หลังจากที่เทียนหลางได้ยินคำพูดของเฟิงหยวนเขาก็ตกตะลึงไปเล็กน้อยก่อนจะรวบรวมสติของตัวเองพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
”คุณแน่ใจงั้นเหรอ ?”
เฟิงหยวนพยักหน้าอย่างจริงจัง เทียนหลางเมื่อได้เห็นสีหน้าจริงจังของเธอแล้วก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะถามอีกครั้ง
”ทำไมจู่ๆคุณถึงอยากมีลูกขึ้นมาหล่ะ ?”
เฟิงหยวนที่ได้ยินคำถามก็อ้ำอึ้งเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น
”มันคือสิ่งเดียวที่ยืนยันความรักของเราทั้งคู่”
เทียนหลางที่ได้ยินก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ
”เข้าใจแล้ว คุณอยากมีลูกจริงๆใช่ไหม ?”
เฟิงหยวนพยักหน้า เทียนหลางก็ถอนหายใจพร้อมกับยิ้มก่อนจะพูดขึ้น
”เรื่องนี้มันใหญ่กว่าเรื่องที่ผมได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิสวรรค์ซะอีก ฉะนั้นเราเอาไปปรึกษาพ่อกับแม่กันก่อนดีไหม ?”
เฟิงหยวนที่ได้เห็นว่าเทียนหลางนั้นตอบตกลงเธอก็ยิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้า และทั้งคู่ก็เดินไปหาพ่อกับแม่ที่กำลังนั่งดูทีวีกันอยู่เมื่อทั้งคู่เห็นเทียนหลางกับเฟิงหยวนเดินเข้ามาด้วยกันก็รู้สึกสงสัยเล็กแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรจนกระทั้ง ทั้งคู่นั่งลงตรงข้ามพวกเขาก่อนที่เทียนหลางจะพูดขึ้น
”พ่อครับ แม่ครับผมมีเรื่องอยากจะปรึกษา”
เมื่อได้ยินว่าลูกชายมีเรื่องจะปรึกษาเทียนซูคังผู้เป็นพ่อก็ได้วางหนังสือพิมพ์พร้อมกับพูดขึ้น
”เรื่องอะไรงั้นเหรอ ?”
”เอ่อ… คือผมกับเฟิงหยวนอยากจะมีลูกด้วยกันนะครับและพอดีผมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จึงอยากจะมาปรึกษาพ่อกับแม่ก่อน”
เมื่อพ่อแม่ของเทียนหลางได้ยินก็ถึงกับตกตะลึงก่อนจะมองหน้ากันก่อนที่แม่ของเขาจะยิ้มออกมาพร้อมกับพูดขึ้น
”ก็ดีสิลูกแม่ก็อยากจะมีหลานเร็วๆเหมือนคุณย่าก็คงจะเห็นด้วยเหมือนกัน”
เทียนหลางเห็นท่าทีดีใจของแม่ของเขาแล้วก็ได้แต่สับสนเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าแม่ของเขาจะเห็นด้วย เพราะเขาเองยังอายุไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำและอีกเรื่องก็คือเฟิงหยวนพึ่งจะมาอยู่กับครอบครัวของเขาได้ไม่นานทำไมแม่ของเขาถึงได้เห็นด้วยกันนะ เทียนหลางได้แต่สงสัยแต่ก็ไม่เอ่ยถามอะไรออกไปเพราะไม่อยากขัดความสุขของแม่ จากนั้นเขาก็มองไปที่พ่อของเขาซึ่งกำลังทำสีหน้าจริงจังอยู่
พ่อของเขาไม่ได้พูดอะไรมากนักทำเพียงพยักหน้าเบาๆเพื่อบอกว่าเขานั้นอนุญาต เมื่อได้ยินความเห็นจากพ่อแม่แล้วเฟิงหยวนก็ยิ้มออกมาทันทีแต่ก่อนที่พวกเขาจะได้พูดคุยกันต่อเสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น เทียนหลางจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูก็พบกับคนส่งของถือกล่องใบใหญ่มาเขาพูดขึ้นว่า
”มีของมาส่งให้คุณเทียนหลาง จากมหาลัยจิงไห่ครับ”
‘มหาลัย ?’
