ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย – ตอนที่ 28 รู้สึกโง่
ป๋อจิ่งชวนอ่านความคิดของเธอได้ผ่านทางสายตา เขาเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วเอ่ยขึ้น
“จะช้าจะเร็วผมก็ต้องล่วงเกินคุณอยู่ดี แค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
เฉินฝานซิงไม่ได้ใฝ่หาแต่ความรักเพียงสิ่งเดียว ขอแค่อีกฝ่ายเป็นผู้ชายที่มีคุณภาพสูงไม่ว่าจะเรื่องหน้าตาหรือฐานะ ก็สามารถเรียกความสนใจจากเธอได้อย่างไม่มีข้อแม้
เธอคือผู้หญิงที่ผ่านโลกมาเยอะเกินไป หลายปีมานี้เจอผู้ชายมาก็ไม่ใช่น้อยๆ เธอข้ามผ่านช่วงอายุที่สดใสของหนุ่มสาวแบบนั้นไปตั้งนานแล้ว
บวกกับเรื่องของซูเหิงก่อนหน้านี้ สำหรับเธอแล้วผู้ชายก็เหมือนๆ กันหมด
“ทำไม่คุณป๋อถึงคิดแบบนั้นคะ สุดท้ายพวกเราจะได้ลงเอยกัน?”
เขาจ้องใบหน้าที่ติดหงุดหงิดแล้วเปล่งเสียงหัวเราะออกมาในลำคอ
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้น?”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จ้องมองแสงสะท้อนที่ปกคลุมในดวงตาสีนิลเขายื่นมือไปเกลี่ยผมที่ปรกแก้มเธออยู่ไปไว้อีกด้าน มือสวยเกลี่ยลงบนแก้มของเธอเบาๆ อย่างทีเล่นทีจริง
เสียงทุ้มในลำคอกดต่ำอย่างน่าหลงใหล
“อาจเป็นเพราะ…ในโลกนี้มีแค่คุณเท่านั้นที่คู่ควรกับผม”
เธอหายใจไม่ทั่วปอด “…คุณป๋อ อย่าโกรธนะถ้าจะขอพูดตรงๆ คุณนี่มันบ้าดีเดือดจริงๆ”
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มช้าๆ สายตาจับจ้องไปยังกลีบปากแดงสวย
“ป๋อจิ่งชวน”
“ว่าไงนะ”
เฉินฝานซิงตะลึงงัน ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงได้พูดคำนั้นออกมา
“ชื่อของผม หรือคุณจะเรียกผมว่าจิ่งชวนเฉยๆ ก็ได้”
เธอพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าตัวเองควรตอบโต้ผู้ชายตรงหน้านี้อย่างไรดี
จากนั้นไม่นาน เธอจึงค่อยๆ คิดทบทวนถึงบทสนทนาเมื่อครู่อีกครั้ง
จริงๆ แล้วเขาได้ให้คำตอบที่ตรงไปตรงมาที่สุดแก่เธอแล้ว!
ป๋อจิ่งชวนแค่สามคำ ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนที่มีความหยิ่งเป็นทุนเดิมแบบนี้!
“ไม่ว่ายังไงนะ คุณป๋อ…”
“หืม?”
ฝานซิงยังพูดไม่ทันจบ นิ้วเรียวได้ลดลงไปจนถึงคางของเธอและบีบมันเบาๆ
เธอนิ่งไปนิดก่อนจะรีบเปลี่ยนคำ:
“ไม่ว่าจะยังไงนะคะ ป๋อ…จิ่งชวน เราจำเป็นต้องคุยกันต่อในท่านี้เหรอคะ”
ป๋อจิ่งชวนเลิกคิ้ว วางฝ่ามือไว้ข้างเตียงแล้วพลิกตัวขึ้นยืนบนพื้น โดยที่ระหว่างนั้นไม่ได้เบียดตัวเข้าหาเฉินฝานซิงอีกแม้แต่น้อย
เธอลุกพรวดขึ้น รีบกระชับเสื้อคลุมอาบน้ำขึ้นปิดไหล่ที่โผล่ออกมา
ป๋อจิ่งชวนให้เวลาเธอจัดการตัวสักพัก ก่อนจะหันกลับมามองไปยังเธอ
ท่าทีหยอกล้อเมื่อครู่หลายไปแล้ว แทนที่ด้วยความสุภาพและมาดผู้ดีเหมือนคราวที่ได้พบกันครั้งแรก
“ผมไม่ชอบบีบบังคับผู้หญิง แม้ว่าจะคุณจะเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ข้างกายผมก็ตาม ผมพอใจคุณถึงได้จีบคุณหรือมันไม่ควรเป็นแบบนั้น”
“…”
เมื่อได้ฟังคำของเขา ไฟโทสะที่สุมอยู่กลางอกที่ก่อตัวเป็นระลอกได้มอดดับไปอย่างไร้ร่องรอย
แทนที่ด้วยรอยยิ้มที่ปิดไม่มิด
ที่แท้ คุณชายผู้หยิ่งในศักดิ์ที่และเพียบพร้อมไม่เคยมีความรักมาก่อนนี่เอง…
แม้แต่จีบใครสักคน ก็ยังทำได้เพียงแสดงออกมาผ่านการกระทำที่ตรงไปตรงมาและเรียบง่ายที่สุด
โกรธคนแบบนี้ไป ไม่เท่ากับหาเรื่องใส่ตัวเหรอ
“ที่จริงแล้วคุณจะพูดแบบนั้น…ก็ไม่ผิด แต่ว่าวิธิที่คุณใช้อาจจะไม่ค่อยถูก…”
ป๋อจิ่งชวนมองเธอ “แล้วอะไรคือสิ่งที่ควรทำ อย่างเช่น…”
เฉินฝานซิงใคร่ครวญเล็กน้อย
“อย่างเช่นให้ของขวัญสักชิ้น ไม่ถือโทษเธอ เข้าใจเธอ เคารพเธอ อยู่กับเธอบ่อยๆ ไม่คลุมเครือกับผู้หญิงคนอื่น ทำเรื่องโรแมนติกเล็กๆ น้อยๆ ในบางโอกาส?”
จริงๆ แล้วเธอเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดว่าอะไรดี ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องความรักแล้ว คนที่มีความคิดแบบอนุรักษนิยมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จะไปรู้อะไรมากมายขนาดนั้นได้ยังไง?
ป๋อจิ่งชวนฟังเธออย่างเงียบๆ หลังจากได้ฟังความคิดทั้งหมดแล้วเขาจึงพยักหน้ารับ
“ผมว่าเรื่องพวกนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับผมหรอก ดังนั้น…” เขายิ้มขึ้นพลางมองมาทางเธอ
“ดังนั้น?” เธอย้อนถามอย่างตื่นตัว
“ดังนั้นที่คุณสอนผมตั้งเยอะแยะแบบนี้ เพราะหวังจะให้ผมจีบคุณแบบนั้นถูกไหม”
“…”
เธอทำตัวไม่ถูก
ทำไมจู่ๆ เธอถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเธอตกหลุมพรางเขาเข้าให้แล้ว