องการให้คุณปรนนิบัติ เดี๋ยวคุณพาฉันไปที่พักแล้วก็ไปเถอะ”

หลี่ฝางที่ไม่เคยได้รับการดูแลจากใครตั้งแต่เด็กและเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างมาก ยิ่งในตอนนี้เขาไม่ได้อยากจะอยู่ที่จวนของท่านนายพลนานเท่าไหร่ ขอเพียงได้เครื่องปรุงยามาแล้ว เขาก็จะรีบกลับประเทศจีนไป

ถ้าเกิดเข้าใกล้คนของจวนของท่านนายพลมากเกินไป มันคงจะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายไม่เบาเลย

ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้คิริน ยาโกะเป็นคนที่เจียเหอจัดมาด้วย ใครจะไปรู้ว่าเขามาเพื่อจับตามองตัวเองหรือเปล่า

เลยต้องพยายามปกป้องตัวเองเอาไว้ก่อน การอยู่คนเดียวนั้นดีกว่ามาก

“แต่ว่า……แต่ว่า……ถ้าฉันกลับไปล่ะก็ ท่านเจียเหอจะต้องลงโทษฉันแน่ๆ”

หลังจากที่ได้ยินเสียงของหลี่ฝาง ตาของคิริน ยาโกะก็สว่างข้น ราวกับว่าคิดไม่ถึงเลยว่าหลี่ฝางจะให้ตัวเองกลับไป

แต่วินาทีถัดมาในแสงสว่างในแววตาเขาก็หายไป จากนั้นก็มีความกลัวเข้ามาแทน

อย่าคิดว่าเขาอายุน้อย แล้วก็ดูทำอะไรเงอะงะด้วย แต่เขาเองก็รู้ว่าเจียเหอจัดให้ตัวเองมาดูแลหลี่ฝางเพื่ออะไร นอกเสียจากการให้เขามาจับตาดูหลี่ฝาง แล้วก็ไปรายงานเจียเหอเกี่ยวกับสถานการณ์ของหลี่ฝาง

ถ้าเกิดเขาถูกหลี่ฝางไล่ออกมาแบบนี้ เจียเหอจะต้องโกรธเป็นอย่างมากแน่ๆ

ตอนนี้ชายกล้ามโตตายแล้ว ไม่มีใครปกป้องเขาได้แล้ว นอกจากเขาจะเชื่อฟังคำสั่งของเจียเหอแล้วก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

“วางใจเถอะ คุณก็บอกกับเจียเหอ บอกว่าฉันชอบความสะอาดสะอ้านสบายตา ไม่ชอบให้ใครมารบกวน ถ้าเขากล้าลงโทษคุณ ฉันจะออกหน้าแทนคุณเอง เอาล่ะ ฉันให้อาหารปลามาพอประมาณแล้ว พวกคุณพาฉันไปที่พักของฉันเถอะ”

หลี่ฝางนั้นไม่ได้ใส่ใจอะไรเจียเหอด้วยซ้ำ จากนั้นเลยโบกมือให้กับคิริน ยาโกะกับจื่อยีด้วยความไม่ได้ใส่ใจเป็นอย่างมาก เพื่อบอกให้พวกเขานำทางไปได้แล้ว

คิริน ยาโกะมีท่าทีลังเลเป็นอย่างมาก พลางอ้าปากออกมา เหมือนอยากจะพูดอะไร แต่จื่อยีก็รีบดึงเขาเอาไว้

“คุณอย่ากลัวเลย ถึงอย่างไรเราก็มาตามที่ท่านเจียเหอกำชับแล้ว แต่คนคนนี้เขาไม่อยากให้คุณปรนนิบัติเอง ท่านเจียเหอไม่มีเหตุผลต้องลงโทษคุณเลย แม้เขาจะโกรธคุณเพราะเรื่องนี้ แต่ก็ยังมีฉันไม่ใช่เหรอ?คุณเชื่อฉันสิ ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณต้องบาดเจ็บแน่ๆ”

ตอนที่จื่อยีจดจ้องอย่างตั้งใจ คิริน ยาโกะก็แน่วแน่กับความคิดแล้ว พลางพยักหน้าอย่างหนักแน่น จากนั้นก็จูงจื่อยีพาหลี่ฝางไปที่ที่พักของเขา

เจียเหอนี่มีอุบายจริงๆ เลย แม้ที่ที่หลี่ฝางอยู่นั้นจะไม่เลวเลย การออกแบบก็ละเอียดหรูหราสวยงาม แต่มันห่างจากที่พักของท่านนายพลไกลเหลือเกิน

ถ้าเกิดว่าอยากเจอท่านนายพลล่ะก็ คงจะต้องเดินอยู่นานนม การอยากได้รับความเอ็นดูที่ต้องใช้วิธีต่างๆ มากมายของผู้หญิงโบราณนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเจอในจวนของท่านนายพลแห่งนี้

“เอ่อ……ท่านหลี่ท่านอย่าถือโทษกันเลย จวนของท่านนายพลนั้นใหญ่มาก ปกติมีห้องว่างมากมาย และต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะมีสนมชายเข้ามาใหม่เป็นกลุ่ม ดังนั้นเลยมีห้องมากมายที่ไม่ได้ทำความสะอาดเอาไว้ได้ทัน”

“ที่พักประณีตงดงามของท่านนี้เพิ่งมีแขกมาเยี่ยมท่านนายพล เลยเพิ่งทำความสะอาดไป ท่านเจียเหอมีเรื่องมากมาย เลยไม่ได้เก็บทำความสะอาดสวนอื่นได้ทัน ดังนั้นเลยต้องให้ท่านมาพักที่นี่ก่อน”

คิริน ยาโกะเห็นหลี่ฝางมองสวนที่พักนี้ด้วยแววตาแปลกๆ ไป แถมยังมองอยู่นานแต่ไม่พูดอะไร เลยรีบอธิบายก่อน

หลี่ฝางได้ฟังดังนั้น ก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะตอบเล็กน้อย เพื่อบอกว่ารู้แล้วล่ะ

อันที่จริงที่คิริน ยาโกะพูดนั้นเป็นข้ออ้างทั้งนั้น ในเมื่อเจียเหอสามารถออกมาต้อนรับอย่างโอ่อ่าได้ขนาดนั้น ถ้าเกิดเขามีใจจริงๆ จะไม่มีทางหาเวลามาทำความสะอาดให้มันดีได้เลยหรือ?

นี่เป็นการแสดงอำนาจของเจียเหอให้ตัวเองเห็นเท่านั้นเอง

แต่หลี่ฝางเองก็ไม่อยากจะใส่ใจอะไร คนเหล่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเอง เขาเพียงแค่มาอยู่ในจวนของท่านนายพลไม่กี่วัน เดี๋ยวถึงเวลา เขาก็จะรีบออกไปโดยเร็ว

“เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วเราจะไปแล้วนะ” จื่อยีไม่อยากเห็นหลี่ฝางเป็นอย่างมาก หลังจากที่พาหลี่ฝางมาถึงที่แล้ว เขาก็อยากจะลากคิริน ยาโกะจากไปให้เร็วที่สุด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท