ตอนที่ 88 การเดินประจําวันของแอนเดรีย
“คะ…คุณ…ออกไปจากชั้นเรียนเดี๋ยวนี้!”
แวนส์ไม่ได้ถูกบังคับให้ออกไปข้างนอกจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ถูกบังคับให้ฟังการบรรยายที่จู้จี้ของมิลาตลอดชั้นเรียนที่เหลือ
และทันทีที่การเรียนของพวกเขาสิ้นสุดลง ฮาร์วีย์ก็ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างแรงไปทั่วทั้งห้องทันที
“นายโดนย่างเข้าแล้ว!” ฮาร์วีย์ยังคงหัวเราะต่อไป ขณะที่ตบฝ่ามือบนโต๊ะของแวนส์หลายต่อหลายครั้ง
“มีอะไรในใจหรือเปล่าแวนส์” เบียทริซจับแว่นตาขณะที่เธอเดินเข้ามาหาแวนส์
“เอ่อ…”
“พวกนายไมตื่นเต้นเหรอ!?”
ก่อนที่แวนส์จะได้พูด เสียงฝ่ามือของฮาร์วีย์ก็ก้องไปทั่วทั้งห้องเรียน
“เรากําลังจะเข้าไปในประตูมิติ!”
” ประตูมิติ?”
“นี่..อย่าบอกนะว่านายไม่ได้ฟังอะไรในคลาสเรียนของมิสมิลาจริงๆ” ฮาร์วีย์มองแวนส์ด้วยดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อยด้วยความตกใจ
“นักเรียนใหม่ทั้งหมดจะไปทัศนศึกษาในสัปดาห์หน้า! และเราคุยกันมาหลายวันแล้ว!”
ฮาร์วีย์รู้สึกถึงไฟในตัวเขา ขณะที่เขามองดูเพื่อนที่ดูเหมือนจะลืมเลือนเรื่องนี้ไปแล้ว
“เอาจริงนะ ไม่มีใครตื่นเต้นเลยหรอ!? นี่เป็นครั้งแรกที่เราเข้าไปในประตูมิตินะ!”
มือของฮาร์วีย์สั่นเมื่อวางมือไว้ข้างหน้าเขา
“แล้วเธอล่ะเบียทริซ เธอตื่นเต้นไหม!”
“ฉันเคยเข้าไปในประตูมิติแล้ว”
“อะ-อะไรนะ!?” ฮาร์วีย์ถอยห่างออกไปเล็กน้อยขณะที่เขาพูดติดอ่าง แต่แล้วเขาก็ถอนหายใจ
“อ่อใช่พ่อแม่ของเธอเป็นเจ้าของกิลด์นักสํารวจ”
เมื่อได้ยินคําพูดของฮาร์วีย์ เบียทริซทําได้เพียงพยักหน้า กลุ่มเพื่อนของเธอยังไม่รู้ว่าเธอสํารวจประตูมิติทุกครั้งที่ไม่ได้อยู่กับพวกเขา
“แล้วเธอล่ะวิคกี้!” ฮาร์วีย์ชี้ไปทางวิคตอเรียซึ่งกําลังฟังพวกเขาจากโต๊ะอย่างเงียบๆ
วิคตอเรียถอนหายใจเล็กน้อย ขณะที่เธอได้ยินฮาร์วีย์เรียกเธอว่า…อีกครั้ง
“ฉันเคยเข้าไปในประตูมิติมาก่อน” เธอกล่าว
คุณยายของเธอพาเธอเข้าไปในประตูมิติหนึ่งครั้ง และหลังจากตอนที่แม่ของเธอรู้เรื่องนี้เธอก็ไม่เคยเข้าไปอีกเลย
