หลังจากที่ยาทิพย์ขวดแรกถูกประมูลไปโดยตงเสวียโหรวด้วยราคา 3พันล้านเหรียญและอีกสองขวดก็ถูกประมูลไปอย่างรวดเร็วด้วยราคาแพงหูฉี่จากคนของตระกูลเสี่ยว และสาวงามอันดับสามอย่างวาวาด้วยราคา 2.7พันล้านและ 2.5พันล้านตามลำดับ
หลังจากยาทิพย์ของเทียนหลางแล้วก็ไม่มีของชิ้นไหนที่น่าสนใจพอจะกระตุ้นพวก 4 ตระกูลใหญ่หรือตระกูลโบราณได้เลยทำให้งานประมูลจบลงไปทั้งอย่างงั้น ในคืนนี้เทียนหลางกวาดเงินไปกว่า 8.2พันล้านเรียกได้ว่ากอบโกยมหาศาลเลยทีเดียว
เทียนหลางกลับมาที่รถพร้อมกับเฟิงหยวนก่อนที่เฟิงหยวนจะพูดขึ้น
”วันนี้คุณกวาดเงินมาได้เยอะทีเดียวเลยนะ”
เทียนหลางยิ้มพร้อมกับพูดขึ้น
”ถือว่าเป็นทุนสำหรับอนาคตก็แล้วกันนะ”
”ทุนก้อนโตเชียวนะ”
เทียนหลางยิ้ม
”กลับบ้านกินข้าวกันเถอะ”
ทั้งคู่กลับบ้านอย่างรวดเร็วก่อนจะพูดคุยถึงเรื่องที่เทียนหลางได้ยินที่งานประมูลน่าแปลกที่วันนี้ฉวีเฟิงหวู่มาร่วมกินข้าวด้วย ซึ่งทำให้เทียนหลางสงสัยเล็กน้อยว่าบ้านออกจะใหญ่แล้วไหงทั้งบ้างถึงมีเพียงแค่ยายกับน้าของเขาและคนใช้ไม่กี่คน
”คุณยายครับทำไมทั้งบ้านถึงมีแค่คุณยายกับคุณน้าเพียงสองคนเองละครับ ?”
คุณยายที่ได้ยินก็ยิ้มออกมาก่อนจะพูดขึ้น
”เธอรู้ใช่ไหมว่าตระกูลของเราค่อนข้างใหญ่”
เทียนหลางพยักหน้าหงึกๆ คุณยายจึงอธิบายต่อ
”แล้วตระกูลที่มีขนาดใหญ่แบบตระกูลเรานั้นจำเป็นจะต้องมีเงินหมุนเวียนมหาศาลฉะนั้นธุรกิจของเราจึงมีมากมายและเพื่อป้องกันการถูกก่อกวนจากพวกน่ารังเกียจยายจึงตัดสินใจว่าธุรกิจส่วนใหญ่ของตระกูลเราจึงอยู่ที่ต่างประเทศ ฉะนั้นคนในตระกูลส่วนใหญ่จึงอยู่ต่างประเทศกันนะ”
เทียนหลางพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะถาม
”งั้นน้าเฟิงหวู่ก็คุมธุรกิจภายในประเทศทั้งหมดเลยนะสิครับ”
ฉวีเฟิงหวู่ได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้าก่อนจะพูดขึ้น
”อันที่จริงธุรกิจในจีนทั้งหมดมีสามคนที่บริหารอยู่ซึ่งถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน 60% อยู่กับคุณแม่ อีก 30อยู่กับฉันและอีกครึ่งที่เหลืออยู่กับน้องชายของฉันฉวีฟาน ตอนนี้เขาและลูกสาวของเขากำลังไปเจรจาธุรกิจที่เบลเยียมเลยไม่อยู่บ้านในตอนนี้”
เทียนหลางพยักหน้าหงึกๆ หลังจากที่เทียนหลางลองคิดทบทวนเล็กน้อยก็พอจะเข้าใจอยู่บ้านหลังจากที่เขาใช้ชีวิตอยู่มาหลายปีหรือหลายพันปีเขาเจอเรื่องของการที่พี่น้องฆ่ากันเพื่อแย่งสมบัติและจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เขาเคยเข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องทำนองนี้ มันมักจะมีจุดจบไม่สวยอยู่เสมอ
หลังจากมื้อเย็นเทียนหลางและเฟิงหยวนกลับไปที่ห้อง ไหนขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินอยู่บนทางเดินแหวนมังกรในมือเทียนหลางก็เกิดปฏิกิริยาบางอย่าง เทียนหลางจึงตรวจสอบมันและพบว่าเกิดมาจากกระจกทองเหลือง เทียนหลางเรียกกระจกทองเหลืองออกมาก่อนจะพบว่าเป็นเทาเจาที่ติดต่อมา
”ว่าไงเจาน้อย ติดต่อหาฉันมามีเรื่องอะไรงั้นเหรอ ?”
