NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1373 คิริน ยาโกะ

บทที่ 1373 คิริน ยาโกะ

หลังจากที่ฮัวเหลียนได้ฟังเสียงของท่านนายพลหญิงแล้ว ก็อดที่จะกำมือแน่นไม่ได้ เมื่อมองท่าทีของท่านนายพลหญิง เหมือนกับจะสนใจในตัวเด็กที่ชื่อคิริน ยาโกะเลย

น่าขยะแขยงจริงๆ !มันไม่ง่ายเลยที่จะกำจัดศัตรูของตัวเองสองคน ตอนนี้กลับมีเพิ่มมาอีกแล้ว

ล่อให้คนมาติดได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แพศยาจริงๆ เลย!

แม้ฮัวเหลียนจะด่าคิริน ยาโกะในใจ แต่ก็ยังไม่กล้าขัดคำของท่านนายพลหญิง หลังจากที่ตอบรับแล้วก็รีบให้คนไปแบกคิริน ยาโกะ

“คุณล่ะ ไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลังจากที่จัดการคิริน ยาโกะเสร็จ ท่านนายพลหญิงถึงหันตัวไปมองจื่อยี ก่อนจะลูบหน้าของเขาที่มีรอยทั้งห้า

เมื่อจื่อยีได้ยินดังนั้น จมูกก็แน่นขึ้นมา ก่อนจะปรี่เข้าไปในอ้อมกอดของท่านนายพลหญิงแล้วร้องเสียงเบาออกมา

“ฮือๆ ……จื่อยีไม่เป็นไร ท่านนายพลมาออกหน้าแทนจื่อยีกับยาโกะได้ก็ดีมากแล้ว ท่าน ท่านไม่รู้ว่าเมื่อครู่ฉันกลัวขนาดไหน ฉันคิดว่า ฉันคิดว่าตัวเองจะถูกท่านเจียเหอตีจนตายแล้ว!ชีวิตของจื่อยีนั้น ตายก็ตายได้ แต่จื่อยียังปล่อยใจจากท่านนายพลท่านไม่ได้!”

“ตอนแรกท่านนายพลบอก ว่าจะรอจนวันที่จื่อยีโตเต็มวัยแล้ว อีกแค่สองปีจื่อยีก็จะถึงแล้ว ฉันยังไม่ได้ทำสัญญาของท่านนายพลเลย ถ้าตายไปแบบนี้ จื่อยีไม่ยอมจริงๆ นะ”

จื่อยีพูดพลางร้องไห้ ยิ่งพูดความสงสารในแววตาของท่านนายพลหญิงก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเธอเลยเช็ดน้ำตาให้จื่อยีด้วยชายเสื้อ ก่อนจะปลอบด้วยเสียงอ่อนโยน

“อย่าพูดอะไรโง่ๆ ออกมานะ!คุณนั้นเป็นจื่อยีของท่านนายพล ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ใครก็มาทำอะไรคุณไม่ได้!”

หลังจากที่ได้ยินคำของท่านนายพลแล้ว จื่อยีก็เอาหัวมาซุกในอ้อมกอดของท่านนายพลหญิง ก่อนจะเลิกมุมปากขึ้นอย่างไร้เสียง แววตาที่ดูล้ำลึกนั้นไม่เหมือนกับสิ่งที่เด็กอายุสิบหกควรมีเลย

“แต่ว่า……พ่อของท่านเจียเหอเขาเป็นคนที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยนะ แล้วก็ยังเป็นคนสนับสนุนเงินของท่านนายพลด้วย ท่านลงโทษท่านเจียเหอเพราะฉัน เกรงว่าจะทำให้พ่อของเขาไม่พอใจนะ”

จื่อยีกลอกตา ก่อนจะแกล้งพูดอย่างน่าสงสารต่อ

ท่านนายพลหญิงได้ยินเขาพูดถึงพ่อของเจียเหอ แววตาก็เปล่งประกาย ความอ่อนโยนบนใบหน้านั้นก็หายไปเล็กน้อย แววตาดำขลับยากที่จะหยั่งถึง ไม่รู้ว่าในตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่

