NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1395 รูปคลุมเครือ

บทที่ 1395 รูปคลุมเครือ

หยางฉงมองรูปในโทรศัพท์แล้วก็โกรธ แม้จะรู้ว่าหลี่ฝางแค่เล่นละครตบตา แต่ท่าทีของเขากับชิราอิชิ ฮานาซากิมันคลุมเครือมากเกินไปหน่อย นอกจากนี้หลี่ฝางยังไปก่ายบนตัวของชิราอิชิ ฮานาซากิเองด้วย!น่ารังเกียจจริงๆ!

นอกจากนี้หุ่นและหน้าตาของชิราอิชิ ฮานาซากิก็ไม่เลวเลย ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตลอด ถ้าจะไม่เกิดความรักขึ้นมาสิถึงจะแปลก

เมื่อได้ยินคำของหยางฉง หลิวฮุยก็มองรูปนั้นด้วยความทำตัวไม่ถูก เขายิ้มพลางลูบผม แล้วใช้วิธีนี้มาตอบคำถามหยางฉง

เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นในรูป!หลี่ฝางเล่นสนุกเกินไปแล้วหรือเปล่า เล่นมากเกินไปจนเกินเลยหรือเปล่านะ?

ถ้าหลี่ฝางแต่งงานกับชิราอิชิ ฮานาซากิของญี่ปุ่นอะไรนั่นจริงๆ ฉินวี่เฟยกับหยางฉงคงจะเอาตัวเองถึงตายเลยล่ะ!

ไม่ได้ เขาต้องรีบโทรหาหลี่ฝาง แล้วถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

หลิวฮุยยิ้มแหะๆให้หยางฉงกับฉินวี่เฟย ก่อนจะหันแล้วเตรียมออกไปแอบโทรศัพท์หาหลี่ฝาง แต่เขาเพิ่งจะผลักประตู ก็ชนเข้ากับคนคนหนึ่งติดกำแพง

“ใครมันไม่ดูตาม้าตาเรือ มายืนอยู่ตรงประตู!”

หลิวฮุยคิดว่าจมูกตัวเองถูกชนหักแล้ว เลยด่าออกไปพลางขมวดคิ้วด้วยความไม่สบอารมณ์ แต่คนที่เขาชนนั้นไม่ได้สนใจเขาเลย แต่กลับเดินผ่านหลิวฮุย แล้วเข้าไปในห้อง

“วี่เฟย เสี่ยวฉง ฉันกลับมาแล้ว” หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยกับหยางฉงพลางหายใจหอบ ใบหน้าก็มีความร้อนใจ

เมื่อได้ยินเสียงของหลี่ฝาง หลิวฮุยก็หันมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม คนตรงหน้านั้นคือหลี่ฝางจริงๆใช่ไหม!

เขาควรจะอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ?ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้?

ฉินวี่เฟยกับหยางฉงเองก็งงจนทำอะไรไม่ถูก เหมือนกับหลิวฮุย คนที่อยู่ห่างไกล จู่ๆมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า มันน่าเหลือเชื่อจริงๆเลยใช่ไหม?

“คุณ คุณกลับมาได้อย่างไร?” ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางพลางถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“หลังจากที่ฉันเอาผลแก้วม่วงมาแล้วก็จะรีบกลับประเทศทันที วี่เฟย เสี่ยวฉง เรื่องของฉันกับชิราอิชิ ฮานาซากิน่ะ มันไม่ใช่แบบที่บนอินเทอร์เน็ตพูดกันนะ พวกคุณไม่ต้องโกรธ ฟังฉันอธิบายได้ไหม?”

