หลังจากที่เทียนหลางโทรไปหาซูหลินได้ไม่นานเธอก็มาถึงร้านของเขาอย่างรวดเร็ว และวันนี้เธอยังมาพร้อมกับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่สีแดงสดอันร้อนแรงอีกด้วยเมื่อเธอเปิดประตูรถออกมาก็ทำเอาเทียนหลางถึงกับตาโตทีเดียว ซูหลินที่อยู่ในชุดนักศึกษาทำเอาเทียนหลางใจเต้นเล็กน้อย
เทียนหลางจ้องมองเธอสักพักก่อนจะพูดขึ้น
”เธอดูดีนะ”
ซูหลินได้ยินคำชมก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดขอบคุณและเดินเข้าร้านของเทียนหลางหน้าตาเฉย เทียนหลางได้แต่ยิ้มและเดินตามหลังเธอเข้าไป ทันทีที่ซูหลินเข้ามาในร้านสิ่งเดียวที่สะดุดตาเธอที่สุดก็คือรูปสลักมังกรดอกบัวที่ตั้งเอาไว้อยู่ชั้นวางด้านบน เหตุเพราะมันสะดุดตาของเธอนั้นก็เพราะว่ามันทำมาจากหยกเพลิงทั้งก้อนถึงแม้มันจะดูเล็กกว่าเมื่อวานที่เธอเห็นก็เถอะ
ซูหลินเดินเข้าไปชมมันใกล้ ๆ ก่อนจะพูดขึ้นกับเทียนหลาง
”นี่นะเหรอที่นายจะขายให้ชายชราคนนั้น”
”อ๋อ ไม่ใช่หรอกฉันขายอีกชิ้นหนึ่งให้เขาไปแล้ว ส่วนชิ้นนี้ฉันเอาไว้มาประดับร้านหน่ะ”
ซูหลินพยักหน้าเข้าใจแต่เธอก็ไม่อาจละสายตาไปจากมันได้เลย และเมื่อนึกได้ว่าเทียนหลางบอกกับเธอว่าขายไปชิ้นนึงเธอจึงเอ่ยถามเขาทันที
”แล้วชิ้นนั้นนายขายไปเท่าไหร่ ?”
เทียนหลางเมื่อได้ยินก็ตอบกลับไปอย่างสบาย ๆ ระหว่างกำลังปรุงรสน้ำสต๊อกอยู่
”อืม… ก็ 60ล้านเหรียญอ่ะนะ”
เมื่อซูหลินได้ยินน้ำที่เธอกำลังดื่มอยู่ก็พุ่งออกจากปากทันที
พรืดดดด !!
”นายว่ายังไงนะ ? 60ล้านงั้นเหรอ ? ตาแก่นั่นซื้อรูปสลักหยกของนายในราคา 60 เชียวหรอ ?”
”ก็ใช่นะสิ ฉันมีเหตุผลที่ต้องโกหกเธอหรือไง”
”นั่นสินะ ฉันหล่ะอยากรู้จริง ๆ รูปสลักแบบไหนที่ตาแก่นั่นต้องการจะซื้อ”
เทียนหลางได้ยินที่ซูหลินพูดเขาก็หยิบโทรศัพขึ้นมาและหารูปของมังกรขุนที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้มาให้ซูหลินดู เมื่อซูหลินเห็นมังกรขุนเขาเธอก็พยักหน้าและพูดขึ้น
”ฉันพอจะเข้าใจแล้วหล่ะว่าทำไมเขาถึงซื้อในราคาแสนแพงแบบนั้น เจ้านี่มันสวยงามจริง ๆ”
ซูหลินวางโทรศัพของเทียนหลางลงและเอ่ยถามขึ้น
”แล้วทำไมนายถึงต้องการให้ฉันหาพวกผู้รับเหมาฝีมือดี ๆ มาให้นายกันหล่ะ ?”
เทียนหลางที่ยินก็ยิ้มตอบกลับพร้อมกับยกอาหารที่พึ่งทำเสร็จใหม่ ๆ มาให้กับซูหลิน
”พอดีฉันได้ซื้อตึกข้าง ๆ นี้เอาไว้หน่ะและอยากจะทำมันเป็นส่วนขยายของร้านหน่ะ ก็เลยอยากจะได้คนทำที่ดี ๆ สักหน่อย”
ซูหลินพยักหน้าก่อนจะโทรออกไปยังเบอร์หนึ่ง เมื่อปลายทางรับสายซูหลินก็พูดขึ้น
”คุณลุงฮูช่วยมาที่นี้ได้ไหมคะ พอดีเพื่อนของฉันนั้นอยากจะปรับแต่งตึก ฉันเลยนึกถึงคุณลุงฮูขึ้นมาทันที”
หลังจากพูดคุยกันอยู่สักพักซูหลินก็วางสาย และหันมากันอาหารอย่างตั้งใจเทียนหลางนั่งและจ้องมองซูหลินอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้น
”นี่ซูหลิน ฉันอยากจะซื้อบ้านเธอมีสถานที่ดี ๆ ไหม ?”
”ก็พอจะมีอยู่แหละนายมีงบเท่าไหร่หล่ะ ?”
