ตอนที่ 369 ซาบซึ้งกินใจ
เธอค่อยๆ กะพริบตาเบาๆ แล้วพยักหน้ารับอย่างจำนน ค่ะ
ประกายแสงสว่างขึ้นจากก้นบึ้งของนัยน์ตา เขาก้มหน้าลงประทับจูบลงบนหน้าผากของเธอ
ขึ้นไปพักผ่อนบนเตียงก่อน
เมื่อเห็นเฉินฝานซิงพยักหน้ารับแล้ว เขาจึงหันเดินเข้าห้องน้ำไป
ขณะที่เดินออกมา เฉินฝานซิงก็นอนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเตียง รูปร่างผอมเพรียวของเธอปรากฏเด่นชัด บ่งบอกว่ามีใครอีกคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในที่ส่วนตัวของเขา
ก่อนหน้าที่จะเจอเธอ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ เขาไม่แม้แต่จะเคยจินตนาการมาก่อน…
ว่าจะมีหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาปรากฏตัวขึ้นในชีวิตเขา
นัยน์ตาสีดำลึกล้ำเงียบสงบมองไปยังร่างที่ยึดพื้นที่มุมหนึ่งเอาไว้ ก่อนที่ริมฝีปากบางจะเม้มเข้าหากันเล็กน้อย
หลับรึยัง
เฉินฝานซิงหันหลังให้เขา นิ้วที่ขยุ้มผ้าห่มอยู่แลดูซีดเซียวเล็กน้อย
ยัง…
เสียงแผ่วของเธอดังขึ้นท่ามกลางห้องนอน จู่ๆ อีกฟากหนึ่งของเตียงก็ยวบลงไป ตามมาด้วยผ้าห่มที่ถูกตลบออก แขนแกร่งของเขาเข้าโอบรัดเอวของเธอเอาไว้ เขาออกแรงเพียงเล็กน้อย ร่างทั้งร่างของเธอก็กลิ้งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา
เธอร้องอุทานด้วยความตกใจ กลิ่นอบอวลอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชายหนุ่มห่อหุ้มเธอเอาไว้ ความสดชื่นของครีมอาบน้ำอีกทั้งความชื้นของไอร้อนเข้าผสมผสานกับกลิ่นบนร่างกายของเธอภายในเสี้ยวนาที
ตื่นเต้นอะไร คนกล้าก่อนหน้านี้หายไปไหนแล้ว หืม? นี่ไม่ใช่เวลามาตื่นเต้น
คำพูดนี้ฟังดูเป็นความพยาบาทอย่างแรงกล้า
เธอยกศีรษะขึ้นมองเขาหนึ่งครั้งแล้วยื่นมือไปวางตรงเอวของเขาแล้วตบลงเบาๆ
เฉินฝานซิงฟังออกว่าเขากำลังน้อยอกน้อยใจ เธอเองก็แอบรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้ นัยน์ตาสุกใสกลอกไปมาเล็กน้อยพลันเอ่ยขึ้นว่า
วันนี้ชิงจือโทรมาบอกฉันว่าคุณจะให้ฉันกับเฉินเชียนโหรวลงแข่งปรุงน้ำหอมที่ฝรั่งเศส?
มือที่วางอยู่ตรงเอวของเธอผ่อนแรงลงเล็กน้อย เขายืดแขนออกเพื่อให้เธอได้หนุนนอนลงบนท่อนแขนของเขา
อืม ถือโอกาสนี้ลบเรื่องที่คุณถูกหาว่าขโมยสูตรน้ำหอมในปีนั้นซะด้วยเลย
เฉินฝานซิงเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างประหลาดใจ นี่คือจุดประสงค์ของคุณ
เป็นอะไรไป หรือคุณเอาชนะเธอไม่ได้
มันก็ไม่ใช่แบบนั้นหรอก แต่การตัดสินใจของคุณเนี่ย ทำเอาชิงจือโมโหได้ไม่น้อยเลย
ป๋อจิ่งชวนเลิกคิ้วขึ้น จะให้ผมใช้เส้นให้เธอ?
เฉินฝานซิงนิ่งลงก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ เรื่องเส้นสายน่ะ ชิงจือไม่เห็นด้วยเลยสักนิด แต่ในเมื่อเธออุตส่าห์มีคนที่พอจะช่วยเธอได้อยู่แล้ว แต่ดันไม่ยอมใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด มันก็น่าเสียดายอยู่ไม่น้อย
เงียบไปสักพักเธอก็มองเขาพลางเอ่ยขึ้นอีกครั้ง คุณจะใช้เส้นสายให้เธอไหม
เรื่องอะไรล่ะ เธอไม่ใช่คุณสักหน่อย
ได้ยินดังนั้นเธอผุดยิ้มขึ้นจางๆ ความอุ่นซ่านก็ปรากฏขึ้นกลางใจ
ต่อไปนี้ฉันคงต้องเตรียมพร้อมให้มากๆ แล้วละ เพื่อที่จะได้เข้าไปในบริษัทของคุณ ถ้าแบบนั้นฉันก็ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมงานของคุณแล้วใช่ไหม
อืม ก็ไม่เลวนะ ไว้รอให้แข่งเสร็จและได้คุณคอยมาอยู่ข้างๆ ผมแล้ว คุณก็มาเป็นผู้ช่วยพิเศษของผมซะเลย หืม?