”ไม่มีเวลานายท่าน ท่านต้องหนีแล้วตอนนี้ !”
เทียนหลางที่ได้ยินก็งุนงงเล็กน้อยก่อนจะถาม
”หนี ? หนีทำไม หนีอะไร ?”
แต่ยังไม่ทันทีเทาเจาจะพูดอะไรเทียนหลางก็สัมผัสได้ถึงรังสีฆ่าฟันอันรุนแรงมหาศาลพุ่งมาทางเขามันรุนแรงพอที่จะแยกสวรรค์และผ่าโลกทั้งสองออกมาได้อย่างง่ายดาย เทียนหลางจำมันได้อย่างดีว่ารังสีนั่นมาจากใครมันทำให้เทียนหลางถึงกับตัวสั่นขึ้นมาทันทีและเฟิงหยวนก็ดูเหมือนจะรู้ว่าใครกำลังมาเธอมองเทียนหลางพร้อมกับหัวเราะคิกคักออกมา
เทียนหลางหันมาหาเฟิงหยวนพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยเทียนหลางพยายามกำลังจะหลบหนี แต่ดูเหมือนจะไม่ทันแล้วชายคนนั้นมาอยู่ตรงหน้าของเทียนหลางเรียบร้อยแล้ว
เทียนหลางมองชายชราตรงหน้าก่อนจะหัวเราะแหะๆ ออกมาก่อนจะพูดขึ้น
”สวัสดีครับพ่อ”
ชายชราที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าเรียบเฉยออกมาก่อนจะพูดขึ้น
”ใครเป็นพ่อของนายกันเจ้าหนู”
เทียนหลางได้ยินก็คิดเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น
”นั่นก็ถูกอันที่จริงคุณเป็นพ่อของเฟิงหยวน และผมก็เป็นสามีของเธอดังนั้นผมสามารถเรียกคุณว่าพ่อได้นะ”
”ฉันไม่ยอมให้นายเรียกฉันว่าพ่อหรอกนะเจ้าหนู”
เทียนหลางยิ้มแหยๆ ก่อนจะยกมือยอมแพ้
”ก็ได้ท่านมหาเทพไท่ฟู คุณมาหาผมถึงดินแดนด้านล่างแบบนี้ทำไม ?”
ชายชราที่ถูกเรียกมหาเทพไท่ฟูจ้องมองเทียนหลางพร้อมกับพูดขึ้น
”ฉันก็มาหาลูกสาวของฉันนะสิ”
เฟิงหยวนยิ้มก่อนจะพูดขึ้นและเดินไปหามหาเทพไท่ฟู
”ท่านพ่อมาทำอะไรถึงนี่คะ”
”พ่อก็มาหาลูกยังไงละ พ่อไม่ได้เจอลูกมากว่า สองพันปีแล้วนะ”
เทียนหลางมองทั้งคู่พูดคุยกันและนึกถึงเรื่องเก่าๆ หลังจากที่เฟิงหยวนขึ้นมาบนแดนสวรรค์เธอได้แสดงความสามารถที่น่าทึ่งและความงดงามของเธอนั้นสะดุดตาเหล่าเทวดามากมายรวมถึงมหาเทพไท่ฟูด้วย หลังจากนั้นไม่นานมหาเทพไท่ฟูก็มาขอรับเฟิงหยวนเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งเฟิงหยวนก็ตอบรับและมหาเทพไท่ฟูก็ดูแลเฟิงหยวนอย่างดีเหมือนกับลูกแท้ๆ ของเขาเลยทีเดียว
นั่นจึงทำให้เฟิงหยวนกลายเป็นหนึ่งในเทพธิดาที่มีอำนาจมากที่สุดบนสวรรค์
ถึงแม้ความสัมผัสของเฟิงหยวนกับมหาเทพไท่ฟูจะเหมือนกับพ่อลูกแท้ๆ แต่กับเขาและเทียนหลางนั้นไม่ใช่เลยพวกเขาทั้งคู่ต่างตีกันบ่อยๆ แม้มหาเทพไท่ฟูจะชนะเกือบทุกครั้งก็ตาม แต่ด้วยนิสัยของเทียนหลางที่มักจะกวนประสาทคนอื่นบ่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่เหล่ามหาเทพทั้งเก้าก็ตามทีและนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เทียนหลางโดนเด้งออกจากตำแหน่งมหาเทพ
ในขณะที่เฟิงหยวนและมหาเทพไท่ฟูกำลังคุยกันอยู่เทียนหลางก็พูดขึ้นทันที
”อย่าว่างั้นงี้เลยนะท่านมาหาพวกเราถึงนี่เพราะคุณคิดถึงเฟิงหยวนอย่างเดียวงั้นเหรอ ?”