”แค่ราว ๆ 10ล้านก็พอแล้วฉันไม่ใช่พวกฟุ่มเฟือยอะไรขนาดนั้น”
ซูหลินพยักหน้า ในตอนแรกเทียนหลางไม่คิดอยากจะซื้อบ้านใหม่เท่าไหร่นักแต่การที่ร้านของเขากำลังจะขยายและการที่ครอบครัวของเขาจะมานอนอยู่บนชั้นสองของร้านก็ดูจะยังไงอยู่ ทางที่ดีเก็บไว้ให้พนักงานหรือลูกน้องของพวกถังหยานจะดีกว่าพวกเขาจะได้ช่วยกันพวกขโมยหรืออย่างอื่นด้วย
ไม่นานนักพ่อแม่ของเทียนหลางก็กลับมาจากตลาด ทันทีที่พวกเขาเห็นเทียนหลางกำลังนั่งจ้องซูหลินที่กำลังกินอาหารฝีมือของเขาอยู่ พวกเขาก็มองหน้ากันก่อนจะส่งยิ้มมาทางเทียนหลาง
เมื่อเทียนหลางเห็นรอยยิ้มและสายตาของพวกเขา ในหัวของเขาก็คิดได้ทันทีว่าซวยแล้ว แม้เทียนหลางจะพยายามจะห้ามพ่อและแม่ของเขาแต่เขาก็ช้ากว่าฝีปากของแม่ตัวเอง
”โอ้ ~ นี่คือแฟนสาวของลูกงั้นเหรอ หลาง ?”
ทันทีที่ได้ยินคำถามจากแม่ของตัวเองเทียนหลางก็แทบอยากจะกุมขมับตัวเอง ส่วนซูหลินนั้นแทบจะสำลักน้ำออกมาทันทีแต่โชคดีที่เธอนั้นปิดปากเอาไว้ได้ทัน
แม่ของเทียนหลางเห็นท่าทีของซูหลินเธอก็กล่าวขอโทษซูหลินทันทีพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับเธอ เธอรับมาแต่โดยดีพร้อมกับอธิบายให้กับแม่ของเทียนหลางฟัง
”เอ่อ… คุณป้าคะ คุณป้าคงจะเข้าใจผิดแล้วหล่ะคะ หนูไม่ได้เป็นแฟนกับลูกของคุณป้าหรอกคะ เราสองคนแค่เป็นเพื่อนกัน”
แม้ซูหลินจะอธิบายแต่ดูเหมือนแม่ของเทียนหลางจะเชื่อว่าเธอเป็นแฟนของเขาไปเสียแล้ว เธอจึงได้แต่ยิ้ม ๆ และพูดขึ้น
”เอาน่าไม่ต้องอาย แม่รู้ว่าทั้งสองคนชอบพอกัน แม่ก็ไม่ห้ามหรอกนะ”
เมื่อซูหลินได้ยินคำพูดของแม่ของเทียนหลางเธอก็รู้แล้วว่าต่อให้อธิบายแค่ไหนเธอก็ไม่เชื่อ ซูหลินได้แต่ถอนหายใจทางด้านของเทียนหลางเขาก็หันไปอธิบายกับแม่ของเขาให้อยู่พักหนึ่งกว่าเธอจะเชื่อ
หลังจากอธิบายเรื่องต่าง ๆ เสร็จเทียนหลางก็คุยเรื่องบ้านกับแม่และพ่อของเขา เมื่อทั้งคู่ได้ยินก็ตกใจทันทีก่อนแม่ของเทียนหลางจะพูดขึ้น
”เราจะย้ายบ้านงั้นเหรอ ? แล้วเงินหล่ะ เราไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้นนะลูก”
”ไม่ต้องห่วงแม่ผมขายรูปสลักหยกได้เงินมาจำนวนหนึ่ง เรื่องเงินนั้นเราไม่ต้องกังวลอีกพักใหญ่เลยหล่ะ อีกอย่างร้านเราก็กำลังจะขยายการที่เรามานอนบนชั้นสองของร้านมันก็ดูจะแปลก ๆ นะแม่”
เมื่อแม่ของเขาได้ยินว่าเทียนหลางจะขยายร้านก็ตกใจขึ้นไปอีกพร้อมกับทำหน้าเหมือนอยากได้รับคำอธิบาย
”ผมซื้อตึกข้าง ๆ เอาไว้แล้วและก็โทรเรียกบริษัทรับเหมามาแล้วด้วยแม่ไม่ต้องห่วงหรอก เดียวผมจะไปดูบ้านใหม่กับซูหลิน หลังจากนี้ด้วยนะ”
แม่ของเทียนหลางทำท่าทีเหมือนจะเป็นลม พ่อของเขาก็รีบเข้ามารับและพาไปนั่งที่โต๊ะพร้อมกับนำพัดมาพัดให้เธอผ่อนคลาย ทางด้านพ่อของเขาแม้จะตกใจอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะตัวเขานั้นเป็นคนง่าย ๆ จะย้ายไปอยู่บ้านใหม่ หรืออยู่ที่เก่าก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อเขามากนัก
เทียนหลางได้แต่ยิ้ม ๆ ให้กับซูหลินที่กำลังมองเหตุการณ์วุ่นวายนี้อยู่ ทางด้านซูหลินที่เห็นท่าทีของเทียนหลางเธอก็ได้แต่หน้าแดงและหันหน้าหนี