เทียนหลางเกาหัวเบาๆก่อนจะเซ็นรับและรับกล่องมาเปิดดูก็พบว่าเป็นหนังสือเรียนและตารางเรียน พร้อมกับหมายกำหนดการยิบย่อยในรั้วมหาลัยตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของเทอม 1 กับบัตรนักศึกษา เขามองมันเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ
”สะดวกดีแหะ กำลังสงสัยอยู่เลยว่าจะทำยังไงต่อเรื่องหนังสือเรียน”
เทียนหลางยกกล่องกลับไปไว้ที่ห้องก่อนจะกลับมานั่งคุยกับพ่อแม่ของเขาอีกครั้ง หลังจากพูดคุยสรุปกันอย่างรวดเร็วแล้วตกลงว่าพ่อแม่ของเขานั้นเห็นด้วยเรื่องที่จะมีลูก ในตอนแรกเขานั้นค้านเล็กน้อยเพราะอายุของเขายังน้อยแต่แม่ก็บอกกลับมาว่า คนอื่นเขาก็มีลูกกันอายุเท่านี้แหละแล้วอีกอย่างครอบครัวของเขาก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินด้วยฉะนั้นเรื่องที่จะมีเด็กอีกคนอยู่ในบ้านนั้นไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
ในตอนนี้เฟิงหยวนแลดูมีความสุขเป็นพิเศษไม่รู้ว่าเพราะเธอนั้นจะได้มีลูกหรือว่าอะไรกันแน่ แต่เทียนหลางก็ไม่ได้คิดอะไรมากนักขอเพียงแค่เธอมีความสุขเขาก็พอใจแล้ว
เทียนหลางกลับมาที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับหยิบตารางเรียนขึ้นมาดูก็พบว่าอีกสองวันมหาลัยก็จะเปิดเรียน เขาได้แต่เกาหัวเบาๆก่อนจะคิดว่าเขาจะไปทำอะไรดีถ้าหากไม่มีเรียนเพราะดูจากตารางเรียนแล้วมันแทบจะว่างเปล่าซะเหลือเกินสัปดาห์หนึ่งเขาเรียนเพียงไม่กี่คาบเท่านั้น
”แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องเรียนมากนัก แต่ดูจากตารางกิจกรรมแล้วดูเหมือนคณะนี้จะเน้นออกนอกสถานที่เป็นหลักสินะ”
เทียนหลางลูบคางเบาๆก่อนจะโยนตารางเรียนลงในกล่องพร้อมกับนอนลงและหลับตา
———————————————————————————————————
สองวันต่อมา เทียนหลางลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับมองเฟิงหยวนที่กำลังหลับด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขอยู่ เขาลูบแก้มเธอเบาๆก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำและแต่งตัวเพื่อที่จะเรียนวันแรก
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเทียนหลางก็เดินออกจากบ้านและตรงไปมหาลัยทันที ด้วยที่หมู่บ้านของเขานั้นไม่ได้อยู่ห่างจากมหาลัยมากนักจึงไม่จำเป็นจะต้องขับรถ
ไม่นานนักเทียนหลางก็มาถึงหน้ามหาลัยพร้อมกับนักศึกษาคนอื่นๆมากมาย เทียนหลางเดินไปตามทางที่ถูกเขียนไว้ในแผนที่มหาลัยเพื่อไปยังห้องเรียนคาบแรกของเขา ระหว่างทางก็พบกับนักศึกษาที่พูดคุยกันเจี้ยวจ้าวเต็มไปหมดราวกับว่าพวกเขาไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน
เทียนหลางเดินไปตามทางเรื่อยๆพร้อมกับเฝ้ามองแผนที่ซึ่งมหาลัยนี้มันใหญ่ไม่น้อยเลยทำให้เขาหลงทางนิดหน่อย ในขณะที่เขากำลังจะเลี้ยวหัวมุมอยู่นั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งสวนทางมาเมื่อทั้งคู่กำลังจะชนกันเทียนหลางจึงเบี่ยงตัวหลบให้พ้นทาง ทำให้เธอนั้นพุ่งไปชนกับกำแพงอีกด้านหนึ่งอย่างจัง
นั่งร้องออกมาเล็กน้อยพร้อมกับนั่งกุมหัวตัวเองก่อนจะบ่นออกมา
”ผู้ชายอะไร ไม่คิดจะช่วยผู้หญิงเลยปล่อยให้ฉันวิ่งชนเสาแบบนี้ได้ยังไง”
เทียนหลางหันกลับไปมองเธอด้วยความงุนงงก่อนจะพูดขึ้น
”ถ้าหากผมไม่หลบพวกเราก็จะชนกันคุณก็จะต่อว่าผมว่าเดินไม่ดูทาง เมื่อผมหลบคุณก็ยังจะต่อว่าผมอีก คุณเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน ?”
เทียนหลางถามออกไปพร้อมกับส่ายหน้าก่อนจะก้มมองแผนที่และเดินไปตามหาเพื่อหาห้องเรียน เมื่อเห็นว่าเทียนหลางเดินจากไปโดยไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อยแถมยังต่อว่าเธออีก เธอก็ได้แต่ก้นด่าเขาอยู่ภายในใจก่อนจะจ้องตามแผ่นหลังของเทียนหลางไป