มหาเทพไท่ฟูหันมามองเทียนหลางก่อนจะพูดขึ้น
”ข้ามาเพื่อห้ามไม่ให้เจ้ากับเฟิงหยวนแต่งงานกัน”
เทียนหลางและเฟิงหยวนต่างตกใจก่อนที่เทียนหลางจะแย้ง
”คุณห้ามพวกเราไม่ได้หรอกนะ คุณก็รู้ว่าพวกเรารักกันมานานแล้วพอถึงเวลาที่พวกเราตกลงจะแต่งงานกันทำไมคุณถึงมาห้ามซะละ ?”
”ก็เพราะข้าไม่อยากให้พวกเจ้าทั้งคู่แต่งงานกันแม้ข้าจะรู้ว่าพวกเจ้ารักกันก็ตาม”
”คุณจะขัดขวางความรักของพวกเรางั้นเหรอ ?”
”แน่นอนว่าฉันทำได้เพราะฉันเป็นพ่อของเฟิงหยวน”
เทียนหลางที่ได้ยินก็ส่ายหัวเล็กน้อยแต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรเฟิงหยวนก็ขัดเขาเสียก่อน เธอพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
”ทำไมท่านพ่อถึงต้องมาห้ามไม่ให้หนูแต่งงานกับเทียนหลางด้วยละ”
เมื่อมหาเทพไท่ฟูได้ยินแบบนั้นก็มองมาที่เทียนหลางก็จะพูดขึ้นด้วยใบหน้าไม่พอใจ
”ก็เพราะเจ้านี่มันเป็นตัวปัญหา มันชอบก่อกวนพ่อตลอดเวลา แถมยังชอบก่อความวุ่นวายอีกด้วย”
เฟิงหยวนที่ได้ยินก็ถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้น
”โถ่ ! พ่อนั่นมันเมื่อห้าพันปีก่อนนะตอนนี้เทียนหลางก็เปลี่ยนไปเยอะแล้วด้วย”
”ยังไงพ่อก็ไม่มีทางให้ลูกแต่งงานกับเจ้าหมอนี่แน่นอน !”
เฟิงหยวนที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น
”พ่อจะไม่ให้หนูแต่งงานกับเทียนหลางจริงๆ งั้นเหรอ ?”
มหาเทพไท่ฟูได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าด้วยใบจริงจัง เมื่อเฟิงหยวนได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าจริงจังออกมาทันทีก่อนจะพูดขึ้น
”ถ้าพ่อไม่ให้หนูกับเทียนหลางแต่งงานกัน พ่อก็ไม่ต้องมาเป็นพ่อของหนูอีก”
เมื่อพูดจบเฟิงหยวนก็หันหลังและเดินกลับไปที่ห้อง ทันทีที่มหาเทพไท่ฟูได้ยินแบบนั้นก็ช็อคพร้อมกับยืนทื่อก่อนที่จะตั้งสติได้ มหาเทพไท่ฟูพุ่งเข้าไปหาเฟิงหยวนก่อนจะพูดขึ้น
”ก็ได้ๆ พ่อยอมแล้ว พ่อยอมให้ลูกแต่งงานกับเทียนหลางก็ได้แต่อย่าตัดพ่อตัดลูกกันเลยนะหยวนเอ๋อ”
เฟิงหยวนที่ได้ยินก็หัวมาหามหาเทพไท่ฟูพร้อมกับรอยยิ้ม
”ขอบคุณมากค่ะท่านพ่อ”
เมื่อเฟิงหยวนพูดจบมหาเทพไท่ฟูก็รู้สึกตัวว่าเขานั้นตกหลุมพรางง่ายๆ ของเฟิงหยวนเสียแล้ว
”ละ… ลูกกล้าหลอกพ่อ !!”
เฟิงหยวนก็พูดด้วยรอยยิ้ม
”ก็ท่านพ่อไม่ยอมให้หนูแต่งงานกับเทียนหลางเองนี่คะ”
เมื่อพูดจบเฟิงหยวนก็หันไปกระพริบตาให้กับเทียนหลาง เทียนหลางทำได้เพียงหัวเราะแห้งๆ ออกมาเขาไม่คิดว่ามหาเทพผู้ยิ่งใหญ่กลับต้องมาอ้อนวอนลูกสาวของตัวเองด้วยสภาพแบบนี้
มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ถูกจัดการด้วยการพูดไม่กี่คำของลูกสาว หากใครได้ยินเรื่องนี้ละก็มีเรื่องสนุกเกิดขึ้นเยอะแยะเลยทีเดียวเทียนหลางคิดพร้อมกับหัวเราะอยู่ในใจ