หลี่ฝางอ่านข่าวที่ชิราอิชิ ฮานาซากิปล่อยออกมาแล้วคร่าวๆระหว่างทาง เขาแทบกระอักเลือด

รูปนั้นมันชัดเจนมากว่าแอบถ่ายบนรถในวันนั้น หลี่ฝางตั้งใจทำเป็นคลุมเครือใส่เธอ เพื่อไม่ให้ถูกชิราอิชิ ฮานาซากิบังคับแต่งงาน เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่าชิราอิชิ ฮานาซากิจะมาถ่ายรูปแบบนี้

รูปนี้ตัวเขาเองยังรู้สึกว่ามันน่าคิดไปไกลเป็นอย่างมาก แล้วฉินวี่เฟยกับหยางฉงล่ะ

เขาคิดว่าจะอธิบายให้ฉินวี่เฟยกับหยางฉงฟังอย่างไรระหว่างทางนั้น จะบอกพวกเขาอย่างไรถึงจะเชื่อว่าตัวเองกับชิราอิชิ ฮานาซากินั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลยกัน

เมื่อเห็นหลี่ฝางตัวเต็มไปด้วยเลือด ฉินวี่เฟยกับหยางฉงก็สงสารจับใจขึ้นมา แต่เมื่อคิดถึงรูปของเขากับชิราอิชิ ฮานาซากิ แล้วก็เรื่องที่เขาปิดบังก็โกรธขึ้นมา

หยางฉงเลยพึมพำเสียงเย็นชาใส่หลี่ฝาง ก่อนจะหันหลังให้เขา ท่าทีไม่อยากสนใจหลี่ฝางเลย

แม้ฉินวี่เฟยจะไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น แต่กลับมองไปทางอื่นอยู่ดี

ผู้อาวุโสใหญ่เห็นสถานการณ์ดังนั้น ก็กระแอมเล็กน้อย ก่อนจะเดินมาตบไหล่หลี่ฝางพลางพูด

“หลี่ฝาง แผลบนตัวคุณนี่มันเกิดอะไรขึ้น?ชิราอิชิ ฮานาซากิคนนั้นทำอะไรให้คุณลำบากเหรอ?แผลที่มือยังมีเลือดไหลอยู่เลย?ไปๆ ฉันทำแผลให้คุณก่อนนะ”

เมื่อเห็นแผลลึกถึงกระดูกของหลี่ฝาง ผู้อาวุโสใหญ่ก็จูงมือเขาออกไปด้านนอก แต่หลี่ฝางไม่ยอมเลย เลยเลือกที่จะสะบัดมือของผู้อาวุโสใหญ่ออก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมไปทำแผล

“ไม่เป็นไร แผลเล็กนิดเดียว ผู้อาวุโสใหญ่ ฉันอยากคุยกับพวกวี่เฟย รบกวนคุณกับหลิวฮุยออกไปก่อนนะ”

หลี่ฝางจะยังมีเวลามาสนใจแผลของตัวเองที่ไหน ถ้าไม่ง้อฉินวี่เฟยกับหยางฉงให้ได้ เขาคงจะไม่มีภรรยาแล้ว

“แผลเล็กๆอะไรกัน มือของคุณมันจะขาดอยู่แล้ว!คุณฟังฉันเถอะ ให้ไปทำแผลก่อน”

ผู้อาวุโสใหญ่มีเงาพาดผ่านไปในแววตา ก่อนจะตั้งใจทำเสียงดัง แล้วก็พูดอาการหนักหนาของหลี่ฝางออกมา

ตอนแรกหลี่ฝางยังไม่รู้ว่าผู้อาวุโสใหญ่ทำแบบนั้นทำไม แต่หลังจากที่เขาปรายตามองท่าทีกังวลของฉินวี่เฟยกับหยางฉงแล้ว ก็เข้าใจทันที

จากนั้นก็แอบยกนิ้วโป้งให้ผู้อาวุโสใหญ่ หลี่ฝางเองก็เริ่มแสดงละคร ก่อนจะร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเกินจริง แล้วก็ทำเป็นน่าสงสาร

“โอ้ย……ผู้อาวุโสใหญ่อย่าโดนมือฉัน!เจ็บจะตายอยู่แล้ว!ฉันบอกว่าไม่ไปก็ไม่ไปไง ถ้าเกิดวี่เฟยกับหยางฉงไม่ให้อภัยฉัน ฉันยอมเสียมือนี้ไปเลย!”

