หลี่ฝางถอนหายใจ พลางมองชิราอิชิ ฮานาซากิด้วยสายที่เย็นชาขึ้นมาหลายระดับ
“นี่เป็นเรื่องในครอบครัวฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ จะให้พูด ชีวิตของฉันขึ้นอยู่กับฉันไม่ใช่อยู่ที่สวรรค์ เธอคิดว่าฉันหลี่ฝางจะยอมจำนนต่อกฎสวรรค์ไร้สาระนี้งั้นเหรอ? ชิราอิชิ ฮานาซากิ ฉันถือว่าที่เธอเคยช่วยฉัน ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาความเธอ แต่รบกวนเธอมาจากที่ไหนก็กลับไปที่นั่น อย่าได้มารังควานชีวิตฉันกับครอบครัวของฉัน”
“ไม่ว่าเธอจะเก่งขนาดไหน ในสายตาของฉันหลี่ฝาง ฉินวี่เฟยกับหยางฉงพวกเธอถึงจะเป็นคนที่คุ้มค่าที่ฉันหลี่ฝางคนนี้จะชอบ ฉันหวังว่าเธอจะเคารพและรักในตัวเองหน่อย อย่าทำเรื่องอะไรให้ตัวเองไร้ค่าเลย”
พอพูดประโยคนี้จบ หลี่ฝางก็เดินไปที่ข้างกายฉินวี่เฟยกับหยางฉง ดึงพวกเธอเดินมาด้านข้าง จากนั้นก็พูดด้วยนัยน์ตาที่หนักแน่นสุดๆ
“วี่เฟย เสี่ยวฉง ฉันรู้ว่าตอนนี้ในใจพวกเธอคิดอะไร พวกเธอฟังฉันพูดนะ ห้ามคิดเองเออเองไปไกล ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะไม่ทิ้งพวกเธอไปยังอีกโลกหรอก ไม่มีใครสามารถที่จะยับยั้งไม่ให้ใครทำอะไรได้ ถ้าหากกฎสวรรค์นั่นจะมาขวางฉัน งั้นฉันก็ไม่ติดที่จะเปลี่ยนกฎเกณฑ์ไร้สาระนั่นซะ”
หลี่ฝางพูดอย่างมีพลัง และทรงพลังมาก ครู่เดียว ก็ทำให้ความกังวลในใจของฉินวี่เฟยกับหยางฉงสงบลงไปได้ ราวกับกินยาสงบจิตใจ
“พวกเราเข้าใจแล้ว นายวางใจเถอะ ไม่ว่านายจะตัดสินใจยังไง พวกเราก็จะสนับสนุนนาย”
ฉินวี่เฟยจับมือหลี่ฝางแน่น และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นสุดๆ
เธอรู้ว่าอายุขัยของหลี่ฝางยาวกว่าตนเองมากๆ แม้ว่าหลังจากที่ตนตายจากไปนานมากๆ รูปลักษณ์ของหลี่ฝางก็คงไม่เปลี่ยนไปมากเท่าไหร่
แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอเปลี่ยนแปลงได้ เธอต้องการแค่ในตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่หลี่ฝางเป็นคนเดียวในใจเธอเท่านั้น เรื่องหลังจากที่เธอตาย เธอไม่อยากคิดให้มากความ
“พี่หลี่ฝาง พี่ต้องกลับมาเร็วๆ นะ ฉันกับผิงอันจะรอพี่นะ”
หยางฉงเขย่งปลายเท้าและหอมแก้มหลี่ฝางเบาๆ พลางพูดด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจากกัน
“ได้ เป็นเด็กดีรอฉันกลับมานะ” หลี่ฝางยื่นมือออกไปลูบผมของหยางฉง ในดวงตาก็มีความไม่อยากจากไปเช่นกัน
เขาไปครั้งนี้อาจจะไปนานหน่อย หลังจากที่เขาเตรียมตัวกำจัดเทพอ้านเสร็จ ก็จะไปหาหลี่ต๋าคางเลย ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องพาหลี่ต๋าคางกลับมาให้ได้
“หลี่ฝาง!พวกเราเป็นไปไม่ได้จริงๆเลยงั้นเหรอ?” ชิราอิชิ ฮานาซากิที่มองดูทั้งสามพลอดรักกันอยู่ไม่ไกล นัยน์ตาก็เต็มไปด้วยความเหงาหงอย ในตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินสุดๆ จนรู้สึกเสียใจที่มาหาหลี่ฝางถึงประเทศจีน
“ชิราอิชิ ฮานาซากิ พวกเราไม่เหมาะสมกัน แล้วก็ข้างกายเธอก็ไม่ได้ขาดคนที่รักเธอ มีบางคนแอบรักเธอมาโดยตลอด ขอแค่เธอหันหลังกลับไปมองก็จะเห็น อย่าเอาแต่หมกมุ่นกับสิ่งที่ไม่มีวันได้มา แต่ให้รักษาสิ่งที่มีอยู่ไว้ให้ดีๆ ”
หลี่ฝางมองชิราอิชิ ฮานาซากิ และพูดกล่อมอย่างจริงจัง
ถึงแม้เขาจะอยู่ที่จวนท่านนายพลได้ไม่นาน แต่ก็พอมองออก ในใจพวกสนมชายในจวนท่านนายพลต่างก็มีชิราอิชิ ฮานาซากิอยู่
ถึงยังไงแค้นของชิราอิชิ ฮานาซากิก็ชำระเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เธอสามารถให้ชีวิตตามใจตัวเองได้แล้ว แทนที่จะเฝ้าดูผู้ชายคนหนึ่งตลอดทั้งชีวิต สู้กล่อมให้เธอหันกลับไปมองคนที่รักเธอพวกนั้นดีกว่า
หลังจากชิราอิชิ ฮานาซากิได้ยินคำพูดของหลี่ฝาง ในหัวก็มีใบหน้าของพกฮวาเหลียนแว๊บขึ้นมา นัยน์ตาสั่นอยู่ครู่ และอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าความรู้สึกที่ตนมีให้หลี่ฝางนั้นคือความชอบหรือแค่อยากเป็นเจ้าของเท่านั้น
“เอาล่ะ ฉันจะไปแล้ว ชิราอิชิ ฮานาซากิ ขอให้เธอมีความสุข”
หลี่ฝางมองชิราอิชิ ฮานาซากิที่ชะงักนิ่งอยู่กับที่ พลางถอนหายใจเบาๆ และหันไปโบกมือให้กับพวกฉินวี่เฟย จากนั้นก็พาส้าวส้วย กู่ยี่เทียนพวกเขาหลายคนขึ้นเครื่องไป
ไม่นานจากเมืองตงไห่ก็มาถึงสนามบินชีหนัน เมื่อออกจากประตูใหญ่สนามบินชีหนัน ไป๋เห้อก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนด้วยสีหน้ามืดมน
อย่างแรกเขามองส้าวส้วยอย่างโหดเหี้ยม จากนั้นก็คว้าข้อมือของไป๋หลินอาไว้พลางพูด
“ไป๋หลิน เธอถึงขั้นกล้าลงจากเขามาโดยพลการ!เธอรู้มั้ยว่าเธอกำลังแหกกฎภูเขาของเซียนผู้ยิ่งใหญ่นะ กลับไปต้องลงโทษอย่างหนัก!”
ไป๋หลินมองไป๋เห้อที่โกรธเกรี้ยว และอ้าปากอยากที่จะอธิบาย แต่ก็ไม่ทันได้พูด กลับถูกแรงกระชากไป
ร่างของเธอกระแทกไปที่อ้อมแขนของส้าวส้วยอย่างแรง ออร่าที่เป็นเอกลักษณ์ของส้าวส้วยพุ่งออกมา ทำให้หน้าของไป๋หลินแดงขึ้นมาทันที
“ฝั่งท่านเซียนผู้ยิ่งใหญ่ฉันจะไปอธิบายเอง ฉันเป็นคนพาไป๋หลินลงมาจากเขา บทลงโทษทุกอย่างมีฉันรับไว้เอง”
ส้าวส้วยสบตาไป๋เห้ออย่างไม่เกรงกลัว หวงปกป้องผู้หญิงของตน ทั้งสองสบตากันและปะทะกันผ่านสายตา ทันใดนั้นบรรยากาศรอบๆ ก็เต็มไปด้วยความรุนแรง
ไป๋หลินเห็นพวกเขาสองคนทำท่าเหมือนจะสู้กัน ก็ลนลานสุดๆ หลี่ฝางมองพวกเขาอย่างนิ่งๆ จากนั้นก็เดินขึ้นหน้าไป ยืนระหว่างกลางพวกเขาสองคน ขัดขวางสายตาของพวกเขา
“พอแล้ว มีเรื่องอะไรขึ้นเขาไปค่อยว่ากัน”
ไป๋เห้อแต่เดิมก็ไม่ได้เห็นหลี่ฝางอยู่ในสายตา แต่ตอนที่เขาไปตรวจสอบความสามารถของหลี่ฝาง กลับพบว่าตัวเองดันมองไม่ทะลุแดนของหลี่ฝาง นี่ทำให้เขาช็อกหนักมาก
“นายถึงขั้นบรรลุแดนดั่งเทพแล้ว? !” ไป๋เห้อมองหลี่ฝางด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ นี่เป็นไปได้ยังไง ก่อนหน้านี้เดือนนึงยังเห็นๆ อยู่ว่าหลี่ฝางยังเป็นครึ่งเทพ การเลื่อนขึ้นนี้มันเร็วไปมั้ย?