ผู้ช่วยพิเศษ? เหมือนกับอวี๋ซงรึเปล่าคะ
ป๋อจิ่งชวนขมวดคิ้วมุ่น คุณว่าผมจะกอดจูบกับอวี๋ซงแบบนี้ไหมล่ะ
เฉินฝานซิงกะพริบตาปริบๆ ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นแต่ก็อดขำไม่ได้
ใครๆ เขาก็ลือกันไปทั่วว่าคุณกับอวี๋ซงเป็นคู่รักกัน ในสายตาคนอื่น ยังไงพวกคุณก็ต้องกอดจูบกันอยู่แล้ว…
ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของป๋อจิ่งชวนก็ขรึมลงทันที
เฉินฝานซิงกลั้นขำ เธอตบลงตรงเอวของเขาอย่างปลอบใจ ไม่ต้องไปใส่ใจ
…
จะว่าไป ยังไงฉันก็เป็นผู้ช่วยพิเศษให้คุณไม่ได้หรอก เพราะฉันยังมีซิงเฉินกั๋วจี้ต้องดูแล
ป๋อจิ่งชวนมองเธอวูบหนึ่ง คุณดูยุ่งกว่าผมซะอีก
รอให้ซิงเฉินกั๋วจี้ก้าวเดินไปในทางที่ถูกต้องแล้ว ฉันจึงจะถอยออกมาและทุ่มเทให้กับสามีและลูกๆ
ป๋อจิ่งชวนกระตุกยิ้มมุมปาก ประโยคที่ฟังดูกินใจที่สุดในคืนนี้ก็เห็นจะเป็นประโยคสุดท้ายของคุณนี่แหละ
เฉินฝานซิงเองก็ยิ้มออกมา ยังอยากจะฟังอะไรที่ลึกซึ้งกินใจกว่านี้ไหม
ลองว่ามาสิ
ตอนที่ 370 สักวันผมคงเป็นบ้าเพราะคุณ
ลองว่ามาสิ
ฉันอยากให้คุณขอฉันแต่งงาน ฉันอยากแต่งงานกับคุณ ฉันอยากเป็นภรรยาของคุณ ฉันอยากทำอะไรอีกมากมายกับคุณ…
ทุกถ้อยทุกคำ เธอพูดออกมาอย่างไม่รีบร้อน ทว่าได้ยินชัดเจน ดวงตาทั้งคู่มองตรงไปยังดวงตาของเขาอย่างจริงใจและลึกซึ้งกว่าทุกครั้ง
หัวใจของป๋อจิ่งชวนสั่นไหวรุนแรง
เขาก้มลงครอบครองริมฝีปากของเธออีกครั้ง จูบที่ดุเดือดประทับลงมาราวกับจะกลืนกินเธอลงไป!
สักวันผมคงเป็นบ้าเพราะคุณ
หลังจากที่จูบอันดุเดือดผ่านพ้นไป ป๋อจิ่งชวนก็หรี่ตาลงจ้องเธอเขม็ง เสียงเข้มของเขาบ่งบอกถึงการสะกดกลั้นและความอดทนได้อย่างชัดเจน
เฉินฝานซิงหอบเบาๆ ก่อนจะขบริมฝีปากที่บวมแดงแล้วซบใบหน้าสีระเรื่อเข้าหาอ้อมกอดของเขา
ป๋อจิ่งชวนโอบกอดเธอเอาไว้ หัวใจของคนทั้งคู่เต้นระส่ำไม่ขาดสาย…
แม้จะบอกว่าเฉินเชียนโหรวไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับสกุลซูมากนัก แต่สุดท้ายก็ยังมีนักลงทุนหลายรายที่ตั้งใจจะถอนหุ้นจากบริษัทอยู่ดี
ซูเหิงสับเปลี่ยนจัดงานเลี้ยงไปตามสถานบันเทิง แต่สุดท้ายเขาก็ยังเสียลูกค้าไปอีกสองรายจนได้
หลังจากที่ออกมาจากสถานบันเทิง ซูเหิงนั่งอยู่ด้านหลังของรถ เขากำลังนวดคลึงหว่างคิ้ว ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาและดวงตาเคร่งขรึม
หลังจากที่ช่วยชีวิตสกุลซูอยู่ช่วงนั้น เขาก็ไม่เคยเข้าสังคมถี่เหมือนตอนนี้
ไม่ว่าหุ้นจะมากหรือน้อย ขอแค่ให้อีกฝ่ายลงทุน เราก็ควรซาบซึ้งและมีแรงผลักดัน แม้นักลงทุนจะควักเงินเพื่อต้องการทดลอง แต่เขาก็เลือกที่จะเชื่อใจในพวกเรา หนึ่งเม็ดเงินก็คือหนึ่งแรงผลักดัน เราแค่ต้องพิสูจน์ให้นักลงทุนเห็นว่าการลงทุนของเขาไม่ใช่เรื่องที่ผิด มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป เมื่อนักลงทุนเชื่อใจเราแล้วเขาถึงจะยอมอัดฉีดเงินทุนให้กับพวกเราในครั้งต่อๆ ไป