เมื่อได้ยินคําพูดของวิคตอเรีย ฮาร์วีย์ก็พูดติดอ่างอีกครั้ง ขณะที่เขาล้มลงบนโต๊ะของแวนส์ลง
“ฉันเดาว่าพวกเธอคงทิ้งเราสองคนไปแล้ว ใช่มั้ยแวนส์”
“พวกเราคือเพื่อนแท้ที่เพิ่งจะเคยเข้าประตูมิติเป็นครั้งแรก”
เมื่อเห็นแววตาของฮาร์วีย์ที่ดูค่อนข้างที่ง แวนส์ทําได้เพียงถอนหายใจ เขาสงสัยว่าเขาควรจะบอกความจริงกับฮาร์วีย์หรือไม่ เพราะว่าไม่เพียงแต่เขาจะเข้าไปในประตูมิติแล้ว แต่เขายังเข้าไปคนเดียวอีกด้วย
แต่ความตื่นเต้นในสายตาของฮาร์วีย์นั้นมากเกินไป มันคงจะทําลายเขาแน่ๆถ้าเขารู้ว่าแวนส์เคยสํารวจประตูมิติมาก่อนเหมือนกัน
ดังนั้นแวนส์จึงถอนหายใจและกล่าวว่า
” ฉันก็คิดว่าอย่างนั้น” แวนส์พึมพําในลักษณะที่ซ้ําซากจําเจ
แอนเดรียกําลังปิดร้านเบเกอรี่ โดยที่ท้องฟ้าครึ้มแล้วและดวงอาทิตย์เป็นสีส้ม นับตั้งแต่เหตุการณ์ในบ้านของพวกเขาเกิดขึ้น แอนเดรียก็กลับบ้านค่อนข้างดึกแม้จะขายขนมปังหมดแล้วก็ตาม แต่เธอก็จะอยู่ต่อ อย่างน้อยก็จนกว่าทุกชั้นเรียนในสถาบันจะเลิก
ป้าเมย์ใจดีพอที่จะปล่อยให้เธออยู่ต่อ และจ่ายโบนัสให้เธอถ้าเธอทําความสะอาดร้านด้วยตัวเอง
“อ๊ะ! แอนเดรีย เธอต้องการความช่วยเหลือในการปิดร้านไหม?”
“ไม่เป็นไรอาแซม ขอบคุณมาก!”
แอนเดรียส่ายหัวอย่างรวดเร็วก่อนที่อาแซมจะก้าวเข้าไปช่วยเธอ
“โอเค ไว้มากินข้าวที่ร้านกับน้องชายอีกนะ โอเคไหม?” อาแซมยกนิ้วโป้งกับเธอ
“เราจะให้เกี๊ยวฟรีแก่พวกเธอทั้งคู่ และเรายังจะให้ส่วนลดก้อนโตถ้าเธอสั่งเบ็ดสามตัว!”
“จริงเหรอ!? ฉันจะบอกเขาให้!”
อาแซมกล่าวอําลาและวิ่งเหยาะๆไปที่ร้านอาหาร อย่างไรก็ตามแอนเดรียอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้นเธอรู้สึกเหมือนมีคนตามเธอมาโดยตลอด และเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัด
มันอาจเป็นแค่จินตนาการของเธอเท่านั้น แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นมาทุกย่างก้าวของเธอก็รีบร้อนอยู่เสมอ และเธอมักจะเหลียวหลังไปมองด้วยความกลัวว่าจะมีใครบางคนกําลังตามเธอไปจริงๆ!