“อืม ฉันบรรลุแดนดั่งเทพแล้ว” หลี่ฝางมองไป๋หลินที่ทำตาเบิกกว้าง พลางพยักหน้าด้วยสีหน้านิ่งๆ
ไป๋หลินหึออกมาอย่างไม่พอใจมากๆ จากนั้นก็ปัดแขนเสื้อตน หันไปจ้องส้าวส้วย และหันหลังเดินไป
ส้าวส้วยก็ใช่ว่าจะแกล้งได้ง่ายๆ เขาหรี่ตา และคว้ามือไป๋หลินที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นก็เดินตามไปอย่างไม่เร็วไม่ช้า
ไป๋หลินตามอยู่ข้างกายส้าวส้วยอย่างติดๆ ใจเต้นรัวราวกับจะถึงคอหอย นี่เป็นครั้งแรกที่ส้าวส้วยปกป้องเธอแบบนี้ และก็เป็นครั้งแรกที่จับมือเธอก่อน มันทำให้ไป๋หลินอดไม่ได้ที่จะยกยิ้ม
“ชิๆๆ ……กลิ่นอายของความรักสินะ” กู่ยี่เทียนที่มองส้าวส้วยกับไป๋หลินอยู่ด้านหลัง ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจหลี่ฝางมองบนใส่เขา “ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใคร เมื่อกี้ตอนอยู่บนเครื่องบินกอดหงส์แดงจู๋จี๋กันอยู่นั่น”
หลังจากได้ยินหลี่ฝางพูด สีหน้าของกู่ยี่เทียนเห็นได้ชัดว่าแข็งทื่อทันที ปลายหูเริ่มแดงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็กระแอมขึ้นอย่างสนิทการสุดๆ
หลังจากได้ยินคำพูดของหลี่ฝาง ท่าทางของกู่ยี่เทียนเริ่มแข็งกระด้างอย่างเห็นได้ชัด ปลายหูของเขาแดงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ไออย่างผิดปกติ
“อะแฮ่ม……พวกเรารีบไปกันเถอะ อีกแป๊บฟ้าจะมืดแล้ว”
รู้ว่าเขาจงใจเปลี่ยนประเด็น หลี่ฝางก็ขี้เกียจพูดแซะเขาแล้ว หัวเราะขึ้นเสียงเบา จากนั้นก็รีบเดินตามไป
“เอ๋? ทำไมที่นี่ถึงมีกวางสีขาว? นี่มันพันธุ์อะไรเหนี่ย?”
ขณะที่พวกหลี่ฝางมาถึงตีนเขาภูเขาหลิน ก็พบว่ามีกวางตัวสีขาวดุจหิมะยืนอยู่ในแอ่งน้ำตื้นๆ ไม่ไกล บนโลกนี้มีกวางอยู่หลายพันหมื่นสายพันธุ์ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นกวางที่ทั้งตัวเป็นสีขาวล้วน
ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยสุดๆ อยู่นั้น กวางสีขาวตัวนั้นก็ค่อยๆ เดินมาทางหลี่ฝาง ราวกับมนุษย์ ขาหน้าคุกเข่าลงกับพื้น และคำนับหลี่ฝางอย่างเคารพ
“นี่……นี่มันสถานการณ์ไหนเหนี่ย?” หลี่ฝางมองกวางสีขาวเบื้องหน้าตน และถามอย่างประหลาดใจ
“นี่คือกวางทิพย์!ทำไมมันมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่?” ไป๋หลินจ้องกวางขาวอยู่นาน จากนั้นก็ตะโกนออกมาอย่างตกใจ
ทุกคนต่างถูกคำพูดของเธอทำให้ตกใจ พวกเขาคิดไม่ถึงว่ากวางสีขาวเบื้องหน้านี้ก็คือกวางทิพย์