“ฉันนั้นเป็นท่านายพลใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นเลยนะ จะต้องถูกบังคับเพราะกำลังด้านทรัพย์สินของเขาเหรอ?เรื่องในด้านการเมืองน่ะคุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันเองจะจัดการให้ดี ส่วนยาโกะนั้นเป็นเพื่อนสนิทคุณไม่ใช่เหรอ?คุณไปดูเขาก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ส่วนเรื่องทางนี้ เดี๋ยวฉันจะจัดการให้เรียบร้อยเอง”

เห็นได้ชัดเลย ว่าท่านนายพลหญิงนั้นไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องครอบครัวของเจียเหอ หลังจากที่ให้คำตอบที่เป็นไปได้ทั้งสองกับจื่อยีแล้ว ก็บอกให้เขาไปเยี่ยมคิริน ยาโกะ

แววตาของจื่อยีนั้นมืดลง ปากก็เม้มจนเป็นเส้นเดียว เขารู้ว่าท่านนายพลหญิงนั้นยังกลัวความยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของเจียเหอ ถ้ามันเหมือนที่เธอพูดจริง ว่าไม่ได้กลัวครอบครัวของเจียเหอ งั้นท่านนายพลหญิงคงต้องกำจัดเจียเหอออกไปตั้งแต่แรกแล้ว

ก่อนหน้านี้มีสนมชายคนหนึ่ง ก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ที่ใช้การได้รับความรักและเอ็นดูมากมายหลายครั้ง จนเหิมเกริมเป็นอย่างมาก เลยดุด่าทำร้ายคนอื่น จากนั้นเมื่อท่านนายพลหญิงรู้เข้า ก็ให้คนตัดแขนก่อนจะโยนออกจากจวนไป

เจียเหอทำเรื่องแบบเดียวกัน แต่ท่านนายพลหญิงกลับไม่ได้ลงโทษแบบเดียวกัน เท่านี้ก็รู้ได้แล้วว่า เบื้องหลังของเจียเหอนั้นแข็งแกร่งเพียงใด

“อือ งั้นจื่อยีออกไปก่อนเถอะ” ทั้งที่ในใจไม่พอใจกับคำตอบของท่านนายพลหญิงมาก แต่จื่อยีเองก็ไม่กล้าแสดงออก เลยต้องเชื่อฟังคำสั่งของท่านนายพลหญิง

“เอาล่ะ พวกคุณเองก็ไปเถอะ ที่นี่ไม่มีอะไรให้พวกคุณดูต่อแล้วล่ะ” หลังจากที่จื่อยีไปแล้ว ท่านนายพลหญิงก็บอกให้คนอื่นๆ แยกย้ายไป เพียงไม่นานสวนที่มีคนแน่นหนาก็เหลือเพียงหลี่ฝาง เจียเหอ แล้วก็ท่านนายพลหญิงกับฮัวเหลียน

เจียเหอในตอนนี้ได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว หลังจากที่เป็นเงาของท่านนายพลหญิง ก็ร้องไห้ออกมาทันที

“ฮือๆ ……ท่านนายพล!คุณต้องออกโรงแทนฉันนะ!คุณดูหน้าของฉันสิ ใบหน้าหล่อเหลาของฉันโดนทำลายหมอแล้ว!ทั้งหมดนี้ก็เพราะหลี่ฝางทำ!ท่านนายพล คนที่น่ารังเกียจและโหดร้ายแบบนี้ จะมาเป็นคู่ครองของท่านนายพลได้อย่างไรกัน?”