แล้วเธอก็ทําแบบนั้นอีกครั้ง
แอนเดรียไม่ได้ทักทายพ่อค้าแม่ค้าเลย แอนเดรียเดินออกจากตลาดและเดินอย่างเร่งรีบ แต่ก่อนที่เธอจะออกจากตลาดก็มีคนเรียกหาเธอ
“คุณ..โคลอี้ คุณต้องการอะไรไหม?” แอนเดรียอดไม่ได้ที่จะหันศีรษะขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เธอมองไปยังผู้หญิงผมสีเงินที่เดินเข้ามาหาเธอ
แอนเดรียสามารถจัดการได้เกือบทุกคนในตลาดนี้เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนของเธอ และเธอเคยดื่มกับบางคนมาก่อน
แต่ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเธอตอนนี้ โคลอี้ผู้ดูแลแผงลอยตรงทางเข้าตลาด เธอเป็นคนที่แอนเดรียไม่สามารถรับมือได้ โคลอี้แตกต่างออกไปจากคนอื่นเล็กน้อย
“จะกลับบ้านเหรอ” โคลอี้พูด
“อืม.ใช่” แอนเดรียมองไปทางด้านข้างเล็กน้อยขณะที่เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“โอเค ดูแลตัวเองด้วย”
“โอเค? ขะ….ขอบคุณ”
แอนเดรียถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขณะที่โคลอี้รีบกลับไปที่ร้านของเธอ เธอมักจะทักทายเธอแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงดูไม่ใช่คนเลว
แอนเดรียอ่านคนเก่งเพราะเธอเคยทํางานที่สุสานของเก่า แต่ดูเหมือนว่าคนในเมืองจะแตกต่างกันมาก
และอีกครั้งแอนเดรียรีบก้าวเท้าของเธอ แต่เมื่อเธอใกล้จะถึงบ้านแล้ว เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามากมายตามหลังเธอมา เธอเบือนหน้าหนีอย่างลับๆและเห็นชายกล้ามใหญ่ 4 คนที่สวมชุดเดียวกันเดินตามหลังเธออย่างสงสัย
ลมหายใจของแอนเดรียสั่น เธอรู้สึกว่าหน้าอกแน่นขึ้น เธอเริ่มที่จะวิ่ง แต่ทันทีที่เธอทําอย่างนั้น ชายทั้งสี่ก็เร่งฝีเท้าของพวกเขาเช่นกัน
“ช่วยด้วย!” แอนเดรียร้องขอความช่วยเหลือในละแวกนั้น เธอกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง
ด้วยเสียงกรีดร้องของเธอผู้ชายทั้ง 4 คนก็ยิ่งวิ่งให้เร็วขึ้นและพยายามตามเธอให้ทัน
” !!” แอนเดรียหยิบมีดจากกระเป๋าของเธอทันทีแล้วชี้ไปทางชายที่ใกล้ที่สุด
“อยู่ห่างฉันนะๆ” มือของเธอสั่น เธอยังคงจําได้แม่นถึงความไร้หนทางที่เธอรู้สึกขณะที่เธอ ถูกขังอยู่ในห้องน้ําของเธอเอง
“อะไร..!”
ชายคนนั้นกําลังจะอ้าปาก แต่ก่อนที่เขาจะทําได้ เขาก็หายตัวไปจากดวงตาของแอนเดรียอย่างรวดเร็ว
“อะ…อะไรนะ!?” แอนเดรียอดไม่ได้ที่จะถอยห่างออกไปเล็กน้อย ขณะที่เธอรู้สึกว่า มีลมพัดผมของเธอปลิวไปด้านข้าง ลําแสงสีทองพร่ามัวต่อหน้าเธอ
แอนเดรียสับสนในตอนแรกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเธอเห็นเด็กชายตัวเล็กๆปรากฏตัวต่อหน้าเธอ เธอก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
“อีแวนส์!?”
“เข้าไปในบ้าน แอนเดรีย”
ความเย็นของน้ําเสียงของแวนส์ ก็เพียงพอที่จะหยุดลมหายใจของแอนเดรียได้ชั่วขณะ
“ตะ…แต่….”
“ไป!”
“ไอ้เด็กเวรนี่ใคร!?”
“มันสําคัญหรอ!? เขาจัดการเซอร์เฮนรี่!”
ชายสามคนที่เหลือยืนอยู่กําลังจะพุ่งเข้าไปหาแวนส์ แต่ก่อนที่พวกเขาจะทําได้ เสียงของแผ่นดินแตกก็ดังก้องกังวานในอากาศ ชายที่แวนส์เพิ่งผลักออกไป เฮนรี่ยืนขึ้นจากซากปรักหักพังที่เขาถูกฝังอยู่เล็กน้อย
“หลบไป.” เขากระซิบขณะปัดฝุ่นเสื้อผ้า
” นี่ไม่ใช่การต่อสู้ของนาย”
________________________________________
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์
สารบัญ กําเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System)