อย่าได้ดูถูกแม้มันจะเป็นแค่หุ้นเดียว ต่อให้ในมือเรามือเงินอยู่แค่หนึ่งเฟิน[1]เราก็นับว่าเป็นคนมีเงิน
นี่คือคำพูดในที่ประชุมของปีนั้น เมื่อครั้งที่เฉินฝานซิงเพิ่งจะเข้ามาในสกุลซูใหม่ๆ ตอนนั้นเธอเพิ่งจะอายุยี่สิบสาม แต่กลับเชื่อมั่นในฝีมือตัวเองขนาดนั้น
เธอในตอนนั้นทั้งสู้ไม่ถอยและคอยอยู่เคียงข้างเขามาตลอด
ช่วยเขาข้ามผ่านความยากลำบากครั้งแล้วครั้งเล่า…
จู่ๆ โทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ ก็ดังขึ้น เป็นริงโทนเฉพาะที่เป็นของเฉินเชียนโหรว
ซูเหิงมองมันอย่างเรียบเฉย ทั้งยังไม่ยอมหยิบมันขึ้นมา ปล่อยให้เสียงโทรศัพท์ส่งดังไปทั่วตัวรถที่เงียบสงัด
ผ่านไปสักพัก เสียงของโทรศัพท์ก็เงียบลง
สิบสองนาทีต่อจากนั้น ซูเหิงมาถึงวิลล่าส่วนตัวของเขา
ซูเหิงเดินเข้าห้องไปพลางปลดเนคไทที่คอทิ้ง เขาเดินขึ้นไปเปิดประตูห้องน้ำตามความเคยชิน ก่อนจะพบกับร่างกายบอบบางชวนให้หลงใหลของหญิงสาวที่นอนแช่อยู่ในอ่างน้ำ
กลีบกุหลาบสีแดงสดล่องลอยทั่วผิวน้ำ ขับให้ผิวพรรณของหญิงสาวขาวผ่องดุจหิมะ ไวน์ขวดหนึ่งพร้อมแก้วใบใสถูกวางถัดจากอ่างอาบน้ำ
เฉินเชียนโหรวหลับตาพิงเข้ากับขอบอ่าง เธอสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น
พี่เหิง พี่กลับมาแล้วเหรอ
เสียงแผ่วเบาเอ่ยถามขึ้น ก่อนเธอจะค่อยๆ ยกตัวขึ้นจากอ่าง
ร่างกายของเธอเปลือยเปล่า บนร่างขาวบอบบางยังคงมีกลีบกุหลาบสีแดงเข้มติดอยู่บางส่วน
นัยน์ตาของซูเหิงเป็นประกายขึ้นเล็กน้อย เธอมาได้ยังไง
เพราะฉันรู้ว่าคืนนี้พี่ต้องกลับมาที่นี่แน่ๆ
เฉินเชียนโหรวก้าวออกมาจากอ่างอาบน้ำ สองแขนเรียวที่พรมไปด้วยหยดน้ำยกขึ้นโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้ก่อนจะเบียดร่างกายของเธอเข้าแนบชิดกับร่างของชายหนุ่ม
ซูเหิงอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วค่อยๆ วางลงบนเอวนุ่มของเธอ
พี่เหิง…
ริมฝีปากแดงขยับพูด เฉินเชียนโหรวเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบลงบนกลีบปากของเขา เธอยื่นปลายลิ้นเข้าจู่โจมบริเวณสันกรามของเขาอย่างใจกล้า ค่อยๆ ยั่วยวนเขาทีล่ะน้อย ทั้งยังใช้มือนิ่มของตัวเองค่อยๆ ปลดกระดุมบนเสื้อเชิ้ตให้อีกฝ่าย
การจู่โจมเช่นนี้ การออดอ้อนเช่นนี้ หญิงสาวปรนนิบัติอย่างเต็มอกเต็มใจขนาดนี้ ผู้ชายจะต่อต้านได้นานสักแค่ไหน
มืออุ่นนุ่มลูบไล้ไปตามแผ่นอกแกร่งของชายหนุ่ม ร่างกายของซูเหิงเกร็งขึ้นนิดๆ
เฉินเชียนโหรวเพิ่มแรงจูบเขาอีกครั้ง
ซูเหิงถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์พุ่งเข้าเล่นงาน ร่างกายของเขาซวนเซเล็กน้อย เขาโน้มตัวลงอุ้มเธอขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องน้ำไป
[1]เฟิน เป็นสกุลเงินที่เล็กที่สุดของจีน