ผู้อาวุโสใหญ่มองท่าทีเกินจริงของหลี่ฝาง จากนั้นตาก็กระตุก แต่ก็ยังเล่นไปกับหลี่ฝางอย่างเข้ากัน

“บ้าหรือเปล่า!นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ!ถ้าคุณไม่ทำแผล เกรงว่ามือของคุณมันจะเสียไปจริงๆนะ!”

ฉินวี่เฟยกับหยางฉงที่แค่ตั้งใจฟังก็อดไม่ไหว ก่อนจะเดินมาดูความรุนแรงของแผลของหลี่ฝาง

“นี่……นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!ทำไมมือของคุณมันเจ็บหนักขนาดนี้!คุณรีบไปทำแผลเถอะ!”

“ให้ตายเถอะ พี่หลี่ฝาง คุณจะต้องเจ็บมากแน่เลย!เรารีบไปหาหมอ ให้เขาเย็บแผลให้คุณดีกว่า”

อันที่จริงแผลของหลี่ฝางนั้นไม่ได้หนักหนาอะไรมากในสายตาเขา แต่ในตาของฉินวี่เฟยกับหยางฉงที่ถูกปรนเปรอมาอย่างดีนั้น มันหนักหนามากเลยล่ะ

พวกเธอไม่พูดพร่ำทำเพลง ก่อนจะจูงหลี่ฝางไปที่ห้องวิจัยของต้าเซี่ยหลงเช่ว ช่วงนี้พวกเธออยู่ในศูนย์ของต้าเซี่ยหลงเช่ว เลยค่อนข้างรู้โครงสร้างด้านในแล้ว บวกกับเมี๋ยวชุ่ยเองก็รับการรักษาที่นี่ ดังนั้นพวกเธอเลยพาหลี่ฝางไปถึงที่ได้อย่างง่ายดาย

หลี่ฝางถูกพวกเธอทั้งสองจูงทั้งซ้ายขวา ก่อนจะยิ้มจนปากฉีกถึงหู แผนการแกล้งทำเป็นเจ็บปวดนี่มันใช้ได้ดีที่สุดจริงๆ

เพียงแค่ในใจของฉินวี่เฟยกับหยางฉงยังรักตัวเองอยู่ หลังจากที่พวกเธอเห็นความเจ็บปวดนั้นแล้วก็จะไม่มีทางที่จะไม่สนใจ

“คุณฉิน คุณหยาง พวกคุณมาได้อย่างไรเนี่ย?มาเยี่ยมพี่รองหรือเปล่า?”

นักวิจัยวิทยาศาสตร์ของต้าเซี่ยหลงเช่วคุ้นเคยกับพวกฉินวี่เฟยแล้ว บวกกับความสนิทของพวกเธอทั้งสอง เลยกลายเป็นเพื่อนกันได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นพวกเธอมา นักวิจัยวิทยาศาสตร์ก็รีบยิ้มแล้วทักทายพวกเธอ

“คุณไปทำแผลให้เขาก่อนเถอะ” ฉินวี่เฟยผลักหลี่ฝางไปหานักวิจัยวิทยาศาสตร์ ก่อนจะเอามือของหลี่ฝางให้พวกเขาดู

“เฮือก แผลมันลึกมากเลยนะเนี่ย เห็นถึงกระดูกแล้ว ฉันว่านะพวก คุณเอามือเปล่าไปรับมีดใช่ไหม?”

อันที่จริงนักวิจัยชายที่ดูเหมือนจะเป็นลูกครึ่งนั้นมองมือของหลี่ฝาง แล้วก็พูดหยอกล้อ

หลี่ฝางลูบท้ายทอยด้วยความเขินอาย ถือเป็นการยอมรับไปในตัวแล้ว

ชายคนนี้ทำเสียงจิ๊จ๊ะออกมาอย่างยอมใจ จากนั้นเอากล่องยาออกมา ก่อนจะเริ่มทำแผลให้หลี่ฝาง

พวกฉินวี่เฟยกับหยางฉงมองภาพเหล่านี้ไม่ได้ เลยออกไปรอด้านนอกก่อน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท