หลังจากรับสาย น้ำเสียงแสนคุ้นเคยแว่วดังออกมา
“เหวย หนูฝานซิงใช่ไหมจ๊ะ!”
เธอยิ้มแล้วตอบเสียงหวาน “สวัสดีตอนบ่ายค่ะ คุณย่าป๋อ”
“อืม หวัดดีทานมื้อเที่ยงแล้วหรือยังล่ะ”
เธอได้กลิ่นของหม้อไฟจางๆ ที่ยังคงตลบอบอวลในห้องรับแขก หัวใจก็สั่นไหวเล็กน้อย
“เพิ่งทานเสร็จไปค่ะ”
“โธ่เอ๊ย เสียดายจังตั้งใจว่าจะชวนมาทานมื้อเที่ยงด้วยกันเสียหน่อย”
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ คุณย่าป๋อ”
“ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก ไว้คราวหน้าก็ได้ หนูฝานซิงออกมาช้อปปิ้งกับย่าหน่อยเป็นไงลูก”
เธอประหลาดใจเล็กน้อย
“คุณย่าคะ ย่ายังไม่ได้พักกลางวันเลย อีกอย่างเดินช้อปปิ้งต้องใช้พลังงานเยอะด้วย ย่า…”
เธอยังพูดไม่ทันจบประโยค เสียงถอนหายใจของหญิงชราก็ดังแว่วออกมา ฟังดูแล้วช่างเป็นเสียงที่น่าสงสารจับใจ
“ไม่เคยมีใครไปช้อปปิ้งกับย่ามานานแล้ว ตั้งแต่นั่งวิลแชร์แม้แต่ความสุขที่สุดในชีวิตผู้หญิงก็ยังถูกพรากไป ช่างน่าสงสารเสียจริง…”
“ย่าคะ เดี๋ยวหนูไปเป็นเพื่อนเองค่ะ”
“อ้า! ดีๆ ดี ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ เลยนะ งั้นเราเจอกันที่จัตุรัสซินซื่อเจี้ยนะ”
“ค่ะ ทราบแล้วค่ะ!”
_
จัตุรัสซินซื่อเจี้ยกินพื้นที่ขนาดใหญ่ใจกลางเมือง
ทั้งสวนสาธารณะ น้ำพุ เวทีการแสดงและศูนย์การค้าเห็นได้ชัดว่าที่นี่เป็นที่ที่มีสีสันที่หนึ่ง
สถานที่ที่มีสีสันผู้คนหลั่งไหลเข้ามารวมตัวกันอย่างหนาแน่น ฝูงชนที่หลั่งไหลกันเข้ามาในซินซื่อเจี้ยล้วนแล้วแต่ไม่ควรประเมินสถานการณ์ให้ต่ำเกินไป
ศูนย์การค้าเป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมตั้งแต่ระดับกลางจนถึงสูง ผูกขาดสินค้าฟุ่มเฟือยทุกอย่างที่ต้องการ
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สังคมชั้นสูงหรือเหล่าคุณหนูคุณชายมาผลาญเงินเล่น
ที่นี่เองก็เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมของสมาคมสกุลป๋อ
เฉินฝานซิงขับรถมาจนถึงจัตุรัสซินซื่อเจี้ย เพราะเป็นวันจัทร์ด้วยวันนี้เธอจึงใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าได้ที่จอดรถ
เธอเห็นคุณแม่บ้านไหลหรงและคุณย่าป๋อที่นั่งอยู่ข้างๆ น้ำพุตั้งแต่อยู่ในรถ
ดังนั้นเมื่อจอดรถเสร็จเธอจึงรีบบึ่งไปหาทั้งคู่โดยไว
“ขอโทษจริงๆ นะคะคุณย่า พอดีที่จอดรถแน่นมากเลย”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก!” หญิงชรายิ้มตอบอย่างอ่อนโยนและไม่ได้ถือสาแม้แต่น้อย
เฉินฝานซิงรับเก้าอี้วีลแชร์เข้ามาอย่างอัตโนมัติ เข็นนายหญิงสกุลป๋อเข้าไปยังศูนย์การค้า
“คุณย่าอยากซื้ออะไรคะ”
“ว่าจะไปดูแถวๆ โซนเสื้อผ้า เด็กสาวช้อปปิ้งจะไม่แวะดูเสื้อผ้าได้ยังไงล่ะ”
“ค่ะ”
เฉินฝานซิงเข็นวิลแชร์มุ่งตรงไปยังลิฟต์ โดยไม่ได้ตระหนักรู้เลยว่าคำว่าเด็กสาวที่หญิงชราพูดถึงนั้นแท้จริงแล้วหมายถึงเธอ
เธอเพียงแค่คิดว่าหญิงชรานั้นรักสวยรักงามเสียจนไม่อยากแก่เท่านั้นเอง
เดินไปมาอยู่ในโซนเสื้อผ้าอยู่พักใหญ่ หญิงชราจึงมาหยุดลงหน้าร้านชาเนล
ร้านเสื้อผ้าเกรดดีแบ่งเป็นสองโซน โซนหนึ่งเป็นเสื้อผ้าสไตล์ธรรมดาๆ ราคาถูกที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ส่วนอีกโซนเป็นเสื้อผ้าต่างประเทศ
หญิงชรามาหยุดลงตรงโซนเสื้อผ้าต่างประเทศเสียเฉยๆ สายตาอึดอัดคู่นั้นปราดมองไปยังในร้านเต็มๆ ตา
เธอถึงรู้สึกความไม่ชอบมาพากล “คุณย่าคะ นี่คุณย่าจะ…”
ในขณะนั้นหญิงชรากลับหันไปเห็นชุดราตรีชุดสวยเข้าพอดี จึงชี้ไปที่ชุดนั้นแล้วพูด
“หนูฝานซิง ชุดราตรีชุดนั้นไม่เลวเลย รีบไปลองเข้าสิ!”
เฉินฝานซิงยิ่งมั่นใจขึ้นในตอนนี้ หญิงชรากำลังเลือกเสื้อผ้าให้เธออยู่จริงๆ
“ทำไมอยู่ๆ คุณย่าถึงจะให้หนูซื้อชุดราตรีละคะ หนูไม่ได้อยาก…”
“คุณหนูเฉินคะเสาร์นี้บ้านสกุลป๋อมีงานเลี้ยงสำคัญนะคะ นายหญิงอยากให้คุณไปมากๆ”
จู่ๆ ไหลหรงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้น
“งานเลี้ยงวันศุกร์? รู้สึกว่าป๋อจิ่งชวนจะเคยบอกแล้ว…”
เสียงของเธอค่อยๆ หยุดลง ดูเหมือนว่าเรื่องที่ป๋อจิ่งชวนกับหญิงชราพูดถึงน่าจะเป็นเรื่องเดียวกัน
ดวงตาของไหลหรงเปล่งประกายขึ้นในทันที