เจียเหอยังไม่รู้ว่าในใจของท่านนายพลหญิงนั้นเกลียดเขาขนาดไหน เลยเลือกที่จะฟ้องก่อน จากนั้นจึงชี้หน้าหลี่ฝาง พลางด่าเสียงดัง

ใบหน้าของเขาที่มีเลือดขึ้นหน้าไปหมดในตอนแรก ตอนนี้กลายเป็นน้ำหูน้ำตา ท่าทีแบบนี้ทำให้ไม่น่ามองจริงๆ

ท่านนายพลหญิงถอยออกไปอย่างไม่ขยับสายตาเลย ก่อนจะหลบมือของเจียเหอที่จะมาจับขาของตัวเอง

ท่าทีหลบของเธอแบบนี้ทำให้เจียเหอเสียใจจริงๆ ก่อนที่เจียเหอจะรู้สึกเสียสติขึ้นมาในทันที

“ท่านนายพล!ท่านกำลังรังเกียจเจียเหออยู่เหรอ?เพราะเจียเหอเสียโฉมแล้ว ดังนั้นท่านเลยไม่ต้องการฉันแล้วเหรอ?”

คำพูดของเจียเหอทำให้สีหน้าของท่านนายพลหญิงทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที ก่อนจะกระแอมเบาๆ แล้วกดความเกลียดชังใจในก่อนจะพยุงเจียเหอขึ้นมาจากพื้น

“ฉันจะรังเกียจคุณได้อย่างไรล่ะ?ไม่ต้องคิดมาก ฉันแค่ยังไม่ชินเท่านั้นเอง คุณอย่าเพิ่งร้องไห้ ไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะ”

พูดจริงๆถ้าไม่ใช่ว่าท่านนายพลหญิงยังต้องการการสนับสนุนของครอบครัวเจียเหอล่ะก็ ท่าทีในตอนนี้ของเจียเหอ เธอไม่อยากจะมองด้วยซ้ำ

หลี่ฝางเห็นว่ารังเกียจเป็นอย่างมากแท้ๆ แต่ท่านนายพลหญิงกลับยังทำท่าทีเหมือนชอบอยู่ ก็รู้สึกขำเป็นอย่างมาก

“คุณกล้ามาหัวเราะฉันเหรอ?!ท่านนายพล!วันนี้ท่านต้องอธิบายให้ฉันให้ได้!หน้าของฉันถูกหลี่ฝางทำร้าย ถึงขนาดนี้ เกรงว่าชาตินี้ก็จะไม่หาย ตอนนี้ฉันอยากจะฆ่าหลี่ฝางจนทนไม่ไหวแล้ว ท่านดูเองแล้วกันว่าควรทำอย่างไร!”

เสียงหัวเราะของหลี่ฝางทำให้เจียเหอที่กว่าจะใจเย็นลงได้โกรธขึ้นมาอีกครั้ง พลางมองหลี่ฝางด้วยแววตารังเกียจ ก่อนจะบังคับให้ท่านนายพลหญิงไล่หลี่ฝางออกไปเดี๋ยวนี้

ท่านนายพลหญิงเอามือก่ายหน้าผากอย่างจนปัญญา จากนั้นเลยจ้องหลี่ฝางอย่างตำหนิ ทำไมคนคนนี้ทำให้คนลำบากใจได้ขนาดนี้นะ ตัวเองที่อยากจะจัดการเรื่องอย่างง่ายๆ นั้น ใครจะไปรู้ว่าหลี่ฝางยังจะต้องไปหาเรื่องกับเจียเหออีก

นี่มันเอาแต่สนุกจริงๆ เลยสินะเนี่ย!

“ชิ ฆ่าฉันงั้นเหรอ?คุณคิดว่าคุณมีสิทธิ์ทำได้งั้นเหรอ?” หลี่ฝางมองเจียเหอพลางยิ้มอย่างดูแคลน โดยที่ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย

“แก!แก!พรวด……” เจียเหอโกรธหลี่ฝางจนหายใจไม่ออก ตัวก็สั่นเทา ก่อนจะกระอักเลือดออกมา

ท่านนายพลหญิงตกใจ จึงรีบยื่นมือมาประคองเจียเหอ “เจียเหอ?คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ตอนนี้ไปหาหมอก่อนเถอะ!”

เมื่อพูดจบ ท่านนายพลหญิงก็ส่งสายตาให้ฮัวเหลียน เพื่อให้เขาช่วย บังคับให้พาเจียเหอไปให้ได้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท